สถิติพี่โด้ที่เมสซี่(อาจ)ไม่มีวันทำลาย
แม้ว่าในปี 2018 ที่ผ่านมา รางวัลบัลลง ดอร์จะตกเป็นของ ลูก้า โมดริช หลังจากที่ 10 หนหลังสุดเป็น โรนัลโด้ และ เมสซี่ ที่แบ่งสรรปันส่วนกันคนละ 5 สมัย แต่ในซีซั่นนี้ทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยมอีกครั้ง
สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสในวัย 34 ปียังคงยิงประตูระเบิดเถิดเทิงกับต้นสังกัดใหม่อย่าง ยูเวนตุส พาทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะการตะบันแฮตทริคใส่ แอตเลติโก มาดริด พลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบอย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการนำโด่งเป็นจ่าฝูงในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในขณะนี้
ส่วน เมสซี่ กดไปแล้ว 39 ประตูจาก 37 เกม จ่อที่จะยิงทะลุหลัก 4 เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน แบ่งเป็นในลีก 29 ลูก และในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 8 ลูก นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้งสองรายการอยู่ในขณะนี้
แม้ว่าในปีนี้สถิติของกัปตันทีมบาร์เซโลน่าจะเหนือกว่า แต่ต้องยอมรับว่า โรนัลโด้ ที่ต้องย้ายลีกคงต้องเจอกับความยากลำบากมากกว่า ทั้งในเรื่องการปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมหรือในสภาพบรรยากาศที่แตกต่างออกไปหลังอยู่ที่สเปนมา 9 ปี
ซึ่งต้องยอมรับว่าโดยส่วนตัวแล้ว โรนัลโด้ มีสถิติที่ยากจะทำลายได้ไม่น้อย ซึ่งแม้ว่ายอดแข้งคนไหนหรือใครก็ตามในโลกยากจะทำลายลงได้หรืออาจจะไม่มีวันถูกทำลายเลย
แม้กระทั่งนักเตะที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ตาม
ยิงมากกว่า 50 ประตู 6 ฤดูกาลติดต่อกัน
"เครื่องจักรสังหารประตู" น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มากกว่านักเตะคนไหนในโลก เมื่อดูจากสถิติการยิงประตูเป็นกอบเป็นกำตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
โรนัลโด้ ประกาศศักดาจากนักเตะในตำแหน่งปีกขึ้นมาเป็นจอมทะลวงตาข่าย โดยเฉพาะการย้ายมาเล่นในสเปนกับ เรอัล มาดริด ยิ่งเน้นให้ภาพลักษณ์ของเขาคือยอดดาวยิงของโลก
ตลอดระยะเวลา 9 ปีในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสไม่เคยยิงต่ำกว่าปีละ 30 ประตูเลย และนั่นแค่ปีแรก นับตั้งแต่ปีที่สองในเสื้อของ "ราชันชุดขาว" จนกระทั่งอำลาทีม โรนัลโด้ ยิงไม่ต่ำกว่า 40 ประตู 8 ปีติดต่อกัน
และสถิติที่เยี่ยมยอมคือเขาสอยตาข่ายมากกว่า 50 ประตูต่อฤดูกาลได้ถึง 6 ปีติดต่อกัน ซึ่งดูแล้วคงยากที่ใครในโลกนี้จะทำลายได้
ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะที่ยิงประตูได้ไม่น้อยหน้า โรนัลโด้ และเคยทะลวงตาข่ายถึง 73 ลูกในปีเดียวมาแล้ว แต่นับเฉพาะการยิงถึง 50 ลูกที่ผ่านมาเคยทำได้ 3 ปีติดเท่านั้น และหากหวังจะทำสถิติเท่า โรนัลโด้ ที่ยิงได้ 6 ปีติด คงต้องเริ่มตั้งแต่ปีนี้ และในวัย 31 ปีแล้ว ดูท่าคงจะเป็นไปได้ยากจริงๆ
เป็นดาวซัลโวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 ปีติด
ณ ปัจจุบัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะที่ทะลวงตาข่ายในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้มากที่สุดที่จำนวน 124 ประตู จากการลงเล่น 160 เกม เหนือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ยิงไป 108 ลูก
แต่ว่านับตั้งแต่ปี 2012/13 โรนัลโด้ คือดาวยิงที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปมาอย่างต่อเนื่องจนถึงซีซั่นที่ผ่านมา ถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน 6 ปีติดต่อกันแล้ว
โดยเฉพาะในปี 2013/14 ที่ตะบันไปถึง 17 ลูก มากที่สุดนับตั้งแต่มีการแข่งขันรายการนี้มาตั้งแต่ปี 1955/56 เลย
ส่วน เมสซี่ เคยทำได้ก่อนหน้านี้ 4 ปีติดในช่วงปี 2008/09 จนถึงปี 2011/12 และในปีนี้ยังนำอยู่ในตำแหน่งดาวยิงสูงสุดด้วยจำนวน 8 ประตู
เช่นเดียวกับการยิง 50 ลูกให้ได้ 6 ปีติด หากว่า เมสซี่ ต้องการทามสถิติของ โรนัลโด้ หรือจะทำลายได้ อย่างน้อยต้องใช้ระยะเวลาถึง 6 ปีเลย
ก็คงต้องยอมรับกันตามตรงแล้วล่ะว่าคงเป็นไปไม่ได้จริงๆ
คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปีซ้อน
การคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกติดต่อกันถือเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งนับตั้งแต่เริ่มต้นเปลี่ยนชื่อจากยูโรเปี้ยน คัพในปี 1992
กระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมา ซีเนดีน ซีดาน พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ได้ 3 ปีซ้อน ซึ่งแน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือหัวใจสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้
เท่ากับว่าดาวยิงวัย 34 ปีจัดการคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว 5 สมัย ถ้าถามว่ามันสำคัญยังไง ลองไปถาม ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หรือ โรนัลโด้ หลุยส์ นาซิริโอ ที่ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้ดู
กับ เมสซี่ แม้ว่าจะได้แชมป์รายการนี้มาแล้ว 4 หน แต่ยังไม่เคยได้แชมป์ติดต่อกันเลย แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะเป็นทีมที่มีศักยภาพมากพอที่จะได้แชมป์ยุโรปติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่เคยทำได้ และดูแล้วการได้แชมป์ถึง 3 ปีติดก็คงจะเป็นไปได้ยากเช่นกัน
ได้แชมป์ลีกใน 3 ประเทศที่แตกต่าง
ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจที่เหล่าบรรดาสาวกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มักจะหยิบยกขึ้นมายามที่มีบทสนทนาในเรื่องว่าใครกันแน่ที่เหนือกว่ากัน
ตลอดชีวิตของ ลิโอเนล เมสซี่ อยู่กับที่ บาร์เซโลน่า อย่างเดียว ซึ่งมาจนถึงวันนี้แล้วก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าตัวจะย้ายทีมด้วยวัย 31 ปีแล้ว คงอยู่กับทีมไปจนกระทั่งแขวนสตั๊ดนั่นแหละ
ต่างจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นับตั้งแต่สร้างชื่อขึ้นมากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมทั้งช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ก่อนย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด โดยตลอด 9 ปีในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ก็ได้แชมป์ลา ลีกา สเปน มาครองสองสมัย
ในปีนี้กับการโยกไปเล่นกับ ยูเวนตุส ในอิตาลี กับคะแนนที่นำโด่งในขณะนี้คงไม่มีปัญหากับการก้าวไปคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อามาครองได้
ถ้า เมสซี่ ต้องการจะทำสถิตินี้หลังจบฤดูกาลคงต้องย้ายทีมแล้วล่ะ
ได้บัลลง ดอร์ในการลงเล่นกับสโมสรที่ต่างกัน
เป็นที่รู้กันว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ คือสองนักเตะที่ได้รางวัลบัลลง ดอร์ไปครองมากที่สุดคนละ 5 สมัย ในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ กระทั่ง ลูก้า โมดริช สอดเข้ามาในปีล่าสุด
แต่กับ โรนัลโด้ เป็นการได้รางวัลกับสองสโมสร โดยก่อนหน้านี้ในปี 2008 เคยได้รางวัลสมัยค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว ก่อนที่จะมาได้ในการเล่นกับ "ราชันชุดขาว" 4 หนหลังสุด
ซึ่งกับยูไนเต็ดนอกจากบัลลง ดอร์แล้วยังพ่วงด้วยรางวัลฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์, ดาวซัลโวยุโรปรวมถึงรางวัลปุสกัสอวอร์ดด้วย
กับ เรอัล มาดริด สตาร์ฝอยทองคว้าบัลลง ดอร์ 4 สมัย รวมถึงฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์, ดาวซัลโวยุโรปอีก 3 สมัยด้วย
ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ ก็อย่างที่รู้กันเล่นกับสโมสรเดียวก็คือ บาร์เซโลน่า และคงเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะย้ายไปเล่นทีมอื่นและกวาดรางวัลเหมือนกับการค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู เมื่อมองถึงเรื่องอายุหรือความเป็นไปได้ในการย้ายทีม
แบบนี้แล้วก็คงต้องบอกว่าสถิติต่างๆที่กล่าวมานั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะทำลายได้นั่นแหละ