:::     :::

มุมมองของอดีตกัปตัน

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
3,844
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คงไม่ผิดหากจะกล่าวว่าตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในวิกฤติ หลังจากปราชัย 2 จากเกมแรกในเวทีพรีเมียร์ลีก

ยิ่งเกมที่ผ่านมาเป็นการปราชัยคาสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 0-3 ยิ่งทำให้แฟนบอลไม่พอใจอย่างมาก

คนที่โดนเพ่งเล็งหนีไม่พ้นชายที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ในฐานะผู้จัดการทีม ยิ่งเขามีตำแหน่งในทีมใหญ่อย่าง ปิศาจแดง ยิ่งทำให้สื่อต่างต้องการรุมโจมตีและสะกิดแผลให้เหวอะหวะกว่าเดิม

เราจึงได้เห็นการปะทะคารมหลังจบเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระหว่าง 'เดอะ สเปเชี่ยล วัน' กับนักข่าวจาก เดอะ การ์เดี้ยน

ถือเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ทำให้สื่อทุกสำนักนำเอาเรื่องราวดังกล่าวไปชำแหละและโยงเข้ากับผลงานของ ยูไนเต็ด ซึ่งแฟนบอลคงได้อ่านและเห็นการนำเสนอเรื่องราวของสื่อฝั่งอังกฤษตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา

ไม่แปลกเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคที่ฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษเปลี่ยนมาเป็น 'พรีเมียร์ลีก' และไม่แปลกที่แฟนบอลทีมอื่นๆอยากเห็นทีมๆนี้ 'ฉิบหาย'

ในกรณีของแฟนบอลเราจะเห็นการออกมาโจมตีสโมสรอย่างหนัก ทั้งการให้ มูรินโญ่ ออกไป หรือให้กุนซือชาวโปรตุกีสพิจารณาตนเอง แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อไป

นี่คือช่วงเวลาวิกฤติของสโมสร ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกแต่ที่ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าที่ผ่านมาคงเป็นเพราะ 'โซเชียล มีเดีย' ซึ่งเป็นตัวจุดกระแสและกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี


นอกจากจะได้เห็นความเดือดดาลของแฟนบอลและการใส่ไฟของสื่อแดนผู้ดี อีกมุมหนึ่งนักเตะในทีมรวมไปถึงบรรดาอดีตผู้เล่นและตำนานของสโมสร ได้ออกมาสนับสนุนให้ทุกสมัครสมานกลมเกลียวกัน

ในช่วงเวลาเช่นนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจและการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งมันสะท้อนออกมาจากปากอดีตกัปตันทีมอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน

"เราต้องกลมเกลียวและอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น เพราะไม่มีใครนอกสโมสรนี้ที่จะเหนียวแน่นร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปกว่าพวกเรา"

"ถ้าแฟนบอลไม่สนับสนุนทีม เช่นนั้นแล้วบรรดาสื่อมวลชนก็จะกรูเข้ามาเล่นงานและล้อเลียนความสำเร็จที่ผ่านมา รวมไปถึงเล่นงานสโมสรแห่งนี้มากกว่าเดิม"

"นี่คือเวลาที่พวกคุณต้องกลมเกลียว ดึงคนอื่นๆขึ้นมาและนำเอาความมั่นใจกลับมา นักเตะต้องทำงานให้หนักมากกว่าเดิม แต่ด้วยนักเตะที่เรามีในทีมเราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้"

"อย่างน้อย นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมของแฟนบอลตั้งแต่ที่ผมย้ายมาอยู่กับสโมสรนี้ เมื่อคุณมีเวลาที่เลวร้ายพวกเขาก็ยังคงหนุนหลังพวกคุณ และเมื่อคุณมีเวลาที่ดีพวกเขาก็จะตื่นเต้นตามไปด้วย แฟนบอลยอดเยี่ยมเสมอและผมคิดว่านั่นคือาการตอบสนองที่ดีของพวกเขา"

นั่นคือบางส่วนที่ 'ร็อบโบ้' กล่าวในการราย แพ็ดดี้ ครีแรนด์ โชว์ ทางช่อง MUTV 


กัปตันมาร์เวล พยายามที่จะสื่อไปถึงแฟนบอลที่ให้กำลังใจทีมจนถึงหยดสุดท้ายแม้ว่าจะแพ้คารัง 0-3 เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของเกมฟุตบอลคือกำลังใจจากบรรดากองเชียร์

นักเตะทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างเต็มกำลัง แม้ผลของมันจะจะออกมาในทิศทางที่น่าผิดหวังและเละเทะ แต่หากทุกคนยังคงทำงานหนักกันต่อไป ร็อบสัน เชื่อว่า ยูไนเต็ด ทีมนี้จะกลับมา

"เมื่อคุณโดนสอยยับในรัง 0-3 มันเป็นเรื่องดีที่แฟนบอลแสดงความซื่อสัตย์และมอบความจริงใจให้ให้กับคุณเพราะมันเป็นฤดูกาลที่ยาวนานและยากลำบาก ตอนนี้ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล" 

"ในส่วนของทีม ไม่เพียงผู้จัดการทีมและทีมงาน นักเตะเองก็ต้องทำให้ดีที่สุดและแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ยอดเยี่ยม ถ้าหากว่าพวกเขาต้องการออกจากสถานการณ์นี้และกลับไปชิงชัยในลีก"

"สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการเอาชนะในนัดต่อไป เปลี่ยนแปลงมันเล็กน้อย จากนั้นความมั่นใจก็จะกลับมา, นักเตะบาดเจ็บเริ่มกลับมา, ความฟิตนักเตะเริ่มดีขึ้นมาบ้าง และทันใดนั้น หลายสิ่งสามารถมาพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว"

ร็อบสัน ได้ทิ้งท้ายความเห็นของตนเองในมุมที่เกี่ยวกับการโจมตีของสื่อในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอดีตกัปตันทีมจอมแกร่งยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสโมสรอย่าง ยูไนเต็ด คือทีมที่ตกเป็นเป้าหมายของนักข่าวในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

จากความสำเร็จที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อร่างสร้างขคึ้นมา และตอนนี้กับวิกฤติที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะผลงาน ไม่แปลกที่สโมสรจะโดนยำเละเช่นนี้


"สำหรับ 30 ปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนต้องการถล่มเราให้เละเพราะความสำเร็จของ เซอร์อเล็กซ์"

"แต่หลังจากนั้นเราคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และจากนั้น โชเซ่ เข้ามาและคว้า 3 แชมป์ในปีแรก ดังนั้นการพลาดแชมป์ในซีซั่นก่อนและแพ้ 2 จากเกมแรก สื่อเลยชอบอะไรแบบนี้ เพราะพวกเขาเคยเห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความเร็จมาอย่างมากมาย"

นั่นคือมุมมองของอดีตกัปตันทีมที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสโมสรมานานกว่า 13 ปี 

นี่คือบุรุษที่อยู่กับทีมตั้งแต่สมัยที่ยังกระท่อนกระแท่น และกลายมาเป็นแกนหลักของสโมสรพร้อมกับพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย

มุมมองต่างๆที่เขาสะท้อนออกมาล้วนมาจากความรักที่มีให้กับสโมสรนาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจและเดินหน้าไปพร้อมกัน

สิ่งสำคัญคือการพร้อมใจกันฟันฝ่าผ่านมันไปให้ได้ ... 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด