'ก่อนอื่นผมอยากขอบคุณนักข่าวทุกคนที่โหวตเลือกผมและทำให้ผมได้รับรางวัลนี้ ชัดเจนว่าเพื่อนร่วมทีมของผมทั้งสโมสรและทีมชาติที่ทำให้ผมมีช่วงเวลาหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าคำว่าชนะหรือแพ้ ขอบคุณมาก พวกคุณมีส่วนสำคัญของรางวัลนี้ อย่างที่เราเห็นในวิดีโอเมื่อ 10 ปีก่อนที่ผมได้รับรางวัล บัลลง ดอร์ ครั้งแรกของผมที่นี่ในปารีส ผมจำได้ว่าผมเดินทางมากับพี่ชาย 3 คนของผม ผมอายุเพียง 22 ปี ทุกอย่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับผมจนถึงตอนนี้ วันนี้อีก 10 ปีต่อมา ผมได้รับรางวัลเป็นครั้งที่ 6 ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตส่วนตัวของผมกับภรรยาผมและลูกๆ 3 คนของผม ผมโชคดีที่ได้อยู่กับพี่ชายผมและหนึ่งในหลานชายของผม'

'ตามที่ภรรยาของผมกล่าวไว้ว่าอย่าหยุดฝันในการต้องการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นวันต่อวันและเหนือสิ่งอื่นใดเพื่อสนุกกับการเล่นฟุตบอลต่อไป ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมสามารถสนุกกับสิ่งที่ผมรักตั้งแต่อายุ 1 หรือ 2 ขวบ พระเจ้าทรงประสงค์ให้ผมมีเวลาอีกหลายปีที่จะสนุกกับมัน' 

'ผมทราบดีว่าผมอายุเท่าไหร่และช่วงเวลาเหล่านี้จะสนุกมากขึ้นเพราะช่วงเวลาที่จะเลิกเล่นฟุตบอลใกล้เข้ามาแล้วและมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับการกล่าวคำอำลา แม้ผมหวังว่าจะเล่นต่อไปอีกหลายปีก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าวันเวลาจะผ่านไปและทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมหวังว่าจะได้สนุกกับฟุตบอล, ครอบครัวของผมและทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผม'

'ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมได้รับในชีวิตส่วนตัวของผมและในส่วนของกีฬา ผมพยายามพัฒนาตัวเองทุกๆปีและพยายามทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ รางวัลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่น่าจดจำมาก แต่มันเป็นเรื่องรองเสมอ สิ่งสำคัญคือเป้าหมายของทีมและผมพยายามทำอย่างนั้นทุกปี, เตรียมตัวเพื่อต่อสู้เพื่อทุกอย่าง มีบางครั้งที่คุณสามารถทำได้และบางครั้งก็ไม่'

'มันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรของผม ซึ่งผมรักมากๆ การเป็นส่วนหนึ่งของทีมดีที่สุดในโลกและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสรนี้ สำหรับ บาร์เซโลน่า ที่มีความสำเร็จในระดับบุคคลเหมือนรางวัล บัลลง ดอร์ ในอดีตมีส่วนทำให้สโมสรยิ่งใหญ่มากขึ้น'

'ความจริงก็คือผมรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากสำหรับการรับรางวัลนี้ สำหรับความรักของผู้คนในบาร์เซโลน่า นี่เป็นวันพิเศษสำหรับทุกอย่างในความสำเร็จนี้ ผมมีความสุขมากและรอคอยที่จะสนุกกับครอบครัวผม'

'เราจะสนุกกับวันนี้, ทุกวันกับครอบครัวและจากนั้นค่อยคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันพรุ่งนี้เมื่อเราเสร็จสิ้นภารกิจและผมมีเวลาที่จะได้ชื่นชมรางวัลและความสำเร็จที่ผมได้รับ แต่วันนี้ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนคุณไม่มีเวลาสนุกกับมัน'

'มันเป็นรางวัลจากการทำงานและเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น แม้มันจะเป็นความจริงที่ว่าผมไม่จำเป็นต้องคว้าความสำเร็จส่วนตัวเพื่อเดินหน้าค้นหาเป้าหมายของทีมที่มีความสำคัญเหนือกว่า เราจะลองอีกหนึ่งปีอย่างที่เคยทำมาเสมอและหวังว่าเราจะโชคดี' 

ลิโอเนล เมสซี่ คว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'ปีนี้ ตามการปูดข่าวล่วงหน้าของ'มุนโด้เดปอร์ติโบ'ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อนหลังสื่อกีฬาแคว้นกาตาลุนย่ารายงานข่าวว่ามีตัวแทนของ'ฟร้องซ์ ฟุตบอล'ผู้ก่อตั้งรางวัลดังกล่าวเดินทางมานครบาร์เซโลน่าเพื่อแจ้งข่าวกับกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งกัปตันทีมอาซูลกราน่าได้คะแนนโหวตเบียดชนะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลด์ของ ลิเวอร์พูล เพียง 7 คะแนนเท่านั้น 

เมสซี่ ได้เสียงโหวตจากนักข่าวกีฬา 686 คะแนน โดยมีเสียงโหวตเลือก ฟาน ไดค์ 679 คะแนน ส่วนอีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์จากค่ายยูเวนตุสได้คะแนนโหวต 476 

นั่นมีผลทำให้ เมสซี่ กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่คว้ารางวัล'บัลลง ดอร์' 6 สมัย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงในเวอร์ชั่น'ฟีฟ่า บัลลง ดอร์'หลังการควบรวมกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าระหว่างปี 2010-2015 

ซุปตาร์อาร์เจนไตน์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015 และ 2019 หลังเคยคว้ารางวัลนี้ 5 ครั้งเท่า โรนัลโด้ ซึ่งได้ในปี 2008, 2013, 2014, 2016 กับ 2017 ทั้งคู่สลับกันคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'ตลอด 10 ปี ก่อน ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติโครเอเชียของ เรอัล มาดริด จะสอดแทรกขึ้นมาคว้ารางวัลดังกล่าวในปี 2018

นับจนถึงตอนนี้มีนักเตะเพียง 2 คนที่ยังค้าแข้งในปัจจุบันที่เคยสัมผัสรางวัล'บัลลง ดอร์'นั่นคือ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ซึ่งคงมีเพียงสองคนนี้ที่จะจารึกประวัติศาสตร์ประดับวงการลูกกหนังที่ฝ่ายแรกทำสำเร็จก่อน อย่างไรก็ตามซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยอมรับว่าอาจจะมีโคตรแข้งจุติขึ้นมาเพื่อทำลายสถิติของเขาในอนาคตก็เป็นได้

'ผมก็คิดแบบนั้นนะ แต่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่านักเตะคนนั้นจะเป็นใคร แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ สถิติถูกสร้างขึ้นมา จากนั้นก็มักจะถูกทำลายเสมอ แต่ผมไม่ทราบว่าจะมีการทำลายสถิติเมื่อไหร่โดยนักเตะคนใด แต่ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของสถิติ ผมมีความสุขจริงๆ' 

ส่วน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ภาคภูมิใจกับการคว้าอันดับ 2 หลังได้เสียงโหวตน้อยกว่า เมสซี่ เพียง 7 คะแนนเท่านั้น 'นี่เป็นปีมหัศจรรย์ของผม ผมทำได้ใกล้เคียงแล้วแต่โชคไม่ดีเพราะยังมีนักเตะ 2 ที่ค่อนข้างสุดยอด แต่ผมก็ภูมิใจมาก ผมเกือบทำสำเร็จ แต่มีอีกคนที่ดีกว่าเล็กน้อย ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมได้รับกับลิเวอร์พูลและทีมชาติฮอลแลนด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำได้อีกในซีซั่นนี้'

ฟาน ไดค์ เคยก้าวขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งของบ่อนรับพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษที่มองว่าแนวรับทีมชาติฮอลแลนด์มีโอกาสคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'ปีนี้เหนือกว่า เมสซี่ และ โรนัลโด้ ก่อนกองหน้าดาวดังชาวอาร์เจนไตน์จะปาดหน้าคว้ารางวัลดังกล่าวเป็นสมัยที่ 6 

สำหรับผลงานของ เมสซี่ ในปีปฏิทิน'บัลลง ดอร์'2019 กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กระทุ้ง 46 ประตูและทำอีก 18 แอสซิสต์ ในการเล่นกับ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติอาร์เจนตินา นับจากปี 2013 เมสซี่ ไม่เคยยิงได้น้อยกว่าปีละ 50 ประตู แต่ทีมอาซูลกราน่ายังมีโปรแกรมลงเล่นอีก 5 เกมในปีนี้ที่เขายังมีโอกาสทำสถิติที่น่าเหลือเชื่อของตนเองต่อไป 

นอกจากฝีเท้าและผลงานเลอเลิศแล้ว ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้ เมสซี่ สร้างประวัติศาสตร์ประดับวงการลูกหนังคือการนำ บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการคว้าโทรฟี่แชมป์ที่ 34 ตลอดอาชีพค้าแข้งของกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์และยังเป็นการคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงสมัยที่ 10 ด้วย 

เมสซี่ ยังนำทีมยักษ์กาตาลุนย่าผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงการนำทีมเลือดหมู-น้ำเงินทะยานเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ก่อนพลาดท่าพ่าย บาเลนเซีย 1-2 

ซุปตาร์อาร์เจนไตน์ยังคว้ารางวัล'เอล ปีชีชี่'หรือ ดาวซัลโวลีกเมืองกระทิงซีซั่นที่ผ่านมา หลังซัลโว 36 ประตูจากการลงเล่น 34 เกม ซึ่งเป็นการคว้ารางวัลดังกล่าวครั้งที่ 6 เทียบเท่า เตลโม่ ซาร์ร่า กองหน้าระดับตำนานของ แอธเลติก บิลเบา นอกจากจะเป็นดาวซัลโวสูงสุดแล้ว เมสซี่ ยังทำแอสซิสต์อีก 13 ครั้ง มากที่สุดเท่า ปาโบล ซาราเบีย ที่ยังค้าแข้งกับ เซบีย่า ณ ตอนนั้น 

รางวัลดาวซัลโวลีกายังต่อยอดไปจนถึงการคว้ารางวัล'โกลเด้น ชู'หรือ รางวัลดาวซัลโวสโมสรยุโรปครั้งที่ 6 เช่นเดียวกัน เขายังเป็นดาวซัลโวสูงสุดบนเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นที่ผ่านมาหลังกระทุ้ง 12 ประตู จากการลงเล่น 10 เกม หนึ่งในนั้นคือการยิงฟรีคิกในเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่ถูกเลือกเป็นประตูยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ด้วย 

คะแนนของรางวัล'บัลลง ดอร์'2019

1.ลิโอเนล เมสซี่ บาร์เซโลน่า 686

2.เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ลิเวอร์พูล 679

3.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยูเวนตุส 476

4.ซาดิโอ มาเน่ ลิเวอร์พูล 347

5.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลิเวอร์พูล 178

6.คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ เปแอสเช 89

7.อาลีสซง เบ็คเกอร์ ลิเวอร์พูล 67

8.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ บาเยิร์น มิวนิค 44

9.แบร์นาร์โด้ ซิลวา แมนฯซิตี้ 33

10.รียาด มาห์เรซ แมนฯซิตี้ 33

11.เฟรงกี้ เดอ ย็อง อาแจ็กซ์/บาร์เซโลน่า 31

12.ราฮีม สเตอร์ลิง แมนฯซิตี้ 30

13.เอแด็น อาซาร์ เชลซี/เรอัล มาดริด 25

14.เควิน เดอ บรอยน์ แมนฯซิตี้ 14

15.มัทไธส์ เดอ ลิกต์ อาแจ็กซ์/ยูเวนตุส 13

16.เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน แมนฯซิตี้ 12

17.โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลิเวอร์พูล 11

18.อองตวน กรีซมันน์ แอตเลติโก มาดริด/บาร์เซโลน่า 9

19.เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลิเวอร์พูล 8

20.ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง อาร์เซน่อล 5

20.ดูซาน ทาดิช อาแจ็กซ์ 5