ฟุตบอลยุโรปกำลังเปิดประตูต้อนรับดาวรุ่งดวงใหม่ เออร์ลิง เบราท์ โฮลันด์ ศูนย์หน้าทีมชาตินอร์เวย์ ที่แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
หากเอ่ยชื่อ โฮลันด์ ตามภาษานอร์เวย์ หลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าเรียก ฮาลันด์ หรือ ฮาแลนด์ คงร้องอ๋อ เพราะเจ้าหมอนี่คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลาง ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยได้รับความสนใจจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่มาแล้ว
จากแฮตทริกในเกมประเดิม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้นสังกัด เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เปิดบ้านถล่ม เกงค์ 6-2 ทำให้ เออร์ลิง กลายเป็นดาวรุ่งคนที่สามที่ทำได้ในเกมยูซีแอล ต่อจาก ยาคูบู อาเย็กเบนี่ ที่เคยทำได้สมัยอยู่กับ มัคคาบี ไฮฟา ปี 2002 ต่อด้วย เวย์น รูนี่ย์ สมัยเปิดซิงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมเจอ เฟเนร์บาห์เช่ ปี 2004
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว มีข่าวว่า เออร์ลิง ได้รับการจับตามองจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล โดยตอนนั้น ปีศาจแดง คุมทัพโดย โชเซ่ มูรินโญ่ ขณะที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคุมทีม โมลด์ ในลีกนอร์เวย์ ซึ่งเป็นเจ้านายของศูนย์หน้าดาวรุ่งที่ตอนนั้นยังอายุไม่ครบ 18 ปีเต็ม
เออร์ลิง ซัลโว 4 ประตูในเกมเยือน บรานน์ ตั้งแต่ 21 นาทีแรก เป็นแฮตทริกที่เกิดขึ้นภายใน 11 นาทีกับ 2 วินาที โดยเกมนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งแมวมองเข้ามาอยู่ในสนาม และภายหลังจบเกม โซลชา เปรียบเทียบดาวรุ่งตีนซ้ายเจ้าของส่วนสูง 194 เซนติเมตรกับ โรเมลู ลูกากู พร้อมยืนยันว่าได้ปฏิเสธข้อเสนอจากหลายสโมสร
หลังจบฤดูกาลที่สองกับ โมลด์ ที่มี 20 ประตูจาก 50 เกม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ดีกรีแชมป์ลีกออสเตรีย ก็ประกาศเซ็นสัญญากับ เออร์ลิง และจะร่วมทัพตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นไป
ชื่อของ เออร์ลิง เบราท์ โฮลันด์ กลายเป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก จากการซัลโว 9 ประตูในเกมเดียว พา นอร์เวย์ ถล่ม ฮอนดูรัส 12-0 ในศึกฟีฟ่า ยู-20 เวิลด์คัพ ที่โปแลนด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม จดบันทึกสถิติใหม่ในรายการนี้
เมื่อบวกกับฟอร์มการถล่มประตูอันร้อนแรงในช่วงต้นซีซั่นกับต้นสังกัด ซัลซ์บวร์ก ทำให้ ลาร์ส ลาเกอร์บัค เทรนเนอร์ทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ เรียกตัวติดทีมทำศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก และประเดิมสนามไปแล้วในเกมเดือนกันยายน
ผลงานของ ซัลซ์บวร์ก ออกสตาร์ตฤดูกาล 2019-20 ด้วยชัยชนะ 7 นัดรวด ยิงแหลกถึง 34 ประตู เฉลี่ย 4.857 ประตูต่อเกม และเป็นของ เออร์ลิง ถึง 11 ประตู นำดาวซัลโวออสเตรียน บุนเดสลีกา แบบทิ้งห่างอย่างไม่ต้องสงสัย
แฮตทริกในเกมประเดิม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ เออร์ลิง คือแฮตทริกที่ 4 ในฤดูกาลนี้แล้ว ยอดรวมพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 17 ประตู จากการลงเล่นเพียง 9 นัดรวมทุกรายการ ค่าเฉลี่ยสูงถึง 1.88 ประตูต่อเกม
แฮตทริกแรกเกิดขึ้นในเกมบอลถ้วย ออสเตรียน คัพ ที่ถล่ม พาร์นดอร์ฟ 7-1 จากนั้นเป็นแฮตทริกแรกใน ออสเตรียน บุนเดสลีกา เกิดขึ้นในเกมชนะ โวล์ฟสแบร์เกอร์ 5-2 และแฮตทริกที่สามในเกมถล่ม ฮาร์ทแบร์ก 7-2 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนแฮตทริกใส่ เกงค์ เพียง 3 วันเท่านั้น
"คุ้มจริงๆ ที่ได้ดูเขาเล่นเมื่อคืนนี้ ยอดเยี่ยมไปเลยที่ได้ดูฟอร์มของเขา ทุกคนในนอร์เวย์ต่างตื่นเต้นกับพัฒนาการของเขาจริงๆ" โซลชา ให้สัมภาษณ์หลังชมเกมที่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ถล่ม เกงค์ 6-2 ด้วยตาตัวเอง
ย้อนกลับไปในปี 2017 เออร์ลิง เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อบ้านเกิด อัฟเทนโพสเทน สมัยค้าแข้งอยู่กับ โมลด์ ว่า "ผมอยากเป็นนักเตะที่ดีที่สุด ความฝันคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ ลีดส์ นอกจากนี้เป้าหมายของผมคือการเป็นนักเตะที่ดีกว่าพ่อ ผมหวังว่าจะลงเล่นให้ทีมชาติมากกว่าที่พ่อเคยทำด้วย"
สาเหตุที่ เออร์ลิง มีความผูกพันกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เพราะเขาลืมตาดูโลกในเมืองลีดส์ เมื่อปี 2000 จึงกลายเป็นแฟนบอล ยูงทอง ตั้งแต่จำความได้ แม้ช่วงเวลานั้น อัลฟ์-อิงเก้ ผู้เป็นพ่อเพิ่งเซ็นสัญญาย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงหนึ่งเดือนเศษๆ
ถึงตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเสียดายมากที่ไม่ยอมเจียดเงินดึงตัวมาปลุกปั้นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งที่มีโอกาสดีสมัย โซลชา ยังคุม โมลด์ อยู่ แถมค่าตัวที่ ซัลซ์บวร์ก ซื้อไปเพียง 4-5 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่ตอนนี้ค่าตัวพุ่งกระฉูดขึ้นไปหลายเท่าแล้ว
ทีมยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีกยังคงมีโอกาสดีที่จะคว้าตัว เออร์ลิง เบราท์ โฮลันด์ เพราะศูนย์หน้าหนุ่มรายนี้มีความผูกพันกับฟุตบอลลีกอังกฤษ และเป้าหมายที่อยู่ในใจคืออยากประสบความสำเร็จในเวทีแห่งนี้มากกว่าผู้เป็นพ่อ
