แมน : สวัสดีครับพี่เฮง วันนี้ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่หลายประเด็นเลยครับ

โค้ชเฮง : อ๋อได้ครับ

แมน : ขอถามถึงเรื่องยู-19 ก่อนนะครับ คือนัดที่เจอญี่ปุ่นเด็กไทยเราเล่นในสภาพอากาศ -15 องศาเซลเซียสเลย และที่มองโกเลีย เมืองนี้มีสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำที่สุดของโลกเลย สมัยพี่เล่นที่ญี่ปุ่นหรือเยอรมัน เคยเจออากาศหนาวขนาดนี้มั้ยครับ

โค้ชเฮง : หนาวยิ่งกว่านี้ผมก็เจอมาแล้วครับ ผมลูบปากยิ้มเลยนะที่เด็กเราได้ไปเจอประสบการณ์แบบนี้ เพราะต้องมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมากถึงจะผ่านไปได้ และในเรื่องหัวจิตหัวใจ ผมต้องขอชื่นชมเด็กชุดนี้เลยว่าพวกเขาสอบผ่าน

แมน : เจออากาศแบบนี้ ในฐานะที่พี่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน นักเตะจะต้องเจอปัญหาอะไรในการเล่นบ้างมั้ยครับ คือผมอ่านข่าวเจอว่าพี่เฮงยังไม่พอใจกับผลงานของเด็กเราในทัวร์นาเม้นต์นี้เท่าไหร่

โค้ชเฮง : ก็ต้องเจอปัญหาทุกอย่างล่ะครับ แต่แน่นอนว่าประสบการณ์แบบนี้มันไม่ได้หาง่ายๆ ผมอยากให้เด็กๆ ไปเจอให้หมดเลยทั้งหนาวที่สุดและร้อนที่สุด ถ้าผ่านได้ก็แสดงว่ามีความเข้มแข็งทางจิตใจมากพอที่จะไปเล่นในสภาพอากาศแบบไหนก็ได้ แต่ที่ยังต้องปรับปรุงก็คือวิธีการเล่น ต้องแยกกันนะ สำหรับผลลัพธ์ก็ถือว่าทำได้ตามเป้าคือผ่านเข้ารอบ และแพ้ญี่ปุ่นแค่ 1-2 แต่วิธีการมันยังไม่ใช่ มันต้องมีรูปแบบแพทเทิร์นที่เป็นสากลกว่านี้ การรับแล้วโต้กลับต้องมีรูปแบบ ไม่ใช่อุดอย่างเดียวแล้ววัดดวงให้คู่ต่อสู้ทำประตูไม่ได้

แมน : เกมนี้เด็กไทยมีโอกาสยิง 2 ครั้ง ขณะที่ญี่ปุ่นยิง 40 ครั้ง แต่จบที่เราแพ้ 1-2

โค้ชเฮง : ใช่ครับ สถิติมันฟ้องว่าเรายังขาดการเล่นเป็นทีมเวิร์ค และการเตะทิ้งอย่างเดียวแล้วไปอุด เป็นการจำกัดขีดความสามารถของเด็กเรา ที่ผมมองว่ามีจุดเด่นอยู่ที่ความสามารถเฉพาะตัว คือมันยังวัดอะไรไม่ได้เลยว่าถ้าเราไปเจอทีมในระดับสากลแล้วเราจะอยู่ในระดับไหนกันแน่ ถ้าโอกาสที่เรายิง 2 ครั้งเกิดไม่ได้ประตู แต่ 40 ครั้งของญี่ปุ่นได้มากกว่า 2 ลูก อะไรจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ก็คือเรื่องหนึ่ง แต่การเล่นมันต้องมีรูปแบบมากกว่านี้ครับ

แมน : ข้อบกพร่องเราเห็นแล้ว ส่วนข้อที่พี่เฮงมองว่าทำได้ดีคือเรื่องไหนบ้างมั้ยนอกจากหัวจิตหัวใจ

โค้ชเฮง : โค้ชมาร์ค (อลาเบด้า ปาลาซิออส) ก็ทำการบ้านได้ดีและเขาทำการปิดเกมรุกด้านข้างของญี่ปุ่นได้ เกมนี้ญี่ปุ่นได้โอกาสครอสจากด้่านข้างเยอะมาก แต่เขาไม่มีโอกาสโหม่งทำประตูในกรอบเขตโทษเลย และก็ความสามารถเฉพาะตัวของหลายๆ คนในทัวร์นาเม้นต์นี้ ทื่ผมเห็นว่าโดดเด่นเลยก็คือ เจ้าย้า (สิทธิโชค ภาโส), เจ้าแระ (กฤษฎา กาแมน), ผู้รักษาประตู (กัณตพัชห์ มันปาติ) และที่ผมชอบที่สุดก็คือกองกลางเบอร์ 10 เด็กของเชียงราย 

แมน : อ๋อ "เจ้าบุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ใช่มั้ยครับ รายการนี้ทั้งยิงทั้งแอสซิสต์เลย น้องเขาเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูในไทยลีกอายุน้อยสุดด้วยนะพี่เฮง

โค้ชเฮง : ครับเด็กคนนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งความสามารถเฉพาะตัว, การจ่ายบอล, การเคลื่อนที่ และเซนส์ฟุตบอล อนาคตเขาจะไปไกลแน่นอนครับ

แมน : ชุดนี้ยังถือว่าไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของเมืองไทยในรุ่น 19 ปีถูกมั้ยครับ ผมเคยคุยกับ พี่ธร สอระภูมิ โค้ชของอัสสัมชัญ ธนบุรี เขาบอกว่าเอคโคโน่ยังไม่เคยไปดูโค้กคัพเลย และผู้ช่วยชาวไทยที่คอยประกบโค้ชเอคโคโน่ชุดต่างๆ ก็ควรใช้คนที่มีความรู้ลึกรู้จริงเรื่องบอลเด็กเมืองไทย พี่เฮงคิดว่ายังไง

โค้ชเฮง : แน่นอนว่ายังไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดครับ ผมไปดูบอลโค้กคัพมาเกือบทุกทีม มีเด็กเก่งๆ เกิดขึ้นมาใหม่เยอะมาก บอล 7 สีขนาดแชมป์เก่าอย่าง โพธินิมิตร ยังแพ้ทีมโนเนมอย่าง ธัญรัตน์ ขาดลอยถึง 1-6 ส่วนเรื่องการสื่อสารทื่มีปัญหา อันนี้คงต้องเอากลับไปคุยกันว่าติดขัดเรื่องอะไร ที่เอคโคโน่เขายังไม่ได้ดู น่าจะเป็นเพราะเขาไม่รู้ข้อมูลมากกว่า เพราะเขาคือชาวต่างชาติที่เพิ่งมาอยู่เมืองไทยไม่กี่เดือน แต่กลับมาคราวนี้คงเป็นโอกาสดีแล้วที่เขาจะได้ตามไปนั่งดูเด็กๆ เพื่อเลือกเอาไปใช้ในการชิงแชมป์เอเชีย

แมน : ผมสงสัยประเด็นนี้มานานแล้ว ทุกครั้งเลยเวลา ยู16 หรือ ยู19 ของเราต้องไปแข่งทัวร์นาเม้นต์ระดับ AFC จะต้องติดปัญหาเวลาแข่งขันทับซ้อนกับรายการอื่นๆ อย่างทีมนักเรียนไทย, โค้กคัพ, บอลกรมพละ, บอล7สี หรือของกกท. , สปอนเซอร์เอกชนและกระทรวงต่างๆ ฯลฯ จนเรียกผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดไปใช้ได้ไม่ครบ และแต่ทีมเขาก็ต้องการผลงานที่ดีทั้งนั้น ทำไมไม่คุยกันเรื่องเวลาการแข่งขัน หรือระดับความสำคัญกันเสียใหม่ครับพี่เฮง ว่ารายการไหนคือรายการที่ต้องใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุดของรุ่น 

โค้ชเฮง : คือบ้านเรามันเน้นการแข่งขันมากเกินไป แข่งจนเด็กล้าไปหมด และไม่เกิดการพัฒนา เนี่ยอย่างบอลกรมพละวันนี้เด็กชลบุรีเหลือแค่ 8 คน ไม่มีตัวสำรอง เพราะติดทีมไปเล่นยู19 ทางฝ่ายจัดก็ไม่เลื่อนโปรแกรมให้ เราก็ต้องแข่งทั้งอย่างนั้น จนทีมแพ้เละเทะ ซึ่งชลบุรีเจอผลกระทบไปเต็มๆ ทั้งที่เราขาดผู้เล่นที่ไปรับใช้ชาติ และอีกเรื่องเมื่อแต่ละทีมเน้นการแข่งขันมากเกินไป ก็เน้นสั่งให้เด็กเข้าบอลกันหนัก เตะกันติดดาบจนมันแทบไม่เป็นเกมฟุตบอล

แมน : เรื่องเลื่อนโปรแกรมก็คงมองได้ว่าฝ่ายจัดเขาคงจ้างออร์แกไนซ์ เตรียมงานอะไรไว้หมดแล้ว เหมือนอย่างกรณีของ เชียงราย ที่ขอเลื่อนนัดชิงเอฟเอ คัพ แล้วไม่ได้ อย่างนี้หรือเปล่าพี่ผมอยากถามพี่เฮงประเด็นนี้ชัดๆ เลยครับว่า เราจะแก้ปัญหาได้มั้ยเรื่องทัวร์นาเม้นต์หลายๆ รายการชนกับทีมชาติไทยชุดเยาวชน เพราะเดี๋ยวปีหน้าชิงแชมป์เอเชีย โปรแกรมมันก็มาชนช่วงนี้อีกอยู่ดี นั่นหมายความว่าไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าเราจะได้นักเตะที่ดีที่สุดไปเล่นหรือเปล่าถูกมั้ยครับ ผู้ใหญ่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องคุยกันมั้ย

โค้ชเฮง : มันก็คือปัญหาล่ะครับ และต้องคุยกัน ผมไม่เคยเห็นด้วยอยู่แล้วที่จะจัดแข่งอะไรเยอะแยะในเวลาคาบเกี่ยวกัน ก็ต้องลองคุยกันดูว่าจะจัดโปรแกรมช่วงไหนบ้าง บางรายการจัดมาก็ไม่ได้เกิดการพัฒนาเด็กอะไร เหมือนเอางบมาผลาญเล่นกันไปเท่านั้น และที่สำคัญต้องเข้าใจด้วยว่าทีมชาติไปแข่งระดับ AFC แล้วคิดว่าเทียบกับบอลโรงเรียนแล้ว อะไรมันสำคัญกว่ากันล่ะ

แมน : จะได้คุยกันใช่มั้ยพี่ เพราะปัญหานี้มันไม่ได้เพิ่งเกิดนะ ตั้งแต่ผมจำความได้ เป็นสิบเป็นร้อยปีแล้วมั้งที่มันเป็นอย่างนี้ ในเมื่อสมาคมตั้งเป้าว่าทีมเยาวชนของเราต้องไปฟุตบอลโลกให้ได้ ปัญหาภายในมันก็ต้องแก้กันเองให้ได้ก่อนนะครับ

โค้ชเฮง : ก็นั่นแหละ มันคือปัญหา ในเมื่อคนดูต้องการผลลัพธ์ในระยะสั้น ก็ต้องหาทางลงตัวให้ได้ครับ

แมน : พอดีนึกขึ้นได้ วันก่อนผมจัดวิทยุ มีคนฟังถามมาว่า ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ กองหน้ายู-19 ชุดที่พี่จุ่นคุมหายไปไหนครับ คนนี้เด็กปั้นพี่เลยนี่ครับ

โค้ชเฮง : อ๋อเจ้าดิวน่ะหรอ ปีนี้ไทยฮอนด้าเขายืมไปในช่วงเลกสอง ผมบอกได้เลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นคำตอบทางฝั่งซ้ายของทีมชาติไทยในอนาคตได้แน่นอนครับ 

แมน : ขอข้ามไปคุยเรื่องยู-23 บ้างครับ คือเดือนหน้าเราจะมีทัวร์นาเม้นต์อุ่นเครื่อง M-150 คัพ แล้วผลจับสลากเราดันอยู่สายเดียวกับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีเหนือ ซึ่งก็บังเอิญว่าชิงแชมป์เอเชียช่วงเดือนมกราคม เราก็อยู่สายเดียวกันอีก แบบนี้พี่เฮงมองว่าเราควรจะต้องอุบไต๋ไว้บ้างมั้ย หรือใส่เต็มไปได้เลย

โค้ชเฮง : จะอุบไต๋หรือไม่อย่างไรก็ตาม เราต้องเล่นกันอย่างมีรูปแบบครับ ทีมที่มีมาตรฐาน ใช้ผู้เล่นชุดไหน รูปแบบการเล่นก็ไม่ได้ต่างกันมาก และสามารถสับเปลี่ยนผู้เล่นลงไปใช้งานในรูปแบบนั้นได้ทันที ซึ่งญี่ปุ่นหรือเกาหลีเหนือเขาก็คงคิดเหมือนกัน เท่าที่ผมทราบ ญี่ปุ่น จะส่งชุดยู20 มาเล่นเลยด้วยซ้ำนะ

แมน : แล้วข่าวที่ว่าพี่เฮงจะให้ใช้ชุดยู-23ทั้งหมดไปแข่ง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นเรื่องจริงมั้ยครับ ทำไมไม่ใช้ชุดผสมกับตัวสำรองในทีมชาติชุดใหญ่ หรือคนที่เด่นๆ ในลีกด้วยครับ

โค้ชเฮง : ครับ ผมจะให้ใช้ยู-23ที่ดีที่สุดของเราทั้งหมดเลย ผสมไปก็ไม่เกิดประโยชน์หรอกครับ สู้ดันเด็กขึ้นมาพร้อมกันไปเลยดีกว่า สำหรับทีมชุดใหญ่ ทีมงานของราเยวัชเขามีหน้าที่คอยดูอยู่แล้วว่าจะเอาใครเข้ามาเสริมบ้าง 

แมน : คือผมเปรียบเทียบกับทีมอย่างเยอรมัน เขาก็ใช้ผู้เล่นที่เด่นๆ ในลีกแต่ไม่ติดชุดใหญ่ไปเล่นใน คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ หรืออย่าง ญี่ปุ่น เขาก็ไม่ได้ใช้เด็กไปแข่ง อีสต์ เอเชีย คัพ (ชิงแชมป์เอเชียตะวันออก) นะพี่ เขามีทั้งดาวรุ่ง, ทั้งคนที่ฟอร์มดี และผู้เล่นสำรองในชุดใหญ่ ผสมกัน ทำไมพี่ถึงคิดว่าสำหรับทีมชาติไทย ถึงต้องใช้ยู-23ล้วนๆ เพราะถ้าไม่ได้แชมป์ขึ้นมามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และพี่เฮงจะถูกแฟนบอลถล่มเลยนะครับ

โค้ชเฮง : นั่นก็เป็นวิธีการพัฒนาที่ดีของญี่ปุ่นและเยอรมัน แต่สำหรับเรา ผมมองว่าเด็กชุดยู-23 ถ้าเลือกที่เก่งที่สุดของรุ่นมาทั้งหมด ก็ไม่ได้เป็นรองทีมชาติชุดบี และถ้ามองเป็นการสร้างทีม ผมก็อยากให้ใช้ทั้งหมดเลยเพื่อให้ได้เรื่องทีมเวิร์ค ถ้าเราเล่นในรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ผมมั่นใจว่าชุดยู-23 ของเราดีพอที่จะเป็นแชมป์อาเซียนได้อยู่แล้วครับ

แมน : ก็วัดกันไปเลยนะพี่ เอาเป็นว่าพี่เฮงมั่นใจก็แล้วกันนะครับ ทีนี้ผมถามถึงเจ้าย้าหน่อยครับ สถานการณ์ในทีม คาโงชิมะ เป็นไงบ้าง อืมในเกมเจอญี่ปุ่นเห็นถูกเปลี่ยนออกช่วงต้นครึ่งหลังด้วย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ

โค้ชเฮง : อ๋อย้าเจ็บต้นขาครับ เป็นอาการเจ็บที่มีอยู่ก่อนแล้ว พอลงไปเล่นก็เจ็บขึ้นมาอีก ย้าเองช่วงหลังๆ ที่ญี่ปุ่นก็มีชื่อเป็นตัวสำรองบ้าง ไปเล่นในทีมสำรองบ้าง เห็นอาทิตย์หน้า คาโงชิมะ เขาจะเข้ามายื่นข้อเสนอขอซื้อเจ้าย้าไปร่วมทีม แต่ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มีทางขายครับ ถ้าใครอยากได้ก็ยืมไป เพราะที่ผมมาอยู่ชลบุรี ไม่ยอมไปญี่ปุ่น ที่ไม่ไปต่างประเทศ ผมอยู่ก็เพื่อสร้างเด็กเหล่านี้ขึ้นมา เป้าหมายของผมคือให้เด็กพวกนี้เล่นให้ชลบุรีก่อน ไม่ใช้ปั้นไปให้ทีมอื่นเล่น จะย้า จะยิม หรือแระ ใครก็ตาม ผมไม่ขายใครทั้งนั้นครับ 

แมน : อ้าวแล้วถ้าเป็นทีมต่างชาติที่เขายืนยันว่าอยากได้ไปใช้งานจริงๆ แล้วเป็นโอกาสของเด็กล่ะพี่ จะไม่ขายจริงๆ หรอ ข้อเสนอของย้าอันนี้ที่มีข่าวว่า 5 ล้านบาทหรือเปล่าครับ

โค้ชเฮง : กี่ล้านผมก็ไม่ขายครับ ทีมที่เขาเอาไปไม่ว่าจะยืมหรือซื้อก็เอาไปใช้ทั้งนั้นแหละ แต่อยู่ที่ว่าจะแย่งตำแหน่งในทีมได้หรือเปล่า จริงๆ แล้วยังมีทีมอื่นๆ ในญี่ปุ่นที่ขอซื้อทั้งยิมและย้า แต่ผมก็ยืนยันอย่างเดียวว่าให้ยืมแต่ไม่ขาย เพราะเด็กๆ ต้องเล่นให้ชลบุรีก่อน

แมน : ผมได้ตามดูเจลีก3อยู่เหมือนกัน หลังๆ มานี้ชื่อของย้าในคาโงชิมะหายไปเลยนะพี่ ตัวสำรองก็ยังไม่ติดเลย แต่เจ้าไอซ์ (จักกฤช เวชภิรมย์) ได้เป็นตัวจริงให้ เอฟซี โตเกียวยู23 ไปแล้ว

โค้ชเฮง : ตำแหน่งมันต่างกันครับ กองหน้าการจะเบียดลงเล่นได้มันยากมาก แต่ถ้าเป็นกองกลางหรือแบ็ก โอกาสมันยังมีสูงกว่า 

แมน : โค้ชของ คาโงชิมะ (ยาสึโตชิ มิอูระ) นี่ก็โค้ชเก่าของ เชียงใหม่ เอฟซี นี่พี่เฮง คนที่เป็นพี่ชายของ คิงคาซู (คาซูโยชิ มิอูระ) เหมือนกับว่าเขามีผลงานและประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจนักในเมืองไทยด้วยหรือเปล่า ย้าถึงไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าที่ควร

โค้ชเฮง : ครับเขาเคยมาคุมเชียงใหม่ แต่ไม่น่าเกี่ยวหรอก เขาเองก็ยังเคยชมเจ้าย้าให้ผมฟังอยู่เลยนะ คงอยู่ที่ว่าตำแหน่งกองหน้ามีคนอื่นๆ ที่เขาไว้วางใจมากกว่าหรือเปล่า

แมน : พูดถึงเจ ชนาธิป บ้างพี่ ช่วง 2-3 นัดหลังดูเหมือนว่าฟอร์มจะแผ่วๆ ลงไปมั้ยครับ จังหวะการออกบอลเห็นหลายคนตำหนิว่ารีบจ่ายเร็วเกินไป เพื่อนวิ่งไม่ทัน หรือเวลาเลี้ยงบอลสวนกลับแล้วไม่ไปให้สุด แต่หยุดชะลอเพื่อนขึ้นมาเติม มันเป็นเพราะเพื่อนวิ่งช้า กองหน้าอย่าง เจย์ โบธรอยด์ หรือ เคน โทคุระ ก็ไม่ได้มีความเร็ว หรือเพราะโค้ชสั่งให้เล่นแบบนี้หรือเปล่าครับ

โค้ชเฮง : วิธีการเล่นของชนาธิปเขาเป็นมาตรฐานระดับสากลแล้วนะ ไม่มีเร็วไปหรือช้าไปหรอก ผมว่าเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่นมากกว่า ฟุตบอลอาชีพมันเปรียบได้กับวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร คือมันต้องรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นให้ได้ยาวๆ ทั้งฤดูกาล ไม่ใช่สปริ๊นท์ได้แค่ระยะสั้นๆ การเจอกับอากาศหนาวในช่วงนี้ หรือปัจจัยอื่นๆ ก็จะเป็นบททดสอบความเป็นมืออาชีพและการเอาตัวรอดของชนาธิป ยิ่งถ้าผู้เล่นในทีมที่เคยบาดเจ็บหายกลับมาลงเล่นได้และมีการแข่งขันภายในทีม มันก็ยิ่งเป็นความกดดัน ส่วนเรื่องเพื่อนไม่เติมหรือเติมไม่ทัน ผมจะบอกว่าฟุตบอลมันไม่ใช่การโจมตีคู่ต่อสู้อย่างเดียว แต่เป็นการแย่งชิงพื้นที่ด้วย ปัญหาการขึ้นไปเติมเกมรุกเวลาสวนกลับ ในไทยเราก็เป็น ทั้งสโมสรและทีมชาติ คือไม่ค่อยมีใครวิ่งเติม ตัวเลือกที่จะเล่นด้วยก็เลยน้อย มองอีกด้านก็คือคุณสมบัติของผู้เล่นในทีมมันเอื้ออำนวยหรือเปล่า ถ้ามีแต่ตัววิ่งช้าๆ กว่าจะเติมขึ้นไปช่วยเพื่อนได้ก็โดนปิดช่องหมดแล้ว 

แมน : ส่วนตัวพี่เฮงยังอยากให้ เจ ย้ายไปทีมอื่นในญี่ปุ่นอยู่มั้ย ตอนแรกๆ พี่เคยบอกผมว่าอยากให้ได้เล่นกับทีมที่เน้นบอลภาคพื้นดินมากกว่านี้ 

โค้ชเฮง : ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาของต้นสังกัดกับทีมที่สนใจนะ แต่ผมว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ซัปโปโระเป็นเมืองที่อยู่ยาก นอกจากอากาศหนาวมากแล้ว มันยังสู้เมืองใหญ่ๆ ไม่ได้ถึงจะเป็นเมืองท่องเที่ยวก็เถอะ เหมือนอย่างเมืองทตโตะริ ที่ผมเคยคุม มีนักเตะดังๆ ตั้งหลายคนที่ทีมเสนอไป แต่เขาไม่มา เพราะเมืองนี้ไม่มีอะไรให้เที่ยวเลย เป็นชนบทห่างไกลเมือง หรืออย่างนักเตะระดับโลกหลายๆ คนอย่างเช่นในอังกฤษที่เลือกจะไปเล่นที่ลอนดอน ก่อนจะไปเมืองอื่น ในไทยเองก็เหมือนกัน ทำไมนักเตะต่างชาติถึงอยากมาอยู่ชลบุรีหรือพัทยา เพราะที่นี่มันมีอะไรให้เที่ยวเยอะ เป็นเมืองพักผ่อน นักเตะทีมอื่น เวลาเลิกซ้อมยังมาเที่ยวที่นี่เลย นักเตะเราเองบางทียังมีคนไปเห็นนั่งดื่มอยู่ตามผับริมทะเล จะหาคนที่มีวินัยสูงๆ อย่าง คูชิดะ ยากมากจริงๆ 

แมน : คูชิดะไปอยู่ไหนแล้วล่ะพี่ ไม่ได้ยินข่าวเลยตั้งแต่ไปอยู่ชัยนาทเมื่อปีก่อน

โค้ชเฮง : ตอนนี้เขาไปอยู่ลีกรองของออสเตรเลีย เห็นว่าช่วยให้ทีมขึ้นชั้นมา เอลีก ในฤดูกาลหน้าได้แล้วนะ

แมน : แล้ว ชลบุรี ปีหน้าตัวต่างชาติจะมีใครอยู่ต่อบ้างครับ ข่าวนูรูลกับบุรีรัมย์ไปถึงไหน แล้วก็โค้ชเทิด จะได้คุมต่อมั้ย

โค้ชเฮง : ถ้าเล่นกันเหมือนเกมล่าสุดที่แพ้ สุโขทัย ผมคงให้โละออกหมดครับ มีตัวต่างชาติเข้ามาขอทดสอบกับเราเยอะมาก เอเยนต์เสนอมาก็เยอะ เดี๋ยวเดือนหน้าหลังจบลีกคงได้ข้อสรุปในการประชุมบอร์ดอีกที ส่วน นูรูล ผมไม่ทราบนะ ถ้ามีการซื้อขายกันก็ต้องมาดูว่า บุรีรัมย์ เสนอเข้ามาเท่าไหร่ก่อนครับ

แมน : วันนี้คุยกันมานานเลย ต้องขอบคุณพี่เฮงมากนะครับ

โค้ชเฮง : ยินดีครับ