:::     :::

การเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ!

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
6,373
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บิ๊กแมชท์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาเหมือนเป็นการชี้วัดแบบกลายๆ นะครับว่าระหว่างทีมที่ฟอร์มแรงต่อเนื่องและมาตรฐานสูงมาตั้งแต่ปีก่อน กับทีมที่ฟอร์มพุ่งทะยานในปีนี้ที่สุด และกำลังมั่นใจสุดๆ อย่างอาร์เซน่อลนั้นสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในเกมชิงจ่าฝูงนัดนี้

            แม้สุดท้ายชัยชนะจะตกเป็นของฝั่งเจ้าบ้านอย่างหงส์แดงลิเวอร์พูล แต่ในรายละเอียดของเกมนั้นมีหลายๆ ครั้งมากๆ ที่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ แต่แล้วสุดท้ายความไม่ละเอียดและอ่อนประสบการณ์ของผู้เล่นอาร์เซน่อลนี่แหละครับ ที่ทำให้พวกเขาต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในเกมนี้แบบยับเยินเสียด้วย รายละเอียดของเกมมีอะไรบ้างลองมาดูกันครับ

ปืนมาแปลก!

            อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลก เคยกล่าวเอาไว้ว่า “มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่ทำอะไรแบบเดิมๆ แล้วคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนเดิม”หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง และแน่นอนว่า อูไร เอเมรี่ก็น่าจะเคยได้ยินเหมือนกัน (ฮา) และด้วยสถิติต่างๆ ที่ผ่านมาในการเจอกับลิเวอร์พูลโดยเฉพาะในการมาเยือนแอนฟิลด์เฉกเช่นในนัดนี้ อาร์เซน่อลแทบจะไม่เคยได้รับผลการแข่งขันที่ดีกลับไปเลย หนำซ้ำอาจจะเรียกได้ว่าพวกเขา “เละ” กลับลอนดอนไปแทบทุกครั้งเลยด้วยในช่วงหลังๆ ทำให้เกมนี้ เอเมรี่ตัดสินใจที่จะละทิ้งความเป็นอาร์เซน่อลไป และเลือกที่จะเน้นรับไว้ก่อน และรอโอกาสสวนกลับไว้ก่อนดีกว่า ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกมนี้เป็นภาพที่แปลกไปจากภาพที่เราคิดและคุ้นตากันเหมือนกัน เพราะการวางแผนของอาร์เซน่อลแบบนี้ ทำให้เราเห็นว่าลิเวอร์พูลนั้นมีพื้นที่ในการเล่นเยอะมากจริงๆ เราเห็นเทรนท์ อาโนลด์และโรเบิร์ตสัน เติมเกมริมเส้นกันอย่างเต็มที่และมีการวางบอลข้ามฝั่งให้อีกฝั่งที่ว่างอยู่บ่อยมากๆ แต่ถึงจะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ แต่จริงๆ ต้องกล่าวว่านี่เป็นการเลือกที่เข้าท่าเหมือนกันนะครับ จากการที่ลิเวอร์พูลเองก็ค่อนข้างอึดอัดและมีปัญหาในการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว และทางฝั่งทีมเยือนเองก็มีโอกาสโต้กลับสวยๆ อยู่หลายครั้งเลย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลับตาลปัดไปหมดเมื่อทีมนึงคว้าโอกาสที่มีไว้ไม่ได้ แต่อีกทีมนึงเลือดเย็นและคว้าโอกาสที่มีได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ




จุดเปลี่ยนของเกม    
      
            อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าอาร์เซน่อลนั้นวางแผนได้เข้าท่าพอดูทีเดียว เพราะสามารถทำเกมสวนกลับได้สวยๆ หลายครั้งเลย และน่าจะได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของทางผู้เล่นของเจ้าบ้านถึงสองครั้งสองครา แต่ก็ฉวยโอกาสไว้ไม่ได้ ครั้งแรกเกิดจากการความผิดพลาดของอาเดรียนที่ดูจะยังกล้าๆ กลัวๆ ในการใช้เท้าอยู่จังหวะที่เขาออกมาสกัดบอลไม่เด็ดขาดเท่าที่ควรทำให้บอลที่ถูกเคลียร์ออกมาแบบไม่เต็มเท้านัก ไปข้างทางโอบาเมย็อง ยังดีที่จังหวะมันค่อนข้างเร่ง ทำให้เจ้าตัวไม่มีเวลาที่จะบรรจงเท่าไรนัก ทำให้ตักลูกเข้าไปไม่ตรงกรอบประตู อีกครั้งหนึ่ง คือจังหวะที่เปเป้ชิงบอลได้มาจากเฮนโด้ จนลากเลี้ยงไปหลบโรเบิร์ตสันจนได้ไปยิงเหน่งๆ แต่เจ้าตัวก็ทำได้ไม่ดีพอทำให้ยิงบอลไปตรงตัวของอาเดรียนชวดโอกาสขึ้นนำไปเสียอย่างนั้น และพอลิเวอร์พูลไม่เสียประตูจังหวะแบบนี้ ก็ทำให้พวกเขาค่อนข้างมั่นใจและไม่รีบเร่งเหมือนช่วงต้นแล้ว และสุดท้ายพวกเขาก็ค่อยๆ นวดอาร์เซน่อลไปเรื่อยและค่อยๆ งัดอาวุธที่พวกเขามีอยู่เป็นกระบุง ออกมาโจมตีใส่ทีมปืนใหญ่แบบต่อเนื่อง จนกระทั่งมาได้ผลกับการเล่นลูก “เซ็ท เพลย์” ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธหนักของพวกเขาอีกอย่างหนึ่ง ความเด็ดขาดและความนิ่งของนักเตะทั้งสองทีมที่ต่างกันนี่แหละ ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้อย่างแท้จริง



ไม่ธรรมชาติ   

            ที่ต้องบอกว่า แผนของอาร์เซน่อลนั้นดู “เข้าท่า” แต่ยังไงสุดท้ายแล้วมันก็ต้องดูกันที่ผลลัพพ์อยู่ดีแหละครับ และสุดท้ายการวางแผนแบบนี้ก็ต้องบอกว่ามันทำให้พวกเขาแพ้ภัยตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าใครๆ ก็น่าจะรู้ว่าโดยธรรมชาติของอาร์เซน่อลนั้นไม่ได้เป็นทีมที่เน้นเกมรับแบบนี้อยู่แล้ว และผู้เล่นแต่ละคนที่เอเมรี่เลือกมา ก็ดูจะไม่เหมาะกับการตั้งรับเอาซะเลย และดูเหมือนว่ามันฝืนธรรมาชาติของพวกเขาเอามากๆ จากการที่เห็นความผิดพลาดและอาการกดดันในการตั้งรับอย่างเห็นได้ชัด และที่ต้องเป็นคำถามตัวโตๆ คือ การดึงเอาดาวิด ลุยซ์เข้ามาเสริมทีมนี่แหละ เพราะจริงๆ แล้วใครก็พอจะรู้ว่าอาร์เซน่อลนั้นมีจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับ แต่การเลือกเอาดาวิด ลุยซ์มาเป็นจิ๊กซอว์ในการแก้ปัญหาแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะคนที่ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ว่าลุยซ์นั้นไม่ใช่คนที่โดดเด่นในเกมรับแต่อย่างใด และในเกมนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาเป็นคนก่อความผิดพลาดในการดึงซาล่าห์จนเสียลูกจุดโทษ และในประตูที่ 3 เขาก็เป็นคนปล่อยซาล่าห์ให้หลุดมาเพราะไม่กล้าที่จะขัดขวางการเล่นของซาล่าห์เนื่องจากติดใบเหลืองมาจากจังหวะดังกล่าวนั่นแหละ โดยรวมๆ แล้วต้องบอกว่าถึงแผนของเอเมรี่จะดูเข้าท่า และน่าสนใจแต่ก็ต้องบอกว่าเขาเลือกวิธีที่ผิดจริงๆ ในการวางแผนครั้งนี้



จ่าฝูงเดี่ยว!!


            ลิเวอร์พูลนั้นเป็นทีมเดียวในตอนนี้ที่สามารถเก็บชัยชนะ 100% เต็มตั้งแต่เปิดฤดูกาลมานี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลนั้นแม้จะไม่ได้เสริมทีมเลยแต่พวกเขาก็มีอาวุธที่มาทดแทนเรื่องดังกล่าว คือ ความเข้าขา และความลงตัวของทีมที่มีมากขึ้น เนื่องจากการเล่นด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ฤดูกาลก่อน เราอาจจะไม่ทันสังเกตแต่จริงๆ แล้วจะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลนั้นดู “ลงตัว” มากกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วค่อนข้างเยอะพอสมควร โดยเฉพาะในเกมรุกและแดนกลาง ที่ดูจะประสานงานกันและเล่นกันได้อย่างไหลลื่นเอามากๆ แต่ถึงกระนั้นลิเวอร์พูลก็ยังต้องมีการบ้านที่ต้องเอาไปปรับแก้กันอีกเรื่อง คือเรื่องเกมรับที่เคยเป็นจุดขายของพวกเขานี่แหละครับ จนถึงตอนนี้ถึงแม้ลิเวอร์พูลจะเก็บแต้มได้เต็มแต่พวกเขายังไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นั่นเป็นปัญหาที่พวกเขาต้องเก็บเอาไปแก้ไขและปรับปรุงกันต่อไป เพื่อที่จะกลายเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นๆ ไปอีก    

            หลังจากนี้จะมีการแข่งอีก 1 เกมแล้วก็จะเป็นการเบรคหยุดพักให้ทีมชาติเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ซึ่งแบบนี้ ถือว่าเป็นผลดีกับลิเวอร์พูลพอสมควรเลยครับ เพราะพวกเขาจะได้โอกาสเรียกความฟิตให้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ และปรับจูนอะไรต่างๆ กันให้ลงตัวกว่านี้ และที่สำคัญ เมื่อพวกเขากลับมาพวกเขาอาจจะกลับมาพร้อมกับ อลิสซง เบ็คเกอร์และทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกระดับนึงก็ได้ แต่ตอนนี้เดินยืดไปกับตำแหน่งจ่าฝูงกันไปยาวๆ ได้เลยครับ YNWA ครับทุกคน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด