เชลซี

สิงห์บลูส์ เตรียมลงเล่นรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 26 โดยมีเพียง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่สถิติดีกว่า (30 เท่ากัน) โดย 50% ที่พวกเขามาถึงรอบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษ (13) ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกทีมในช่วงเวลาเดียวกัน

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันอาจได้ โรเมลู ลูกากู ฟิตทันเกมนี้ เนื่องจากกลับมาซ้อมได้แล้วหลังมีอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย

อย่างไรก็ตาม ในรายของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ก็ยังคงชวดเหมือนเดิมจากปัญหาที่แผ่นหลัง

คริสตัล พาเลซ

พาเลซ ไปถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ได้ 2 จาก 3 ครั้งหลังสุดที่ลงมารอบตัดเชือก โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2015-16 ซึ่งนี่เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่พวกเขามาถึงรอบนี้ แต่ก็เป็นเพียงทีมเดียวที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้เลย

ปาทริค วิเอร่า กุนซือชาวฝรั่งเศสจะไม่สามารถใช้งานกองกลางคนสำคัญอย่าง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เนื่องจากเป็นการพบต้นสังกัดแม่ที่ถูกยืมตัวมา

นอกจากนี้ก็ยังต้องลุ้นว่าทั้ง ไทริค มิตเชลล์ และ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ จะฟิตทันเวลาหรือไม่ หลังรายแรกมีอาการเจ็บน่องมาจากสุดสัปดาห์ก่อน ขณะที่รายหลังเจ็บเท้ามาตั้งแต่เบรกทีมชาติจนไม่ได้ช่วยทีมมาตลอด 2 นัดหลังสุด

11 ตัวจริงตามคาด

เชลซี (3-4-1-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ - รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รูเบน ลอฟตัส ชีค, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาท์ - ไค ฮาแวร์ตซ์, ทิโม แวร์เนอร์

คริสตัล พาเลซ (4-2-3-1) : แจ็ค บัตแลนด์ - เนธาเนียล ไคลน์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - ชีคู คูยาเต้, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - จอร์แดน อายิว, เอเบเรชี่ เอเซ่, วิลฟรีด ซาฮา - ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

เชลซี เหลือเอฟเอ คัพ เป็นความหวังหนึ่งเดียวแล้ว ดังนั้นพวกเขาต้องใส่เต็มที่แน่ แม้ คริสตัล พาเลซ จะไม่ใช่งานง่าย ทว่าด้วยเกรดบอล และทีเด็ดทีขาดที่มากกว่าก็ยังเชื่อว่า สิงห์บลูส์ จะบดคว้าชัยได้ในที่สุด

ผลที่คาด

เชลซี ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1