ภาพจำ “ฉลามชล” ที่กลายเป็นลายเซ็นของคอบอลไปคือ การพิสมัยในแข้งดาวรุ่งจากโรงเรียนฉลาม บ่มเพาะประสบการณ์จนได้ที่ ก่อนดันขึ้นมา โดยมีผู้เล่นต่างชาติเป็นแกนหลักประคองทีม

หากแต่การกระโดดออกจากจอทีวี มารับงานคุมทีมอีกครั้งของ “โค้ชเตี้ย” นั้นเปลี่ยน ชลบุรี ไปอย่างสิ้นเชิง

“ฉลามดาวรุ่ง” ที่ไม่เจ๋งจริง โดนจับยัดเข้าตู้ และถูกแทนโดย “ฉลามแก่” หนังเหนียวมากประสบการณ์

แม้แข้งเหล่านี้หลายคนไม่ใช่ “แกนหลัก” หรือมีสถานะเป็นเพียง “อะไหล่” จากทีมเก่า แต่เมื่อมาอยู่ในมือ สะสม ที่มีตำราคู่มือใช้งานนักเตะเหล่านี้ กลับกลายเป็นเหมือน ชลบุรี ได้ “ของมือสอง” คุณภาพดีมาใช้งาน

ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้กลับกลายมาเป็นกำลังหลัก และช่วยประคองดาวรุ่งของทีมได้มากทีเดียว

 

จูเนียร์ โลเปส

แนวรับ ชลบุรี กลายเป็นหนึ่งในทีมที่เสียประตูมากสุด ทำให้การเข้ามาของ “โค้ชเตี้ย” สิ่งแรกคือหาเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ ที่สูงโย่ง ชนกับกองหน้าคู่ต่อสู้ และเก็บบอลกลางอากาศได้ดี ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะจับ กฤษดา กาแมน ดาวรุ่งทที่มีส่วนสูงเพียง 176 เซนติเมตร และยืนเป็นตัวหลักในเลกแรกไปปัดกวาดในแผงมิดฟิลด์แทน

พร้อมแทนที่ด้วย จูเนียร์ โลเปส บราซิเลียนวัย 31 ที่โปรไฟล์ไม่ได้ดีเด่ แถมยังเป็นเพียงตัวสำรองส่วนใหญ่ในทีมเก่า หากแต่สิ่งที่หมอนี่มีกลับตรงตามคู่มือที่ สะสม พบประเสริฐ ต้องการ จนกลายเป็นตัวเลือกแรกสำหรับปราการหลังตัวกลางในทีมไป และ โลเปส ทำได้ดีระดับหนึ่ง

 

วิทยา หมัดหลำ

มิดฟิลด์พันธุ์ดุ อดีตลูกน้องเก่า “โค้ชเตี้ย” ถูกอุ้มจากม้านั่งสำรองคลอง 3 สู่หาดบางแสน และกลายมาเป็นกำลังหลักให้ ชลบุรี ในเลกที่สองทันที

สิ่งที่ “ยา “ มีคือความเก๋า และลูกบู๊ดุดัน นั่นคือดีเอ็นเอที่ขาดหายไปของฉลามชล เรียกว่าเป็นตัวตัดเกมชั้นดีผู้เป็นของแสลงของแนวรุกฝ่ายตรงข้ามเลยก็ว่าได้

แม้วัยจะปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนสภาพร่างกายเจ้าตัวยังคงฟิตปั๋ง และดุดันอยู่ไม่เปลี่ยน การมีหมอนี่อยู่ในแผงกองกลาง ถือว่าช่วยปัดกวาดหน้าแนวรับหลังบ้านได้ดีเลยทีเดียว

 

มงคล นามนวด

เป็นอดีตลูกหม้อ สะสม สมัย การท่าเรือ เอฟซี ที่ถูกดึงเข้ามา หลังแบ็กซ้ายในทีมเหลือเพียง ณัฐพงศ์ เปพาทย์ คนเดียวให้ใช้งาน และการมาของปราการหลังวัย 33 ปี รายนี้สามารช่วยทีมฝั่งกาบซ้ายได้ทันที

มงคล อาจไม่ใช่แข้งหลักของทีมที่เจ้าตัวเคยผ่านการค้าแข้งมา ในขณะที่สโมสรล่าสุดที่เจ้าตัวลงเล่นอย่าง หนองบัว พิชญ ก็มีสถานะอยู่เพียงไทยลีก 2 แต่ประสบการณ์ของเจ้าตัวสามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างดี เมื่อมาเทรวมกับแท็คติกของ “มูรินโญเมืองไทย” ทำให้ ชลบุรี ไม่ต่างจากได้ของใหม่ที่ไม่ต้องเจียดเงินจนกระเป๋าฉีกเข้าสู่ทีมเลย

 

ธีรเทพ วิโนทัย

ถือเป็นดีลที่เซอร์ไพรส์ระดับหนึ่งในตลาดเลกสองเลยทีเดียว แม้อายุอานาม “ลีซอ” จะปาเข้าไปถึง 34 ปี แต่สภาพความฟิต ความเป็นมืออาชีพ ความมุ่งมั่น การตื่นตัว ทัศนคติ เขามีไม่แพ้แข้งวัยขบเผาะ (เผลอๆอาจมีมากกว่าด้วยซ้ำ) กล่าวคือนักเตะอย่าง ธีรเทพ คือตัวอย่างที่กุนซือเกือบทุกคนต้องการมีไว้ในครอบครอง

การมาของ ลีซอ ถือว่าเข้ามาช่วยเติมเต็ม และยกระดับเกมริมเส้นให้ดูน่ากลัวมากกว่าเดิมได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกประสบการณ์ ที่พร้อมบู๊กับหน้าไหนก็ได้อย่างไม่กลัว การจบสกอร์ที่ยังไว้ใจได้ระดับหนึ่งในจังหวะทีเด็ดทีขาด  อีกทั้งยังสามารถเป็นแบบอย่างในสนามให้บรรดา “ดาวรุ่ง” ได้อีก ที่สำคัญเขาสามารถตอบโจทย์แท็คติกของ “โค้ชเตี้ย” ได้อย่างจัง