:::     :::

คุยกับ บดินทร์ ผาลา : ปีกพ่อมดเจ้าของฉายา "โดมมาเรีย"

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
8,450
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากจะกล่าวถึงนักเตะไทยในไทยลีกที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ เชื่อเหลือเกินว่าหนึ่งในนั้นต้องมี บดินทร์ ผาลา ปีกซ้ายจอมเทคนิคของ "สิงห์เจ้าท่า" อยู่ด้วยแน่นอน จากผลงานอันเอกอุทั้งลีลา จับบอล, จ่ายบอล, กระชากลากเลื้อย, สร้างสรรค์เกม และยิงประตูสวยๆ ช่วยพาต้นสังกัดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ จนหลายคนเอาใจช่วยให้เขากลับไปมีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งในศึกคิงส์คัพ เรื่องราวของนักเตะเจ้าของฉายา "โดมมาเรีย" มีอะไรน่าสนใจเยอะมาก ติดตามจากบทความสัมภาษณ์นี้กันได้เลย

แมน : สวัสดีครับโดม ช่วงนี้ผลงานกำลังเข้าฝักเลยนะครับ

บดินทร์ : ครับพี่ ก็คงเป็นเพราะเราได้ลงสนามต่อเนื่องด้วยครับ ทำให้มีความมั่นใจ จังหวะการเล่นมันก็เริ่มลงตัว บางทีเวลาไม่ค่อยได้ลงสนาม พอลงไปเล่นมันก็จับจังหวะไม่ค่อยได้ ยิ่งพอลงเป็นตัวสำรอง การปรับตัวเข้ากับบรรยากาศในเกมก็อาจจะไม่ทันคนอื่นๆ ที่เขาเล่นกันอยู่ก่อนแล้ว ก็เป็นกันแทบทุกคนแหละครับพี่

แมน : พี่เห็นคลิปจังหวะเฟิร์สทัช, จับบอล, จ่ายบอล, เลี้ยงบอล และยิงประตูของ โดม พี่ดูแล้วยังทึ่งเลยนะ ทราบมาว่า โดม เล่นฟุตซอลมาก่อน พื้นฐานตรงนั้นมันช่วยทำให้เบสิกในการเล่นสนามใหญ่ของเราดีแบบนี้มั้ย

บดินทร์ : ก็มีส่วนนะครับ อย่างตอนนี้ผมก็ยังใช้ฝ่าเท้าเล่นกับบอลอยู่เหมือนตอนฟุตซอล แต่สนามใหญ่เล่นยากกว่าเยอะครับพี่ เพราะรายละเอียดแท็กติกแตกต่างกันมาก ฟุตซอลอาจจะมีการซ้อมแท็กติกเล่นเป็นกลุ่มแบบ 2 คน, 3 คน, 4 คนอะไรแบบนี้ แต่ฟุตบอลการยืนตำแหน่งการวิ่ง การเล่นเป็นทีมเวิร์ค มันมากไปกว่าความสามารถเฉพาะตัว รายละเอียดมันเยอะจริงๆ  


แมน : พื้นฐานฟุตบอลที่พี่ถามไปเมื่อกี๊ ถือเป็นเบสิกที่นักเตะไทยยังขาดกันอยู่เยอะเลยนะครับ แล้วโดมมีเคล็ดลับยังไงหรือเปล่าถึงทำได้ขนาดนี้

บดินทร์ : ผมก็อาศัยดูคลิปจากนักเตะหลายๆ คนแล้วลองเอามาปรับใช้ดูครับ ที่สำคัญคือซ้อมแล้วต้องเอาไปใช้ด้วย เพราะต่อให้ซ้อมดียังไง ถ้าไม่ได้เอาไปใช้ในสนามแข่งจริงก็ไม่มีประโยชน์ครับ เหตุผลสำคัญที่สุดผมมองว่าคงเพราะได้ลงสนามบ่อยๆ เราก็กล้าเล่น กล้าเอาเทคนิคต่างๆ ที่ฝึกมาใช้ครับ พอได้ลงเล่นจังหวะต่างๆ รวมถึงความฟิตมันก็ดีขึ้นด้วย

แมน : เรามีนักเตะคนไหนเป็นไอดอลมั้ยครับ

บดินทร์ : ผมดูหลายคนนะครับ อย่างที่ชอบเลยก็คือ เนย์มาร์ 

แมน : ไม่ได้เอาลีลาการล้มมาใช้ด้วยใช่มั้ย 555 เนย์มาร์นี่บางทีเขาชอบเลี้ยงหลอกทำให้กองหลังเสียคนเลยนะ

บดินทร์ : 555 ไม่ครับพี่ ผมก็ดูว่าเขามีเทคนิคเล่นกับบอลยังไงบ้าง ไม่ได้ถึงขนาดต้องให้คู่ต่อสู้เสียหน้าจนโมโหครับ 

แมน : แล้วมีทีมต่างประเทศที่ตามเชียร์อยู่มั้ยครับ

บดินทร์ : ผมเชียร์อาร์เซนอล ครับ แต่ก็ไม่ค่อยได้ตามเท่าไหร่ ที่เชียร์เพราะแต่ก่อนผมชอบ เธียร์รี่ อองรี ครับ

แมน : พูดถึงนักฟุตซอลหลายๆ คนที่เบนเข็มมาเล่นสนามใหญ่ ที่ผ่านมาพี่เห็นมีน้อยคนมากนะที่จะประสบความสำเร็จ มีแต่ที่เตะฟุตบอลแล้วไปเล่นฟุตซอลก็ยังดูเก่งอยู่ อย่างสมัยก่อนมี "น้าเทิด" (เทิดศักดิ์ ใจมั่น) ที่แกเก่งทั้งสองแบบ

บดินทร์ : ใช่ครับ แต่บางคนผมเคยเห็นสมัยเล่นสนามใหญ่แต่ก่อนก็เก่งนะพี่ อย่าง พี่อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ตอนแกเล่นกองหน้าสนามใหญ่ก็ดูโอเคเลย 

แมน : คนที่เบสิกดีๆ ในเชิงฟุตบอล พอไปเตะฟุตซอลก็ยังดูเก่งนะ เคยเห็นอย่าง เจ ชนาธิป ไปเตะฟุตซอลก็ยังเล่นเนียนตาเลย

บดินทร์ : ถ้าเตะกันแบบไม่จริงจังมากก็ได้อยู่พี่ คนที่เบสิกฟุตบอลดีๆ แต่ถ้าไปแข่งจริงๆ ผมว่ายากครับ เพราะฟุตซอลก็มีแท็กติกของมันอยู่ จะเลี้ยงคนเดียวหลบทั้งทีมเข้าไปยิงมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยพี่ พื้นที่มันน้อย เล่นฟุตซอลต้องเก่งด้วยกันทั้งทีมถึงจะเอาชนะได้ครับ


แมน : พี่ไปอ่านประวัติมา โดมเป็นคนอุบลฯใช่มั้ยครับ ตอนเรียนที่รร.เบ็ญจะมะมหาราช ที่อุบลฯ นี่ก็เป็นนักฟุตซอลมาตลอดเลยหรือเปล่า

บดินทร์ : ผมเล่นทั้งสองแบบเลยครับ แต่สนามใหญ่จะเล่นแค่ฟุตบอล 7 คนของรายการแชมป์กีฬา 7 สีของช่อง 7 ให้ทางรร.วัดสุทธิ ตอนเด็กๆ ยังไม่เคยแข่งแบบ 11 คน ส่วนฟุตซอลทางโรงเรียนก็ส่งแข่งตลอดครับ

แมน : แล้วก็ถูกดึงไปเล่นฟุตซอลให้ทีมการท่าเรือ เป็นยังไงมายังไงถึงเบนเข็มเปลี่ยนมาเล่นฟุตบอลครับ

บดินทร์ : ตอนผมเรียนจบ ม.6 ครับ ผมไปเข้าเรียนเอกครูพลศึกษาที่ มศว. ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะเอาดีทางใดทางหนึ่ง ก็ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ รังสิต เอฟซี จนมาได้เซ็นสัญญากับบางกอกกล๊าส เป็นที่แรกในชีวิตเลยครับสำหรับฟุตบอล


แมน : ตอนนี้เรียนที่มศว.จบแล้วหรือยังครับ

บดินทร์ : เรียนได้แค่ไม่ถึงปีเองครับ แล้วจากนั้นผมก็มาเตะฟุตบอลอาชีพเลย มันก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลยครับ

แมน : คือไปเล่นกับ รังสิต เอฟซี ก่อนหรอครับ พี่ดูในวิกิพีเดีย ขึ้นมาว่า โดม เล่นให้ รังสิต 16 นัดยิงได้ 4 ลูกในปี 2014  

บดินทร์ : เปล่านะครับ ผมไปซ้อมที่รังสิตได้ไม่กี่วันเอง พอดีพี่แต๊ก (อรรถพล ปุษปาคม โค้ชบางกอกกล๊าสในขณะนั้น ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เข้ามาดูแล้วแกถูกใจก็ให้เซ็นสัญญากับบางกอกกล๊าสเลย

แมน : ตอนอยู่บางกอกกล๊าสน่าจะเป็นทีมที่ได้เล่นสม่ำเสมอที่สุดเลยมั้ยครับ

บดินทร์ : ใช่ครับตอนนั้นได้ลงเล่นเยอะที่สุดแล้ว 

แมน : ถ้าเทียบกับฟอร์มปัจจุบัน ตอนนี้น่าจะพีคที่สุดเท่าที่เคยเล่นฟุตบอลอาชีพมาเลยหรือยัง

บดินทร์ : ตอนนี้ก็น่าจะดีขึ้นด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นครับ พี่ก็รู้ใช่มั้ยว่าผมเริ่มต้นจากการเป็นตัวสำรอง จริงๆ แล้วตำแหน่งของผมเป็นของพี่ นูรูล แต่แกบาดเจ็บไป การที่เราต้องพิสูจน์ตัวเองเมื่อได้รับโอกาสมันก็ทำให้เรามีความพยายามมากขึ้น 

แมน : จะว่าไปถ้า นูรูล หายเจ็บกลับมาก็มีหนาวเหมือนกันนะเนี่ย

บดินทร์ : ในทีมการท่าเรือตอนนี้มีการแข่งขันกันสูงทุกๆ ตำแหน่งครับ ผมมองว่าทุกคนมีความสามารถกันหมดแหละ อยู่ที่โอกาส และทุกๆ คนก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ตัวเองได้ลงเล่น และเพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะด้วย


แมน : ตอนมาอยู่ท่าเรือ ทำไมถึงเลือกเบอร์ 10 ครับ สโมสรยกให้หรือเราเลือกเอง

บดินทร์ : ผมเลือกเองครับ พอดีเบอร์มันว่างอยู่ 

แมน : คือส่วนใหญ่คนใส่เบอร์นี้จะถูกมองว่าต้องเป็นเพลย์เมกเกอร์ ต้องเป็นตัวเก่งของทีม ความกดดันจากการถูกคาดหวังอาจจะสูงมาก

บดินทร์ : ครับ ตอนแรกที่ผมเลือกเบอร์นี้ คนอื่นๆ ก็ทักเหมือนกันนะว่าเอาจริงหรอ เพราะก่อนหน้านี้เป็นผู้เล่นต่างชาติใส่ตลอด แล้วอยู่ได้แป๊บๆ ก็ไปทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครอยู่ยาวๆ เลย

แมน : ขอถามถึงฉายา "โดมมาเรีย" หน่อย มีที่มาจากอะไร ใครเป็นคนตั้งให้ครับ

บดินทร์ : ไม่แน่ใจเหมือนกันครับพี่ น่าจะตอนที่เล่นอยู่บางกอกกล๊าส แฟนบอลเขาคงเห็นผมเล่นปีกเหมือน อังเคล ดิ มาเรีย แล้วก็ตัวผอมๆ เหมือนกัน ก็เลยตั้งฉายาให้แบบนี้ครับ

แมน : พูดถึงเรื่องผอม ตอนนี้พี่เห็นหลายๆ คนในทีมท่าเรือ ตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ อย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ นุก อาทิตย์ บุตรจินดา น้องตัวเบ้อเริ่มเลย โดมเองมีแผนที่จะเล่นเวทเพิ่มกล้ามเนื้อบ้างมั้ย

บดินทร์ : นุกมันตัวใหญ่มากครับ ผมเองก็พยายามเล่นอยู่นะครับ แต่ยังไม่ค่อยไปไหนเลย ตอนนี้ก็มีเน้นที่กล้ามเนื้อขามากกว่า ผมเองก็รู้นะว่าจุดอ่อนของตัวเองคือรูปร่างบางไปหน่อย ก็จะพยายามนำไปปรับปรุงให้ได้ครับ 

แมน : โดมอยู่กับเอเจนต์เจ้าไหนนะครับ FIA SPORTS MANAGEMENT หรือเปล่า

บดินทร์ : ครับอยู่กับเอเจนต์ที่ชื่อมาร์คครับพี่

แมน : เอเจนต์เคยคุยเรื่องพาไปค้าแข้งต่างประเทศบ้างมั้ย อย่างเช่นที่เจลีกเหมือนรุ่นพี่ๆ ที่เขาไปเล่นกัน

บดินทร์ : ยังไม่เคยเลยครับ จริงๆ ผมเองก็อยากลองไปเหมือนกันเพราะได้ดูถ่ายทอดสดเจลีกอยู่ แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่กับต้นสังกัดให้ดีให้สม่ำเสมอก่อนดีกว่าครับ ผมเองก็ยังมีสัญญากับทีมอยู่ด้วย

แมน : โดมเพิ่งไปบวชมาหรือเปล่า เห็นเหมือนเพิ่งโกนผมโกนคิ้ว

บดินทร์ : เปล่าครับพี่ ผมอยากลองเปลี่ยนลุคตัวเองบ้างเฉยๆ ครับ แต่ก่อนเคยปล่อยผมยาวแล้วมันฟูๆ ก็เลยลองตัดแบบนี้ดูครับ ตอนนี้ผมก็ยาวขึ้นแล้วนะพี่


แมน : ถามถึงเรื่องทีมชาติบ้างดีกว่า พี่โต่ยพี่โชคได้มาคุยกับ โดม บ้างมั้ยครับ 

บดินทร์ : ถ้ากับผมยังไม่ได้คุยเลยนะครับ 

แมน : เหมือนกับว่าทีมชาติหลายปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้เล่นสไตล์ปีกเท่าไหร่ คนที่เด่นๆ ในตำแหน่งปีกก็ไม่ค่อยติดทีมชาติเลย

บดินทร์ : ใช่ครับส่วนใหญ่ก็จะใช้วิงแบ็คมากกว่า แล้วก็ไปเน้นตรงกลางให้แน่น

แมน : โดมทราบใช่มั้ยครับ ช่วงที่ มิโลวาน ราเยวัช คุมทีม มีแฟนบอลวิจารณ์โดมค่อนข้างเยอะ ว่าเป็นลูกรักอะไรแบบนี้ เพราะมักจะส่งโดมลงตัวสำรองแทบทุกเกม แทบจะเดาได้เลยว่าเดี๋ยวผ่านหนึ่งชั่วโมงไปจะต้องส่ง บดินทร์, ปีโป้ (สิโรจน์ ฉัตรทอง) หรืออีกคนก็อาจจะเป็น นูรูล ลงมา โดมคิดยังไงบ้าง


บดินทร์ : ทราบอยู่ครับ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ผมคิดแค่ว่าถ้าโค้ชให้โอกาสลงสนามก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดครับ

แมน : เคยเล่นคิงส์คัพมากี่สมัยแล้วนะครับ

บดินทร์ : ครั้งแรก 2016 ติดทีมแต่ไม่ได้ลงเล่นเลยครับ แล้วก็ 2017 ได้เล่นนิดหน่อยตอนนั้นทีมได้แชมป์ แต่พอมาอีกปีได้ลงเล่น ทีมไม่ได้แชมป์ครับ (หัวเราะ)

แมน : คิดว่าถ้ามีโอกาสได้เล่นคิงส์คัพหนนี้อีกครั้ง ผลงานของเราในทีมชาติน่าจะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมามั้ย เพราะตอนนี้ฟอร์มกำลังไปได้สวยในสโมสร

บดินทร์ : ก็หวังว่าจะได้รับโอกาสครับพี่ แต่กับทีมชาติก็พูดยากเหมือนกัน บางมีมันก็ไม่เหมือนในสโมสร เพราะในสโมสรเราซ้อมด้วยกันทุกวัน ความเข้าใจเลยมีสูง แต่กับทีมชาติหลายๆ คนเล่นด้วยกันมานาน คนใหม่ๆ บางคนยังไม่ค่อยได้ลงเล่น พอได้ลงก็อาจจะยังต้องปรับตัวและเรียนรู้กันไปครับ

แมน : พี่เด็จ (จเด็จ มีลาภ) ชมโดมให้พี่ฟังเยอะมาก ว่าไม่ใช่เลี้ยงไปข้างหน้าอย่างเดียว เป็นคนที่รู้จักไทมิ่งในการเล่น ว่าจะเลือกชอยส์แบบไหนในแต่ละจังหวะ ทำให้ตัววิงแบ็คอย่าง เควิน ดีรมรัมย์ ขึ้นมาเติมเกมรุกได้เห็นผลมากขึ้น

บดินทร์ : อ๋อครับ คือเวลาที่ผมได้บอล เควินเขาก็จะวิ่งโอเวอร์แล็ปขึ้นมาด้านข้าง ทำให้ผมมีทางเลือกที่จะเล่นเพิ่มครับ ว่าจะจ่ายทะลุให้ หรือจะผ่านเข้ากลางก็ได้เพราะข้างในเราก็มีผู้เล่นเก่งๆ หลายคน หรือจะเลี้ยงขึ้นไปเองก็ได้ เพราะตัวประกบจะไปพะวงกับเควินแล้ว ผมมองว่าเป็นเพราะความเข้าใจเกมของพวกเราด้วยครับ ทำให้ผมสามารถมีทางเลือกในการเล่นได้มากขึ้น


แมน : วัชระ บัวทอง เล่าให้พี่ฟังว่า ปีนี้ ท่าเรือ ซ้อมดีมาก ดีกว่าฤดูกาลที่แล้วซะอีก

บดินทร์ : จริงอย่างที่พี่วัชรบอกครับ ผมว่าเพราะเรามีการเปลี่ยนแปลงทีมน้อย เปลี่ยนแค่ โก ซึลกี และพี่ตั๊ก (สุมัญญา ปุริสาย) เข้ามา ตัวต่างชาติก็ชุดเดิมหมด แล้วทีมของเรามีข้อดีอีกอย่างคือทุกคนสามัคคีกันมาก เล่นเพื่อทีม นักเตะต่างชาติก็ไม่มีใครเล่นเพื่อตัวเอง ไม่มีอีโก้ใส่กัน เวลาอยู่นอกสนามเราก็อยู่ด้วยกันคุยด้วยกันหมด ไม่ได้แบ่งเป็นกลุ่มเป็นก๊ก แยกรุ่นพี่รุ่นน้องหรือตัวต่างชาติ ทำให้สปิริตในทีมตอนนี้ดีมากครับ เวลาซ้อม ตัวสำรองก็พยายามพิสูจน์ตัวเองเต็มที่ ผมว่าตอนนี้ทุกๆ ตำแหน่งของเรามีตัวทดแทนกันได้หมดครับ 

แมน : แบบนี้ท่าเรือน่าจะพร้อมสำหรับการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้หรือยัง 

บดินทร์ : หวังอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะทีมอื่นก็มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ แต่เราต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ที่สำคัญคือเราต้องเอาชนะทีมใหญ่ๆ อย่าง เมืองทอง, บุรีรัมย์, แบงค็อก พวกนี้ให้ได้ แล้วผมเชื่อว่าความมั่นใจเราจะมา จนสามารถลุ้นได้ยาวๆ ครับ

แมน : โอเคครับโดม ไว้โอกาสหน้าเราคุยกันใหม่นะครับ วันนี้ขอบคุณมากเลย

บดินทร์ : ขอบคุณมากครับพี่


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด