ถ้าเป็นแฟนบอลที่มีอายุหน่อยก็คงจะเข้าใจกันดีว่า ไอ้The Weakest Linkเนี่ย มันคือรายการเกมโชว์ที่มี ดร.อ้อ คุณกฤษติกา เป็นผู้ดำเนินรายการ และจะแข่งกันตอบคำถามเพื่อเก็บเงินรางวัลไปเรื่อยๆ และจะใช้วิธีให้แต่ละคนโหวตคนที่เป็นจุดอ่อนของทีมออกไปรอบละคนเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าจะกำจัดคู่แข่งหรือคนที่ทำให้เสียเงินรางวัล

แต่วันนี้เราจะไม่ได้มากำจัดใครหรือนักเตะคนไหนออกจากทีมทั้งนั้น ต่อให้เป็นคนที่แย่ที่สุดก็ตามที(ฮา) นั่นคือจุดอ่อนที่อยู่ภายนอก แต่สิ่งที่ดีกว่าไม่แพ้กันก็คือการ "กำจัดจุดอ่อนจากภายใน" ซึ่งก็คือจุดอ่อนภายในตัวของนักเตะแต่ละคนนั่นเองว่า ใครมีจุดอ่อนอะไรอย่างไรบ้างที่จำเป็นต้องกำจัดมันทิ้ง และพัฒนาฝีเท้าการเล่นเพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้มันเป็นจุดอ่อนอีกต่อไป

อนึ่ง จุดอ่อนในบทความนี้จะเป็นด้านที่ยังพอจะแก้ไขเพื่อ"ปรับปรุง"ได้ บางด้านที่แก้ไม่ได้หรือแก้ยากก็อาจจะต้องทำใจ

David De Gea

เดเคอานั้นเป็นโกลที่มีจุดเด่นทางด้านshot stopperระดับเอกอุมือต้นๆคนนึงของโลกอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเก่งที่สุดในโลก เพราะว่ายังมีโกลที่ครบเครื่องและบาลานซ์มากกว่าเขาอีกหลายคน เมื่อดูการเล่นของเดเคอาในทุกๆนัดแล้ว จุดอ่อนที่เขาควรจะต้องแก้มากที่สุด ที่เห็นเป็นปัญหามากๆนั้นมีหลายอย่าง

แต่จุดที่เห็นว่าหนักจริงๆคือเรื่องของ "การเตะออกบอล" หรือ kicking ออกมานั้น ถือว่าเดเคอาเตะเปิดบอลได้แย่มากๆ คือนอกจากจะไม่ค่อยเห็นช็อตเตะสวนยาวจนสร้างโอกาสบุกเร็วได้แล้วนั้น บางทีการเตะเคลียร์ออกมา และอีกหลายๆครั้งนั้นเดเคอามักจะเตะพลาดอยู่เสมอ เช่นเตะงัดไม่ขึ้นบ้าง เตะไม่ถึงบ้าง ออกข้างบ้าง ซึ่งหลายๆครั้งเราโดนบุกกลับเฉยเลยทั้งๆที่เพิ่งจะได้บอลคืนมา แต่เดเคอาพลาดจนทำให้โดนบุกเร็วในขณะที่นักเตะเกมรับคนอื่นยังไม่พร้อม

*สกิลเรื่องลูกกลางอากาศนั้นเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นข้อเสียของเดมาตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมา และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงไม่ค่อยออกมาจากเส้นเพื่อป้องกันลูกโด่งด้วยตัวเองอยู่ดี  จึงเลือกแก้ปัญหาการเตะออกบอลน่าจะทำได้ง่ายกว่าเพราะช่วงหลังเจอปัญหานี้บ่อยจริงๆ

Aaron Wan-Bissaka

ถ้าพูดถึงเรื่องเกมรับ ต้องบอกเลยว่าหมอนี่คือตัวอีดิตเกมรับที่แท้ทรู แต่นักเตะอย่างเขาก็ยังมีจุดอ่อนใหญ่หลวงให้ต้องแก้และปรับปรุงอีก และเชื่อว่าข้อนี้หลายๆคนเดาถูก นั่นก็คือเรื่องของ"เกมรุก" ที่บิสซาก้ายังขาดอยู่เยอะ ซึ่งข้อนี้ทุกคนรู้ดีตั้งแต่ก่อนเขาย้ายเข้ามาแล้ว ผู้เขียนก็รีวิวเอาไว้ชัดเจน  แต่ระหว่างนี้ก็เห็นได้ถึงความพยายามที่จะเพิ่มเติมเกมรุกให้กับทีมค่อนข้างเยอะกว่าเดิมอยู่ตลอด ดังที่มีข่าวว่าทีมสต๊าฟฝึกเขาเล่นเกมรุกมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือทีม

ส่วนตัวแล้วเท่าที่ดูนั้น บิสซาก้าพอที่จะ "ครอสบอล" ได้อยู่ หลายๆครั้งก็เปิดย้อนจากสุดเส้นเข้ากลางให้ทีมได้บ่อยๆ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องนี้ แต่พิจารณาดูแล้วขอเลือกที่จะตอบว่าเป็น "การหาตำแหน่งเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย" หรือถ้าเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆหน่อยก็น่าจะเป็นเรื่อง off the ball นั่นเอง

หลายคนบอกว่า น่าจะเป็นสกิลการจบสกอร์มากกว่านะที่ต้องพัฒนา อันนี้เข้าใจและ ใช่ เห็นด้วยว่า เรื่องการยิง หลายๆครั้งบิสซาก้ายิงแบบว่า ไม่มีลุ้นเลยทั้งๆที่มีโอกาสโล่งๆ แต่ในความเป็นแบ็คขวา เราไม่ได้จำเป็นจะต้องหวังพึ่งพาการยิงจากนักเตะตำแหน่งแบ็คขนาดนั้น คือมอบหน้าที่การจบสกอร์ หรือการยิง ให้กับตำแหน่งอื่นๆดีกว่าไม่ว่าจะกองหน้า ปีก กองกลาง 

โอกาสที่จะได้ยิงเองมันน้อยมาก

แต่สิ่งที่เขายังขาดอยู่คือ การมีส่วนร่วมกับเกมบุกที่จะทำให้ทีมได้เปรียบ อันจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการเปิดช่องให้นักเตะตัวรุกคนอื่นๆได้ยิง (บิสซาก้าไม่จำเป็นต้องยิงเอง) นั่นแหละสำคัญกว่าจะมาให้เขาฝึกยิงประตูโดยที่นัดๆนึงโอกาสยิงก็แทบจะไม่มี นานๆหลุดได้ยิงที

เพราะงั้น ของบิสซาก้าควรที่จะกำจัดจุดอ่อนเรื่องการหาตำแหน่งในเกมบุก หรือสกิล off the ball นั่นเอง

Luke Shaw

แบ็คสายผสม ได้ทั้งรุกและรับ สำหรับกรณีของชอว์นั้นมันไม่ใช่เรื่องของทักษะ ที่ต้องพัฒนาทางด้านtechnical แต่อย่างใด แต่จุดอ่อนของชอว์ที่ต้องพัฒนาคือเรื่องของ Physical

หลายๆนัดหลังเขาพัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาโดดเด่นมาก เด่นในด้านที่แกมีส่วนร่วมและเพลย์การเล่นต่างๆทำได้ดี คะแนนดีกว่าบิสซาก้าซะอีกโดยรวม เพราะชอว์เล่นเกมรับก็เหนียว เกมบุกก็ยังสามารถเติมสูงจนสุดเส้นได้

จุดเดียวที่เป็นจุดอ่อนและจะทำให้เขาพัฒนาและฟอร์มโหดกว่านี้ได้ จึงน่าจะเป็นเรื่องของ "ร่างกาย" ที่หากเขาไปเพิ่มความฟิตมาด้วยการลดน้ำหนักส่วนเกินออก ทำให้ร่างกายมันเพรียวกว่านี้ ซึ่งจะได้ทั้งความเร็ว และความคล่องตัวที่เพิ่มเข้ามา หากชอว์ฟิตมากกว่านี้ เราน่าจะได้เห็นการเติมเกมรุกในสมัยที่เล่นคู่กับเดปาย ในยุคLVGยุคแรกแน่ๆ เพราะตั้งแต่เจ็บไปนั้นดูเหมือนว่าน้ำหนักตัวและหุ่นชอว์จะไม่เหมือนเดิมอีกเลย จึงเป็นเรื่องทางphysicalล้วนๆของลุค ชอว์

Harry Maguire

ในรายของกัปตันทีมเรานั้น ตอบง่ายมากเพราะมันมีไอ้ที่โดดเด่นอยู่เรื่องนึงที่เป็นจุดอ่อนสำคัญเลยเท่าที่เราเห็นอยู่ ณ ตอนนี้ นั่นก็คือเรื่องของการเข้าสกัดบอล หรือ Tackling นั่นเอง ซึ่งมันมีให้เห็นบ่อยๆหลายครั้ง ในจังหวะที่เขาเป็นตัวที่ใกล้ที่สุด และคู่แข่งกำลังจะเริ่มบุกจู่โจมจากตัวนั้น  แฮรี่ แมกไกวร์ซึ่งตามปกติเป็นกองหลังสายball-playing แกไม่ใช่สต็อปเปอร์ธรรมชาติแม้จะเล่นเกมรับดี แต่การเข้าแทคเกิลไม่เคยเป็นจุดเด่นของพี่แมกอยู่แล้วแม้จะตัวใหญ่ แกเป็นเซ็นเตอร์ตัวซ้อนดักทางซะมากกว่า ดังนั้นเรื่องการ "เข้าสกัดพลาด" ดังที่เราเห็นบ่อยๆนี้ก็ทำให้ทีมลำบากมาหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจึงเลือกจุดอ่อนที่ต้องกำจัดของแมกไกวร์ คือเรื่องการเข้าสกัดบอล

ส่วนอีกอย่างนึงที่น่าเป็นห่วง แต่น้อยกว่าหน่อย คือเรื่อง marking หรือการจับตัวประกบ ที่บ่อยครั้งอีกเหมือนกันที่บอลเข้าพื้นที่อันตราย และแมกไกวร์ก็ยืนอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้มาร์คติดตัวรับผิดชอบของเขาอยู่ บ่อยๆจึงไม่สามารถเข้าบล็อคได้ทัน ทั้งๆที่แกก็ยืนอยู่ตรงนั้น  เป็นแบบนี้บ่อยมากๆ

จริงๆแล้วต้องปรับปรุงทั้งสองอย่าง แต่ช็อตการเข้าปะทะของแมกไกวร์เนี่ยดูจะเป็นปัญหามากกว่า เพราะถ้าพลาดหลุดทีก็ นู่นเลย ไปเจอเดเคอาแล้ว ซึ่งมันเสี่ยงเกินไป

Victor Lindelöf

กองหลังสายถอยของเราตัวนี้ถือเป็นเซ็นเตอร์ตัวหลักที่โอเล่ไว้วางใจให้ลงประกบคู่กับแมกไกวร์บ่อยๆ และแถมพวกพี่แกทั้งสองคนยังเล่นสไตล์เดียวกันซะด้วย แต่แมกไกวร์ดูไว้ใจได้กว่าไอ้เลิฟเยอะ (ฮา) จุดแข็งมากๆของเลิฟข้อนึงผมว่าเป็นเรื่องของการตามประกบตัวเนี่ยแหละที่แกทำได้ดี เพราะมีความเร็วพอจะวิ่งสไลด์ขาตามไปคอยบังทาง และบีบติดตัวกองหน้าคู่ต่อสู้ได้ ซึ่งมันทำได้ดีและเหนียวมากๆ การดักบอลก็ดี

แต่จุดอ่อนหนักสุดของลินเดอเลิฟ ที่ทีมโค้ชควรจะไปแก้โดยไวหากยังอยากยึดตัวจริงอยู่  ผมเชื่อว่าข้อนี้ทุกคนตอบได้

นั่นก็คือเรื่องของ การโหม่งบอล(Heading) นั่นเองที่เข้าขั้นกากมากถึงมากที่สุด ขึ้นเทคทีไรแฟนผีสวดมนต์กันทุกครั้ง จุดนี้สำคัญเลยเป็นหนึ่งในคีย์ของทีมเราเลยด้วยซ้ำที่หากว่าแก้ไขข้อนี้ได้จะดีมาก เพราะคู่ต่อสู้เค้ารู้หมดแล้วที่จะจู่โจมบอลยาว บอลโด่งเข้าใส่ตัวประกบของลินเดอเลิฟ เค้าจะไม่มาเข้าทางแมกไกวร์เด็ดขาดเพราะพี่แมกยังไงก็แย่งโหม่งชนะตลอด

ลินเดอเลิฟจะอยู่หรือจะไปในอนาคต ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้เท่านั้น

Fred

มีอยู่หลายข้อทีน่าสนใจ นั่นก็คือเคสของ การยิง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทำประตูจากการซัดแถวสอง / สกิลเกมรับต่างๆในการช่วยทีมเล่นเกมป้องกัน / ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย

ขอตัดทิ้งเรื่องเกมรับก่อน หน้าที่ของเฟร็ดจริงๆมันค่อนข้างบาลานซ์ คือพี่แกเล่นBox to Box ในแบบที่หน้าที่เยอะจริงๆ ทำหมดทั้งรับ รุก และประคองคอนโทรลเกม เชื่อมเกมกลางสนาม ในปัจจุบันนี้ตามสถิติก็เห็นๆอยู่ว่าแกrecoveryบอลได้เยอะมาก บ่อยมาก รวมถึงการดักสกัดบอลด้วย ดังนั้นเอาจริงๆเรื่องเกมรับ แกเล่นรับได้ดีจนน่าเหลือเชื่อทั้งๆที่นี่แม่งเป็นมิดฟิลด์สายรุกมาก่อนซะด้วย

เรื่องของการยิงแถวสอง(Long shots) กับด้านความแข็งแกร่งของร่างกาย (Strength) มีสองเรื่องนี้ที่น่าสนใจ ซึ่งเอาจริงๆก็ต้องพัฒนาและปรับปรุงทั้งคู่นะ แต่จุดที่ผมเห็นว่าควรจะต้องหยิบเอามาพัฒนาก่อน ผมคิดว่าเป็นเรื่อง "ความแข็งแกร่งของร่างกายเฟร็ด" เป็นอันดับหนึ่ง

ในกรณีของเฟร็ดผมถือว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่าจุดอ่อนก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะมันก็ไม่ค่อยสร้างความเสียหายอะไรเท่าไหร่ ระยะหลังๆแกก็ไม่ได้ถึงกับป้อแป้ โดนปะทะร่างกายแพ้บ่อยๆซะที่ไหน  มันก็ไม่ใช่

เรื่องลูกยิงแถวสอง ข้อนี้อาจจะยังขาดก็จริง แต่ไม่ได้สำคัญมากเพราะว่า ทีมเรามีคนอื่นที่พร้อมจะหาจังหวะยิงไกลอยู่เต็มทีมแล้ว ไม่ว่าจะเป็น แรช หมาก บรูโน่ หรือรวมถึงมาต้า เมสันกรีนวู้ด ฯลฯ ทุกคนมีสกิลยิงไกลนอกกรอบพอสมควร ดังนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เราขาด (รวมป็อกบาให้ด้วยเอ้าถ้ายังอยู่กับทีม)  แต่ถ้าเฟร็ดปรับปรุงเรื่องร่างกายให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก  เขาจะสามารถเล่นเกมปะทะที่เอาชนะกันด้วยร่างกายได้ดีกว่าเดิม และบางครั้งก็อาจจะไม่เสียบอลเวลาโดนเข้ารุมดับเบิ้ลทีมอยู่บ่อยๆ (เพราะคู่แข่งกลัวการตั้งเกมของเขานี่แหละ จึงต้องรีบมาทำลายจุดเชื่อมบอลของทีมเราก่อน)

ถ้าพัฒนา Strength และร่างกายแกร่ง แน่นกว่านี้ได้ เฟร็ดจะกลายเป็นมิดฟิลด์กลางสนามที่perfectเข้าขั้นแนวหน้าของลีกได้เลย

Scott Mctominay

จุดอ่อนที่ แม็คโทมิเนย์จะต้องพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้ได้ นั่นก็คือเรื่องของการ "คุมจังหวะเกม" (Dictate Tempo) ให้ได้ดีกว่านี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของทักษะหรือสกิล แต่เป็นปัญหาด้าน "วิธีการเล่น" ซึ่งเป็นเรื่องของmethod & philosophy ในการเล่นล้วนๆที่เขาจะต้องพัฒนาขึ้น

สิ่งที่จะช่วยเขาได้มีอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือ "เวลา" เพราะเรื่องของวิธีคิดในการเล่นนี้นั้น หากจะคอนโทรลเกมได้จำเป็นต้องมีประสบการณ์และความเก๋าเกมสูงกว่านี้อีก  และยังมีทางลัดอีกอย่างที่ช่วยได้นั่นก็คือ "การสอนของโค้ชผู้มีประสบการณ์" (tutoring) ในด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเป็นโค้ชมิดฟิลด์จะช่วยได้มากแน่ๆในการสั่งสอน ให้ประสบการณ์ สอนวิธีคิดในการเล่นด้านการคุมจังหวะเกมได้

แน่นอน.. มีอยู่คนเดียวชัดๆ ใช่แล้ว ไมเคิล คาร์ริคอีกนั่นแหละ ที่เป็นความหวังสูงสุดในการพัฒนาแม็คโทมิเนย์

Bruno Fernandes

ตัดเรื่องเกมรับไปก่อน ไม่สำคัญเลยเพราะไม่ใช่หน้าที่เขาอยู่แล้ว สกิลเกมรุกทั้งหลายนั้น บรูโน่ก็มีอยู่ครบทุกด้านแบบเลเวลตันแทบจะหมดแล้ว

จุดเดียวที่บรูโน่ แฟร์นันดส์จะต้องอัพเกรดเพิ่ม จึงมีแค่เรื่อง "Strength" ด้านเดียวล้วนๆ คือความแข็งแกร่งทนทานของร่างกาย ที่จะต้องแน่นและเหนียวกว่านี้   เราจะไม่ใช้คำว่าphysicalกับบรูโน่ เพราะว่าด้านความเร็ว สปีดต้น ความคล่องตัว พี่แกมีครบถ้วนอยู่แล้วซึ่งเป็นความสามารถทางร่างกายเช่นกัน ดังนั้นก็เหลือแต่ความแข็งแรงของมัดกล้ามเนื้อหลัก+รอง ในการจะยืนระยะกลางสนามเพื่อฟัดเกมหนักๆให้ได้  หลายจังหวะที่เขาโดนแทคเกิลหนัก หรือโดนรุม หากบรูโน่แข็งแกร่งขึ้น เขาอาจจะเอาชนะการดวลตรงพื้นที่นั้น และหลุดไปสร้างโอกาสทำประตูให้ทีมได้สำเร็จ

Marcus Rashford

เท่าที่คิดได้ มันไม่ใช่เรื่องของร่างกาย ไม่ใช่เรื่องของทักษะ แต่เป็นด้าน "Mental" หรือ วิธีคิดในการเล่นล้วนๆที่แรชฟอร์ดจะต้องปรับปรุง ซึ่งหลายๆคนคงทราบกันดีว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของประสบการณ์อีกนั่นแหละที่ต้องใช้เวลาในการสั่งสมไปเรื่อยๆ จุดนี้จึงจะดีขึ้นเมื่อนักเตะมีชั่วโมงบินเพิ่มเติมขึ้นทุกวันๆ

ดังนั้น จึงสรุปได้เลยว่า ในกรณีของแรชฟอร์ด สิ่งที่ต้องพัฒนาอัพเกรดกำจัดจุดอ่อนเรื่องเดียวในตอนนี้ จึงเป็นเรื่องของ "การตัดสินใจ" (Decisions) ล้วนๆ ซึ่งเป็นตัวแทนได้หลายๆเรื่องเลย ทั้งการตัดสินใจในการเล่นจังหวะสุดท้าย การตัดสินใจในการเลือกช็อตจ่ายให้เพื่อน หรือการตัดสินใจที่จะ เล่น หรือ ไม่เล่นเพลย์ช็อตนั้นๆ

แรชฟอร์ดจะลดปัญหาเรื่องการชอบ "ฝืนเล่น" ไปได้เยอะเลยอันเป็นสิ่งที่มาจากลักษณะนิสัยการเล่นของเจ้าตัวโดยธรรมชาติที่ชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

การตัดสินใจ จึงเป็นเรื่องทางด้านMentalล้วนๆที่มาร์คัส แรชฟอร์ด จะต้องพัฒนา

Anthony Martial

เป็นอีกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับด้าน Mental ของนักเตะ เหมือนกรณีของแรชฟอร์ดเลย แต่เป็นคนละด้านกัน เป็นเรื่องของ"ความแข็งแกร่งในจิตใจ" ล้วนๆที่เขาต้องพัฒนา ไม่ใช่การตัดสินใจ เพราะการเลือกช็อตเล่น ความคิดในการเล่นของหมากนั้นเหนือกว่าแรชฟอร์ดอยู่แล้ว

แต่เขามักจะเป็นนักเตะที่เวลาหายก็หายไปเลย ด้วยความมั่นใจ ความทุ่มเท ที่มีน้อยกว่าคนอื่นแบบชัดเจน ดังนั้น ปัญหาเรื่องของ "ความทุ่มเทและความมุ่งมั่น" จึงเป็นปัญหาหนักที่มาร์กซิยาลจำเป็นต้องแก้ไขให้ได้

ส่วนเรื่องอื่นในเชิงทักษะฟุตบอล ไอ้หมอนี่สกิลเลเวลตันไปแล้ว เหลือแค่พัฒนาสิ่งนี้เท่านั้นเอง นั่นก็คือ Work Rate กับ Determination ในการเล่น

Daniel James

สิ่งเดียวที่แดนเจมส์ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน คือเรื่องของ "การจบสกอร์" (Finishing) คือเอามันไปเทรนเรื่องการยิงประตูอย่างเดียวหนักๆเลย ไปซ้อมกับโกลนั่นแหละ ยิงแม่งเข้าไป ซ้อมยิงทั้งวันจนกว่าจะมั่นใจและยิงประตูได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่แดเนียล เจมส์ กลายเป็นปีกที่สามารถทำประตูได้

นั่นแหละ โลกทั้งใบเตรียมตัวสะพรึงกับปีกเทพตัวใหม่ได้เลย ถ้าน้องเจมส์มันยิงแม่นๆเมื่อไหร่นะมึงงงงงง

Eric Bailly

ไบญี่ มีปัญหาหนักเรื่องเดียวที่ทำให้เขาไปไม่ได้ไกลมากนักนั่นก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บ ที่ถือว่าเป็นนักเตะเข้าขั้นกระดูกยุงอีกคนนึง คือร่างกายแกมีจุดที่พร้อมเจ็บเยอะมากๆ สไตล์การเล่นที่เข้าหนัก เข้าทั้งตัว เล่นผาดโผน ดังนั้นเมื่อเข้าบอลแบบไม่บันยะบันยัง ผลก็คือ แกมีโอกาสเสี่ยงจะเจ็บได้ทุกนัด

แฟนผีไม่ห่วงฟอร์มมันเลย ห่วงว่ามันจะเจ็บออกไปนาทีไหนซะมากกว่า

ดังนั้นในกรณีของเอริคไบญี่ มันคือเรื่องของNatural Fitness ล้วนๆ 

Diogo Dalot

ปัญหาของโล่ก็คือ "เขาเล่นด้วยความสามารถของปีก ในตำแหน่งแบ็ค" คือมีแต่เกมรุก มีแต่ความเร็ว และการดันขึ้นสูงเพื่อบุกจู่โจมเท่านั้น แต่แบ็คมันก็คือกองหลังที่เล่นเกมริมเส้น และดาโล่ไม่มีสกิลเด่นๆด้านเกมรับเลย มีเพียงการไล่ตามmarkingที่พอจะทำเนาบ้าง แต่ก็น้อยนิด เพราะมีความเร็วพอจะวิ่งไล่ตามปีก แต่การประกบตัวก็ยังไม่ดีอยู่ดี แถมพี่แกยังหลุดpositionบ่อยมากจนน่าเป็นห่วง

ให้เลือกระหว่าง Tackling กับ Positioning (การเข้าสกัดบอล กับ การยืนตำแหน่งเกมรับ) ถือว่าเป็นข้อด้อยทั้งคู่เลยของดาโลต์ที่ต้องพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขสองอย่างนั่นแหละในความเป็นจริง แต่หากจะให้เลือกแค่จุดเดียวที่เป็นที่สุดหากอยากให้แก้ไขก่อน ผมว่าเขาไม่มีสกิลตัวรับเลยแม้แต่น้อย การเข้าแทคเกิลนี่ไม่เคยเห็นเลย เห็นมีแต่เติมไปครอส

เพราะงั้น ขอเลือกให้ไปฝึก Tackling มาด่วนๆสำหรับดาโลต์ อย่างน้อยต้องสกัดบอลได้บ้างนะ

Mason Greenwood

จุดอ่อนที่เห็นชัดสุดๆ มันคือปัญหาเวลาน้องลงเล่นตัวจริงแล้วหลายๆครั้งมักจะหายไปจากเกม ไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย กับเรื่องของกายภาพ ที่ร่างกายน้องยังโตไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อส่วนสูงยังขึ้นได้อีกเยอะมากๆ เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ดังนั้นPhysicalเราจะไม่พูดถึงเพราะน้องมันก็กำลังอัพกล้ามเนื้ออยู่นะ

ปัญหาของเมสันจึงเป็นเรื่องของการเล่นล้วนๆในด้านของ "การลงมามีส่วนร่วมกับเกม" ให้มากขึ้น อย่าหายต๋อมไปทั้งเกม และรวมถึงการเก็บบอล ครองบอลไว้กับตัวได้อีกนิดจะเลิศกว่านี้มาก

เรื่องร่างกาย มันต้องพัฒนาตามเวลาอยู่แล้วอย่าไปเร่งรัดน้องมัน แต่จุดที่แก้ได้คือเรื่องการเล่นในสนามนั่นเอง

Juan Mata

ข้อด้อยอย่างเดียวของมาต้า เป็นเรื่องของ "ความเร็วในการเคลื่อนที่"(Acceleration) ที่มีจำกัดเหลือเกิน อันเป็นผลมาจากสรีระของแกที่ตัวเล็ก และpaceการวิ่งก็ค่อนข้างต่ำมากพอควร  นอกจากนี้ส่วนอื่นๆก็เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งทางร่างกายที่แกมักจะเสียเปรียบเวลาเจอเกมหนักประชิดตัว

สาเหตุที่ไม่เลือกเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย เป็นหัวข้อหลักของมาต้าเป็นเพราะว่า จริงๆแล้วตำแหน่งเขาก็ไม่ต้องใช้ร่างกายไปเบียดปะทะกับใครนะ แต่เรื่องสปีดในการวิ่งเนี่ย สำคัญสุด เพราะถ้าตัวรุกวิ่งช้ามันก็จบเลย การเล่นจะจำกัดรูปแบบมากๆ โดนดักทางง่าย

Nemanja Matic

มาติชที่องค์ประทับกลับมาเกิดใหม่อีกคนอย่างสวยงาม จากที่เคยมีปัญหาเสียบอลง่าย ช้าเป็นเรือเกลือในอดีต ซึ่งอาจจะเป็นเพราะกรำศึกหนักๆไม่ได้พัก พอมีช่วงพัก กลับมาก็ฟอร์มดียาวๆจนถึงตอนนี้ แกคุมเกม คุมตำแหน่ง และออกบอลได้สุดยอดมากๆ บางทียังมีแอบยิงได้ด้วย

จุดอ่อนของมาติช เราจะไม่บอกว่ามันคือ "ความช้า" ของเขา เพราะนั่นเป็นประเด็นที่ "ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว" ของมาติชเพราะเขาอายุเยอะแล้ว ร่างกายก็มีขีดจำกัดแค่นั้น

แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับจริงๆของมาติช มันคือเรื่อง "ความเด็ดขาดของเกมรับ" (Defending) อย่างเดียวเลยที่เขาควรจะต้องทำให้ดีกว่านี้

คือมาติชเป็นนักเตะที่สรีระดีเยี่ยม หน่วยก้านดี แต่แกกลับไม่เด่นเกมรับเอามากๆ เพราะโดยพื้นฐานแกเป็นตัวHoldingแนวลึกซะมากกว่าที่จะเป็น Anchorman หรือเป็นDefensive Midfielder เป็น DLP ที่ยืนต่ำคุมเกมจากแนวกลาง-หลัง ถ้ามาติชพัฒนาเกมรับให้คมกริบ และเด็ดขาดกว่านี้ จะลดภาระให้แผงแบ็คโฟร์เราได้อีกเยอะมาก

Paul Pogba

แทบไม่มีอะไรเป็นห่วงเลยในด้านของTechnical และ Physical อย่างที่บทความอื่นๆบอกไว้แล้วว่า เขาเป็นนักเตะที่แทบจะสมบูรณ์มากๆเพราะตัวใหญ่ แข็ง และยังเทคนิคดีจัดๆ

แต่สิ่งที่ป็อกบาต้องพัฒนาแก้ไข เป็นเรื่องของMental ล้วนๆ มันคือปัญหาเรื่องของความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป

ป็อกบาเป็นนักเตะที่ชอบให้สปอตไลท์ส่อง และเขามักจะพยายามโชว์ให้คนอื่นเห็นเสมอว่า เขามีของ เขาทำได้ ดังนั้นจึงเกิดการฝืนและเล่นยากๆเกินไปอยู่บ่อยครั้งในบางจังหวะที่ไม่ควรเล่นยาก

เคสของป็อกบาจึงเป็นปัญหาของเรื่อง "วิธีคิดและปรัชญาในการเล่น" ของเขาล้วนๆ (Mindset & Philosophy) ที่หากลดอัตตา ตัดอีโก้อะไรบางอย่างออกไปได้ การเล่นของป็อกบาจะพัฒนาขึ้นไปใกล้เคียงระดับโลกมากกว่าเดิมเยอะ เหมือนกับกรณีนักกีฬาคนนึงที่ก้าวหน้าไม่ได้เพราะติดการเล่นแบบวันแมนโชว์นั่นแหละ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มองเพื่อนร่วมทีมมากกว่าเดิม เขาจะยิ่งเก่งขึ้นไปอีก

Phil Jones

ตำแหน่งCBต้องการความแน่นอนในการเล่นค่อนข้างเยอะ แต่เขากลับเป็นนักเตะประเภทที่มีความไม่แน่นอนอยู่ในตัวสูงมาก ทั้งด้านกายภาพที่พร้อมเจ็บหนักตลอด และการตัดสินใจเล่นที่หลายครั้งมักจะตัดสินใจพลาด ทั้งการอ่านเกม เข้าบอล จนทำให้ทีมเสียหายบ่อยครั้ง

ถ้าให้เลือกด้านเดียวที่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่สุดที่ทำลายทุกอย่างของฟิลโจนส์ มันคือเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บทั้งนั้นที่ทำให้เขาไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้  การพัฒนาการหยุดชะงักตลอดเวลา ดังนั้นNatural Fitness จึงส่งผลต่อโจนส์ตลอดอาชีพของเขาจริงๆ

Odion Ighalo

สำหรับในรายของอิกาโล่นั้น ด้วยอายุอานามที่มาถึงเลข3แล้ว เราอาจจะหวังให้เขาว่องไวปราดเปรียวเหมือนหนุ่มๆไม่ได้ แต่นักเตะคนนี้มีการยืนตำแหน่ง หาตำแหน่งยิง มีการจบสกอร์ที่ดีมากๆ และทีมเวิร์คสูงสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นกองหน้าตัวค้ำแบบที่ทีมเราขาดเลย ติดแค่ออร่าเท่านั้นเอง จริงๆเขาควรได้ลงตัวจริงก่อนมาร์กซิยาลในตำแหน่งSTแล้วด้วยซ้ำไป

จุดอ่อนเดียวที่อิกกี้ต้องปรับปรุง ก็คงจะเป็นเรื่องของ "การโหม่งทำประตู" (Heading) ที่แกไม่มีเลย และก็พัฒนายากแล้วด้วยเพราะส่วนสูงยังไม่ใหญ่พอจะใช้ลูกโหม่งช่วยทีมได้

Andreas Pereira

ทักษะการเล่นฟุตบอล จริงๆถือว่าเปเรร่าทักษะสกิลมันสูงนะ ไม่ใช่ไก่กาเลย ลูกยิงไกล ยิงฟรีคิกสวยๆสมัยดาวรุ่งก็มีให้เห็นหลายครั้ง นี่เป็นจุดแข็งสุดของแกด้วยซ้ำ ส่วนการเลี้ยงบอลครองบอล จะบอกว่าเป็นปัญหาก็ไม่ถึงขนาดนั้น ก็พอจะมีสกิลบ้าง

เรื่องทางสรีระ กายภาพ ความแข็งแกร่ง ก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาอะไร

หลายคนบอกว่า ปัญหาเรื่องการเสียบอลบ่อยๆของเปเรร่า .. ข้อนี้จะพูดก็อาจได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ เพราะหลายๆครั้งเขาถูกดึงต่ำลงมาเล่นมิดฟิลด์ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติของมัน ความผิดอยู่ที่คนจัดมันลงตำแหน่งกองกลางต่างหาก อาจจะด้วยความจำเป็นเพราะไม่มีตัวจะเล่นด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าเขาได้เล่นตำแหน่งถนัดอย่างตัวรุก ก็หมดปัญหาแล้ว

สิ่งที่ขัดขวางการพัฒนาของเขา ผมคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาด้าน "Mindset" ล้วนๆเลย ทั้งความพยายามที่จะฝืนเล่นมากไปเพื่อที่อยากจะโชว์ผลงานให้เห็น / การเข้าบอลหนักๆ การเก๋า ออกลูกนักเลงแบบไม่จำเป็น ซึ่งก็ไม่รู้จะทำเพื่ออะไร น้องมันอาจจะเข้าใจผิดว่าสิ่งนี้คือ DNA แบบทุ่มเทๆของแมนยูละมั้ง

ดังนั้น จุดที่ต้องแก้คือ ทัศนคติในการเล่น และวิธีคิดของน้องก่อนเลย ถ้าเปเรร่าโตขึ้น ใจเย็น และตัดสินใจในสนามได้ดีกว่านี้ ทักษะที่ติดตัวอยู่ของเขามันจะต้องมีประโยชน์กับทีมแน่ๆหากพัฒนาได้ เพราะเจ้าตัวมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว

Sergio Romero

ผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนที่สองของทีมผู้นี้แทบจะไม่มีจุดอ่อนให้เห็นเลย บอกตรงๆว่าตอบยาก เพราะพี่แกทำได้ดีหมดทั้งshot stopper การเล่นลูกกลางอากาศ การอ่านเกม การออกบอล ด้วยความที่เป็นนักบาสเก่า การใช้มือเล่นนี่คือสุดยอดมาก ดังนั้นสำหรับโรเมโร่ ผมยอมรับตามตรงว่าหาจุดอ่อนแทบจะไม่ได้จริงๆ หากจะพยายามแถเอาจุดเดียวที่พอจะรู้สึกได้จริงๆ ก็น่าจะเป็นเรื่อง "สมาธิ" มั้งที่เอาจริงๆ แกก็สมาธิดีนะ ไม่ค่อยหลุด คือใครจะเจาะประตูแกยากมากๆ ดูเหนียวกว่าเดเคอาอีก

แต่เท่าที่จำได้ ไม่กี่ครั้งที่เราได้เห็นโรเมโร่เสียประตูนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกแบบ "อิหยังวะ" ลูกง่ายจัดๆที่ไม่ควรจะพลาด แต่ไอ้ของยากๆอื่นๆพี่แกเซฟได้หมด ทำดีหมดเลย ดังนั้นนี่คือการพยายามแถสุดๆเพื่อจะหาจุดอ่อนแกมาให้ได้ ก็จะเห็นแค่เรื่องเดียวนี่แหละคือ สมาธิ ที่บางทีหลุดบ้าง  แต่ส่วนใหญ่ 90% แกไม่หลุด!

----ดาวรุ่ง----

Brandon Williams

เคสของไอ้เด็กตาขวางคนนี้ มีเรื่องนึงที่ต้องพัฒนาโดยการให้ลงสนามบ่อยๆ นั่นก็คือปัญหาเรื่องของ"การยืนตำแหน่ง" (Positioning) ของแบรนดอน วิลเลียมส์นั้นมีปัญหาพังบ่อยๆ เพราะพี่แกเติมเกมสูงมาก จนบางครั้งเติมแล้วหลุดตำแหน่ง หลุดไม่พอแกยังเลือกpositionที่จะยืนยังไม่รัดกุมเท่าไหร่ ยังยืนมั่วบ่อยๆทั้งเกมรุกเกมรับ ดังนั้นเรื่องนี้ให้เวลาเป็นตัวขัดเกลา และถ้าพัฒนาให้มันนิ่งกว่านี้ได้จะดีมาก เพราะด้านmentalในการเล่น สกิล ร่างกาย ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้วสำหรับดาวรุ่ง

Angel Gomes

รายนี้เพิ่งเขียนไปเลย ปัญหาของโกเมสไม่ใช่ส่วนสูงเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แต่สิ่งที่โกเมสยังไม่มีก็คือ "กล้ามเนื้อ" และความแข็งแกร่งนั่นเองที่ยังขาดอยู่  ถ้าเขาแกร่งและเหนียวกว่านี้ ส่วนสูงจะไม่ใช่ปัญหาในการอยู่ในพรีเมียร์ลีกเลยเพราะว่า นักเตะอย่างมาต้า อเล็กซิส แบร์นาโด้ พวกนี้ยังเล่นกันได้เลย   เพราะงั้น เด็กมันเพิ่ง19 ให้เวลามันไปก่อน ถ้าเก๋าและเหนียวขึ้น ในอนาคตเขาจะเป็นกำลังสำคัญของทีมได้

Tahith Chong

ชองมีทักษะ มีความเร็วที่ดีในการเล่นWinger เรียกว่าเป็นวัยรุ่นที่พร้อมเล่นปีกมากๆ แต่ปัญหาใหญ่ๆของชองนั้น คือเรื่องของการตัดสินใจในการเล่นล้วนๆที่ยังตัดสินใจเลือกเพลย์ไม่ดี เพราะเขามักจะฝืนเล่นเองบ่อยๆ และบางทีก็เลือกจังหวะการเล่นที่ไม่เข้ากับคนอื่นๆ

เรื่องของtempoการเล่นนี้สามารถแก้ไขได้ถ้าได้ลงสนามพร้อมกับเพื่อนบ่อยๆ มันจะเข้าใจกันเอง ปัญหาคือมันไม่มีที่ว่างให้ชองลงนี่สิ

James Garner

ไอ้หนูการ์เนอร์ตอนนี้มีปัญหาเดียวเลยคือเรื่องของชั่วโมงบิน น้องควรจะได้ปล่อยตัวไปยืมตัวลงสนามจริงบ่อยๆจึงจะพัฒนาได้ และอีกอย่างที่สำคัญ เห็นบ่อยๆคือเวลาขึ้นมาทีมชุดใหญ่ แกมักไม่ค่อยกล้าเล่นทั้งๆที่ทีมสำรองก็เล่นดีมีความสามารถสูง ดังนั้นกรณีของการ์เนอร์นั้น มันคือเรื่องของ "ความกล้าเล่น" ที่เวลาขึ้นมาชุดใหญ่นั้นมักจะไม่กล้าทำอะไรเท่าไหร่นัก ควรปรับปรุงเรื่องนี้ในอนาคต

Jessie Lingard

นี่คือนักเตะคนเดียวในทีมที่เราไม่สามารถนำมาเขียนในบทความ The Weakest Link กำจั้ดดดดด จุดอ่อนนนนน นี้ได้เลย เพราะถ้าจะให้เลือกเอาจุดอ่อนที่ต้องพัฒนาของนักเตะคนนี้ออกมานั้น ผมพูดเลยว่า "ไม่สามารถเขียนได้" ไม่รู้จะเลือกด้านไหนสักอย่างเพราะมันอ่อนหมดทุกเรื่อง สำหรับนักเตะคนนี้ หาจุดข้อดีน่าจะง่ายกว่ามาก และจุดแข็งที่สุดของลินการ์ดนั่นก็คือ เต้นเก่งสุดๆนั่นเอง..

เปลี่ยนอาชีพมาเต้นในแอพTikTok น่าจะเหมาะสุด

-ศาลาผี-