อัลเบิร์ต คาเปลลาส เฮดโค้ช เดนมาร์ก ฟอร์มดีเกินคาดในรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 3 เกมรวด เหนือ ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์ และ รัสเซีย ยิงรวมกันสามเกม 6 ประตู และไม่เสียเลยแม้แต่ลูกเดียว
สภาพทีมขาด มัดส์ เบ็ค โซเรนเซ่น กองหลังที่บาดเจ็บ แต่ยังดีที่สามารถรั้งตัวหลัก ยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น กับ กุสตาฟ อีซัคเซ่น จากความสนใจของทีมชาติชุดใหญ่ที่อยากได้ไปลุยศึกยูโร 2020
เยอรมนี
สเตฟาน คุนท์ซ เทรนเนอร์ เยอรมนี พาทีมผ่านรอบแรกมาแบบเฉียดฉิว จากการมี 5 แต้มเท่ากันกับ ฮอลแลนด์ และ โรมาเนีย โดยเฉือนจบอันดับสองจากการวัดที่ประตูได้เสียหวุดหวิด
สภาพทีมเกมนี้ต้องขาด นิคลาส ดอร์ช ติดโทษแบน แต่ก็มีชื่ออยู่ในทีมที่เรียกมา โฟลเรียน เวียร์ทซ์ กับ ลาร์ส ลูคัส ไม คือสองตัวดังที่ถูกเรียกเข้ามาเสริม หลังจากไม่มีชื่อในรอบแบ่งกลุ่ม
11 ผู้เล่นตามคาด
เดนมาร์ก (4-3-3) : โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น - ราสมุส คาร์สเทนเซ่น, วิคตอร์ เนลส์สัน, เฟรเดริค อัลเวส, อันเดรียส โพลเซ่น - มักนุส โคฟอด อันเดอร์เซ่น, นิโกลัส นาร์ตีย์, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม - อันเดอร์ส เดรเยอร์, กุสตาฟ อีซัคเซ่น, ยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น
เยอรมนี (4-3-1-2) : ฟินน์ ดาห์เมน - โยชา วานโยมัน, อามอส พีเปอร์, นิโก้ ชล็อทเทอร์เบ็ค, ดาวิด เราม์ - รีดเล่ บาคู, มาเตโอ คลิโมวิซ, อาร์เน่ ไมเออร์ - โฟลเรียน เวียร์ทซ์ - ลูคัส เอ็นเมชา, เมอร์กิม เบริชา
ผู้ตัดสิน : กีเยร์โม่ กวาดรา เฟร์นานเดซ (สเปน)
สนาม : เอ็มโอแอล อารีน่า ซอสโต้, เซเคสเฟเฮอร์วาร์, ฮังการี