:::     :::

คุยกับ "โค้ชหนุ่ย" เรื่องอชก. : "ทุกคนจงยืดอก แล้วผ่านมันไปให้ได้"

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
3,604
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วันนี้ผมได้คุยกับ "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล เฮดโค้ชสุโขทัย เอฟซี และอดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดยู-19 ที่เคยร่วมงานกับนักเตะเอเชียนเกมส์ชุดนี้มาแล้วหลายคน ตอนแรกผมก็คุยเล่นๆ ทั่วไป กะแค่สัมภาษณ์ไปเขียนข่าว ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำเป็นคอลัมน์ แต่พอสนทนากันไปสักพัก อืม... ไม่ได้แล้วล่ะ มุมมองความคิดดีๆ แบบนี้ต้องนำมาเผยแพร่ต่อให้ได้ ลองติดตามกันดูครับ

แมน : สวัสดีครับพี่หนุ่ย โก้ (สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ) มีอาการบาดเจ็บอะไรจากเอเชียนเกมส์หรือเปล่าครับ เห็นน้องไม่ค่อยได้ลงสนามเท่าไหร่

โค้ชหนุ่ย : ไม่เห็นเจ็บอะไรนี่นะ น่าจะเป็นเรื่องของแท็กติกโค้ชมากกว่า

แมน : ห่วงไหมครับว่าผลงานในเอเชียนเกมส์ของไทยไม่ดีอย่างที่ตั้งเป้า มันอาจจะส่งผลต่อความมั่นใจของนักเตะได้

โค้ชหนุ่ย : ผมว่าไม่น่าเป็นห่วงหรอก เพราะนักเตะก็ต้องรู้แหละว่าการทำหน้าที่เพื่อชาติก็ส่วนหนึ่ง เพื่อสโมสรก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้ว พอกลับมาเขาก็ต้องเล่นเพื่อเป้าหมายของต้นสังกัดแต่ละทีมที่มีสถานการณ์ลุ้นแตกต่างกันออกไป

แมน : ในฐานะที่พี่หนุ่ยเคยร่วมงานกับนักเตะชุดนี้หลายๆ คนตอนคุมชุดยู-19 ล่าสุดนี่อาจจะมีบางคนที่ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊คหลากหลายอารมณ์กันไป พี่หนุ่ยคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้

โค้ชหนุ่ย : ทั้งโย่งและนักเตะคงจะได้ประสบการณ์จากการล้มเหลวในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้มากเลยนะ กระแสสังคมมันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว โค้ชก็คือคนคุมทีม นักเตะก็คือคนที่ลงไปเล่น ถ้าไม่เป็นอย่างที่แฟนบอลคาดหวังก็ย่อมต้องโดนด่า ยิ่งเดี๋ยวนี้มีอินเทอร์เน็ต ใครจะพิมพ์อะไรลงไปก็ได้ ร้อยพ่อพันแม่ แล้วบางคนก็พิมพ์โดยไม่มีการกลั่นกรองหรือต้องรับผิดชอบอะไรกับความคิดเห็นของตัวเอง ไม่ต้องไปเก็บมาเป็นอารมณ์หรอก สนใจแต่คอมเม้นต์ที่ว่ากันด้วยเหตุผล ถ้าเขาวิจารณ์ว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ มีเหตุผลมาคุยกันอันนั้นก็อ่านเพื่อนำมาปรับปรุงได้ แต่ถ้าด่าแบบเหมือนกับไปฆ่าใครมา อย่างเช่นบอกให้โค้ชไปคลอดลูกก่อนค่อยมาคุมทีมอะไรแบบนี้  ก็ไม่ต้องไปสนใจ คิดซะว่าอ่านการ์ตูนอยู่แล้วปล่อยผ่านไป อย่าไปเก็บมาให้เป็นอารมณ์

แมน : ตอนสมัยพี่คุมยู-19 ก็มีเคยโดนกระแสวิจารณ์หนักๆ เหมือนกันจนสมาคมเปลี่ยนโค้ช 

โค้ชหนุ่ย : ย้อนไปตอนนั้นพี่เองก็น้อยใจนะ เพราะพี่เพิ่งคุมทีมได้ไม่นานแล้วไปแข่งทัวร์นาเม้นต์แบบไม่เป็นทางการ ก็เหมือนรายการสี่เส้าที่โย่งคุมทีมไปแพ้ที่พม่าน่ะแหละ แล้วสมาคมก็คุยกับพี่ก่อนแล้วว่ารายการนี้ไม่ได้เน้นผลการแข่งขัน อยากจะให้ได้ทดลองแท็กติกทดลองทีม แล้วเราก็ไม่ได้ผู้เล่นตัวหลักมาหลายคน แต่พอแพ้แล้วมีสื่อไปชี้นำให้เปลี่ยนโค้ช ก็เกิดกระแสขึ้นมาในกลุ่มแฟนบอลแล้วสมาคมก็เปลี่ยนเราออกโดยที่ไม่ได้ปกป้องเราเท่าที่ควรเลย

แมน : แล้วคิดว่าครั้งนี้พี่โย่งจะรอดมั้ยครับ

โค้ชหนุ่ย : ตอนของพี่กับโย่งไม่เหมือนกันนะ เพราะพี่ยังไม่ได้คุมทีมไปแข่งชิงแชมป์อาเซียน หรือเอเชียเลย ภารกิจของเรายังไม่เสร็จสิ้นก็มาปลดเราซะก่อน แต่ของโย่งก็ต้องมาดูว่าสมาคมตั้งเป้าหมายไว้ยังไง ทำทีมชุดนี้เพื่อเอเชียนเกมส์หรือโอลิมปิก แล้วมอบหมายให้โย่งทำภารกิจไปถึงรายการไหน ถึงจะประเมินได้ว่าสอบผ่านหรือสอบตก มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายเทคนิคแล้วล่ะที่ต้องออกมาชี้แจง ถ้าภารกิจของโย่งคือเอเชียนเกมส์แล้วมันล้มเหลวก็ต้องเป็นหน้าที่ที่ทั้งโค้ช, ฝ่ายเทคนิค และสมาคมก็ต้องแสดงความรับผิดชอบในทางใดทางหนึ่งอยู่แล้ว 

แมน : แฟนบอลส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจว่าการส่งเด็กไปเล่นครั้งนี้โดยไม่ใช้โควตาอายุเกิน เป้าหมายเพื่อให้เด็กมีเกมเล่นมีประสบการณ์ก่อนคัดโอลิมปิก ซึ่งก็เข้าใจได้แหละว่าแฟนบอลอยากเห็นผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้

โค้ชหนุ่ย : คนที่เข้าใจเขาก็มีแหละ แต่เขาอาจไม่แสดงตัวหรือแสดงความคิดเห็นเยอะเหมือนอย่างคนที่ไม่เข้าใจ คนเข้าใจอาจจะมีสักล้านคน คนไม่เข้าใจอาจจะ 7 ล้ัาน สมาคมเองก็ต้องพยายามชี้แจงให้คนส่วนใหญ่รับรู้ก่อนว่าเป้าหมายของเราคืออะไร  

แมน : สำหรับพี่หนุ่ย เอเชียนเกมส์คราวนี้เราล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่างที่ถูกวิจารณ์มั้ยครับ

โค้ชหนุ่ย : ผมมองว่ามันเป็นความผิดพลาดในเกมนะ คือเรามีโอกาสแต่ทำไม่ได้ อย่างลูกที่ ชัยวัฒน์ บุราณ ได้ยิงโล่งๆ ต้นครึ่งหลังเกมเจออุซเบกิสถาน ถ้าเข้าไปมันก็เป็นอีกเรื่อง เกมอื่นๆ ก็เหมือนกัน ก็ต้องมาปรับแก้กันว่าเพราะอะไร ส่วนเรื่องการเลือกผู้เล่นการใช้แท็กติกนั้นมันก็แล้วแต่ปรัชญาของโค้ชแต่ละคน มันไม่มีอะไรตายตัวหรอก ถ้าเราไปวิจารณ์ว่าทำไมไม่เลือกคนนั้นคนนี้ ทำไมไม่เล่นแบบนั้นแบบนี้ ก็เหมือนกับ เยอรมัน ในฟุตบอลโลก คนถามทำไมไม่เอา (เลอรอย) ซาเน่ มา ถ้าเอามาก็เข้ารอบไปแล้ว พูดหลังจากเกมจบไปแล้วมันก็พูดได้หมด แต่ถ้าเยอรมันเกิดไม่ตกรอบ คนก็จะพูดกันไปอีกแบบ ฟุตบอลมันไม่มีอะไรแน่นอนเลย

แมน : ตอนนี้บอล (ชัยวัฒน์ บุราณ) โดนถล่มหนักเลย หลังน้องโพสต์ระบายความรู้สึกในเฟซบุ๊ค พี่หนุ่ยได้อ่านมั้ยครับ

โค้ชหนุ่ย : เขาเขียนว่ายังไงหรอ

แมน : ก็ประมาณว่าพวกเขามาทำเพื่อชาติ และผิดหวังกับคำวิจารณ์ของแฟนบอล นักเตะพยายามเต็มที่แล้ว เสียงวิจารณ์ทำให้พวกเขารู้สึกแย่ประมาณนี้ครับ


โค้ชหนุ่ย : ก็นั่นแหละนะ กระแสตอนนี้ไปตอบแบบนี้ก็โดนถล่มอยู่แล้ว โย่งเองก็เหมือนกัน ไม่ต้องบอกหรอกว่าเคยพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์มาแล้ว หรือการโวว่าจะชนะทีมนั้นทีมนี้ จริงๆ ในการอบรมโค้ชโปรไลเซ่นเขาก็มีเรื่องการจัดการกับสื่ออยู่นะ ว่าควรตอบคำถามอย่างไร 

แมน : บางทีสื่อบางสื่อก็เป็นสาเหตุนะพี่ ที่ชี้นำให้เกิดกระแสหรือยั่วยุให้โมโห 

โค้ชหนุ่ย : ก็จริงอย่างเราว่า พี่เองก็เคยโดนตั้งแต่ตอนคุมยู-19 แล้ว มาคุมสุโขทัยก็โดน นักข่าวคนเดียวกันนั่นแหละ ตอนนั้นยู-19 เพิ่งคุมไป 2 เกม แล้วมาตั้งคำถามว่าพี่คิดยังไงที่มีข่าวเขาจะตั้งโค้ชจุ่นมาแทนพี่ ตอนสุโขทัยนี่นัดที่แพ้ บีจี ก็ถามพี่ว่าทำสถานการณ์ทีมวิกฤตแล้วพี่จะรับผิดชอบยังไง พี่ก็โมโหนะแต่ก็พยายามอธิบายด้วยเหตุและผล พอพี่พูดเสร็จก็เดินหนีพี่ไปเลย แล้วก็ไปพยักหน้าท้าทายนักข่าวคนอื่นด้วย เท่าที่ดูนักข่าวคนอื่นก็ไม่น่าจะชอบใจคนนี้เท่าไหร่เหมือนกัน

แมน : อืมก็พอจะนึกออกอยู่พี่ ว่าใคร 

โค้ชหนุ่ย : การทำหน้าที่สื่อก็ต้องมีจรรยาบรรณอย่างที่เราว่าน่ะแหละ แต่บางทีผู้บังคับบัญชาบางที่ก็ดันหนุนหลังคนแบบนี้น่ะนะ

แมน : กลับมาถามเรื่องนี้อีกรอบดีกว่า พี่คิดว่าสมาคมควรเปลี่ยนโค้ชมั้ย หรือควรให้พี่โย่งทำทีมต่อไป 

โค้ชหนุ่ย : ฝ่ายเทคนิคต้องออกมาชี้แจงนะ ไม่ว่าจะเปลี่ยนโค้ชหรือให้ทำต่อ ด้วยเหตุผลอะไร ซึ่งเดี๋ยวโย่งหรือทีมงานก็ต้องทำรายงานการแข่งขันส่งให้ฝ่ายเทคนิคพิจารณาอยู่แล้ว ถ้าพี่เฮงออกมาพูดว่ารูปแบบการเล่นเราไม่ได้เสียหาย แต่เรามีข้อผิดพลาดที่ทำประตูไม่ได้ ซึ่งจะแก้ไขยังไงต่อไปอะไรแบบนี้จะดีกว่า แต่เท่าที่ตามข่าวทั้งพี่เฮงและนายกสมาคมก็น่าจะชัดเจนแล้วว่าคงจะให้โย่งทำต่อไปนะ ซึ่งผมมองว่าการจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนโค้ชมันต้องกำหนดเป้าหมายให้เขาน่ะแหละ อย่างที่บอกไปว่าจะวัดผลที่ทัวร์นาเม้นต์ไหน แล้วพี่เฮงเองก็น่าจะต้องมีผู้ช่วยที่ทำหน้าที่เก็บสถิติและสื่อสารกับโค้ชที่มีประสบการณ์ความสามารถมากพอด้วย

แมน : ตอนนี้มีคนทำหน้าที่อยู่หรือเปล่าพี่ แต่ก่อนผมคุ้นๆ ว่าแต่ก่อน "โค้ชจุ่น" เคยถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยด้านข้อมูลให้กับทีมชุดเยาวชนเนี่ยแหละ

โค้ชหนุ่ย : ยกตัวอย่างนะ ตอนพี่เป็นโค้ช พี่เฮงส่งเด็กมาช่วยงานพี่ เป็นโวลันเชียร์ (อาสาสมัคร) ที่มาฝึกหัดการทำงาน ซึ่งพี่เองยังต้องสอนวิธีการทำงานให้เขาอยู่เลย อย่างเช่นการจดสถิติ มีเกมนึงเขาจดให้พี่ว่าทีมไทยเราเสียบอลสูงถึง 80% พี่ก็ตกใจสิว่าเฮ้ยมันเยอะขนาดนั้นได้เลยหรอ พอมาดูก็เลยเห็นว่าเป็นการเสียบอลในพื้นที่แนวรุกซะ 50% คือเราเจอทีมที่ลงไปอุดแล้วเรามีโอกาสเข้าทำเยอะแยะ ถ้าดูตัวเลขแบบนี้ก็หมายความว่าถ้าเราไม่เสียบอลตรงนี้เราคงยิงได้เป็นสิบยี่สิบลูกเลยล่ะมั้ง คือจะมาบอกรวมๆ ไม่ได้หรอก มันต้องแยกเป็นโซนว่าเสียในแดนของเรา กลางสนาม หรือในแดนคู่ต่อสู้่ พี่ว่าถ้าพี่เฮงมาเองไม่ได้ ก็ควรต้องใช้คนที่มีประสบการณ์มีความเข้าใจในเกมฟุตบอลจริงๆ ไม่ใช่แค่คนที่มาจดตัวเลข หรือนับจำนวนครั้ง 

แมน : พี่เฮงเองก็โดนวิจารณ์เยอะเหมือนกันนะครับ กับเอเชียนเกมส์คราวนี้ 

โค้ชหนุ่ย : ผมก็เห็นใจพี่เฮงนะ เพราะคงหาได้ไม่เยอะหรอกสำหรับคนที่รักฟุตบอล เคยผ่านประสบการณ์โดยตรงทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช และไม่ได้เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ มาทำงานเพื่อส่วนรวมแบบนี้ แต่พี่เฮงแกอาจจะไม่เหมาะกับการบริหารจัดการเท่าไหร่นัก แกเป็นคนที่เก่งมากแต่ต้องมีผู้ช่วยที่สามารถสื่อสารแทนแกได้ พี่เฮงแกพูดไม่เก่ง เป็นสไตล์ขวานผ่าซาก ต้องหาคนช่วยอธิบายที่ทำให้มันซอฟท์ลงหน่อย สำหรับตัวพี่นะ พี่ฟังพี่เฮงรู้เรื่อง แต่บางคนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะแกอาจจะพูดข้ามไปเรื่องนั้นทีเรื่องนี้ทีตามสไตล์ของแก แต่ถ้าฟังที่แกพูดเข้าใจหรือมีคนช่วยสื่อสารแทนแกได้ เราจะได้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถของแกเยอะมากเลยนะ

แมน : ฝากถึงโค้ชโย่งและนักเตะชุดเอเชียนเกมส์หน่อยครับพี่หนุ่ย

โค้ชหนุ่ย : สำหรับโย่งพี่ก็มองว่าถ้าเขาก้าวข้ามผ่านเสียงวิจารณ์ตรงนี้ไปได้ นำสิ่งที่ผิดพลาดไปแก้ไขปรับปรุง เขาก็อาจจะกลับมาประสบความสำเร็จในภายภาคหน้าได้  พี่ก็หวังว่าเขาจะไม่คิดมากกับคำวิจารณ์หนักๆ แต่ก่อนเคยมีกรณีของพี่เหม่ง (ประพล พงษ์พานิช) ที่แกเครียดกับเสียงวิจารณ์ตอนที่แกทำทีมไม่ได้แชมป์ซีเกมส์ สุขภาพแกไม่ค่อยดีอยู่แล้วก็ยิ่งทรุดจนเสียชีวิตไปเลย โย่งเองก็คงต้องรับสภาพและทนรับแรงกดดันครั้งนี้ให้ได้ 


แมน : นักเตะล่ะพี่

โค้ชหนุ่ย : ครั้งหนึ่งตอนที่พี่คุมยู-19 เจ้าลีเอาะ (บอมบ์ ชินภัทร ลีเอาะ) อยู่ๆ ไปต่อยฝั่งตรงข้ามเฉยเลย พี่ก็ตกใจในทีมก็ตกใจกันหมด ถ้าพี่ตัดอนาคตเด็กคนนี้ด้วยการดร็อปไปเลย ก็อาจจะเป็นการยุติเส้นทางของเขา เราอาจจะสูญเสียนักเตะที่ดีในอนาคตไปคนหนึ่ง ก็อยากจะบอกว่าการล้มเหลวในเอเชียนเกมส์ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางของเขาจบลงแล้ว โอกาสหน้าในทีมชาติยังมีอยู่ ยืดอกเข้าไว้ แล้วเมื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้ง ก็พยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป มันเป็นเกียรติสูงสุดอยู่แล้วในการที่ได้ัรับใช้ทีมชาติ

แมน : คำถามสุดท้ายนะพี่หนุ่ย ถ้ามีโอกาสกลับมาคุมทีมชาติอีกครั้ง พี่เอามั้ย

โค้ชหนุ่ย : ชีวิตพี่อยู่กับฟุตบอลมาตลอด ตั้งแต่เป็นนักเตะจนเป็นโค้ชไม่ว่าจะเป็นทีมชาติหรือสโมสร ถ้าได้ัรับความไว้วางใจ มีแนวทางที่ชัดเจนและมีเวลาให้เราได้สร้างทีมพี่ก็ยินดี การรับใช้ทีมชาติมันเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต พี่เชื่อว่าคนไทยทุกคนที่มีความรู้ความสามารถก็อยากรับโอกาสนี้แม้รู้ว่ามีความเสี่ยงสูงก็ตาม ถ้าเกิดเขาเรียกพี่ไปทำทีมชาติ ถ้ามีโอกาสก็อยากระบายนะว่าครั้งก่อนผมไม่ได้รับโอกาสและการปกป้องอย่างที่ควรจะเป็น แต่พี่ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเป็นการส่วนตัวหรอกนะ มันก็ผ่านไปแล้ว พี่ก็ทำงานได้กับทุกคนแหละ สักวันหนึ่งถ้าพี่เลิกงานโค้ชไปแล้ว พี่ก็อาจจะเป็นวิทยากร หรือคอมเมนเตเตอร์ต่อไป เพราะชีวิตพี่มีแต่ฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น

แมน : ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ย วันนี้ขอรบกวนเท่านี้แล้วกันนะครับ

โค้ชหนุ่ย : อ่าๆ โอเคครับแมน สวัสดีครับ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด