เอฟเวอร์ตัน

    ครั้งล่าสุดที่ ทอฟฟี่ ไปถึงรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ เกิดขึ้นในปี 2015-16 แต่พวกเขาก็แพ้ถึง 4 จาก 5 นัดหลังสุดในรายการนี้ที่พบกับทีมจากพรีเมียร์ลีก ด้วยกัน เว้นเพียงเกมเขี่ย สเปอร์ส ตกรอบที่แล้ว

    คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนจะไม่มี 2 ผู้รักษาประตูอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด และ โรบิน โอลเซ่น โดยรายแรกนั้นเจ็บสะโพกมาจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่รายหลังก็ฟื้นตัวจากปัญหาที่กล้ามเนื้อไม่ทันเวลา นั่นทำให้ ชูเอา เวอร์จิเนีย นายทวารมือสามจะลงเฝ้าเสาแทน

    นอกจากนี้ ในรายของ ฟาเบียน เดลฟ์ (เส้นเอ็น), อับดูลาย ดูกูเร่ (เท้า) และ ฮาเมส โรดริเกซ (น่อง) ก็จะชวดแน่นอน

    แมนฯ ซิตี้

    เรือใบ กำลังมองหาโอกาสผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่เคยทำได้ในปี 1931-32 ถึง 1933-34

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปนไม่มีปัญหานักเตะในทีมชุดใหญ่บาดเจ็บเลยแม้แต่คนเดียว แต่ก็คาดว่าจะมีการโรเตชั่นตามสไตล์ หลังผ่านเกมหนักกับ มึนเช่นกลัดบัค ในแชมเปี้ยนส์ลีก มาเมื่อกลางสัปดาห์

    เป็นที่คาดว่า ราฮีม สเตอร์ลิง อาจจะได้กลับมาออกสตาร์ทอีกครั้ง หลังไม่ได้เป็นตัวจริงเลยตลอด 3 เกมหลังสุด

    11 ตัวจริงตามคาด

    เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : ชูเอา เวอร์จิเนีย - เบน ก็อดฟรี่ย์, เยร์รี มีน่า, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้าส์ ดีญ - อัลลัน, อันเดร โกเมส - อเล็กซ์ อิโวบี้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ริชาร์ลิซอน - โดมินิก คัลเวิร์ต ลูวิน

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซ็ค สเตฟเฟ่น - ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่, กาเบรียล เชซุส

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

    แมนฯ ซิตี้ บุกมาต่อแพงเลยทีเดียว เชื่อว่าเกมนี้พวกเขาก็จะมีการโรเตชั่นตามระเบียบ ทว่า เอฟเวอร์ตัน นั้นเน้นมากกับถ้วยนี้ พวกเขาจะเลือกทีมที่ดีที่สุดลงสนาม มันจึงไม่น่าจะใช้งานง่ายสำหรับ เรือใบ ถึงแม้ด้วยมาตรฐานทีเด็ดทีขาดของทีมเยือนจะเหนือกว่า แต่หากบุกชนะได้สกอร์อาจไม่ขาด

    ผลที่คาด

    เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2