:::     :::

นับวันรอการเปลี่ยนแปลง

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
2,059
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ก่อนหน้านี้ บอร์ดบริหารของอาร์เซน่อลจะให้การสนับสนุน อูไน เอเมรี่ ให้ทำหน้าที่ถึงอย่างน้อยจบฤดูกาล แต่หลังจบเกมนัดล่าสุด สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง

อาร์เซน่อล ทำได้เพียงไล่ตีเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2 ในบ้านตัวเองอย่างกระเสือกกระสน ได้ประตูรอดตายในช่วงทดเจ็บจาก อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ 

ผลเสมอนัดที่เกือบแพ้นัดนี้ ทำให้อาร์เซน่อล ไม่ชนะคู่แข่งเลยตลอด 6 นัดหลังสุดจากทุกรายการ และชนะเพียงนัดเดียวจาก 8 นัดหลังสุด 

นัดเดียวที่ชนะก็มาจาก 2 ฟรีคิกของ นิโกล่าส์ เปเป้ ในเกมยูโรปา ลีก นัด 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม กับ วิตอเรีย กิมาไรส์ ซึ่งหาก 1 ในฟรีคิกที่ เปเป้ ยิงไม่เข้าแล้วล่ะก็ อาร์เซน่อล จะสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยตลอด 8 นัดหลังสุด

หลังจบเกมนัดล่าสุด มีเสียงโห่อื้ออึงทั่วสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ช่วยเพิ่มอุณหภูมิความตึงเครียดภายในสโมสรมากยิ่งกว่าเดิม

แฟนบอลต่างตั้งความหวังว่าเบรกทีมชาติ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเห็นทีมที่ดีขึ้นในหลายแง่มุม หรืออย่างน้อยต้องเก็บ 3 คะแนนในบ้านไม่ยากกับการเจอทีมรองบ๊วยอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นเลย  

เป็นอาร์เซน่อลที่น่าห่วง เต็มไปด้วยปัญหา ความคิดแตกแยก และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี

อาร์เซน่อลเคยมีสถิติดีงามเปิดบ้านเอาชนะทีมที่อยู่ในโซนตกชั้นมาตลอด 32 นัดหลังสุด แต่สถิติตรงนี้ถูกหยุดลงและเกือบแพ้ด้วยซ้ำ

สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมล่าสุดกับเซาธ์แฮมป์ตันก็คือภาพเดิมๆ ที่แฟนบอลได้แต่ส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่าจนคอแทบหลุดไม่ว่าจะเป็นเกมรับเสียประตูเยอะ สมาธิหลุดง่าย พลาดไม่น่าเชื่อในจังหวะที่ไม่น่ามีอะไร 

ฤดูกาลผ่านพ้นมาเพียง 13 นัด อาร์เซน่อลเสียไปถึง 19 ประตู  เป็นตัวเลขเท่ากับเชลซีก็จริง แต่ทิศทางของคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนดีกว่าเยอะ 

อูไน เอเมรี่ ไม่เคยแก้ไขปัญหาเกมรับของทีมได้เลย มิหนำซ้ำยังเล่นในสไตล์เดิมๆ เหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้คู่แข่งเอามีดมากะซวกตัวเอง 

เอเมรี่วางแท็กติกใส่ใจเกมรับด้วยการปรับมาเล่น 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟคือ ดาวิด ลุยซ์, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส และ คาลั่ม แชมเบอร์ส พร้อมจัด คีแรน เทียร์นี่ย์ กับ เอคตอร์ เบเยริน เป็นวิงแบ็ก

การใส่หลังเพิ่มเข้ามาไม่ได้หมายความว่าเกมรับจะดีขึ้นตามปริมาณ เพราะวิธีการเล่นแทบไม่ได้เปลี่ยนไป

อาร์เซน่อลยังเน้นเคาะบอลหน้าประตูต่อบอลเพื่อเซตเกมขึ้นมาทีละสเต็ป ไม่สาดบอลยาวเพราะกลัวเสียการครองบอล

การเล่นแบบนี้เสี่ยงเกินไปที่จะเสียบอลและโดนลงโทษ เซาธ์แฮมป์ตันอ่านหมากอาร์เซน่อลได้ง่ายมากจึงเน้นให้ผู้เล่นเกมรุกช่วยกันไล่บี้ถึงตัว อาศัยความเร็ว ความขยันบีบกดดันเพื่อทำให้เจ้าถิ่นออกบอลลำบาก และหลายครั้งก็แย่งบอลได้สำเร็จ 


น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่า ในหลายประตูที่อาร์เซน่อลเสียมาจากการพยายามต่อบอลจากข้างหลังขึ้นมาแต่โดนตัดโดนแย่ง แต่ทำไมยังพยายามเล่นในสไตล์นี้ 

นี่คือเพียงหนึ่งตัวเองของ อาร์เซน่อล ที่ไม่ได้แสดงออกวาได้แก้ไขอะไรให้ดีขึ้นเลยกับช่วง 2 สัปดาห์ที่ได้หยุดคิดหยุดพัก และไม่ใช่เรื่องแปลกใจหากแฟนบอลตัวเองจะโห่ใส่อย่างหนักโดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ อูไน เอเมรี่ 

นั่นทำให้สถานการณ์ในรั้วเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตลอด 2-3 วันหลังจบเกมนัดล่าสุด ถูกจับตามองอย่างมากว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่แฟนอาร์เซน่อลหลายคนอยากจะเห็นในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้บอร์ดบริหารอาร์เซน่อลยังคงให้การสนับสนุน อูไน เอเมรี่ ให้ทำทีมจนถึงจบฤดูกาลแล้วจะพิจารณาอนาคตกันอีกที แต่ตอนนี้ท่าทีเริ่มเปลี่ยนไป

บางคนอาจหนุนหลังกุนซือชาวสเปน แต่ก็มีอีกส่วนที่เห็นว่าควรปลดออกจากตำแหน่งเพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ ทั้งด้วยผลงานในสนาม และกระแสกดดันจากแฟนบอลที่หนักหน่วง ขืนปล่อยไว้จะมีแต่พังกับพัง

เทเลกราฟ สื่อในอังกฤษรายงานคือ นักเตะในทีมบางคนเริ่มเอือมและไม่ศรัทธาใดๆ ในตัว เอเมรี่ อีกแล้ว พร้อมกับอ้างแหล่งข่าวงในที่เปิดใจว่า "ปัญหาอยู่ที่โค้ช เขาทำได้ไม่ดีทั้งเรื่องการตัดสินใจและการเปลี่ยนแปลงการเล่น ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าการทำงานของเขาก้าวหน้าเลย" 

"ผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นช่วงหลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของทีมเป็นอย่างมาก ไม่มีใครยังคิดว่าทีมจะทำอันดับผ่านไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ภายใต้การนำขอ งเอเมรี่ ผมเองก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้"

ถ้าเป็นแบบนี้ เอเมรี่ ก็อยู่ยากเพราะนักเตะคือคนที่เล่นในสนาม หาก เอเมรี่ ไม่สามารถชี้นำได้ สิ่งที่เขาอยากจะเห็นทั้งฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันก็คงไม่มีทางเกิดขึ้น

ขณะที่ เดลี่ เมล อีกสื่อระบุว่า อาร์เซน่อล จะปลด เอเมรี่ ในเร็วๆ นี้ และจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการให้ เฟรดี้ ลุงเบิร์ก ขัดตาทัพถึงจบฤดูกาลเพื่อรอตัวเลือกจริงๆ ในช่วงซัมเมอร์ 

ส่วน ไทมส์ มองตรงกันในความเป็นไปได้ที่ เอเมรี่ จะหลุดตำแหน่งเร็ววันนี้ แต่รายงานสเต็ปต่อไปว่า อาร์เซน่อล จะทาบทาม มิเกล อาร์เตต้า หรือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เสียบตำแหน่งต่อทันที


อัลเลกรี กับ อาร์เตต้า มีโอกาสได้คุมอาร์เซน่อล

อาร์เตต้า เคยค้าแข้งช่วงท้ายอาชีพกับอาร์เซน่อลก่อนแขวนสตั๊ดไปเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปัจจุบัน ได้รับคำชมไม่น้อยว่ามีแววทีเดียว

อดีตกองกลางวัย 37 ปีเคยถูกโยงจะกลับ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ตอน อาร์แซน เวนเกอร์ วางมือในปี 2018 แต่บอร์ดปืนเลือกคนที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่าง เอเมรี่

ส่วน มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ก็ว่างงานยาวตั้งแต่วางมือกับ ยูเวนตุส ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา กุนซือชาวอิตาเลียนคือตัวเลือกที่ครบทั้งประสบการณ์และดีกรี แต่คำถามก็คือ พร้อมจะรับงานตอนนี้หรือไม่?

ความเคลื่อนไหวของร้านพูลยกให้ เอเมรี่ เป็นเต็ง 2 กุนซือคนต่อไปที่จะโดนปลด ตามหลังเต็ง 1 มาร์โก ซิลวา ที่สถานการณ์กับเอฟเวอร์ตันง่อนแง่นพอๆ กัน

เดวิด ออร์นสตีน กูรูอาร์เซน่อลระบุว่า อูไน เอเมรี่ ยังจะได้คุมทีมจนถึงเกมยูโรปา ลีก ในวันพฤหัสบดีนี้ แต่จากนั้นไม่สามารถยืนยันอะไรได้ 

วัดจากกระแสข่าวที่รายงานไปในทิศทางตรงกันว่าคงใกล้ถึงเวลาแล้วที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้ง

สิ่งที่แฟนบอลปืนใหญ่หลายคนอยากจะเห็นกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด