:::     :::

ซื้อในเพื่อเติมขาด ซื้อนอกชาติเพื่อเสริมแกร่ง

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
8,494
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตลาดนักเตะมกราคมใกล้จะเปิดแล้ว และสภาวะปัจจุบันของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ในระยะเร่งด่วนที่จำเป็นต้องซื้อนักเตะมาเพื่อเสริมตำแหน่งที่ขาดตัวหลักอย่างมากโดยเฉพาะแดนกลาง ดังนั้นการจะเลือกซื้อนักเตะสำคัญเช่นนี้จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบและเข้าเป้าอย่างถึงที่สุด

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวที่ดูเหมือนจะเป็นอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะเข้ามาถึงเรื่อยๆแล้วสำหรับ"ตลาดซื้อขายนักเตะ"ที่จะเปิดช่วงสั้นๆเดือนมกราคมนี้ซึ่งถือว่า มันเป็นเรื่องที่สำคัญกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากๆในฤดูกาล 2019/20 อย่างที่เราทราบกันดีว่า เนื่องจากขั้นตอนการทำงานในด้านที่เป็นการล้างไพ่นักเตะเพื่อสร้างทีมใหม่ขึ้นมาในยุคของโอเล่นั้นเป็นการล้างแบบหมดจดทันทีจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ความผิดพลาดจากบอร์ดบริหารในส่วนของการซื้อขายนักเตะนั้น ไม่ได้มีการ "นำเข้าตัวแทน" ของนักเตะที่เราปล่อยออกไปเหล่านั้นเข้ามาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสียมารูยาน เฟลไลนี่ และ อังเดร เอเรร่า ออกไป(แหมไม่ได้เขียนถึงสองชื่อนี้นานแล้ว)

ตัวแทนของสองคนนี้ไม่มี แต่เรากลับต้องลุยฤดูกาลนี้ต่อไปด้วยกองกลางที่มีอย่างจำกัดจำเขี่ย แถมครึ่งหนึ่งในนั้น(2จาก4ตัว)ก็พากันเจ็บไปเสียอีกนั่นก็คือ ป็อกบา กับ มาติช ที่เจ็บกันตั้งแต่นัดแรกๆของฤดูกาล ยาวมาจนถึงตอนนี้ธันวาคมก็ยังไม่ได้กลับมาลงซ้อมเลยสำหรับรายของป็อกบา มาติชเองก็ฝีเท้าหายและดร็อปลงไปมากจนน่าใจหาย ก็ตามกาลเวลาแหละครับ นักเตะประเภทที่ซื้อมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากยุคมู ก็แก้เฉพาะหน้าจริงๆปีเดียว หลังจากนั้นมาฟอร์มก็รูดมหาราชลงเรื่อยๆอย่างที่เราทราบกันจนตอนนี้แทบจะไม่มีบทบาทอะไรในทีมแล้ว แถมยังมีข่าวร่ำร้องงอแงเล็กน้อยด้วย


สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อย่างที่เห็นกัน เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์ คือแกนกลางของทีมสองคนที่แบกทีมมาแทบจะทั้งซีซั่นนี้กันอยู่สองคนชนิดห้ามเจ็บห้ามตายไม่ว่าคนใดคนหนึ่ง เพราะนี่คือสองคนสุดท้ายที่ดีที่สุดเท่าที่เรามี และทันทีที่มีใครคนหนึ่งหายไป นั่นแปลว่ามิดฟิลด์ขนานแท้จะเหลือในทีมแค่คนเดียวเท่านั้นเองอย่างสถานการณ์ล่าสุดที่เป็นมา เฟร็ด คือซามูไรคนสุดท้ายของโอเล่ ที่โชคยังดีไม่กลายเป็นโอเด้ง เพราะตบมูกับเป๊ปเด้งแทน!

และคนที่มาแทนแม็คโทมิเนย์อยู่หลายนัดนั่นก็คืออันเดรส เปเรร่า ซึ่งก็ไม่สามารถเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางให้ทีมเราได้จริงๆจากผลงานี่โคตรย่ำแย่และสร้างความบรรลัยให้กับทีมจนน่าเกลียดตลอดทั้งเกม ครองบอลก็ไม่ได้ คุมจังหวะเกมก็ไม่มี และเสียบอลจนทีมลำบากตลอดเวลา ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงถือว่าแผลใหญ่พอควรสำหรับเรื่องแดนกลาง หากมีใครเจ็บขึ้นมาสักคนนึงนี่คือลำบากแน่ๆ เพราะตอนนี้ต้องบอกว่า คู่หู แม็ค-เฟร็ด เป็นคอมบิเนชั่นที่พอดีและลงตัวที่สุดแล้วในชั่วโมงนีชนิดที่เรียกว่า ถึงป็อกบาจะหายเจ็บสมบูรณ์พร้อมกลับมา ป็อกก็ไม่ดีพอจะมาแย่งตำแหน่งกองกลางสองตัวในสูตร 4-2-3-1 ของโอเล่ได้ เพราะผมชอบการเล่นของเฟร็ดแม็คมากกว่าตอนป็อกคุมกลางเสียอีก

ทางเดียวที่ป็อกจะลงได้ก็คือโยกดันสูงขึ้นไปยืนAMCที่ทีมเราขาดนั่นเอง

Jlingz : พี่เอาจริงเหรอ พี่ไปตำแหน่งอื่นเถอะอย่าแย่งพวกผมเลย / Gomes : ไอสัส ลงก็ไม่ได้ลงยังจะมีคนย้ายมาแย่งตำแหน่งอีก

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะเห็นว่า "กองกลาง" หรือมิดฟิลด์ของเรานั้นก็มีปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงๆเพราะอย่างน้อยๆก็ต้องมีเข้ามาสองตัวเพื่อทดแทนการหายไปของพี่ฟูกับพี่น้อยนั่นเองในฐานะ CMอีกหนึ่งตัว และ DMมิดฟิลด์ตัวรับอีกหนึ่งตัวในแบบที่เฟลไลนี่เคยทำได้ดีในการยืนหลังป็อกบา .. นี่คือในกรณีของกองกลางอย่างเดียวนะที่ขาดด้านปริมาณเพราะตอนนี้มีใช้จริงๆน้อยมาก

ส่วนอื่นตอนนี้ที่เห็นว่าเป็นปัญหากันมากๆนั่นก็คือ "กลางรุก" อย่างที่เราทราบและโหยหากันว่า มิดฟิลด์ตัวรุกของเราตอนนี้มีเต็มทีมไปหมดชนิดแทบจะเดินเหยียบกันตาย ไม่ว่าจะเป็น เจสซี่ ลินการ์ด / อันเดรส เปเรร่า / ฆวน มาต้า / แองเจล โกเมส แต่ถามว่า 4คนนี้ผลิตผลงานอะไรให้กับทีมเราได้ดีพอหรือยัง ขออภัยที่ต้องพูดตรงๆว่าผลงานไม่เข้าเป้ากันทั้ง4เลย ต่ำกว่าที่ต้องการไปเยอะด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสองรายที่เป็น"ลูกรัก"ของโอดิน(ฮา)อย่างที่เรารู้กันในคอลัมน์ดีว่าเป็นใครบ้าง แน่นอน ลินการ์ดกับเปเรร่า สองนักเตะจากทีมเยาวชนของเรานั้นไม่ดีพอที่จะเป็นตัวจริงให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผลงานก็อย่างที่เห็นกันว่าการสร้างสรรค์เกมรุกแทบจะไม่มีจากพวกเขาเลยทั้งการจ่ายที่สำคัญๆ หรือการทะลวงตาข่ายด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มพลังการรุกให้กับทีม  ตอนนี้AMCแมนยูเหมือนเป็นตำแหน่งโบ๋ที่สร้างimpactอะไรให้เกมไม่ได้เลย

ดังนั้นตำแหน่งนี้ก็จึงเหมือนเป็นเคสที่เป็นอินเวิร์สของกองกลาง ก็คือ มีแต่ปริมาณ แต่ขาดคุณภาพ

ทำไมพี่รวมชื่อผมไปด้วยละครับนี่ ไหนเขียนอวยบ่อยๆว่าชอบๆ อยากให้โกเมสลง T___T

ย้อนกลับมาที่เรื่องแรก ประเด็นของการซื้อขายในช่วงมกราคมนี้ ผมจึงถือว่านี่จะเป็นตัวตัดสินภาพรวมของฤดูกาล2019/20 ได้เลยว่า เราจะประสบความสำเร็จตามโกลที่หวังเอาไว้ในช่วงจบซีซั่นนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า มกราคมนี้ ทีมเราจะสามารถ "เสริมทัพนักเตะ" กันได้หรือไม่มากน้อยเพียงใด เพราะมันเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆที่ตอนนี้เรา ไม่มีกองกลางตัวเปลี่ยนให้กับ เฟร็ด แม็ค เลย ในขณะที่ มิดฟิลด์ตัวรุกก็เป็นปัญหาไร้ประสิทธิภาพการเล่นอย่างแท้จริง ซึ่งก็น่ากลัวอีกว่า ผู้จัดการทีมโลกสวยคนดีคนเดิมของพวกเราจะเห็นว่า มันไม่เป็นปัญหาหรือไม่ "เพราะในส่วนของลินการ์ดกับเปเรร่านั้น น้องก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ" (โอเล่ได้กล่าวเอาไว้แบบนี้จริงๆ)

มันช่างน่ากลัวเหลืิอเกินประโยคนี้!!!

เปเรร่า & ลินการ์ด ณ ดินแดนแอสการ์ด

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราจำเป็นต้องลงตลาดนักเตะให้เร็วที่สุดเพราะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้นไปลงน้ำหนักที่แผงหลังซะเยอะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดี แถมได้ปีกตัวหลักมาอีกคนนึงนี่ถือว่าตลาดรอบที่แล้วประสบความสำเร็จมาก ดังนั้นเป็นไปได้ที่มกรานี้เราอาจจะแก้ปัญหาได้ถูกจุด และได้ตัวนักเตะที่ดีๆมาเข้าทีมอีก เอาจริงๆแล้วก็ไม่เฟลตั้งแต่การได้ "เฟร็ด" มาแล้วนะเพราะตอนนี้เขาพิสูจน์ตัวเองจนแฟนผีรักเฟร็ดกันทั้งโลกแล้ว

ดังนั้นเรื่องสำคัญเรื่องนึงที่ตอนนี้เชื่อว่า ทีมงานscoutกับทีมซื้อขายคงเตรียมตัวเดินเรื่องและกำลังไปจัดการเดินหน้าดีลกันหลังฉากบ้างแล้วเรียบร้อยสำหรับการเสริมทัพช่วงมกราคมนี้ เพราะมีsignอะไรบางอย่างจากทางฝั่งนักเตะเป้าหมายของเราเหมือนกันว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดถ้าอะไรๆไม่เลวร้ายเกินไป(นั่นคือการที่บอร์ดอนุมัติงบเสริมทัพนั่นแหละ)  ปีใหม่นี้แมนยูไนเต็ดน่าจะได้ตัวเข้ามาเสริมทีม"อย่างน้อยๆ" 1คนแน่นอนในตำแหน่งกองกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลางตัวคุมเกม หรือกลางรุกก็ตามที เพราะเป็นตำแหน่งที่เราขาดกันอยู่จริงๆโอเล่ก็คงจะเห็นแล้วจากการที่เขานำเอาเปเรร่ามายืนกลางแทนนั้น นั่นคือการหมุนเวียนโยกตำแหน่งการเล่นของนักเตะเพื่อทดแทนที่ขาดในยามจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด

โอเล่รู้แน่ๆว่ากลางเราขาดอยู่ ไม่ต้องกลัว

เปเรร่า : น้ารบกวนสมาธิผม ตะโกนด่า ค*ยๆ อะไรผมอยู่ได้ / โอเล่ : กุไม่ได้ด่าค*ย กุตะโกนบอกว่า คาย คาย คายบอลโว้ย!!!!

เกริ่นมาให้เห็นถึงความสำคัญเช่นนี้แล้ว สิ่งที่ผมเขียนมายืดยาวผู้อ่านจะเห็นได้ว่า มันมีเรื่องๆหนึ่งที่เน้นย้ำให้ฟังกันหลายรอบเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ทีมของเราตอนนี้อยู่ในสภาพที่ "ขาดนักเตะ" กันจริงๆ นั่นก็คือ CM คอยคุมเกม กับ AMC กลางรุกที่จะเชื่อมเกมให้กับแนวรุกบอยแบนด์ "MRD" (หมากแรชแดน)ของทีมเรา

ขอย้ำว่า ตอนนี้ เรากำลังอยู่ในสภาวะที่ต้องเสริมทัพเพราะขาดนักเตะอยู่

ดังนั้นเมื่อขาดมันแปลว่า เราอยู่ในช่วงที่จำเป็นต้องหาตัวที่ซื้อมาเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดที่ว่านี้ให้เติมเต็ม ดังนั้นนักเตะที่จะมาตรงนี้นั้นจำเป็นที่จะต้องซื้อตัวทีเด็ด99ที่เรียกว่าตัวจั๋งๆ เป้งๆมาเลยหนึ่งตัวเพื่อที่จะมา "ยืนเป็นตัวหลัก" ให้ทีมเลยจริงๆ คำว่าตัวหลักก็คือตัวจริงประจำตำแหน่งนั้นเลยนั่นแหละเหมือนเคสของ แมกไกวร์ บิสซาก้า เจมส์   เราจำเป็นต้องซื้อตัวแบบสามคนนี้มาให้ได้อีกอย่างน้อยๆ1ตัวอย่างต่ำในมกราคมนี้ เพราะตอนนี้กลางโบ๋อยู่มากจริงๆ


การขาดเช่นนี้เราจำเป็นต้องเสริมทัพด้วยตัวที่เก่งจริงๆเลยตัวนึงเข้ามาเป็นหลักให้ทีมเพราะทีมอยู่ในสภาวะขาด ดังนั้นการเลือกซื้อนักเตะที่ว่านี้นั้นจำเป็นที่จะต้องมี"ความแน่นอน"อยู่พอสมควรว่า นักเตะที่ว่านี้นั้นซื้อเข้ามาแล้วสามารถคาดหวังและฝากผีฝากไข้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องลุ้นหรือมีความเสี่ยงใดๆมากนักในการมาลงเล่นเข้ากับทีมเราทันที

เพื่อที่จะป้องกันความเสี่ยงที่ว่านี้นั้น การซื้อนักเตะเพื่อการนี้ส่วนนึงควรจะทำการ "ซื้อใน" อย่างที่กล่าวเอาไว้ในหัวบทความว่า ซื้อในเพื่อเติมขาด ซึ่งในที่ว่านี้มันคือการ "ซื้อนักเตะภายในลีกประเทศเรา" นั่นเอง

การซื้อตัวในลีกที่เล่นอยู่แล้วนั้นหลายๆอย่างที่เป็นเรื่องดีก็คือ ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นhomesick/culture shock เรื่องของภาษา บ้านที่อยู่อาศัย ครอบครัว สภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องทั่วๆไป  และยังเป็นเรื่องของแนวทางสไตล์การเล่นของทีมบนเกาะอังกฤษด้วยก็ตามที่นักเตะจะคุ้นเคยอยู่แล้วว่า จะต้องเล่นด้วยสไตล์ไหน สปีดระดับไหน ถึงจะอยู่รอดในลีกนี้

AWB : "Homesick"อะไรไม่มงไม่มีเว้ย ไม่ต้องปรับตัว มีแต่จะ "เสียบให้แมร่งsick"ต่างหาก!!!

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การซื้อตัวในลีกนั้นมันจึงมักจะเป็นประเภทที่ว่า "นักเตะพร้อมใช้" ซื้อมาแล้วเอาลงสนามเข้ากับทีมได้เลยทันที เหมือนอย่างที่เราเห็นกันแล้วว่า แมกไกวร์เองที่ไม่มีเวลาเตรียมตัวกับทีมเลยนั้นก็ซื้อมาแล้วลงตัวจริงเลยอย่างที่เห็นกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นข้อดีของการเลือกสอยตัวนักเตะในลีกเราเองนี่แหละ ที่จะลดความเสี่ยงของฟอร์มการเล่นได้ และสามารถเข้ากับทีมได้เลยทันทีในยามที่ยูไนเต็ดจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องใช้งานนักเตะกองกลางมาลงสนามเลยเช่นนี้

ซื้อในเพื่อเติมขาด

ในกรณีคล้ายๆกันแบบนี้ เราได้เห็นแล้วจากกรณีของแมกไกวร์ บิสซาก้า และเจมส์ แต่ในขณะเดียวกันหากจะย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ที่ SAF ได้สร้างมานั้น เคสของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี คือกรณีที่ชัดเจนมากๆที่เรากำลังขาดกองหน้าตัวจบสกอร์เพื่อเสริมคม และไม่ใช่ทีมที่ไหนไกลๆ ชิงตัวแม่งมาจากอาร์เซนอลนี่ละ(ฮา)ถูกจุดสุดๆ และพี่บิ้นRVPก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เมื่อย้ายเข้ามาแล้วเข้ากันกับเพื่อนอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ยโดยเฉพาะคู่หูแฟทแมน&โรบิ้นอย่าง Rooney ที่มาเล่นด้วยกันรู้ใจกันเหมือนอยู่ทีมเดียวกันมาเป็นสิบปีแล้ว

เห็นภาพนี้แล้วน้ำตาจะไหลว่ะ

นั่นคืออีกเคสที่ทำให้เราเห็นว่า การซื้อจุดที่ขาดมานั้น มันจำเป็นที่จะต้อง"ลดทอนปัจจัยเสี่ยง"พอสมควรด้วยการเลือกตัวนักเตะที่เซฟเข้ามาเพื่อแก้"จุดที่ขาด"ให้กับทีมทันที จึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ดีกว่าไปเลือกตัวที่ไม่มีประสบการณ์กับลีกอังกฤษมา และต้องเสี่ยงทั้งเรื่องสไตล์การเล่น และการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมอีกต่างหาก

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่มีเวลาสำหรับมาลองผิดลองถูกอีกต่อไปแล้ว นี่คือในเคสที่เราต้องซื้อมาเพื่ออุดตำแหน่งขาด

ส่วนในกรณีของ "ซื้อนอกชาติเพื่อเสริมแกร่ง" นั้น ความหมายของมันก็คือ การเลือกซื้อตัวนอกลีก ไม่ว่าจะเป็นจากบุนเดส เซเรียอา ลาลีกา หรือลีกเอิงฝรั่งเศส ลีกเอเรอดีวีซี่ของเนเธอร์แลนด์ นักเตะที่ไม่ได้เคยมาอยู่อังกฤษ และไม่เคยมาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกหรือระดับล่างกว่านั้น  การซื้อตัวนอกลีกนั้นแมนยูไนเต็ดจึงควรที่จะต้องมองผ่านไปก่อนช่วงตลาดนี้ เพราะตอนนี้อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ทีมเราอยู่ใน"สภาวะขาดนักเตะ" เราจึงจำเป็นต้องนำตัวในลีกมายืนเป็นตัวหลักแบบชัวร์ๆให้ได้ก่อน ส่วนการจะซื้อตัวนอกลีกที่น่าสนใจเหล่านี้เข้ามานั้น ควรจะต้องเป็นเคสสภาวะที่ไม่เร่งด่วน และทำเพื่อการ "เสริมความแข็งแกร่ง" ที่ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

ยกตัวอย่างที่ง่ายสุดๆเคสนึงนั่นก็คือ เรื่องราวของ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน นั่นคือการซื้อของเซอร์อเล็กซ์ในแง่ของการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมที่เป็นปึกแผ่นอยู่แล้วเพราะเรามีนักเตะชุดทริปเปิ้ลแชมป์อยู่โยงกันเต็มทีมโดยเฉพาะเหล่าClass of 92' อย่างที่ทราบกัน และกองกลางเองก็มีทั้งรอยคีน สโคลส์ นิคกี้บัตต์อยู่แล้วซึ่งในสมัยนั้น ยูไนเต็ดเองก็ไม่ได้เล่นสูตรที่ใช้ตำแหน่ง AMC เลยเพราะยังคงเป็น 4-4-2 classic เป็นหลักอยู่

เชื่อว่าแฟนผียังคงจำความตื่นเต้นตอนที่เวรอนจะย้ายเข้าทีมเราอยู่ตอนนั้น แม่งสุดยอดมากจริงๆบรรยากาศ

แต่สิ่งที่ป๋าทำนั้นคือการเสริมแกร่งเพื่อที่จะสร้างแนวทางใหม่ๆให้กับทีม เพื่อหา"option"ในการเลือกใช้ให้กับทีมเพิ่มเติมเท่านั้น ดังนั้นนี่คือการเสริมแกร่ง ที่แม้ว่าจะเสริมแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ดังที่ต้องการ หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าไม่เวิร์คนั้น ก็ยังถือว่า ไม่เสียหาย และไม่เป็นไรสักเท่าใดนัก เพราะเรามีนักเตะทีมหลักอยู่ หากตัวใหม่ที่ลองซื้อมา "เสี่ยง" ใช้ดูแล้วมันดีกว่าตัวเก่า ก็แค่ยึดตำแหน่งแทนตัวเก่าเท่านั้น แต่ถ้ามันไม่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งาน และปล่อยตัวภายหลังก็ได้เหมือนอย่างเคสที่เวรอนเป็น ก็คือการลองซื้อเข้ามาใช้ และสุดท้ายเมื่อมันไม่เวิร์ค ป๋าก็ต้องหันกลับมาหากองกลางเสริมทีมคนอื่นๆในลีกต่อไป ซึ่งสุดท้ายแล้วภายหลังเราก็ได้ "ไมเคิล คาร์ริค" ที่เป็นตัวหลักชนิดซื้อมาแล้วคุ้มไปตลอดชาติจนกระทั่งบัดนี้ยังคุ้มอยู่ในตำแหน่งมือขวาของโซลชาอยู่เลย

คาร์ริคนี่ก็ตัวในลีก เห็นไหมล่ะ!

ปลัดคาริค : ย้ายมาแรกๆใครว่ากุเป็นไก่ป่วย เดี๋ยวปั๊ดแจกเก๊กฮวยซะเลยนี่!

เคสของบังรอน (ฮวน เวรอน)นี้นั้นคือกรณีที่ง่ายและชัดที่สุดที่จะหยิบยกเรื่องของการซื้อตัวนักเตะจากนอกEUและนอกลีกอังกฤษมาลองใช้งานมากเลย อย่างที่บอกไปแล้วว่า แมนยูชุดนั้นไม่ได้อยู่ใน"สภาวะขาด" เหมือนอย่างที่ทีมเราเป็นตอนนี้ แต่นั่นคือการซื้อมาเสริมเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ๆให้ทีม เมื่อมันเจ๊งบ๊งมันจึงไม่เสียหายหรือผิดพลาดอะไรมากนัก  แต่กับแมนยูในยามนี้ที่เราจำเป็นต้องซื้อมาเพื่ออุดตำแหน่งที่กำลังขาดอยู่

ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นคือเราต้องลดความเสี่ยงด้วยการซื้อตัวในลีกที่"พร้อมใช้" อย่างที่บอก เอาแบบดีๆเก่งๆมาเลยสักตัวนึงให้ได้  ซึ่งถ้าหากมกราคมนี้บอร์ดบริหารและทีมซื้อขายเราทำได้แล้วนั้น ครึ่งฤดูกาลที่เหลือของ 2019/20 จะเป็นซีซั่นที่เราสามารถกลับมาลุ้นอะไรดีๆได้อย่างมากเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่าอันดับเพื่อโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก หรือการจะคาดหวังแชมป์บอลถ้วยสำคัญๆได้สักถ้วยนึงเพื่อเป็นหลักประกันความสำเร็จของฤดูกาลนี้ ก็สามารถหวังได้จริงๆหากได้ตัวหลักเข้ามาเสริมทีมอีกอย่างน้อย1ตัวในมกราคมนี้ เพราะฟอร์มทีมตอนนี้ถือว่ากลับมาคาดหวังได้แล้วจริงๆเมื่อโชว์การเอาชนะทีมยากๆอย่างสเปอร์กับแมนซิตี้ให้เห็นกันแล้ว

หากได้ตัวนักเตะเข้ามาเติมเต็มนั้น ยูไนเต็ดจะลดสิ่งที่เรียกว่า "การแกว่งของฟอร์มทีม" ได้อย่างชะงัดเลยเหมือนอย่างบทความที่แล้วที่บอกเอาไว้ว่า เหมือนซื้อกางเกงในตัวใหม่มาใส่ ไม่ให้ไข่มันแกว่งนั่นแหละ!

ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนั้น มกราคมนี้จับตา เก็ง และคาดคะเนกันไว้ได้เลยว่า นักเตะในลีกคนไหนที่ตรงกับตำแหน่งที่เราขาด และมีฝีเท้าที่น่าสนใจในการซื้อมาเสริมทีมกันบ้าง แน่นอนว่าเป้าหมายอันดับ1ในใจตอนนี้ของใครหลายๆคนและผู้เขียน ก็น่าจะหนีไม่พ้นสำหรับรายของ James Maddison จากค่ายจิ้งจอกเลสเตอร์ที่กำลังติดลมบนและไล่ล่าตำแหน่งแชมป์ลีกกับลิเวอร์พูลอยู่ (แล้วเค้าจะย้ายลงมาทีมอันดับ5ทำไมวะ ฮาาาาาา)

นอกจากแชมป์หญ้าสวยไร้ผู้ต่อต้านแล้วนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ยังคว้าแชมป์ ทีมตัดต่อภาพยอดเยี่ยม2019 อีกด้วย

แน่นอนว่า เจมส์แมดนั้น เป็นนักเตะประเภทพร้อมใช้ ซื้อมาแล้วลงได้ทันทีแน่นอน และด้วยฝีเท้าสุดอันตราย ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่พาเลสเตอร์บินฉิวนั้นไม่สามารถจะมองข้ามได้ แม้จะมีข่าวว่ากำลังจะตกลงสัญญาใหม่กับสโมสรได้แล้วก็ตามแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะมันอาจจะเป็นการต่อเพื่อเรียกราคาให้กับต้นสังกัดสามารถระบุราคาที่พอใจกันเพื่อซื้อขายก็ได้ อันนี้ไม่ว่ากัน เพราะเราต้องเข้าใจเขาด้วยว่า จะไปเอานักเตะดีๆของเขามันก็ต้องใจๆหน่อย จ่ายหนักๆหน่อย เหมือนกับว่า ถ้ามีคนมาขอซื้อแม็คโทมิเนย์เราในราคา30ล้าน 40ล้านงี้ เราจะขายเขาไหมล่ะ?

เรื่องราคาสำหรับเจมส์แมดนี้ไม่สำคัญเลย เอาจริงๆ100ล้านก็น่าลงทุนมาเลยทีเดียวจบ สเป็คเข้าแก๊ปโอเล่มากๆในฐานะนักเตะอังกฤษ และเล่นจุดที่เราขาดพอดี ไม่ต้องปรับตัว หากซื้อมาได้ก็จะเป็นการยกระดับทีมเบิ้ลเข้าไปอีกเพราะทีมเราจะมีเกมบุกที่ดุดันและแน่นอนกว่าทุกวันนี้มากจริงๆ

ตัวอื่นๆในลีกก็มีอีกเยอะแยะที่น่าสนใจ รวมถึงตำแหน่งอื่นๆอย่างกองกลางด้วย ไม่ว่าจะเป็น อีริคเซ่น ที่ก็ยังมีโอกาสย้าย / รูเบน เนเวส ที่โคตรน่าไปสอยมาสักที(ได้แต่ลุ้น ไม่มีข่าวเลย) / ดีแคลน ไรซ์ ที่คงจะต้องรอซัมเมอร์ และราคาคงพุ่งกระฉูด.. เป็นต้น 

ไรซ์ : จะเหมาะแพ็คคู่พวกผมก็อย่างกอย่าขม สองร้อยล้านปอนด์จัดมา!

นักเตะเหล่านี้คือตัวในลีกล้วนๆที่ซื้อมาแล้วพร้อมใช้ได้ทันที เหมาะกับการแก้ปัญหาให้ทีมเรามาก ซึ่งหวังว่าในบรรดาชื่อนักเตะเหล่านี้จะมีสัก2คนที่ย้ายมาเข้าทีมเรา แค่นั้นก็ประสบความสำเร็จมากแล้ว และเชื่อว่านี่จะเป็นการเสริมทีมในตำแหน่งที่ขาดได้อย่างดีหากซื้อเข้ามาได้ และเราจะมีทีมที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนการซื้อเพื่อเสริมนั้น ในกรณีปัจจุบันผมนึกถึงข่าวกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ตอนนี้จริงๆส่วนผสมของหมากแรชแดน ในตำแหน่งตัวรุกของทีมนั้นค่อนข้างลงตัวแล้ว แต่เราก็ยังขาดกองหน้าประเภทเบอร์9 strikerธรรมชาติที่เป็นหน้าเป้าอยู่ดี จากที่ขายลูกากูออกไป แล้วก็ไม่มีตัวแทนเข้ามา รวมถึงรายของอเล็กซิสด้วยที่เราปล่อยยืมไปเพื่อลดต้นทุน นั่นก็ไม่มีตัวแทนเช่นกัน (บอร์ดบริหารทำอะไรวะเนี่ยที่ผ่านมา เสียออกไป4ไม่มีเข้ามาเลย) ดังนั้นตำแหน่ง "ปีกขวา" ก็ยังคงจำเป็นในการ"เสริม"อยู่ เชื่อว่าโอเล่ยังคงไม่ลดละที่จะนำเอาซานโช่ มาร่วมทีมเราอย่างแน่นอน

ในรายของฮาลันด์นั้นก็คือเคสในแบบที่ว่าเป็นการเสี่ยงเล็กน้อยในจุดที่เสริม ถึงแม้ว่าน้องจะเล่นยังไม่เวิร์คในทันทีที่เข้ามา แต่มันก็ไม่เสียหายอะไรเพราะนี่เราซื้อจากนอกลีกมาทดลองใช้ดู ส่วนซานโช่นั้น จริงๆแล้วถือว่าเป็นตัวพิเศษคนนึงที่อาจจะไม่ตรงกับประเด็นบทความสักเท่าไหร่ (แต่ที่ขึ้นรูปบทความเอาไว้เพราะมันเห็นภาพชัดดี) จริงๆซานโช่แม้จะอยู่นอกลีกเราก็จริง แต่ไอ้หมอนี่เป็นนักเตะอังกฤษที่อยู่กับฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แถมยังติดทีมชาติอังกฤษอีก นี่เป็นเคสพิเศษที่ไม่ต้องปรับตัวอะไรถ้าซื้อมาก็มาลงปีกขวาได้ทันที  หากนำเข้ามาได้ทั้งสองคน ตัวรุกทีมเราแทบจะสมบูรณ์100% แล้วหากได้แนวรุกครบ5ตัว

เอาให้หมดไอสัส เอาให้หมด!

(มโนไว้ก่อน)โดยที่ ฮาลันด์ยืนค้ำหน้าเป้า โดยมี เจมส์/ซานโช่ เป็นตัวเลือกทางปีกขวา หน้าขวา  และ หมาก/แรช เป็นตัวเลือกกองหน้าฝั่งซ้าย โดยที่สองคนหลังนี้ยังสามารถโยกมายืนหน้าเป้าให้ทีมได้อีกต่างหากแล้วนำเอา เจมส์ มายืนซ้ายสลับขวาแทนได้อย่างอิสระ  ถ้าได้สองคนนี้มาจริงๆแค่คิดก็มันส์แล้ว ตัวรุกอายุน้อยๆ เด็กสดๆห้าวๆเหล่านี้เล่นร่วมกันมันจะสนุกขนาดไหน จะโหดขนาดไหนคิดเอาเองแล้วกัน

ทั้งหมดนี้จึงเป็นการสรุปภาพรวมให้เห็นว่า ในสภาวะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้ ในตลาดเดือนมกราคมนั้น เราอยู่ในสภาพที่ขาดนักเตะสำคัญในตำแหน่งกองกลางอยู่ ดังนั้นการจะแก้ปัญหาทีมอย่างได้ผลในเคสเฉพาะหน้านี้นั้น เราควรที่จะลงทุนกับตัวดีๆในลีกเราไปเลยหนักๆสักตัวนึง มากกว่าที่จะลองนักเตะจากนอกลีกที่มีโอกาสดับในพรีเมียร์ลีกได้ ในกรณีตัวต่างประเทศที่น่าสนใจนั้นควรจะเอาไว้รอลองซื้อมาใช้ในเคสที่จะ "เสริมความแกร่งเพิ่มเติม" ในรายที่น่าสนใจๆมากกว่าไม่ว่าจะจากข่าวของ ไค ฮาเวิร์ตส / ซาอูล / ฟานเดอบีค เองก็ตามที

นาทีนี้ไม่หวังอะไรมาก ขอเจมส์ แมดดิสันคนเดียวให้ได้ เท่าไหร่ก็จ่ายๆไปเถอะ รับรองว่ามันส์แน่นอน

-ศาลาผี-

ที่เขียนๆมาทั้งหมดเนี่ย มึงถามกูรึยัง?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด