:::     :::

มังกรในแดนกระทิง "อู๋ เหล่ย"

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
3,612
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือเป็นความภาคภูมิใจของวงการลูกหนังแดนมังกร

สำหรับ "อู๋ เหล่ย" กองหน้าทีมชาติจีน ในวัย 28 ปี ที่กำลังมาค้าแข้งกับเอสปันญ่อล ทีมดังจากศึกลาลีกา สเปน โดยเจ้าตัวถือเป็นนักเตะคนเดียวของทีมชาติจีน ชุดนี้ ที่เล่นฟุตบอลอยู่ในต่างประเทศ

ช่วงนี้ เจ้าตัวจะมาเล่าให้เราฟังถึงหลากหลายเรื่องราว ทั้งความเห็นต่อวงการฟุตบอลบ้านเกิด, ความสำเร็จที่ทิ้งไว้เอากับไชนีส ซูเปอร์ลีก และความคาดหวังในการมาเล่นฟุตบอลในลีกกระทิงดุ 

ตั้งแต่การอัพเดทมูลค่านักเตะในลาลีกา คุณกลายเป็นนักเตะจีน ที่มีมูลค่าสูงสุด แซงหน้ารุ่นพี่อย่างซุน จีไห่ (อดีตดาวเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณรู้สึกอย่างไร ?

"ผมไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นที่สนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้รับจากการประเมินมูลค่านักเตะ ผมไม่เคยหวังว่าตัวเองจะมีมูลค่ามากขึ้น เพราะลาลีกา ยังใหม่สำหรับผมมาก อย่างไรก็ตาม ผมมีความสุขมาก"


ย้อนกลับไป คุณสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นนักเเตะที่อายุน้อยสุดที่ลงเล่นในลีกจีน (14 ปี 283 วัน) คุณรู้สึกอย่างไร ?

"ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอายุน้อย เนื่องจากผมฝึกซ้อม และลงเล่นกับนักเตะที่อายุมากกว่ามาตลอด ย้อนกลับไปเวลานั้น ผมยังไม่รู้ว่าลีกอาชีพคืออะไรด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ผมแค่มองหาโอกาสในสนามแข่งขัน ในการลงเล่น ทุกเกมเหมือนกับการฝึกซ้อม ผมสนุกกับทุกวินาทีในสนาม และผมอยากใช้เวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้"

คุณรู้สึกอย่างไร เกี่ยวกับการพัฒนาของวงการฟุตบอลจีน ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ?

"ย้อนกลับไปปี 2013 ถือเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสสัมผัสกับฟุตบอลลีกสูงสุดของจีน (ไชนีส ซูเปอร์ลีก) ระดับของลีกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ในช่วงเวลานี้ ลีกจีน มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมแล้ว ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น ยังไม่มีใครรู้รายชื่อผู้เล่นต่างชาติที่เดินทางมาค้าแข้งในลีกจีน ด้วยซ้ำไป จากนั้น ทุกอย่างดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง"


ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้จัดการทีมชาวยุโรปหลายคน ที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ อาทิสเวน โกรัน อีริคส์สัน รวมไปถึงอังเดร วิลลาส โบอาส เดินทางมาคุมทีมในลีกจีน พวกเขาส่งผลต่อการพัฒนาอย่างไรบ้าง ?

"ผมคิดว่าส่งผลมากเลยล่ะ สเวน โกรัน อีริคส์สัน เป็นผู้จัดการทีมของผมนานถึง 2 ปี (เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี 2014-16) โดยในช่วงครึ่งปีแรก ผมยังไม่ได้เป็นผู้เล่นที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม สเวน สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวผม ซึ่งผมเองไม่เคยเห็นมันเลย ผมอยากขอบคุณเขามากเลย จากนั้น อังเดร วิลลาส โบอาส ก็เข้ามาทำหน้าที่ เขานำการเล่นแบบใหม่ๆเข้ามา พร้อมกับปรับการฝึกซ้อมของทีมให้เหมือนกับทีมในลีกยุโรป"


ย้อนกลับไปปี 2018 คุณจบฤดูกาลด้วยแชมป์ลีก และดาวซัลโวของลีกสูงสุดจีน (27 ประตู) คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่า บางทีภารกิจได้สำเร็จ และอาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว ?

"ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรยุโรปให้ความสนใจในตัวผม อย่างไรก็ตาม ผมคงเสียใจเป็นอย่างมาก หากตัดสินใจย้ายออกจากเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี โดยที่ไม่มีถ้วยแชมป์ให้กับพวกเขา มันถือเป็นการเติมเต็มความฝันตัวเองอย่างหนึ่ง หลังจากทำสำเร็จแล้ว ผมคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่ผมจะย้ายไปเล่นในต้างประเทศ"

ในที่สุด คุณก็เลือกย้ายมาร่วมทีมเอสปันญ่อล ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อะไรที่คุณชอบในสโมสรแห่งนี้ ?

"ย้อนกลับไปตอนนั้น 3 สโมสรให้ความสนใจในตัวผม การย้ายไปเล่นต่างประเทศ ผมคำนึงถึงเรื่องอายุด้วย โดยต้องมีโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอในระยะยาว ผมคิดว่า เอสปันญ่อล เหมาะกับผมมากที่สุด ในทุกแง่มุมเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบ, เทคนิค และปรัชญาการคุมทีมของกุนซือ แน่นอนว่า ผมได้รับโอกาสมากมายจากสโมสรแห่งนี้"


สโมสรจากพรีเมียร์ลีก ก็ให้ความสนใจในตัวคุณ ทำไมลีกอังกฤษ ถึงไม่ใช่ทางเลือก ?

"เพราะลีกอังกฤษ ขึ้นชื่อในเรื่องของพละกำลังของร่างกาย ดังนั้น ผมคิดว่าการเลือกมาสเปน ในก้าวแรกนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลแล้ว"


การประเดิมเกมครั้งแรกของคุณกับเอสปันญ่อล แฟนบอลจีน เฝ้าดูมากถึง 40 ล้านคน คุณรู้สึกอย่างไร ?

"ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เมื่อผมเห็นจำนวนตัวเลขดังกล่าว ผมนี่ไม่อยากคาดฝันเลย บางที อาจเป็นเพราะไม่มีนักเตะจีน ที่เดินทางมาค้าแข้งใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปมาเป็นระยะเวลานานแล้วก็เป็นได้"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด