:::     :::

แล้วคุณจะหลงรัก'ดิ อ็อกซ์'

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2560 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
4,573
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จากคอลั่มน์ครั้งก่อนที่เคยเขียนไปว่า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กับ ลิเวอร์พูล เหมือนเป็นเส้นขนานไปแล้ว

    กลายเป็นว่าคดีกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

    ทั้งที่ อาร์เซน่อล ตกลงรับข้อเสนอของ เชลซี เป็นที่เรียบร้อย การเจรจาน่าจะลุล่วงไม่มีปัญหา แต่เป็นตัว "ดิ อ็อกซ์" เองที่บอกปัดย้ายไปยังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

    เขาเป็นคนล้มเลิกงานฉลองโทนสีน้ำเงินด้วยตัวเอง เพื่อรอใครบางคนมาฉุดเขาไปอยู่ในที่ๆ เหมาะสม

    หงส์แดงที่เคยเล็งไว้ไม่รอช้า จัดการเดินหน้าต่อรองกับปืนใหญ่ทันที และบทสรุปก็ออกมาที่ราคา 35 ถึง 40 ล้านปอนด์
    รายละเอียดเปิดเผยค่าแรง 120,000 ปอนด์ต่อวีก ผูกมัดกัน 5 ปี


ดิ อ็อกซ์เปิดตัวกับหงส์แดง



    ถามว่าดีลนี้คุ้มไหม

    ???

    เวลาเท่านั้นที่ให้คำตอบ

    ที่น่าสนใจคือเขาจะเข้ามาอยู่ส่วนไหนให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แข็งแกร่งขึ้นมากกว่า

    อย่างที่ทราบ มิดฟิลด์วัย 24 ปีเติบโตมากับตำแหน่งตัวริมเส้น เขาโด่งดังตรงนั้นมาตั้งแต่สมัยทะลุชุดใหญ่ในทีม เซาธ์แฮมป์ตัน แล้ว

    ทว่าเขาก็ไม่ได้มีดีแค่การเล่นตำแหน่งปีกเท่านั้น เราเคยเห็นบทบาทเขาบริเวณกลางสนามในช่วงก่อนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ จะบ้าหลังสาม ซึ่งก็ทำได้ดีไม่เลวเลย มันพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถอยู่ในพื้นที่มิดฟิลด์ตัวกลางได้แบบไม่เคอะเขิน

    และตัวของ "ดิ อ็อกซ์" เองก็ดูจะชื่นชอบกับการยืนมิดฟิลด์ด้วย

    นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาบอกปัด เชลซี ที่มีพร้อมทั้งบารมี และเงินทุน แว่วว่าสิงห์บลูส์ประเคนค่าแรงให้ถึง 220,000 ปอนด์ต่อวีก ทว่าเขาไม่ต้องการไปยืนริมเส้นอีกต่อไปแล้ว ยิ่งกับระบบในทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ด้วยการมีวิงแบ็กสองฝั่ง แน่นอนหากเขาเลือกย้ายไปเพื่อนร่วมกรุงลอนดอนก็คงไม่พ้นต้องมาแย่งตำแหน่งกับ วิคเตอร์ โมเสส ไม่ก็ มาร์กอส อลอนโซ่

    ตรงนี้ก็ต้องนับถือจิตใจว่าเขาไม่ใช่เด็กหิวเงินเหมือนที่ใครๆ แถบเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตราหน้าไว้ตอนบอกปัดสัญญา 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

    อีกเหตุผลที่ "ดิ อ็อกซ์" เลือกมาผจญภัยในถิ่นแอนฟิลด์ก็เพราะเขาเป็นเด็กหงส์มาตั้งแต่ละอ่อนแล้ว และก็มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นไอดอล โดยเจ้าตัวเคยพูดไว้ว่าอยากเติบโตเป็นนักบอลที่เก่งเหมือนกับ สตีวี่จี ยิ่งชั่วโมงนี้มี คล็อปป์ เป็นคนทำทีมด้วย เขายิ่งชื่นชอบสไตล์การเล่นเกมบุกแบบบ้าคลั่งของกุนซือเมืองเบียร์ไปกันใหญ่


กำลังมุ่งสมาธิไปที่การรับใช้ชาติ



    อันที่จริงเด็กอย่าง อ็อกซ์เลด จะเลือกทางสบายๆ นั่งกิน นอนกินอยู่ในถิ่นปืนโตเหมือนเดิมก็ได้ แต่เขาดันกล้าลุกออกจากโซฟานุ่มๆ ที่นักเตะอังกฤษของ อาร์เซน่อล เสวยสุขกันอย่างเมามัน

    พวกนี้อยู่กันแบบสบายๆ ไม่ต้องมีความกดดันใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครมาไล่จี้ แถมยังมี เวนเกอร์ ที่คอยหนุนหลังอยู่ตลอดเวลา พอถึงกำหนดเงินเข้าทีก็รับค่าแรงกันอื้อซ่า

    มองดูพวกดาวรุ่งตลอดกาลของปืนใหญ่ เราแทบไม่ได้เห็นพวกนี้ก้าวข้ามผ่านคำว่าดาวรุ่งได้เลย ธีโอ วัลค็อตต์, คีแรน กิ๊บบ์ส, คาร์ล เจนกินสัน หรือกระทั่งตัวของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เอง ทุกวันนี้อายุเดินหน้าไปไหนต่อไหนแล้ว แต่พัฒนาการยังเหยียบอยู่กับที่

    แต่กลับเป็น "ดิ อ็อกซ์" ที่กล้าออกจากโซฟานุ่มๆ เพื่อไปพิสูจน์ตัวเองกับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล

    เขาต้องการเติบโตเป็นนักเตะชั้นนำ ชั้นแนวหน้า ไม่ใช่รอเวลาหมดไฟไปแบบที่ วัลค็อตต์ กำลังจะเดินถึงจุดนั้น

    แล้วกับหงส์แดง เขาจะเล่นตรงไหน

    ???
    แน่นอน พวกริมเส้นข้างบนคงไม่ใช่สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการให้เขาไป เนื่องจากมี ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จองอยู่แล้ว แน่นอนอาจจะต้องมีช่วยบ้างหากขุมกำลังที่มีเกิดเดี้ยงไป

    ทว่าตรงสามมิดฟิลด์นี่แหละ ที่ "ดิ อ็อกซ์" จะเข้ามาสร้างมิติใหม่ๆ ให้กับทีม

    หลายคนบอก อ้าว!!! เขาเป็นปีกมาทั้งชีวิตนี่ แล้วจะมาเอาดีตรงนี้ได้เหรอ

    เขาทำได้แน่ เพราะสมัยอยู่ในอะคาเดมี่กับนักบุญก็เติบโตมาจากตรงนั้น แต่พอมีความเร็ว ตอนขึ้นชุดใหญ่ก็เลยโดนจับไปเล่นริมเส้น

    ไม่ต้องไปดูตัวอย่างไกลที่ไหน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม สมัยที่รุ่งขึ้นมากับ เฟเยนูร์ด ก็ปีกจ๋าเลย กระทั่งย้ายเข้ารัง พีเอสวี นั่นก็ใช่ ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาเอาดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอีกครั้งเหมือนสมัยเยาวชนก็ตอนปลายกับ พีเอสวี และที่ นิวคาสเซิ่ล

    เกมรับอาจเป็นสิ่งที่นักเตะอย่าง ไวนัลดุม หรือ แชมเบอร์เลน ไม่ได้ถนัดมากนัก ทว่าพวกเขาก็ได้เซนส์เกมรุกที่เพิ่มเข้ามามากยิ่งขึ้น


สวมกอดกับเพื่อนใหม่อย่างเฮนโด้



    คล็อปป์ เองก็ได้กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่ของเขาด้วยความชื่นชมมากเลยทีเดียว

    "ผมดีใจมากที่เราเซ็นสัญญากับอเล็กซ์ได้"

    "หลังเจอกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเฝ้ารอและหวังว่าจะนำตัวเขามาสู่ทีม และเมื่อผมรู้ว่าสำเร็จ มันสุดยอดไปเลย"

    "ผมจำครั้งแรกที่เห็นเขาเล่นด้วยตาตัวเองสมัยคุมดอร์ทมุนด์ในปี 2014 เขาลงมาเป็นตัวสำรองแล้วเปลี่ยนเกมทันทีด้วยความเร็ว และทักษะของเขา ผมจำได้ถึงขนาดที่เขาวิ่งไล่ตาม มคิทาร์ยาน เข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อสกัดลูกยิงเอาไว้"

    "เราชนะเกมนั้น แต่เราก็ไปแพ้ในการเยือนเอมิเรตส์ เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และเล่นได้สุดแจ่มเลย หลังจากนั้นผมก็ติดตามดูเขามาตลอด และเมื่อได้ยินว่ามีโอกาสคว้าตัวเขา ผมแทบไม่เสียเวลาคิดเลย"

    "ผมได้ยินพอสมควรถึงเรื่องตำแหน่งที่จะให้เขาเล่น แต่เรามาพูดถึงเรื่องการเล่นบอลดีกว่า เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก และเป็นคนที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับทีม เป็นนักเตะที่คิดบวก และชอบที่จะเสี่ยงจะลองสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น"

    "เขายังหนุ่ม แต่ก็มากไปด้วยประสบการณ์ในทั้งพรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก และทีมชาติ ผมคิดว่าเขามีจิตใจที่ตั้งมั่นว่าอยากจะเก่งขึ้นไปอีก และนั่นทำให้ผมตื่นเต้น"

    "มันคงยากลำบากกับการตัดสินใจออกจากทีมที่ยอดเยี่ยมทีมนึงไปอยู่กับอีกทีมที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน และผมคิดว่าเขามีทางเลือกอื่นๆ อีกมากเลยนะ ดังนั้นการได้ตัวเขามาย่อมแปลว่าผมยินดีโครตๆ"

    "เขาตัดสินใจไม่ง่ายหรอก แต่ผมคิดว่าเขาได้ทำสิ่งที่เยี่ยมยอดนั่นคือการเดินทางไปพร้อมๆ กับนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ของเรา และเหล่ากองเชียร์"

    "ยินดีต้องรับสู่ครอบครัวของเรา"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด