ผลปรากฏว่า คนที่ได้รับรางวัลนี้ไปครองคือ "ลูก้า โมดริช" หลังจากที่เจ้าตัวสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากการพาต้นสังกัดอย่างเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยติดต่อกันแล้ว ดาวเตะร่างเล็ก ยังสามารถพาทีมชาติโครเอเชีย ทะลุไปเป็นรองแชมป์ฟตบอลโลก 2018 อย่างเหนือความคาดหมายด้วย
ช่วงนี้เราไปดูบทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวกันหน่อย ถึงเป้าหมายกับต้นสังกัดอย่าง "ราชันชุดขาว" รวมถึงทัศนคติในการเล่นเพื่อทีม จนผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้
เมื่อคุณมองย้อนกลับไปช่วงฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด คุณรู้สึกถึงความเจ็บปวดบ้างมั้ย ? (ฟอร์มไม่ดี และถูกโหวตให้เป็นการซื้อตัวยอดแย่)
"ไม่เลย .... ผมไม่ได้เจ็บปวดกับมันมากเท่าไหร่ เพราะผมรู้ตัวเองดีกว่า ผมสามารถประสบความสำเร็จที่สโมสรเรอัล มาดริด ตอนนั้น ผมไม่ได้สัมผัสเกมช่วงปรีซีซั่น และเข้ามาเล่นที่สโมสรที่ต้องการให้ผมก้าวไปอยู่ในระดับสูงตั้งแต่ในวันแรกเลย ความต้องการเหล่านั้น เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก ผมรู้ดีว่า ต้องโดนความเจ็บปวดเล่นงานบ้าง แต่ผมไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ผมก็มีความสุขกับเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะผมต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก มันทำให้ผมไม่หยุดที่จะเชื่อมันในตัวเอง สถานการณ์มันสอนให้ผมได้เรียนรู้ และช่วยเหลือผมในอนาคตด้วย"
คุณมีวิธีสร้างแรงปรารถนา และความทะเยอทะยานอย่างไร ?
"ง่ายมากเลย เมื่อคุณสามารถคว้าแชมป์อะไรสักอย่าง ผ่านไปครั้ง สองครั้ง สามครั้ง คุณจะมีความรู้สึกเหล่านั้นเอง มันผลักดันให้คุณทะยานไปข้างหน้า คุณจะต้องการแชมป์มากขึ้นไปเรื่อยๆ คุณจะไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับมัน เราอยู่ในสโมสรที่ดีที่สุด และต้องการชัยชนะทุกอย่างที่สามารถทำได้ ผู้เล่นทุกคนต่างมีแนวความคิดแบบเดียวกัน"
คุณชอบลงเล่นในระบบไหนมากกว่า ระหว่าง 4-4-2 หรือ 4-3-3 ?
"สำหรับผม มันไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลขเหล่านั้นเลย สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ เราต้องเล่นเป็นทีม และต่อสู้เพื่อทีม เล่นเกมรุก และรับร่วมกัน นี่มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าระบบ 4-4-2 หรือ 4-3-3 เสียอีก เราต้องก้าวไปด้วยกัน ทำงานของตัวเอง และช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมคนอื่นด้วย หากทำสิ่งเหล่านี้ได้ มันก็เป็นเรื่องยากที่คู่แข่งจะสามารถเอาชนะเราได้"
แล้วระบบโรเตชั่นล่ะ ?
"ตอนแรก ผมไม่คิดว่าการโรเตชั่นจะเหมาะกับทีมนะ เมื่อคุณได้ลงเล่น และถูกสลับไปเป็นตัวสำรอง คุณจะรู้สึกสูญเสียอะไรบางอย่างไป ทว่าสุดท้าย โค้ชอย่างซีดาน สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นไปได้ และยังนำพาเราคว้าแชมป์มาครอง ซึ่งตอนนี้ ผมคิดว่าการโรเตชั่นก็มีข้อดีนะ คนอื่นอาจจะพูดถึงการเป็นนักเตะทีมเอ หรือทีมบี แต่เราไม่เคยมองแบบนั้น เพราะเราคือทีมเรอัล มาดริด เราเป็นทีมเดียวกัน เราเชื่อใจในเพื่อนร่วมทีมของเราเอง"
พูดถึงการย้ายออกจากเรอัล มาดริด หน่อยซิ นักเตะระดับโลกอย่างโอซิล, ดิ มาเรีย, ฮาเมส และโมราต้า ต่างผ่านสถานการณ์แบบนี้ ?
"แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในการตัดสินใจอำลาทีมอย่างเรอัล มาดริด เมื่อคุณก้าวขาออกจากสโมสรแห่งนี้ไป มันก็จะไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีกแล้ว คุณกำลังอยู่กับสโมสรที่ดีสุดในโลก มันคือความจริง อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ทว่าผมยังไม่มีความคิดที่จะอำลาเรอัล มาดริด ในโลกฟุตบอลที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก"
ความหมายของการสวมเสื้อเรอัล มาดริด ล่ะ ?
"มันช่วยคุณเป็นอย่างมาก สำหรับความยิ่งใหญ่ของเสื้อเรอัล มาดริด มันช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการเอาชนะ และคู่แข่งก็ให้ความเคารพด้วย อย่างไรก็ตาม คู่แข่งจะทุ่มเท 200 เปอร์เซนต์ เมื่อต้องเจอกับเรอัล มาดริด หากคุณไม่ได้อยู่ในระดับที่ดีที่สุด มันจะกลายเป็นปัญหาอย่างแน่นอน"
คุณมีความคิดที่จะแขวนสตั๊ดกับเรอัล มาดริด หรือเปล่า ?
"ผมยังไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้าผมทำงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ผมสามารถพัฒนามันได้ แน่นอนว่า ผมก็อยากเลิกเล่นกับเรอัล มาดริด นั่นคือความฝันของผมเลย เรามารอดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ที่เรอัล มาดริด มีความคาดหวังสูงเสมอ คุณต้องรักษาฟอร์มการเล่นให้อยู่ในระดับสูงอยู่ตลอด หากไม่สามารถทำได้ คุณเจอกับปัญหาแน่นอน ผมมุ่งมั่นทำผลงานของตัวเอง เพราะต้องการอยู่ในการเล่นระดับสูง ผมมีความสุขในทุกวัน ทุกการฝึกซ้อม และทุกการแข่งขัน ในหัวของผมมีเพียงเรอัล มาดริด เท่านั้น"
