แมน : สวัสดีครับพี่จี ผมขอถามพี่เรื่องแรกก่อนเลย อีวาน ดิมาส เป็นข่าวดังในอินโดเลยนะครับว่าจะมาอยู่กับ ชลบุรี จริงๆ แล้วเป็นยังไงพี่ 

พี่จี : โอ้โหแมน เอาล่ะ จริงๆ พี่ไม่อยากบอกข่าวอะไรที่มันยังไม่เป็นออฟฟิเชียลนะ เพราะมันจะมีผลกระทบหลายอย่าง บางคนที่เรากำลังคุยอยู่อาจจะถูกทีมที่รวยกว่าชิงตัดหน้าไปได้ อันนี้เข้าใจพี่เนอะ แต่สำหรับ อีวาน ดิมาส พี่คงต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงครับ ที่เราติดต่อและยื่นข้อเสนอให้เขา แต่ว่าตอนนี้เราคงไม่ได้เซ็นสัญญากับเขาแล้วล่ะ

แมน : ทำไมงั้นล่ะพี่ 

พี่จี : ก็อาจจะเพราะมีข่าวออกมาก่อนว่าเขากำลังจะย้ายทีม ทีมอื่นก็เลยเข้ามาสู้ด้วย เอเยนต์เขามาบอกเราว่า มีทีมมหาเศรษฐีของมาเลเซีย (เซลังงอ) ทุ่มค่าเหนื่อยให้มากกว่าเราเยอะเลย เราจะสู้มั้ย ซึ่งเราก็สู้ไม่ไหวจริงๆ เพราะอย่างที่คงจะทราบ ทีมเรามีเพดานค่าเหนื่อยที่ชัดเจนอยู่แล้ว และนโยบายของทีมเราก็คงไม่ใช่การทุ่มเงินเพื่อจ้างนักเตะเพียงคนเดียว เราต้องบริหารทีมเพื่อให้ทีมอยู่รอดได้อย่างมั่นคงมากกว่า

แมน : อย่างนี้โควตาอาเซียนที่ไทยลีกจะเพิ่มให้ในฤดูกาลหน้า ชลบุรี จะยังต้องการอยู่มั้ยครับ และมีเป้าหมายเป็นชาติไหนตำแหน่งไหน

พี่จี : แน่นอนครับว่าการที่ ไทยลีกมีการเพิ่มโควตาต่างชาติเป็น 3+1+1 ทุกทีมย่อมต้องขยับตัว แต่ละทีมก็จะมองโควตาอาเซียนต่างกัน บางทีมอาจจะมองว่าเป็นผู้เล่นที่เพิ่มศักยภาพให้ทีมได้ หรือบางทีมก็อาจจะมองว่าเป็นการสร้างฐานแฟนบอลใหม่ๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับโควตาอาเซียน เราก็ยังมองหาอยู่ น่าจะเป็นตำแหน่งกองกลางมากกว่า เพราะกองหน้าหรือกองหลังเราคงจะเน้นไปที่ตัวต่างชาติหรือตัวเอเชีย ตอนนี้เรามีคอนเน็คชั่นที่ดีกับ อินโดนีเซีย หนึ่งคือเราเคยมีนักเตะอินโดอย่าง อิร์ฟาน บัชดิม ซึ่งเขาก็มีความขยันทุ่มเทและมีวินัยที่ดี อีกทั้งตอนที่เรามีเขาในทีม ก็มีแฟนบอลอินโดมากดไลค์แฟนเพจของสโมสรหลายแสนคนเหมือนกัน ตอนนี้ บัชดิม เองก็คอยช่วยแนะนำนักเตะให้เราอยู่ว่าคนไหนน่าสนใจ

แมน : ทำไมถึงมองไปที่ อีวาน ดิมาส เป็นเป้าหมายแรกครับ ไม่สนใจพวก อ่อง ทู, จอ โก โก หรือ จัน วัฒนากา หรือพวกนักเตะฟิลิปปินส์ลูกครึ่งบ้างครับ

พี่จี : เราต้องการนักเตะที่มีศักยภาพและราคาจับต้องได้ ดิมาส ก็เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่อายุยังน้อยและมีประสบการณ์ เคยไปทดสอบฝีเท้าในสเปนมาแล้ว (ญากอสเตร่า, เอสปันญอล เบ) ซึ่ง ดิมาส เขาก็อยากมาอยู่กับเรานะ เขายังพยายามขอให้เราเพิ่มค่าเหนื่อยให้เขาหน่อย แต่เราสู้ทีมของมาเลเซียไม่ไหวจริงๆ อีกอย่างต้องยอมรับว่าสตาร์ทีมชาติในอาเซียนหลายๆ คน ค่าเหนื่อยที่เขาได้รับมันสูงมาก เราเลยต้องมองหาคนที่ไม่ได้แพงขนาดนั้น ถ้าเป็น มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ จะแพงมาก แต่จากคอนเน็คชั่นที่เรามีกับทาง อินโดนีเซีย ก็พอรู้แล้วว่าเราน่าจะพอสู้ไหว

แมน : วันก่อนผมคุยกับโค้ชเฮง แกบอกว่านักเตะต่างชาติของทีมในซีซั่นนี้ ควรจะถูกโละออกทั้งหมด

พี่จี : โอ้ว ก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้นนะ พี่เฮงแกอาจจะพูดด้วยความรู้สึกในตอนนั้นหรือเปล่า

แมน : แกพูดหลังเกมที่แพ้ สุโขทัย น่ะครับว่าถ้าเล่นได้แค่นั่้นก็จะให้เปลี่ยนหมด

พี่จี : อืมใช่ นัดนั้นเราเล่นกันแย่มาก แต่เดี๋ยวพอจบฤดูกาลทางบอร์ดก็จะมีการประชุมสรุปผลงานประจำปีกันอีกทีครับ

แมน : ปรินซ์ อัมพองซ่า คนนี้เด็กปั้นของพี่เฮงเลย น่าจะได้อยู่ต่ออยู่แล้วใช่มั้ยพี่

พี่จี : สำหรับ ปรินซ์ พี่ก็ตอบได้เลยว่าอยู่ต่อแน่นอนครับ 

แมน : แล้วนักเตะไทยล่ะครับ วางแผนไว้ยังไงบ้าง ตัวเก๋าๆ อย่างพิภพ อ่อนโม้ จะยังเล่นอยู่มั้ย หรือจะไปเป็นผู้ช่วยโค้ช

พี่จี : นักเตะไทยที่เราปล่อยให้ทีมอื่นยืมก็จะกลับมารายงานตัวทั้งหมดครับ สโมสรชลบุรี มีนโยบายคือการให้โอกาสเด็กที่เราสร้างขึ้นมาได้ลงเล่นมากที่สุด พวกที่ขึ้นมาจากอคาเดมี่ในปีนี้ก็จะขึ้นมาเป็นตัวหลักอย่างเจ้ายิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ), เจ้าแระ (กฤษดา กาแมน), เจ้าแจ๊บ (สหรัฐ สนธิสวัสดิ์) และก็คนอื่นๆ ด้วย ตัวที่ปล่อยยืมไปให้ ไทยฮอนด้า อย่าง ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์  ก็ต้องมาดูกันว่าขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้มั้ย การเสริมนักเตะไทยก็ต้องมีแน่นอนครับแต่พี่ยังบอกอะไรไม่ได้ ส่วน พิภพ ก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่างนะ เพราะ โม้ เองเขาก็ไปอบรมโค้ชมาบ้างแล้ว 

แมน : น้าเทิดล่ะ จะยังได้คุมทีมต่อไปมั้ยครับ

พี่จี : ก็เหมือนกันแหละ ต้องรอจบฤดูกาลแล้วให้บอร์ดบริหารประเมินกันอีกที ว่าสมควรจะให้ เทิดศักดิ์ คุมต่อไปหรือไม่ แต่เอาจริงๆ ถ้าดูจากงบประมาณของสโมสร อันดับที่เราทำได้ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่นะ 

แมน : เรื่องงบประมาณของทีมยังเป็นปัญหามั้ยครับ ผมเคยเห็นข่าวว่า ชลบุรี มีตัวเลขเป็นหนี้อยู่หลายสิบล้านบาทเลย มันจะมีผลต่อการวางแผนและเป้าหมายในฤดูกาลต่อไปมั้ย

พี่จี : ต้องเรียนให้ทราบอย่างนี้ก่อนว่า นโยบายของชลบุรีในแต่ละปี มันแปรผันตามตัวเลขงบประมาณจากสปอนเซอร์ที่เราได้รับ เอาจริงๆ คนทำทีมก็ต้องการได้แชมป์ แต่เมื่อเทียบกับทีมที่เขาลุ้นแชมป์กัน เขาทุ่มไปเยอะมาก เราไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นแชมป์ให้ได้ขนาดนั้น แต่พอได้เห็นว่าเด็กที่เราสร้างขึ้นมาได้เล่นในไทยลีกและมีคุณภาพ ก็ถือว่าเราบรรลุผลสำเร็จพอสมควร โชคไม่ดีอย่างนึงที่เด็กที่เราปั้นมันขาดช่วงไปเจเนอเรชั่นนึง คือจากรุ่นก้อง (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์) มา นูรูล (ศรียานเก็ม) แล้วก็หายไปพักใหญ่ กว่าจะมาถึงรุ่นเจ้ายิม, เจ้าแจ๊บ, เจ้าย้า เนี่ยแหละ เราเลยต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้เด็กเหล่านี้มีประสบการณ์มากพอก่อน

แมน : พูดถึงยิม ช่วงท้ายฤดูกาล ดูเหมือนจะมีความมั่นใจมากขึ้นแล้วนะครับ นัดที่แล้วก็ยิงไป 2 ประตูเลย ปีหน้าจะยังอยู่ชลบุรีแน่มั้ย หรือจะไปเล่นที่ญี่ปุ่น

พี่จี : ก็ยังมีข้อเสนอจากที่ญี่ปุ่นเข้ามาเรื่อยๆ นะ แต่ก่อนอื่นถ้าไม่ปล่อยไปไหน ยิม ก็จะเป็นตัวหลักของ ชลบุรี แน่นอน ตอนนี้เขามั่นใจขึ้นเพราะได้เล่นกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันอย่าง แจ๊บ หรือ แระ คือปัญหาของยิมก็เป็นปัญหาของเด็กไทยส่วนใหญ่ นอกจากความกระตือรือล้น ก็คือเรื่องความเกรงใจรุ่นพี่ เวลาลงเล่นไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าขอบอล ไม่กล้าโวย แต่พอเล่นกับรุ่นเดียวกันมันจะกล้าปล่อยของเต็มที่มากกว่า ถ้าเขาได้ลงเล่นเรื่อยๆ และกล้าเล่นมากขึ้น เขาจะทำได้ดีแน่นอน

แมน : ตอนไปคัดที่ญี่ปุ่นก็เจอตำหนิเรื่องนี้นะพี่ แล้วทางชลบุรี คิดว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ยิมหรือคนอื่นๆ ได้มั้ย

พี่จี : ทุกคนก็พยายามช่วยพยายามบอกนะ ดูอย่าง เดเล่ อัลลี่ ดิ มันสนใจใครที่ไหน รุ่นพี่ก็มาเถอะ กล้าโชว์กล้าเล่นไม่สนใจรุ่นพี่รุ่นน้องเลย แต่พี่ว่าปีหน้าเด็กๆ รุ่นใกล้เคียงกันขึ้นมาเยอะๆ ยิมน่าจะกล้าเล่นในแบบของตัวเองมากยิ่งขึ้น

แมน : เห็นพี่เฮงเล่าให้ผมฟังว่า จะมีเด็กของชลบุรี ไปทดสอบฝีเท้ากับทีมในญี่ปุ่นหลายคนในช่วงเดือนธันวาคม มีใครบ้างเปิดเผยได้มั้ย

พี่จี : ก็จะมีเจ้าแระ (กฤษดา กาแมน) เจ้าแจ๊บ (สหรัฐ สนธิสวัสดิ์) แล้วก็อีกหลายคนเลย ทั้งในรุ่นพวกนี้และเด็กกว่านี้ครับ

แมน : แล้วย้า (สิทธิโชค ภาโส) ล่ะพี่ เห็นว่าสัปดาห์หน้า คาโงชิมะ ยูไนเต็ด จะเข้ามาขอยื่นซื้อขาด ชลบุรีจะตัดสินใจยังไง เห็นพี่เฮงบอกว่าไม่ขาย และมองว่าพฤติกรรมของ คาโงชิมะ ดูไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ และพี่เฮงยืนยันอีกด้วยว่าจะไม่ขายเด็กปั้นของเขาให้ใครทั้งนั้น ถ้าใครอยากได้จะแค่ให้ยืม

พี่จี : ใช่ครับ คือเขามาขอซื้อหลายครั้งแล้วล่ะ แต่ชลบุรี ก็ยืนยันว่าไม่ขาย แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นว่าจะไม่มีทางขายใคร คือต้องมาดูข้อเสนอกันด้วยแหละ บอร์ดบริหารก็จะตัดสินใจกันว่าจะทำยังไงกับข้อเสนอ เรื่องคาโงชิมะ พี่เห็นด้วยนะ เพราะเรามองว่าการปฏิบัติของสโมสรต่อเจ้าย้าก็ไม่น่าพอใจเท่าไหร่ ชมว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้่ตลอดแต่ก็ไม่ให้เล่น เหมือนเป็นการทำให้ด้อยค่าแต่ดันอยากขอซื้อ จริงๆ ตอนนี้มี 2 ทีมในญี่ปุ่นนะ ทั้งเจ2 และ เจ3 ที่ต้องการได้ตัวย้าไป 

แมน : ข่าว นูรูล ศรียานเก็ม ละพี่ เห็นว่าเป็นข่าวจากพี่เองเลยที่ว่า บุรีรัมย์ ยื่นข้อเสนอเข้ามา จะย้ายมั้ยหรือจะไปเกาหลี ไปเอฟซี โซล

พี่จี : 555 ก็สำหรับ นูรูล พี่ยอมรับว่ามีข้อเสนอเข้ามาจริงๆ ทั้งหมดจาก 4 สโมสรครับ เป็นทีมยักษ์ใหญ่ของไทย 3 ทีมซึ่งพี่ขอไม่เปิดเผยชื่อ และอีกหนึ่งทีมต่างชาติก็คือ เอฟซี โซล นั่นแหละ เกมล่าสุดเขาส่งเจ้าหน้าที่มาสเกาต์ที่สนามด้วยนะ ส่วนที่ว่าจะย้ายหรือไม่นั้นก็ต้องมาดูข้อเสนอกันก่อน แต่ป้ัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งก็คือเราจะหาคนมาแทน นูรูล ได้มั้ย สไตล์อย่าง นูรูล หาในเมืองไทยยากนะ นูรูล นี่คือตัวอย่างที่ดีที่น้องๆ ในทีมต้องดูเป็นตัวอย่าง คือความกล้าเล่น กล้าทำในสไตล์ของตัวเอง ไม่กลัวไม่ติดเกรงใจใครเล่นได้หมดกับทั้งตัวไทยและต่างชาติ ซึ่งการหาคนมาแทนเขาเนี่ย มันยากจริงๆ 

แมน : เดี๋ยวจบซีซั่น ชลบุรี มีแผนจัดทัวร์ปรีซีซั่นที่ต่างประเทศ หรือจัดทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องอะไรไว้หรือยังครับ

พี่จี : มีแล้วนะ ตอนนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างใกล้ได้ข้อสรุปหมดแล้วแหละ แต่อันนี้พี่ขอยังไม่เปิดเผยดีกว่า เพราะต้องให้เกียรติทีมที่เป็นเจ้าภาพเขาเป็นคนออกข่าวก่อนครับ

แมน : โอเคครับพี่ วันนี้ขอรบกวนเท่านี้ครับ ขอบคุณนะครับ

พี่จี : ยินดีครับแมน