:::     :::

เหตุผลที่ "สารัช" ควรลุยต่างแดน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในโมงยามที่โลกลูกหนังไทยถูก "ปิดประตู" หนีไวรัส ยังมีข่าวหนึ่งที่แพลมออกมาสู้กับโคโรนา

หลังมีรายงานว่าสโมสรจากเวียดนาม แสดงความสนใจอยากได้ตัว สารัช อยู่เย็น ไปค้าแข้งใน “วีลีก” พร้อมยื่นข้อเสนอที่มิอาจเบือนหน้าหนี

หลายสื่อนำเสนอข่าวไปในทางเดียวกันว่า เศรษฐีแดนเหงียน พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยให้ถึง 18 ล้านบาทต่อปี หรือเดือนละ 1.5 ล้านบาท เพื่อพามิดฟิลด์เชือกวิเศษออกจากถิ่นธันเดอร์โดม และเตรียมประเคนเม็ดเงินกองโตกว่า 30 ล้านบาทสู่ขอ เอสซีจี เมืองทองฯ

แม้ดีลนี้อาจยังไม่มีแหล่งข่าวที่ออกมาเปิดเผยอย่างทางการ แต่หากเกิดขึ้นจริง นี่คือ “โอกาส” ครั้งสำคัญที่ผู้เขียนมองว่า “ตังค์” ควรออกหาความท้าทายใหม่เสียที


 


ข้อเสนอที่ผ่านมาไม่จริงจัง!

เอาเข้าจริง สารัช เป็นหนึ่งในนักเตะที่ต้องการไปค้าแข้งต่างแดน แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในสโมสรยืนยันว่า เจ้าตัวได้มีการพูดคุยกับผู้บริการบ่อยครั้ง ว่าต้องการไปเล่น เจลีก ญี่ปุ่น สักครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยผ่านตัวแทนนักเตะ และคนของสโมสรปลายทางเท่านั้น สุดท้ายกลับยังไร้ข้อเสนอเข้ามาแบบทางการ ทั้งที่ เอสซีจี เมืองทองฯ เองไม่มีท่าทีจะรั้งไว้แต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้น “ตังค์” ยังเป็น “มืออาชีพ” สวมปลอกแขนกัปตัน ก้มหน้าก้มตาผลิตผลงานในสีเสื้อ “กิเลนผยอง” เช่นเดิม

 

ดีลที่มิอาจปฏิเสธ!

แม้จะยังมีหวังเล็ก ๆ ว่าจะมีข้อเสนอจากแดนอาทิตย์อุทัยแวะมาเคาะประตูหัวใจบ้าง แต่การตกเป็นข่าวกับทีม “วีลีก” เวียดนาม ถือเป็นอะไรที่น่าสนเช่นกัน

ใช่ว่า “วีลีก” เรื่องระบบการจัดการความเป็นมืออาชีพ อาจยังไม่เท่า “ไทยลีก” แต่สิ่งที่ สารัช จะได้คือ “ความท้าทายใหม่” มาตรฐานผู้เล่นที่ไม่ได้เหลื่อมกว่าไทย และเงินดองก้อนโตที่จะได้รับมากกว่าอยู่กับ “กิเลนผยอง” 5-6 เท่า แม้นักฟุตบอลจะเป็น ดาราเข้าถึงง่าย และใช้แรงกายเป็นหลัก แต่สิ่งหนึ่งที่คนลูกหนังรู้ดีคือ อาชีพนี้ “สั้น” ไม่ได้ยืดยาว ไหนจะเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ จนต้องแขวนสตั๊ดอีก

เมื่อมีข้อเสนอที่ สารัช ไม่มีวันได้รับจากสโมสรในไทยลีกเข้ามา รวมถึงอายุอานามเจ้าตัวก็ปาไป 27 ซึ่งอยู่ในจุดพีคสุดบนห่วงโซ่ฟุตบอลอาชีพ การบินออกจากกรงที่เมืองทอง ไปเปลี่ยนกลิ่นใหม่ให้ชีวิตบ้าง ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดี

 


“กิเลน” ไม่ได้ “ผยอง” ดั่งวันวาน

อีกข้อหนึ่งที่ สารัช น่าจะทราบดีคือ เอสซีจี เมืองทองฯ เปลี่ยนทิศทางการทำทีมฟุตบอลใหม่ ด้วยการเก็บฉายา “เจ้าบุญทุ่ม” ยัดลิ้นชัก รัดเข็มขัดลดขนาดทีม ปล่อยแข้งค่าเหนื่อยสูงออกจากสโมสร พร้อมทดแทนด้วยดาวรุ่งที่ฟูมฟักพรวนดินใส่ปุ๋ยมา

กล่าวคือ กิเลนผยอง โมงยามนี้แปรสภาพกลายเป็น “ทีมระดับกลาง” โดยสมบูรณ์ ถูกหั่นออกจากสารบบเต็งลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว ซึ่งมันคงเป็นอะไรที่ยากมาก กับการโหยหาความสำเร็จเหมือนวันวานจากทีมชุดนี้ และเชื่อว่า สารัช คงรู้ถึงข้อนี้ดี

 

ให้เมืองทองฯไปทั้งใจแล้ว

กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลาง สารัช แสดงให้เห็นมาตลอดว่า เขาคือเบอร์ต้นบนเวทีไทยลีก การรับใช้ เอสซีจี เมืองทองฯ มาอย่างยาวนาน พาทีมโกยความสำเร็จได้มากมาย ตอบแทนด้วยผลงานอย่างคุ้มค่าเหนื่อยทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับ จนแทบไม่มีอะไรที่ต้องพิสูจน์ในถิ่น เอสซีจี สเตเดียม อีก

อีกทั้งแบรนด์ของเจ้าตัวกับทีมชาติไทย ก็อยู่ในสถานะฟอร์มดี เป็นแกนหลักที่ “ขาดไม่ได้” ในแผงมิดฟิลด์ยุค อากิระ นิชิโนะ ยิ่งทำให้หากขยับออกจากรัง เขาจะได้รับความสนใจจากทีมอื่นแน่

อย่างที่บอกไปข้างต้น สารัช อายุ 27 เขาไม่ใช่ “ดาวรุ่ง” ที่ควรเฝ้ารอโอกาสอีกแล้ว เป็นนักเตะที่กำลังเดินอยู่บนจุดพีกสูงสุดของชีวิตค้าแข้ง ไม่ว่าจะมีข้อเสนอจาก วีลีก หรือ เจลีก มา  

ลองออกไปตะบันชีวิตต่างแดนสักครั้งเถอะ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด