'โกลเด้น บอย'เป็นรางวัลจากนักข่าวกีฬาที่มอบให้กับผู้เล่นดาวรุ่งที่ทำผลงานโดดเด่นในยุโรปในรอบปีปฏิทินโดยนักเตะที่ได้รับการเสนอชื่อต้องมีอายุต่ำกว่า 21 ปีและเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศ โดยเริ่มต้นมอบรางวัลนี้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งนำเสนอ 8 คนแรกที่คว้ารางวัลนี้ในตอนแรก ก่อนมารวบยอดอีก 8 คนที่เหลือในตอนนี้

2011 : มาริโอ เกิตเซ่ (ดอร์ทมุนด์) 

ตอนที่ เกิตเซ่ คว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'ในปี 2011 เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกากับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะสอยแชมป์ลีกเมืองเบียร์อีกสมัยในปีต่อมา ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนปัจจุบันของลิเวอร์พูล

เกิตเซ่ เป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์สูงสุดอันดับ 2 ของบุนเดสลีกาซีซั่น 2010-2011 ซึ่งมีส่วนช่วยทีมเสือเหลืองโค่นบัลลังก์ของทีมเสือใต้สำเร็จ เขาเริ่มต้นซีซั่นต่อมาด้วยฟอร์มคล้ายกัน ดอร์ทมุนด์ พ่ายแพ้ 3 เกมจากการลงเล่น 16 เกมแรก แต่ 2 ใน 3 เกมที่ปราชัยไม่มี เกิตเซ่ ซึ่งติดโทษพักแข้ง 

การคว้ารางวัลในช่วงเดือนธันวาคมของ เกิตเซ่ สมเหตุสมผล แม้จะมีอาการบาดเจ็บสะโพกเล่นงานหลังจากนั้น แต่เขากลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วง 3 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนจะนำทีมเสือเหลืองคว้าแชมป์ลีกเยอรมันสองปีติดต่อกันสำเร็จ 

2012 : อีสโก้ อาลาร์กอน (มาลาก้า)

บาเลนเซีย เป็นสโมสรที่ผลิตนักเตะและขายผู้เล่นดีๆออกไปหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายครั้งที่พวกเขาตัดสินใจผิดพลาดและหนึ่งในนั้นคือการปล่อย อีสโก้ อาลาร์กอน ออกจากทีมในปี 2011 ด้วยค่าตัวเพียง 6 ล้านยูโรหลัง มาลาก้า จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าฉีกสัญญานักเตะ 

มาลาก้า กลายเป็นทีมที่มีความสุขจากการมีนักเตะอย่าง อีสโก้ อยู่ในสังกัด ซึ่งกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทีมดังแคว้นอันดาลูเซียคว้าอันดับ 5 ของลีกาคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของสโมสร ก่อนจะคว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'จากการเอาชนะทั้ง สเตฟาน เอล ชาราวี กับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ 

ซีซั่นต่อมา อีสโก้ ช่วยมาลาก้าของ มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี ไปได้สวยบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนเตะ ปอร์โต้ ตกรอบ 16 ทีม แต่ไปไม่ถึงรอบตัดเชือกหลังการปราชัยต่อ ดอร์ทมุนด์ จากการเสียสองประตูในช่วงท้ายเกม 

มาลาก้า จบอันดับ 6 ในซีซั่นดังกล่าว แต่ อีสโก้ ยังไปได้สวยกับทีมชาติสเปนชุดยู-21 ที่ผงาดคว้าแชมป์ยุโรป ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด หลังทีมชุดขาวจ่ายค่าฉีกสัญญา 35 ล้านยูโรและประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมจากการคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, ลา ลีกา 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 ครั้ง, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 3 ครั้ง และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง 

2013 : ปอล ป็อกบา (ยูเวนตุส)

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่สามารถสนองความต้องการของ ปอล ป็อกบา ในช่วงแรกของการค้าแข้งกับแมนฯยูไนเต็ด ก่อนนักข่าวกีฬาทั่วยุโรปจะเลือกมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ชนะรางวัล'โกลเด้น บอย'ในปี 2013 หลังการอำลาถิ่น'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'เพียงปีเดียว 

ป็อกบา กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของ ยูเวนตุส หลังการกลับมาจากช่วงพักเบรคหนีหนาว 2 สัปดาห์ในซีซั่น 2012-2013 เขาสร้างความประทับใจจากการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งของนักกีฬาและเทคนิค ป็อกบา สตาร์ท 13 จาก 17 เกมในทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ปิดท้ายด้วยการยิง 5 ประตูก่อนนำทีมม้าลายคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ 

มิดฟิลด์วัย 20 ปียังเป็นขุมกำลังหลักของทีมม้าลายในซีซั่น 2013-2014 โดยทำผลงานยอดเยี่ยมร่วมกับ อันเดรีย ปีร์โล่ และ อาร์ตูโร่ วีดาล ซึ่งมีส่วนช่วย ป็อกบา คว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'ปีนั้นหลังเอาชนะทั้ง โรเมลู ลูกากู, ราฟาแอล วาราน และ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ 

ป็อกบา ใช้เวลาในตูรินอีก 2 ฤดูกาล ซึ่งทีมม้าลายคว้าแชมป์ เซเรีย อา ทั้งสองซีซั่น เขายังพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องและเป็นหนึ่งในผู้เล่นดีที่สุดของยูเวนตุส ก่อนจะตัดสินใจย้ายกลับ'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หลังทีมปีศาจแดงจ่ายเงิน 89 ล้านปอนด์เพื่อดึงป็อกบาคืนรังกลับไปพิสูจน์ตัวเองกับยูไนเต็ดอีกครั้ง

2014 : ราฮีม สเตอร์ลิง (ลิเวอร์พูล)

มันเป็นการยิงประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ผลักดันลิเวอร์พูลลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่น 2013-2014 แต่ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นอีกหนึ่งสมาชิกคนใหม่ในชุดที่น่าตื่นเต้นในยุค เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังเริ่มต้นปี 2014 ด้วยการยิงสองประตูที่ยอดเยี่ยมกับหนึ่งแอสซิสต์ในเกมชนะ นอริช 3-2 

สเตอร์ลิง ยังเปิดหัวซีซั่นใหม่ด้วยการยิงประตูให้หงส์แดงเฉือนชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ช่วงเดือนสิงหาคมและยังกระทุ้งเปิดหัวในเกมบุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0 ตบท้ายด้วยการซีดประตูให้ ลิเวอร์พูล บุกชนะ บอร์นมัธ 3-1 ในลีก คัพ รอบควอเตอร์ไฟนัล ก่อนคว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'ในปีดังกล่าว หลังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรก่อนหน้านั้น

เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ อำลา'แอนฟิลด์'ย้ายไปค้าแข้งกับบาร์เซโลน่าในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น ขณะที่ สเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บออดๆแอดๆทำให้ สเตอร์ลิง ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในแนวรุกของลิเวอร์พูลจนคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งที่ทำผลงานโดดเด่นสุดบนเวทีลีกา 

'มันเป็นการทำงานหนัก ผมมีความสุขมากที่ผู้คนตระหนักว่าผมพยายามทำงานหนักและทำให้ดีที่สุดสำหรับสโมสรฟุตบอลนี้ ผมขอบคุณจริงๆสำหรับรางวัลนี้' สเตอร์ลิง เปิดเผย 

สเตอร์ลิง ย้ายไปค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยค่าตัว 44 ล้านปอนด์บวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 5 ล้านปอนด์ แต่ทำผลงานในช่วงแรกๆน่าผิดหวัง แต่สร้างความโดดเด่นตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ยิงรวมกัน 48 ประตูจากการลงเล่นทุกราการ 97 นัด นำทีมเรือใบคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ ลีก คัพ 2 ครั้ง 

2015 : อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนฯยูไนเต็ด)

มาร์กซิยาล เพิ่งลงเล่นลีก เอิงเพียง 14 นัดก่อนปี 2015 ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งกลายเป็นนักเตะวัยรุ่นค่าตัวแพงสุดของวงการลูกหนัง แต่กองหน้าชาวฝรั่งเศสทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดช่วง 12 เดือน หลังยิง 11 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นหลังกับ โมนาโก ซึ่งมีส่วนทำให้เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศสครั้งแรกในช่วงเดือนสิงหาคม 

ไม่กี่วันต่อมา แมนฯยูไนเต็ด จ่ายเงิน 36 ล้านปอนด์และมูลค่านักเตะอาจพุ่งสูงถึง 58 ล้านปอนด์เพื่อดึงมาร์กซิยาลมาสู้ถิ่น'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'กลายเป็นนักเตะวัยรุ่นค่าตัวแพงสุดแซงหน้า ลุค ชอว์ ที่ย้ายจากเซาธ์แฮมป์ตันมาค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงด้วยมูลค่า 27 ล้านปอนด์หนึ่งปีก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นการซื้อนักเตะวัยเพียง 19 ปีที่สร้างความประหลาดใจของยูไนเต็ดเนื่องจากแทบจะไม่มีใครรู้จักผู้เล่นคนนี้มาก่อน

มาร์กซิยาล สร้างชื่อตั้งแต่เกมประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองลงเล่นแทน ฆวน มาต้า ช่วงนาที 65 ก่อนลากโซโล่เดี่ยวเข้าไปยิงประตูให้ แมนฯยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 จน หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมปีศาจแดงในขณะนั้นเอ่ยปากชมว่า'ประตูมหัศจรรย์' และผลงานดังกล่าวทำให้สาวกผีแดงเริ่มสนใจเด็กหนุ่มคนนี้มากขึ้น

กองหน้าวัย 19 ปียิงประตู เซาธ์แฮมป์ตัน ในอีก 8 วันต่อมา เขากลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงปลายปี 2015 และไม่น่าแปลกใจที่นักข่าวกีฬาทั่วยุโรปจะเลือกเด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ชนะรางวัล'โกลเด้น บอย' 

2016 : เรนาโต้ ซานเชส (เบนฟิก้า) 

ซานเชส ย้ายจาก เบนฟิก้า ไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หลังเสร็จภารกิจจากศึกยูโร 2016 ที่โปรตุเกสคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรก หลังก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งแข้งดาวโรจน์ของวงการลูกหนังยุโรปทั้งที่เล่นกับทีมเหยี่ยวลิสบอนเพียงซีซั่นเดียว ทว่าทีมเสือใต้ยังกล้าทุ่มเงิน 35 ล้านยูโรเพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะ

เขาย้ายมาพร้อมชื่อเสียงและความคาดหวังค่อนข้างสูง แต่ไม่มีอะไรน่าจดจำในการค้าแข้งกับทีมดังแคว้นบาวาเรียในซีซั่นแรก โดยลงเล่นบุนเดสลีกาเพียง 17 เกมและรายการอื่นอีก 8 นัด อีกทั้งส่วนใหญ่ยังลงเล่นในฐานะตัวสำรองด้วย ก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ สวอนซี ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นถัดมา แต่ก็ได้ลงสนามเพียง 15 นัดเนื่องจากบาดเจ็บ 

เรนาโต้ คว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'ปีดังกล่าวมาจากการทำผลงานในช่วงครึ่งซีซั่นแรกอย่างโดดเด่นกับเบนฟิก้า โดยช่วยทีมเหยี่ยวลิสบอนผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนพ่ายทีมเสือใต้ไปอย่างน่าเสียดาย 

เขาเป็นนักเตะที่มีทั้งเทคนิคและความแข็งแกร่ง กล้าเล่นกล้ายิงประตูและเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์สไตล์'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์'ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เพียงแต่เขาล้มเหลวในการค้าแข้งกับทีมเสือใต้เท่านั้น 

2017 : คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ (โมนาโก) 

เอ็มบั๊ปเป้ เป็นกองหน้าวัยรุ่นที่ทำผลงานร้อนแรงในช่วงซีซั่น 2016-2017 ก่อนจะกลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังหลังย้ายไปค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 180 ล้านยูโร แต่ย้ายมาเล่นในซีซั่นแรกด้วยสัญญายืมตัวตามข้อตกลงระหว่างสองสโมสร หลังช่วย โมนาโก คว้าแชมป์ลีกเอิงและยังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 

อายุเพียง 18 ปี แต่ เอ็มบั๊ปเป้ แสดงให้เห็นว่าเขาเก่งเกินวัยด้วยการทำ 26 ประตูจากการลงเล่น 44 เกม ซึ่งรวมถึงนัดสำคัญกับ แมนฯซิตี้ และ ดอร์ทมุนด์ บนเวทียุโรป ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งเปิดตัวกับทีมชาติฝรั่งเศสครั้งแรกในช่วงเดือนมีนาคมและเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นกับทัพ'เลอ เบลอส์'

ที่ ปารีส เขายังโชว์ผลงานโดดเด่นในการเล่นร่วมกับ เนย์มาร์ และ เอดินสัน กาวานี โดย เอ็มบั๊ปเป้ ยิงประตูตั้งแต่เกมประเดิมสนามกับ เม็ตซ์ ต่อด้วยการกระทุ้ง เซลติก บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ภายในช่วงเดือนธันวาคมเขากลายเป็นักเตะอายุน้อยสุดที่ยิง 10 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการและรับรางวัล'โกลเด้น บอย'แบบไม่มีข้อโต้แย้ง 

2018 : มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม)

ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 17 ปี ก่อนกลายเป็นขุมกำลังหลักและกัปตันทีมอาแจ็กซ์ขณะที่อายุยังน้อย ก่อนลงประเดิมสนามกับทีมชาติฮอลแลนด์ด้วยอายุเท่ากันและหลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นกับทีมดัตช์ตั้งแต่ปี 1931

หลัง อาแจ็กซ์ ขาย ดาวินซอน ซานเชซ ให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 เดอ ลิกท์ จึงกลายเป็นตัวจริงของทีมทันที เขาลงเล่นในซีซั่นแรกรวมกัน 37 เกมและทำ 3 ประตู โดยออกสตาร์ทในพรีเมียร์ดัตช์ทั้ง 31 เกมและเล่นเกือบครบทุกนัดยกเว้นเพียงเกมกับ วิเทสส์ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงนาที 33 เนื่องจากบาดเจ็บ

เดอ ลิกท์ ยังทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งซีซั่นแรกของฤดูกาลนี้จนคว้ารางวัล'โกลเด้น บอย'มาได้แบบไร้คู่แข่ง ก่อนนำ อาแจ็กซ์ ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์และดัตช์คัพ รวมถึงการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย