เอริก อบิดาล เลขาธิการฝ่ายเทคนิคพร้อมผู้ช่วย ราม่อน ปลาเนส มีความเห็นตรงกับเทรนเนอร์ เอ็นรีเก้ เซเตียน ว่าทีมอาซูลกราน่าจำเป็นต้องเสริมผู้เล่นตำแหน่งหมายเลข'9'ทดแทนการสูญเสีย หลุยส์ ซัวเรซ หลังกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยผ่าตัดเข่าจนต้องพักยาว 4 เดือน
กีเก้ เซเตียน เทรนเนอร์คนใหม่ของ บาร์เซโลน่า พิจารณาทุกความเป็นไปได้ร่วมกับสองผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบกับทีมโดยตรงอย่าง อบิดาล และ ปลาเนส โดยมองจากทรัพยากรนักเตะในทีมเป็นอันดับแรกว่าไม่มีใครสามารถทำได้เหมือน หลุยส์ ซัวเรซ
บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องมีกองหน้าตัวเป้าที่คอยพักบอล, เก็บบอลและปะทะกับแนวรับคู่แข่ง แต่ทีมอาซูลกราน่าเหลือแต่เฉพาะผู้เล่นที่มีเทคนิค, ความเร็ว, ปราดเปรียวและมีความคล่องตัวสูงเท่านั้น แต่มีจุดอ่อนเรื่องแรงปะทะจึงอาจเสียเปรียบคู่แข่งในจังหวะเก็บบอลหรือพักบอล
ดังนั้นทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าจึงกวาดสายตาไปทั่วตลาดหน้าหนาวเพื่อเสาะหานักเตะที่ตรงตามสเป็คของสโมสรและมีราคาที่สามารถจับต้องได้จนกระทั่งมีข่าวกับ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากาบองของ อาร์เซน่อล กับ โรดรีโก้ โมเรโน่ ดาวยิงทีมชาติสเปนของ บาเลนเซีย
ก่อนเปรียบเทียบข้อดี-จุดด้อยของทั้งสองคนจนได้บทสรุปว่าควรจะลงทุนกับฝ่ายหลังมากกว่า เนื่องจาก โอบาเมย็อง อายุแตะหลัก 30 ปีและยังอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นของบาร์ซ่าและฟุตบอลสเปน ขณะที่ โรดรีโก้ วัย 28 ปีมีอายุเหลือใช้งานมากกว่าและยังไม่น่าจะมีปัญหาในการปรับตัวมากนัก อีกทั้ง กีเก้ เซเตียน ยังมองว่าดาวยิงทีมค้างคาวมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับบาร์ซ่าในยุคของเขา
ก่อนจึงเป็นที่มาของการเดินหน้าเจรจาเพื่อดึง โรดรีโก้ โมเรโน่ เข้ามารับบทบาทผู้เล่นหมายเลข'9'คนใหม่ของทีมอาซูลกราน่า
บาร์เซโลน่า กับ บาเลนเซีย เริ่มต้นเจรจาเกี่ยวกับ โรดรีโก้ โมเรโน่ แบบซีเรียสจริงจังตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ฝั่งทัพอาซูลกราน่านำโดย ออสการ์ เกรา ซีอีโอ, อบิดาล และ ราม่อน ปลาเนส ส่วนฝ่ายทีมค้างคาวมาเพียงคนเดียวคือประธานสโมสร อานิล เมอร์ธี่ย์ ซึ่งได้รับอำนาจสิทธิ์ขาดจากเจ้าของทีม ปีเตอร์ ลิม เพื่อเร่งดำเนินการให้ดีลนี้แล้วเสร็จก่อนตลาดหน้าหนาวปิดทำการ
ตามรายงานจากสื่อแคว้นกาตาลุนย่าระบุเพิ่มเติมว่า จอร์จ เมนเดส เอเยนต์คนดังชาวโปรตุกีสซึ่งเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองหน้าวัย 28 ปีเดินทางมานครบาร์เซโลน่าเพื่อทำให้การย้ายสังกัดของ โรดรีโก้ เกิดขึ้นเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โรดรีโก้ ยังมีสัญญากับ บาเลนเซีย จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 โดยมีค่าฉีกสัญญา 120 ล้านยูโร แต่ทีมค้างคาวพร้อมปล่อยนักเตะย้ายออกจากถิ่นเมสตาย่าด้วยมูลค่า 60 ล้านยูโร หลังเคยตอบรับข้อเสนอจำนวนเท่ากันจาก แอตเลติโก มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่าท้ายที่สุดแล้วการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า ยังต้องพิจารณารอบด้านเพื่อทำให้เกิดผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของสโมสรน้อยสุดเท่าที่จะเป็นไปได้หลังจ่ายเงินก้อนโตในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาในการเซ็นสัญญากับ อองตวน กรีซมันน์ (120 ล้านยูโร) และ เฟรงกี้ เดอ ย็อง (75 ล้านยูโร) รวมถึงค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเดือนนักเตะที่ใกล้เต็มเพดาน
ขณะที่ บาเลนเซีย เสียงแข็งไม่ยอมลดราคานักเตะจาก 60 ล้านยูโร นั่นหมายความว่า บาร์เซโลน่า ต้องพยายามหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายด้วยการเสนอนักเตะให้ทีมค้างคาว ซึ่งเป็นสองนักเตะจาก บาร์เซโลน่า เบ นั่นคือ มุสซ่า วาเก้ หรือ อาเบล รูอีซ ที่น่าจะช่วยลดค่างบประมาณลง 10 ล้านยูโร ก่อนทีมค้างคาวจะตอบรับข้อเสนอดังกล่าวโดยเลือกแบ็กขวาชาวเซเนกัลซึ่งเป็นนักเตะที่เทรนเนอร์ อัลเบิร์ต เซลาเดส ชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
อีกทั้ง บาเลนเซีย ยังมีปัญหาตำแหน่งแบ็กขวาหลังการเดี้ยงยาวของ คริสเตียโน่ ปิคซินี่ ขณะที่ เธียร์รี่ กอร์เรอา แบ็กดาวรุ่งชาวโปรตุกีสวัย 20 ปีที่ดึงมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโรยังทำผลงานไม่ดีอย่างที่คาดหวังโดยมีโอกาสลงเล่นลีกาเพียง 2 เกมเท่านั้นจนต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขยับ ดาเนียล วาสส์ มิดฟิลด์ชาวเดนส์มารับบทแบ็กขวาจำเป็น
บาร์เซโลน่า จ่ายเงิน 5 ล้านยูโรดึง มุสซ่า วาเก้ มาจาก อูเปน ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 หลังศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย อีกทั้งการย้ายมาค้าแข้งในถิ่นเมสตาย่ายังสร้างแรงจูงใจให้แบ็กวัย 21 ปีด้วยเนื่องจากมีโอกาสลงสนามมากกว่าการอยู่กับทีมอาซูลกราน่าต่อไปเนื่องจากมีทั้ง เซร์จี้ โรเบร์โต้ กับ เนลซอน เซเมโด้ เป็นกำแพงขวางกันการเติบโตบนถนนลูกหนังของเขา
สำหรับแนวทางการทำธุรกิจของ บาร์เซโลน่า คือการดึง โรดรีโก้ มาเล่นในถิ่น'คัมป์ นู'ด้วยสัญญายืมตัวโดยรับผิดชอบค่าเหนื่อยทั้งหมดของนักเตะพ่วงอ็อปชั่นเซ็นสัญญาถาวรหลังจบซีซั่นนี้เพื่อนำค่าตัวไปลงบัญชีงบดุลปีหน้า เนื่องจากทัพอาซูลกราน่ายังมีปัญหาเรื่องงบดุลสโมสรปีนี้ที่ยังต้องหาเงินมาโปะอีกราว 60-70 ล้านยูโร
นั่นเป็นขั้นตอนที่ยากในการเจรจาโน้มน้าวให้ทีมค้างคาวยอมรับข้อเสนอดังกล่าวให้ทันก่อนเส้นตายของตลาดหน้าหนาวในวันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ ขณะที่ บาเลนเซีย เตรียมหาตัวแทน โรดรีโก้ ไว้แล้วซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือ ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์ กองหน้าวัย 26 ปีที่กำลังหาทางชิ่งหนี ดอร์ทมุนด์ เพื่อคว้าโอกาสลงสนามมากขึ้นหากไม่อยากหลุดจากทีมชาติสเปนชุดทำศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย
ปาโก้ อัลกาเซร์ เป็นเด็กปั้นของ บาเลนเซีย ก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2010 เขาถูกปล่อยไปลับฝีเท้ากับ เคตาเฟ่ ในช่วงฤดูกาล 2012-13 ก่อนกลับมาสร้างผลงานกับทีมค้างคาวจนกระทั่ง บาร์เซโลน่า ยอมจ่ายเงิน 30 ล้านยูโรดึงเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 แต่ชีวิตค้าแข้งในถิ่น'คัมป์ นู'ล้มเหลวและถูกปล่อยไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัวพ่วงอ็อปชั่นซื้อขาด
ทีมเสือเหลืองจ่ายเงิน 23 ล้านยูโรเซ็นสัญญาถาวรกับ อัลกาเซร์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2019 หลังกองหน้าชาวสเปนทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะแผ่วลงไปในช่วงหลังและหลุดเป็นสำรอง จนกระทั่ง ดอร์ทมุนด์ เซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่เปิดตัวอย่างสวยหรูยิง 5 ประตูจากการลงเล่นฐานะสำรอง 2 เกมแรก ยิ่งให้โอกาสลงสนามของ อัลกาเซร์ มีน้อยลงกว่าเดิมจึงมองหาทางย้ายทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้และน่าจะลงเอยกับทีมเก่า บาเลนเซีย
บาร์เซโลน่า เคยดึง ดาบิด บีย่า ซานเชซ จาก บาเลนเซีย ไปร่วมทีมช่วงซัมเมอร์ปี 2010 ตลอดช่วง 3 ปีในถิ่น'คัมป์ นู'ต้องถือว่า'เอล กวาเฆ่'ประสบความสำเร็จ ยิง 33 ประตูจากการลงเล่นลีกา 77 เกมและยิงรวมกัน 48 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 119 นัด คว้าแชมป์ลีกา 2 สมัย, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 ครั้ง, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 1 ครั้ง
แต่การดึง ปาโก้ อัลกาเซร์ มาร่วมทีมของทัพอาซูลกราน่าคงต้องบอกว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เขายิงเพียง 10 ประตูจากการลงเล่นลีกา 37 เกมและกระทุ้งรวมกัน 15 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 50 นัด ส่วน โรดรีโก้ โมเรโน่ กำลังจะเป็นกองหน้าคนที่ 3 ในรอบทศวรรษที่ย้ายจาก บาเลนเซีย มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เพียงแต่เขาจะประสบความสำเร็จตามรอย ดาบิด บีย่า หรือล้มเหลวเหมือน ปาโก้ อัลกาเซร์ หลายคนคงอยากทราบคำตอบ
