'มันเป็นเป้าหมายที่จะปิดฉากปีด้วยการเป็นทีมนำด้วยความได้เปรียบเช่นเดียวกับที่เรามีก่อนออกสตาร์ทแมตช์นี้ ดังนั้นเราจึงมีความสุข'เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กล่าวหลังเปิด'คัมป์ นู'ทุบ เซลต้า บีโก้ 2-0 ส่งท้ายปี 2018 ด้วยการนำทัพอาซูลกราน่านำเป็นจ่าฝูงลีกาทิ้งอันดับ 2 แอตเลติโก มาดริด 3 แต้ม 

บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ช่วงนาบีดาดหรือคริสต์มาสโดยทิ้งทีมตราหมี 3 คะแนน ทั้งที่ทัพอาซูลกราน่าทำแต้มหกเรี่ยราดหลายเกมโดยเฉพาะการพลิกล็อกพ่ายทีมโซนท้ายตารางอย่าง เลกาเนส (1-2) รวมถึงการพังคารัง'คัมป์ นู'ต่อ เรอัล เบติส (3-4) 

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า แทน หลุยส์ เอ็นรีเก้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 หลังหมดพันธะกับทีมเก่า แอธเลติก บิลเบา 

ผลงานปี 2018 ของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้คือการนำทัพอาซูลกราน่าคว้าแชมป์ 3 รายการคือ ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ กับ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ หรือ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า โดยมีจุดด่างพร้อมบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกที่หงายหลังตกรอบควอเตอร์ไฟนัลหลังการปราชัยยับเยินที่กรุงโรม 0-3 ก่อนถูก โรม่า เขี่ยตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือนหลังเสมอกัน 4-4

จากการตกรอบดังกล่าวทำให้มีข่าวลือว่า บาร์เซโลน่า อาจจะตัดสินใจหาเทรนเนอร์คนใหม่เข้ามาทำงานแทน บัลเบร์เด้ เนื่องจากมองว่าเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างที่สโมสรต้องการ ก่อนที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์ซ่าจะยืนยันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ตามข่าว 

แม้ บัลเบร์เด้ จะเป็นเทรนเนอร์ที่ดี แต่เขายังไม่สมบูรณ์แบบสำหรับทัพอาซูลกราน่า ถึงกระนั้นสโมสรยังไม่มีตัวแทนที่ดีพอจึงมีแผนที่จะขยายสัญญาของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ที่กำลังจะสิ้นสุดอายุการใช้งานหลังจบฤดูกาลนี้ 

บัลเบร์เด้ ยังมีสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2019 และเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ถืออ็อปชั่นขยายสัญญาเพิ่มเติมอีกหนึ่งซีซั่น ซึ่ง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว เปิดเผยว่าเทรนเนอร์วัย 54 ปีจะตัดสินใจเรื่องอนาคตในช่วงเดือนมีนาคมนี้ 

'ผมอยากให้เขาทำงานต่อไป ขณะที่เขาเป็นโค้ชของสโมสรและผมชื่นชอบวิธีการที่เขาปฏิบัติต่อเราและต่อนักเตะ'ประธานบาร์ซ่าเปิดเผย

'ตอนเราคุยกัน เรารู้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ เราแฮปปี้มากกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเขาเป็นตัวเลือกแรกสำหรับเราเสมอ'

'(เดือนมีนาคม) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเราที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในซีซั่นหน้า'

ตามบทสัมภาษณ์ข้างต้นของประธานบาร์ซ่าที่ชื่นชมแนวทางการทำงานของ บัลเบร์เด้ ทั้งต่อสโมสรและนักเตะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เล่นจะพึงพอใจวิธีการทำงานของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ทั้งหมด โดยเฉพาะบรรดานักเตะที่ไม่ได้รับโอกาสจากเทรนเนอร์อย่างที่ควรจะเป็นทั้ง ราฟินญ่า, เดนิส ซูอาเรซ หรือ มูนีร์ เอล อัดดาดี้ แม้ว่า บัลเบร์เด้ จะเลือกโรเตชั่นหรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนผู้เล่นแบบสม่ำเสมอก็ตาม 

บางครั้งยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเทรนเนอร์วัย 54 ปีไม่เปิดโอกาสให้เด็กปั้นจาก'ลา มาเซีย'ศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนของสโมสรลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่มากขึ้นโดยเฉพาะสองแข้งดาวรุ่งอนาคตไกลอย่าง การ์เลส อาเลนญ่า หรือ รีกี ปูอิก เป็นต้น

ทว่านั่นเป็นเพียงจุดเล็กๆเพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่การทำงานระหว่าง บัลเบร์เด้ กับซุปตาร์ประจำทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและยอดเยี่ยม เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อบรรดาแข้งคีย์แมนในห้องแต่งตัวทั้ง เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, หลุยส์ ซัวเรซ, อีวาน ราคิติช หรือ จอร์ดี้ อัลบา ทำให้เก้าอี้ของเทรนเนอร์วัย 54 ปีมั่นคงแข็งแรง

แต่การทำงานในฐานะเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า เต็มไปด้วยความกดดัน แม้กระทั่ง'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ซึ่งนำทีมประสบความสำเร็จแบบไม่เคยปรากฎมาก่อนยังหมดเรี่ยวแรงจนตัดสินใจอำลาสโมสรหลังการทำงานนาน 4 ปี 

ขณะที่ บัลเบร์เด้ ซึ่งทอดเวลาการตัดสินใจเรื่องอนาคตไปจนถึงช่วงเดือนมีนาคม มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งการ'อยู่ต่อ'หรือ'อำลา'สโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ 

ถ้าหาก บัลเบร์เด้ ตัดสินใจเลือกการ'อำลา'ถิ่น'คัมป์ นู'นั่นก็เป็นปัญหาของฝ่ายบริหารทัพอาซูลกราน่าที่ต้องมองหาเทรนเนอร์คนใหม่เข้ามารับงานต่อจากเทรนเนอร์วัย 54 ปี ถึงตอนนี้มีหลายคนที่อยู่ในลิสต์ของทีมยักษ์กาตาลุนย่า อาทิ 

โจวานนี่ ฟาน บร็องฮอร์สท์ เทรนเนอร์วัย 43 ปีของ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ซึ่งสาวกบาร์เซโลนีสต้าคุ้นชื่อเป็นอย่างดีหลังอดีตแบ็กซ้ายทีมชาติฮอลแลนด์เคยย้ายมาค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าในช่วงปี 2003-2007

หลังแขวนเกือกในปี 2010 ฟาน บร็องฮอร์สท์ เริ่มงานเส้นทางใหม่ด้วยการรับตำแหน่งผู้ช่วยเทรนเนอร์ทีมชาติฮอลแลนด์ชุดยู-21 ก่อนย้ายมารับตำแหน่งผู้ช่วยเทรนเนอร์ เฟเยนูร์ด ในปี 2011 จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่เต็มตัวหลังจบฤดูกาล 2014-15 หลัง เฟร็ด รุตเท่น ประกาศอำลาตำแหน่ง 

ฟาน บร็องฮอร์สท์ ช่วยนำ เฟเยนูร์ด ล้มสองยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ดัตช์อย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม คว้าแชมป์ลีกเมืองกังหันลมในซีซั่น 2015-16 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ครั้งแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรและนำต้นสังกัดคว้าแชมป์อีก 4 รายการทั้ง ดัตช์ คัพ (2 สมัย) กับ โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ หรือ ดัตช์ ซูเปอร์ คัพ (2 ครั้ง)

จากผลงานดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ฟาน บร็องฮอร์สท์ เป็นเทรนเนอร์ที่ดีคนหนึ่งและยังแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นสามารถทำงานร่วมกับผู้เล่นประสบการณ์อย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รวมถึงแข้งดาวรุ่งอายุน้อยอย่าง เจอร์รี่ เซนต์ จุสต์, ทอนนี่ ฟิลเฮน่า และ สเวน ฟาน บีค 

ดังนั้น ฟาน บร็องฮอร์สท์ จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ บาร์เซโลน่า หาก บัลเบร์เด้ ตัดสินใจอำลาถิ่น'คัมป์ นู'

รายถัดมาคือ มาร์เซโล่ กายาร์โด้ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ ริเวอร์ เพลท แชมป์ลีเบร์ตาดอเรสทีมล่าสุด ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับทัพอาซูลกราน่า แต่เขาเป็นเทรนเนอร์สายเลือดใหม่อนาคตไกลของวงการลูกหนังไม่ต่างจาก ยูเลียน นาเกลส์มันน์ หรือ เอ็ดดี้ ฮาว 

กายาร์โด้ ประสบความสำเร็จอย่างสูงนับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ ริเวอร์ เพลท เมื่อปี 2014 โดยนำทีมยักษ์ใหญ่อาร์เจนตินาสอยแชมป์รวมกันถึง 9 รายการ เขายังมีส่วนในการปั้นดินสู่ดาวหลังมีส่วนช่วยพัฒนานักเตะดาวรุ่งอย่าง รามีโร่ ฟูเนส โมรี หรือ ลูกัส อาลารีโอ จนเป็นที่รู้จักของวงการลูกหนัง รวมถึงแข้งดาวโรจน์ในทีมชุดปัจจุบัน เอเซเกล ปาลาซีโอ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 20 กะรัตที่ใกล้จะลงเอยกับทีมชุดขาว

มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะปรับตัวหาก กายาร์โด้ ตัดสินใจย้ายมาทำงานในยุโรป แต่เขาเคยมีประสบการณ์ค้าแข้งกับ โมนาโก และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง น่าจะช่วยได้ดีในระดับหนึ่ง ดังนั้น กายาร์โด้ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์สายรุกอาจจะลงล็อคกับทีมอาซูลกราน่าและน่าจะช่วยพัฒนาฝีเท้าของแข้งดาวรุ่งได้ดีกว่า เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ เทรนเนอร์เลือดอาร์เจนไตน์คนล่าสุดที่ทำงานในถิ่น'คัมป์ นู'

โลร็องต์ บล็องก์ อดีตหนึ่งศิษย์เก่ายังมีชื่อเอี่ยวกับตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีมอาซูลกราน่าเช่นเดียวกัน หลังเคยย้ายจาก โอแซร์ มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงฤดูกาล 1996-97 โดยลงเล่นทุกรายการ 38 เกมก่อนจะย้ายกลับฝรั่งเศสไปอยู่กับ มาร์กเซย 

บล็องก์ ถูกมองว่าเป็นเทรนเนอร์ที่รู้จักแนวทางการเล่นของ บาร์เซโลน่า เป็นอย่างดีแม้ว่าจะเคยค้าแข้งกับทีมยักษ์กาตาลุนย่าเพียงซีซั่นเดียวก็ตาม ทว่าปัญหาของเทรนเนอร์วัย 53 ปีอาจจะต้องใช้เวลาเคาะสนิมนานพอสมควรหลังว่างงานมาตั้งแต่แยกทางกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี 2016 

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ เทรนเนอร์วัย 39 ปีของ ซาสซูโอโล่ เป็นคนล่าสุดที่มีตกเป็นข่าวพัวพันกับ บาร์เซโลน่า แบบน่าประหลาดใจไม่น้อยหลังมีข่าวว่าทีมอาซูลกราน่ากำลังตามติดพัฒนาการของเทรนเนอร์คนนี้เพื่อพิจารณาดึงไปรับตำแหน่งเทรนเนอร์คนใหม่หาก บัลเบร์เด้ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับสโมสร 

แฟนบาร์ซ่าจำนวนไม่น้อยคงจะมึนงงที่มีข่าวพัวพันกับเทรนเนอร์โนเนมอย่าง เด แซร์บี้ หลายคนคงจะสงสัยว่าหมอนี่เป็นใคร?มาจากไหน? 

เด แซร์บี้ เป็นเทรนเนอร์ที่ทำทีมน่าตื่นเต้นเร้าใจและเป็นเทรนเนอร์สายรุก เขาเริ่มงานกับ ดาร์โฟ โบอารีโอ ทีมสมัครเล่นระดับ เซเรีย ดี ในช่วงปลายปี 2013 ก่อนย้ายมาทำงานกับ ฟอจจา ในระดับ เลกา โปร ลีก ในปีต่อมา

จากผลงานการคุมทีม ฟอจจา 2 ปีเตะตา ปาแลร์โม่ จนดึงตัวมาแทน ดาวิเด้ บัลลาร์ดินี่ ในปี 2016 แม้ว่าบอร์ดบริหารสโมสรจะไม่เห็นด้วย แต่ไม่สามารถทัดทานอำนาจ เมาริซิโอ ซามปารินี่ ประธานสโมสรในขณะนั้น ก่อนที่ เด แซร์บี้ จะทำทีมพ่ายตลอด 7 เกมแรกและไม่มีคะแนนจากการลงเล่นในบ้านแม้แต่แต้มเดียวจากการคุมทีมลงสนาม 13 เกมจนถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 

เด แซร์บี้ หวนคืนวงการอีกครั้งหลัง เบเนเวนโต้ แต่งตั้งเป็นเทรนเนอร์คนใหม่คุมทีมลงเล่น เซเรีย อา ในซีซั่น 2017-18 ก่อนทีมตกชั้น ทว่า เด แซร์บี้ ได้รับการยกย่องว่าทำฟุตบอลเล่นเกมรุกเร้าใจจนกระทั่งถูก ซาสซูโอโล่ ดึงมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

เทรนเนอร์วัย 39 ปีไม่เคยประสบความสำเร็จประดับโปรไฟล์ แค่ทำทีมเล่นเกมรุกตื่นเต้นเร้าใจและเป็นเทรนเนอร์สายเลือดใหม่เท่านั้น แต่ยังตกเป็นข่าวพัวพันกับตำแหน่งเทรนเนอร์ของสโมสรยักษ์ใหญ่ของ บาร์เซโลน่า

คนสุดท้ายเป็นชื่อที่สาวกบาร์เซโลนีสต้าคาดไม่ถึงคือ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์คนดังที่กำลังว่างงานในตอนนี้หลังถูก แมนฯยูไนเต็ด เขี่ยพ้นตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อน 

มันเป็นการตั้งประเด็นจาก'everythingbarca.com'เว็บไซต์แฟนบาร์ซ่าที่เอ่ยถึงชื่อ มูรินโญ่ ซึ่งเคยทำงานในถิ่น'คัมป์ นู'ภายใต้สองเทรนเนอร์ชั้นยอดอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน และ หลุยส์ ฟาน กัล จนมีการตั้งคำถามว่ามันมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนหากเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสจะกลับมาทำงานในถิ่น'คัมป์ นู'อีกครั้ง 

ตามรายงานข่าวระบุว่า มูรินโญ่ จะใช้เวลาช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้พักผ่อนชาร์จแบตเพื่อรอรับงานใหม่ในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งอาจรวมถึงการกลับ'คัมป์ นู'หาก บัลเบร์เด้ อำลาตำแหน่งเทรนเนอร์บาร์เซโลน่า 

มันมีความเป็นไปได้ที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์ซ่าอาจจะหยิบชื่อ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงขึ้นมาพิจารณาเช่นเดียวกัน 

ทว่ามันคงจะเป็นไปได้ยากหากดูจากแนวทางการทำทีมของเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสที่อาจไม่เหมาะกับสไตล์'ตีกี้-ตาก้า'ของทัพอาซูลกราน่าและที่สำคัญ มูรินโญ่ ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ บาร์เซโลน่า ในช่วงเวลา 3 ปีที่เขาทำงานกับคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด 

ดังนั้นมันอาจจะเป็นการช็อควงการลูกหนังไม่น้อยเช่นกันหากทีมอาซูลกราน่าเลือก มูรินโญ่ มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของ บาร์เซโลน่า 

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ อาจไม่ใช่เทรนเนอร์ที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุม แต่เขายังคงเป็นเทรนเนอร์ที่ดีมากคนหนึ่งและเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในช่วงเวลานี้สำหรับ บาร์เซโลน่า ดังนั้นฝ่ายบริหารทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลุนย่าคงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งตัวเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ให้ทำงานในถิ่น'คัมป์ นู'ต่อไป ซึ่งมันคงจะดีกว่าไปเสี่ยงเดิมพันกับเทรนเนอร์หลายคนที่กล่าวไว้ข้างต้น