นี่คือบทวิพากษ์จัดหนักจากทางฝั่งต่างประเทศที่เจาะลึกไปถึงเชิงโครงสร้างการบริหารงาน มองไปถึงปัญหาการจัดการของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขียนโดย Seb Stafford-Bloor นักวิเคราะห์ต่างประเทศจะมองเรื่องนี้เช่นไร ลองไปรับฟังมุมมองเชิงลึกจากพวกเขากันได้

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่ฟอร์มการเล่นของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำให้หลายคนมึนงง ยิ่งทำให้คนดูไม่เข้าใจเพิ่มมากขึ้นไปอีกที่จะรู้ว่า พวกเขามีทรงการเล่นยังไง หรือจะพัฒนาไปต่อแบบไหนในอนาคต

แมนยูไนเต็ดมีปัญหาเกี่ยวกับพวกเรื่องราวนอกสนามเกี่ยวพันและกระทบกับฟอร์มการเล่นในสนาม ซึ่งมันเป็นเหตุเป็นผลต่อกันอยู่บ้างพอสมควร ไม่ใช่เรื่องเหตุบังเอิญแต่อย่างใด / มีความผิดปกติของผู้บริหารที่ดูแลเรื่องอื่นได้อย่างดี ทั้งไม่เกินงบประมาณ หารายได้ ใช้จ่ายไม่เกินจำนวน ในทางตรงข้ามกับสิ่งนั้น การบริหารงานกลับไม่มีการตอบสนองเท่าที่ควรในเรื่องด้านเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม แผนการเล่น หรือรูปแบบเฉพาะตัวของทีม

สิ่งเหล่านี้ที่ว่ามา คือภาพจำของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคปัจจุบันที่แม่นยำและชัดเจนที่สุด ที่แลดูจะยังมีปัญหาภายใน และกำลังป่วยดู ซึ่งดูอาการแล้วก็ยิ่งเลวร้ายลงทุกวันๆ

และตัวการหลักๆของสิ่งเหล่านั้นที่หนักสุดของสโมสร  รองประธานฝ่ายบริหารระดับสูง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ยังคงเป็นสัญลักษณ์ไม่คุ้นเคยของแมนยูในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานับตั้งแต่หมดยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจบลงไป และดูเหมือนว่าจะเป็นปกติที่สาระสำคัญในการทำงานของเขา คือการประชุมรายไตรมาสกับเหล่านักลงทุนจากWall Streetเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อเป็นของขวัญแด่สื่ออุตสาหกรรมดิจิตอล

เรื่องราวเหล่านั้นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของแมนยูไนเต็ด มันคือการตระบัดสัตย์ให้กับหัวใจของฟุตบอลในยุคสมัยปัจจุบันซึ่งฟุตบอลยังคงเป็นเรื่องของ "การกีฬา"อยู่ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สโมสรส่วนใหญ่เค้าทำกันอย่างเนียนๆไม่โจ่งแจ้งตั้งใจขายตรง"เรื่องทางธุรกิจ"กันขนาดนั้น แต่แมนยูไนเต็ดแสดงออกให้ภายนอกเห็นอย่างชัดเจนมาก 

Woodward และเหล่าหุ้นส่วนธุรกิจของเขายังคงพูดถึงแต่เรื่องยอดการเข้าถึง เรื่องของจำนวนผู้ชมจากการโฆษณา พวกเขาพูดถึงแต่เรื่องรายได้และผลกำไร เขาฉลองยินดีในทุกอย่างที่แฟนบอลอย่างพวกเราเกลียดและไม่ต้องการ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เหล่าคู่แข่งและอริของเราต่างพากันหัวเราะเยาะพวกเราทั้งสิ้น

ตลกขนาดเกือบโดนทีมลีกทูมาตบถึงบ้าน

ปีนี้ เขาก็ยังคงกล่าวเรื่องแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงประสบความสำเร็จความสำเร็จ และ"คว้าถ้วยรางวัลในเชิงธุรกิจ" อยู่ และมันไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าการที่ยังอยู่ในเกมธุรกิจเหล่านี้ได้  บางทีมันอาจไม่จะมีอะไรสื่อความหมายได้เท่ากับ"ความต้องการที่เขาอยากจะทำ" นั่นก็คือการพยายามเน้นย้ำว่า ฟุตบอลไม่ได้สำคัญน้อยกว่าเรื่องของการเจรจาข้อตกลงทางการค้า

วู้ดเวิร์ดยังพูดคลุมเครือเกี่ยวกับเรื่องราวของตำแหน่ง "ผู้อำนวยการฟุตบอล" ที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาอยู่จนถึงตอนนี้

"เกี่ยวกับการมองหาหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลนั้น ทางเราได้พิจารณาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องและมองหาศักยภาพที่เข้ากันกับโครงสร้างทางฟุตบอลของพวกเราได้" 

"ส่วนใหญ่ที่เรากำลังพิจารณาอยู่นั้นจะเกี่ยวกับลักษณะของหน้าที่นี้ เราต้องทบทวนอย่างมากในการรับบุคลากรเข้ามาในจุดที่เราได้พัฒนาขึ้นในช่วงปีที่ผ่านๆมา"

นี่ล่ะมันเป็นโวหารที่บ่งบอกว่า ตำแหน่งนี้จะยังไม่ถูกตั้งขึ้นเร็วๆนี้แน่นอน

นี่คือความผิดพลาดที่ใหญ่มากอย่างหนึ่งของแมนยูไนเต็ด มันแสดงให้เห็นถึงการไร้ความสามารถของพวกเขาที่จะทั้งแยกสัดส่วน และสร้างรอยต่อที่เชื่อมกันสนิทอย่างเหมาะสมระหว่าง กิจกรรมในเชิงพาณิชย์ของพวกเขาให้เชื่อมต่อกับสิ่งอื่นๆ และสิ่งที่เป็นอยู่ก็คือ ไม่มีการแยกกันระหว่าง วู้ดเวิร์ด-โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ทีมนักเตะของเขาบนสนาม ซึ่งยากมากที่จะแบ่งส่วนของทั้งสามสิ่งนี้ออกจากกันได้อย่างชัดเจน

(พูดง่ายๆคือไม่มีการแบ่งหน้าที่กันเป็นสัดเป็นส่วน ดูเหมือนจะทำงานกันมั่วๆหน้าที่กันนั่นเอง เพราะไม่มีDoFนั่นล่ะ -ผู้เขียน)

ดังนั้น ในขณะที่ยังต้องการผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น มักจะถูกอธิบายผ่านความสำคัญของเรื่องการซื้อขาย คุณค่าที่แท้จริงนั้นอยู่ในคำจำกัดความทั่วไปว่า หน้าที่นั้นทำอะไรได้บ้าง   บุคคลผู้ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่งนี้จะไม่ได้มีแต่ความรู้ความชำนาญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องมีคาแรคเตอร์ และสามารถคุมภาพรวมได้ 

ก็นั่นแหละสิ่งที่สโมสรเราขาดเลยล่ะ

2 legends 2 candidates

แล้วแมนยูไนเต็ดตอนนี้คืออะไร นิยามพวกเขาว่าอะไรดี?

เพราะว่าคำถามพวกนั้นไม่มีคำตอบเลยสักข้อ พวกเขากลายเป็นเหมือนแค่ "คอนเทนต์" ของเหล่านักลงทุนเท่านั้น ซึ่งในตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลอาจจะให้ความกระจ่างหรือบอกเป็นเลาๆได้บ้างว่า เป้าหมายในเชิงฟุตบอลของพวกเขานั้นแท้จริงคืออะไร ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างประสิทธิภาพการเล่นของทีม เป็นแค่เหมือนของแถมนอกห่อที่อยู่ตอนท้ายๆของวาระการประชุมที่จะถูกหยิบยกมาพูดคุยหลังจากจบการเจรจาธุรกิจเมื่อสินค้าคงคลังทั้งหลายขายของกันเสร็จหมดแล้ว

สำคัญมากๆเพราะสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นองค์กรที่ปราศจากการแบ่งความรับผิดชอบที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น มีที่ไหนกันที่ผู้ดูแลจะควบทำหน้าที่ทั้ง ผู้ที่มีความรู้เรื่องเกมฟุตบอลระดับสูงในขณะที่มีบารมีในการจัดการหากมีบางสิ่งมันไม่เวิร์คหรือไม่ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ใครล่ะคือผู้ที่จะเคาะว่า โซลชานั้นคุมทีมได้สำเร็จถึงตามเป้าหมายหรือไม่ หรือคุณสมบัติของบุคคลที่จะทำหน้าที่ตัดสินใจเรื่องตรงนั้นคืออะไร

มันแปลก  ด้วยความเคารพบอกได้เลยว่ายูไนเต็ดนั้นผิดปกติจริงๆ ในขณะที่เหล่าสโมสรคู่อริของพวกเขามีความเข้าใจกันเป็นอย่างดีในด้านของลำดับขั้นตำแหน่งหน้าที่แต่ละบุคคลที่รู้วิธีการจัดการในงานเฉพาะทางของตนเอง  ยูไนเต็ดยังไม่ยอมพัฒนาแก้ไขตัวเอง ไม่รู้จะยกตัวอย่างองค์กรกีฬาใหญ่ๆที่ไหนเอามาเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ 

ไม่มีการพินิจพิจารณาใดๆ ไม่มีการแบ่งอำนาจหน้าที่ให้เหมาะสมชัดเจน และน่าเสียดายว่า ยังคงไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เชื่อได้ว่าพวกเขากระหายสิ่งอื่นใดๆมากกว่าต้องการแค่เห็นตัวชี้วัดความสำเร็จแบบผิวเผินเท่านั้นเอง

พวกเขายังคงสะเปะสะปะและมีแต่ความคลุมเครืออยู่ในองค์กรต่อไป..

ภาพนี้เห็นแล้วหงุดหงิดยังไงไม่รู้ What are you so xxxxxxx happy???

----------------------------------------------------------------------------------------------—

ทั้งหมดนี้คือ บทวิพากษ์ในเชิงstructureของสโมสรทางด้าน มุมมอง วิธีคิด การจัดการ การบริหารแบ่งหน้าที่ และความรับผิดชอบของตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล ที่ยังคงไม่คิดจะแต่งตั้งขึ้นมาในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ทุกสิ่งที่นักวิจารณ์จากต่างประเทศผู้นี้เขียนเชื่อว่า อ่านแล้วมันเจ็บ และชัดเจนมากที่สุดเพราะเขาใส่เต็มอย่างตรงเป้า และหยิบเอาความจริงที่เจ็บปวด ที่แฟนบอลหลายคนอาจจะมองแค่เรื่องปัญหาบนสนาม แต่จริงๆแล้ว ปัญหานอกสนาม มันส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น และการจัดการทีมบนผืนหญ้า "โดยตรง" อย่างที่Sebได้กล่าวเอาไว้ในบทความชำแหละแมนยูไนเต็ดบทความนี้

หากอ่านตามและตีความไปด้วยจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งหมดทั้งมวล คือปัญหาทางด้าน "แนวคิดเป้าหมาย" ของผู้บริหารสโมสรที่มองแต่เชิงพาณิชย์เท่านั้นเองเป็นหลัก และมีการบริหารที่ย่ำแย่ ไม่มีการจัดการแบ่งอำนาจและหน้าที่งานให้ดีอย่างถูกต้อง ทุกอย่างตอนนี้ก็ยังอยู่ในมือของ Ed Woodword แต่เพียงผู้เดียวอย่างที่แฟนบอลทราบกัน

แมนยูไนเต็ดจะยังไม่ออกจากวังวนนี้ต่อไปอีกนาน หากบอร์ดบริหารชุดนี้ยังคงทำงานกันแบบนี้อยู่ ต่อให้เปลี่ยนผู้จัดการทีม ไปเอามือระดับพอช อัลเลกรี ซีดาน หรือต่อให้เอาอันเช่มาด้วยก็เหอะ ไม่มีทางที่ใครจะพาแมนยูไนเต็ดกลับมาสู่ความสำเร็จได้หรอก

ก็ในเมื่อคุณยังกรีดแขนตัวเองอยู่ในห้องนอนคนเดียวเงียบๆ แต่อัพเฟซบุคป่าวประกาศแต่ภาพลวงตาให้คนอื่นเห็นว่า ชีวิตดี๊ดี เงินเข้าบัญชีทุกวัน

แต่ในความเป็นจริงคือมึงกำลังจะเลือดออกหมดตัว สิ้นใจตายอยู่ในห้องเงียบๆโง่ๆห้องนั้นคนเดียว

-ศาลาผี-

source : https://www.fourfourtwo.com/features/what-exactly-are-manchester-united-these-days-really