:::     :::

"ราชันย์ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อแมนยู" Chris Smalling

วันอาทิตย์ที่ 03 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
57,564
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จาก "คิงสมอลลวย" สู่ "คิงออฟโรมัน" คริส สมอลลิ่ง และบทวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จของเขาที่อิตาลี และเส้นทางเบื้องหลังที่แฟนผีน่าจะได้รู้ และยินดีกับ"หนึ่งในนักเตะปีศาจแดงของพวกเรา" คนนี้

"ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเก็บเขาให้อยู่กับRomaในปีหน้าให้ได้ ผมรู้ว่าเขาอยากจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องดูกันต่อไป เขาเป็นคนที่น่าทึ่งมากนะ อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นมืออาชีพมากด้วย เขาเป็นที่รักของแฟนๆและก็สถาปนาตัวเองกลายมาเป็นผู้นำคนนึงของเราในห้องแต่งตัวแล้ว"

"ไม่ใช่เรื่องง่ายนะสำหรับกองหลังอังกฤษที่จะปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมฟุตบอลของอิตาลีได้เร็วมากขนาดนี้ ตามสถิติที่ผ่านมามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เขากลับน่าอัศจรรย์มากจริงๆ"

Paulo Fonseca แจ้งเจตจำนงอย่างชัดเจนแบบไม่กั๊กว่าเขาจะทำการสุยสมอลลิ่งไปใช้งานถาวรให้จงได้เมื่อสัญญายืมตัวสิ้นสุดลง ซึ่งสมอลลิ่งเองตอนนี้ก็ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเขา ว่าในซีซั่นถัดไปจะอยู่ที่ไหน ซึ่งตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะไม่อยู่ในแพลนหลักของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาแล้ว



ในขณะที่การมาอิตาลีทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในเซเรียอา และปัจจุบันที่เป็นสัญญายืมตัวอยู่ แต่เชื่อว่าเขาอาจจะเดินตามรอยเพื่อนเขาอย่าง แอชลีย์ ยัง ไปลงหลักปักฐานอยู่ที่อิตาลีก็เป็นไปได้สูงมาก

ผมไปนั่งทำสถิติเปรียบเทียบมาให้ดูในบทความนี้โดยเฉพาะให้เห็นจะจะ เมื่อเทียบSmallingกับ Koulibaly หลังจากผ่านซีซั่นมาจนกระทั่งถึงล่าสุดที่ได้เตะกันไป มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเมื่อสมอลลิ่งมีสถิติการลงเล่นในอิตาลีที่ดีมากจริงๆใน"ระดับเดียวกัน"กับคูลิบาลี่

ไม่ใช่มุก นี่เรื่องจริง



วัดกันปอนด์ต่อปอนด์ สถิติเฉลี่ยต่อเกม Smalling (30ปี สูง194cm) VS Koulibaly (28ปี สูง186cm)

จำนวนนาทีการลงเล่่น
Smalling 2370 - 1758 Koulibaly

แทคเกิลต่อเกม
Smalling 1 - 2.5 Koulibaly

ตัดบอล
Smalling 2.1 - 1.2 Koulibaly

ฟาล์ว
Smalling 1.2 - 1.2 Koulibaly

เคลียร์บอล
Smalling 4.3 - 3.5 Koulibaly

เลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้
Smalling 0.1 - 0.9 Koulibaly

บล็อค
Smalling 1.1 - 1 Koulibaly

เรทติ้งเฉลี่ย
Smalling 7.04 - 6.97 Koulibaly

และสุดท้าย Own Goals
Smalling 0 - 1 Koulibaly

Table.1 ตารางบนคือสถิติเกมรับของSmalling ตารางล่างคือสถิติของKoulibaly, source : whoscored.com

มีเพียงแค่ Tackles ที่คูลิบาลี่ดูจะมีเรทที่เยอะกว่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของสไตล์การเล่นอยู่แล้วที่สมอลลิ่งไม่ใช่คนที่จะพุ่งตัวเข้าไปบวกสกัดคู่ต่อสู้ซี้ซั้ว เข้าแต่ละดอกคือต้องอ่านจังหวะก่อน ชัวร์แล้วค่อยเข้า และในส่วนของด้านการเลี้ยงหลบฝั่งตรงข้าม แต่นอกนั้นดูเหมือนว่าสถิติด้านเกมรับ สมอลลิ่งจะเหลื่อมๆด้วยซ้ำ เช่นอัตราการเคลียร์บอลได้ต่อเกมนี่คือ ชนะขาด บล็อคก็ชนะ การตัดบอลก็ชนะขาดเช่นกัน รวมถึงเรทติ้งเฉลี่ยด้วยทั้งๆที่เล่นจำนวนนัดมากกว่าถึง6นัด แต่สถิติก็ยังดีอยู่

บางทีผมนั่งอ่านอะไรพวกนี้ ผมก็มักจะระมัดระวังตัวเสมอว่า เฮ้ย มันก็แค่ตัดมาเปรียบเทียบให้มันดูขำๆ แบบว่า นี่มันเก่งกว่าคูลิบาลี่ที่พวกมึงอยากจะได้ตัวกันอีกนะ ฯลฯ ช่วงแรกๆผมจึงยังไม่ใส่ใจมากในการมานั่งดูสถิติพวกนี้

นี่คือสถิติของช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา จะเห็นว่าเมื่อดูทิศทางแนวโน้มกับข้อมูลเปรียบเทียบล่าสุด ก็พบว่าตรงความเป็นจริง

แต่นี่คือ นั่งทำข้อมูลเอง เห็นเอง ชัดเจนว่า สมอลลิ่งที่เซเรียอานี่คือ "ของจริง"

ในฐานะที่เค้าเป็นคนของเรานะ ผมจะดีใจมากๆที่ได้เห็นคนที่เราคุ้นเคย มีเส้นทางที่ดีและสดใสในอนาคต ถึงจะไม่ใช่กับเราก็ตามที มันก็เหมือนอย่างที่บอกไปในโพสต์ก่อนๆ

"นักเตะที่เก่งมาก บางทีเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อทีมเราก็ได้"

บางคนบอก ตัวดีๆที่ไหนมาแมนยูก็กากหมด อันนี้ก็อาจจะจริงอยู่บ้าง ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของจังหวะ โอกาส คอนดิชั่น ฯลฯ นั่นเป็นเพราะวัฒนธรรมสโมสร และสไตล์การเล่นของนักเตะแต่ละคนก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับแมนยูเสมอไป บางคนที่เห็นว่าเก่งจัดๆตอนอยู่กับเรา  แต่ถ้าเขาเลือกไปอยู่สโมสรอื่นอาจจะไม่เก่งแบบนี้ก็ได้ เช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนเป็นดาวรุ่ง ก็ไม่มีใครรู้ว่า หากไม่ได้อยู่ในมือป๋าแล้วนั้น เขาอาจจะเป็นเหมือนกับ Ravel Morrison หรือเปล่า หรือไม่ได้เติบโตขึ้นในแบบที่ถูกที่ควร อาจจะเป็นได้แค่ "กวาเรสม่า" อีกคนนึงเท่านั้น

สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครยืนยันได้เลยว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่เช่นนั้นป่านนี้เราอาจจะมีนักเตะที่ฟาดบัลลงดอร์ไป7สมัยติดต่อกันที่ชื่อว่า Ravel Morrison ไปแล้ว

เช่นเดียวกันกับเคสของ คริส สมอลลิ่งนี่แหละ ที่ไม่มีใครรู้ว่า จริงๆแล้วเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นกองหลังของเราที่โอลด์แทรฟฟอร์ดหรอก แต่เขาอาจจะเป็นสุดยอดกองหลังของลีกอิตาลีอย่างที่เป็นอยู่เช่นนี้ต่างหาก ลองคิดสภาพดูว่าหากสมอลลิ่งมาเติบโตและโด่งดังอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก เราอาจจะมีข่าวอยากซื้อเขาในราคา 80-100ล้านปอนด์ เพื่อมาอุดรูรั่วในแผงหลังก็เป็นได้ นี่ไม่ใช่มุกตลก แต่มันอาจจะเป็นไปได้จริงๆ

เรามาลองวิเคราะห์ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้สมอลลิ่งไปได้ดีกับโรม่ากันดู ประเด็นสำคัญคือ ผู้จัดการทีมของคิงสมอลลิ่งของเรานั้นคือเปาโล ฟอนซีก้า ซึ่งติดตั้งระบบ 4-2-3-1 ให้กับRoma ซึ่งเป็นแทคติกที่สมอลลิ่งคุ้นเคยอยู่แล้วเพราะมันก็เป็นระบบมาตรฐานที่ยูไนเต็ดเองก็ใช้เหมือนกัน ซึ่งอดีตนายใหญ่ของเฟร็ดที่ชัคตาร์คนนี้นั้นมักจะให้กองหลัง"ดันสูง" โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์อย่าง สมอลลิ่ง กับ เจียนลูก้า มันชินี่ คู่หูของพี่ไมค์เรานั่นเอง ทั้งคู่มีทั้งความเร็วและเทคนิคที่พอจะดันเกมสูงได้ ในขณะที่แดนกลางก็ปล่อยให้เดียวาร่าวิ่งพล่าน และกองหน้าใช้เป็นเซโก้ที่ถอยลงมาล้วงบอลต่ำได้อย่างยืดหยุ่น

ในภาพนี่คือ6ตัวแดนหน้าดันขึ้นมาถึงหน้ากรอบประตู ส่วนแบ็คโฟร์ที่ไม่เห็นในรูปนี้ก็อยู่สูงขึ้นมาถึงกลางสนามแล้ว

โดยอีกสิ่งหนึ่งที่ประสบผลสำเร็จคือ ลูกเซ็ตพีซของฟอนซีก้านั้นถูกใช้มาเป็นอาวุธหลักอีกอันของโรม่า ซึ่งนักเตะในทีม เกิน6คนที่สูงเกินกว่า6ฟุตทั้งนั้น ดังนั้นสูตรเวลาได้ลูกเตะมุมของโรม่าคือ ใช้ความสูงในการมาแพ็คจู่โจมใส่พื้นที่อันตรายตรงกลางเลยเวลาโดยเข้ามา

และก็อย่างที่รู้กัน หัวของคริส สมอลลิ่ง สั่งได้ขนาดไหน


อีกประการหนึ่งที่น่าจะเกี่ยวพันในเชิงtechnicalโดยตรงเลยนั่นก็คือ สภาพการเล่นของลีกอังกฤษกับอิตาลีนั้นวิธีการเล่น สไตล์ของลีกก็ต่างกันเยอะ ซึ่งลีกอังกฤษก็เน้นเร็วแรง บอลหนัก อย่างที่เราทราบกัน แต่อิตาลีนั้นสปีดบอลจะช้ากว่าเล็กน้อยแต่จะเน้นที่เชิงเทคนิค แทคติก และการอ่านเกมเป็นหลัก

ดังนั้นเราก็รู้ๆกันอยู่ คริส สมอลลิ่ง เป็นกองหลังสายดักทาง เน้นการอ่านเกมอยู่แล้ว เมื่อเขามาอยู่ในลีกที่มัน "ขับ" เอาความสามารถที่มีอยู่ในตัวทั้งหมด รีดเร้นออกมาใช้อย่างเต็มที่ได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งมันเข้าทางกับเขาอยู่แล้วที่เน้นดักทางอ่านเกม เมื่อเป็นเช่นนี้การเล่นในลีกของสมอลลิ่งจึงทำได้ง่ายกว่า ในวัยที่ขึ้นเลข3 และสปีดพลังเริ่มถดถอยลงบ้าง การย้ายออกจากลีกอังกฤษที่เน้นสิ่งนี้เล่นกันเป็นหลัก อาจจะดีกว่าและถูกต้องแล้วจริงๆก็ได้


นักข่าวที่อิตาลีถามเขาในหลายๆข้อที่น่าสนใจ ซึ่งในบรรดานี้ก็มีข้อซัพพอร์ตของHypothesisเรื่องการpush up highด้วย

-คนอังกฤษมาเล่นที่นี่น้อยมากๆ แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่นี่ล่ะ

"ที่อังกฤษไม่ค่อยมีใครออกไปค้าแข้งต่างประเทศหรอก แต่ผมมีความต้องการลึกๆอยู่เสมอว่าอยากจะมีประสบการณ์กับสโมสรใหญ่ๆที่มีแรงบันดาลใจสูง ผมมองหาสิ่งนี้เสมอ ซึ่งผมชอบใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องคอยคิดเสียใจในเรื่องต่างๆ ดังนั้นผมจึงอยากจะเดินทางเสมอๆ"

-คุณมาจากพรีเมียร์ลีก คุณคิดว่าอิตาเลียนลีกแตกต่างกันยังไง

"เซเรียอาเป็นลีกที่ผมอยากลองเล่นดูสักครั้ง เพราะว่าในฐานะกองหลังคุณต้องอยากมีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์ที่เซเรียอาแน่นอน ผมคิดว่าผมเล่นมาเยอะที่พรีเมียร์ลีกแล้ว และผมจะเอาสิ่งที่เรียนรู้มาทั้งหมดมาใช้ที่อิตาลีนี่ นั่นแหละที่ผมตั้งใจไว้"

-คุณประทับใจเปาโล ฟอนซีก้ายังไงบ้าง

"ผมได้คุยกับเขาก่อนจะย้ายมาที่นี่ เขาบอกความตั้งใจของเขา สิ่งที่เขาอยากได้จากผม และผมเห็นตรงกับเขาทุกอย่าง ซึ่งเซสชั่นแรกที่นี่ผมเห็นทีมที่ต้องการเล่นเพรสซิ่ง เล่นอย่างดุดัน เขาต้องการกองหลังที่ทั้งดุ และสามารถรับมือกับการวิ่งแข่งในแนวรับได้ และผมว่ามันเหมาะเจาะกับผมเลย ซ้อมสัปดาห์แรกมันเยี่ยมมากๆและผมก็อยากจะอยู่กับสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ"

-แทคติกการเล่นทำให้กองหลังอย่างคุณกดดันไหมที่ต้องทำให้ได้ในการเล่นแบบนั้น

"มีหลายๆอย่างในเกมรับที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ รวมถึงเซ็นเตอร์ด้วย แต่ว่ามีบางอย่างที่ผมชอบ ผมชอบดันสูง ขึ้นไปข้างหน้าและผู้จัดการก็ชอบให้เราดันขึ้นไปด้วย ซึ่งผมเป็นคนที่ชอบเล่นป้องกันจากด้านหน้า ดังนั้นมันเป็นวิธีการเล่นฟุตบอลที่แจ๋วมากสำหรับผม และผมหวังว่ามันจะทำให้ผมแสดงร่างที่แท้จริงออกมา"

-คุณได้แชมป์ยูโรป้าลีกมากับแมนยูไนเต็ดแล้วนี่ โรม่าจะทำได้ดีในรายการนี้เช่นกันหรือไม่ในปีนี้

"ผมคิดว่าที่นี่มีโอกาสสูง เราคือหนึ่งในตัวเต็งถ้วยนี้ที่มีโอกาสมาก มันเยี่ยมที่เคยได้แชมป์มาแล้วก่อนนี้ แต่ว่าถ้าได้อีกที่อิตาลีจะแจ่มมากเลย"

-คุณถูกยืมตัวมาที่นี่ อยากจะอยู่ต่อเลยได้ไหม

"มันคือโอกาสที่ผมได้รับเข้ามาและผมสนใจอยากจะมาที่นี่มากๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างไว และผมโฟกัสกับเกมถัดๆไปเสมอ พยายามที่จะฝึกซ้อมและศึกษาแบบแผนของผู้จัดการทีม และหวังว่าผมจะมีซีซั่นที่ดีปีนี้ แล้วเดี๋ยวจกนี้ค่อยว่ากัน ซึ่งการมีโอกาสอยู่ทีมใหญ่ๆนั้นถ้ามันจะอยู่ได้นาน และสโมสรแฮปปี้ ตัวผมแฮปปี้ นั่นแหละผมจึงจะเห็นอนาคตได้ยาวๆที่อิตาลี"

เห็นอนาคตของเรานั่นไหมที่รัก

ชีวิตใหม่ของคริสสมอลลิ่งที่กรุงโรมนี้มันช่างต่างกับชีวิตที่เคยเป็นตอนอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างมาก ซึ่งที่นี่เขาได้มาร่วมทีมกับอดีตนักเตะทีมคู่อริแมนยู, ซ้อมเคียงข้างกับเด็กวัย20ปีที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นต็อตติคนถัดไป และการมาเริ่มเป็นวีแกน ในดินแดนแห่งพาสต้าประเทศนี้

ปัญหาใหญ่สุดของสมอลลิ่งคือเรื่องของภาษา "มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมเองนั้นต้องการที่จะเรียนรู้ภาษาใหม่ๆอยู่ตลอด แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายเหมือนฝันหรอก เพราะว่าผมไม่เคยจำเป็นต้องมากังวลเรื่องพวกนี้เลยตอนเล่นอยู่ที่อังกฤษ" กับ9ฤดูกาลที่ยูไนเต็ดก่อนยืมตัวมาโรม่า และกลายเป็นเพียงนักเตะอังกฤษคนที่2เท่านั้นเองที่ได้มาอยู่กับยักษ์ใหญ่ในเซเรียอารายนี้ตามรอยแอชลีย์ โคลที่อยู่ที่นี่18เดือนช่วง 2014-16

แม้เขาจะเป็นนักเตะอังกฤษเพียงคนเดียวที่นี่ แต่ก็รายล้อมไปด้วยอดีตนักเตะที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกทั้งนั้น อย่างน้อยๆก็8คน เช่นเด็กเก่านิวคาสเซิลอย่าง Davide Santon ที่คอยช่วยเหลือสมอลลิ่งอย่างมากตอนย้ายมาที่นี่, เด็กไก่เก่าอย่าง Pau Lopez, Fazio และยังมี Henrikh Mkhitarian มิคกี้เพื่อนซี้เก่าที่แมนยู ผู้ยืมตัวมาที่นี่เหมือนสมอลลิ่งเช่นกัน แถมนอกจากนี้ยังมี เอดินเซโก้ กับ โคลารอฟ จากค่ายเรือใบสีฟ้าด้วย ซึ่งเมื่อก่อนพวกเขาอยู่ห่างจากกันในเมืองเดียวกันแค่ระยะสัก4.4ไมล์เท่านั้นเองมั้งที่แบ่งทีมเมืองแมนทั้งสองทีมออกจากกัน


"เราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ ผมคิดว่าเราคงจะฮากันแหละถ้าหยิบมาเม้ากัน เพราะว่าตอนอยู่ในแมนเชสเตอร์นั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งจริงๆมันเยี่ยมไปเลยนะเพราะว่าเราเหมือนมีสายสัมพันธ์ร่วมกันที่ได้เคยอยู่ในเมืองเดียวกัน เล่นบอลในเมืองเดียวกัน ดังนั้นพอเรามาอยู่ที่นี่มันจึงเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้น"

ซึ่งเซโก้โคลารอฟคือสองจาก6นักเตะวัย30ปีของโรม่านอกจากPerotti, Kalinic, Fazio และMirante ทำให้อายุเฉลี่ยในโรม่านั้นสูงที่สุดในเซเรียอา

ซึ่งผจก ทีมอย่างฟอนซีก้านั้นมีประสบการณ์มากมาย ในทีมเขามีนักเตะวัยรุ่นผสมอยู่ด้วยเต็มไปหมด ซึ่งใน23นักเตะในทีมมีถึง9คนที่อายุ23หรือต่ำลงมากว่านั้น ซึ่งสมอลลิ่งถูกใจสิ่งนี้

"Zanioloนั้นเป็นคนที่ผมเคยได้ยินมาก่อน ได้ยินมาว่าเป็นเด็กวัย20ปีที่ติดทีมชาติอิตาลี เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์พิเศษมาก เขาจะไปได้ไกลมากๆเพราะไม่เพียงแค่เร็วนะ แต่เขายังแข็งแกร่งและเด็ดขาดด้วย"

นอกจากนี้สมอลลิ่งยังตื่นเต้นกับดาวรุ่งดัตช์อย่างทายาทคนดัง Justin Kluivert ปีกซ้ายที่เคียงข้างแนวรุกอย่างซานิโอโล่ เซโก้ ทำให้โรม่ามีแนวรุกน่าตื่นเต้น

"ผมคิดว่าซานิโอโล่กับไคลเวิร์ทนั้นมีพรสวรรค์ในเกมรุกมากทั้งคู่ พวกเขาทำอันตรายและยิงประตูได้ดีเลย ผมประทับใจทีมมาก มันเป็นส่วนผสมระหว่างนักเตะตัวเก๋าอย่างเซโก้โคลารอฟที่อยู่นี่มานาน และเด็กดาวรุ่งเหล่านี้ ผมคิดว่าทุกสิ่งเข้ากันดีมากๆ"

สิ่งที่ทำให้สมอลลิ่งประสบความสำเร็จได้ที่นี่นั่นเป็นเพราะว่า เขาสามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลของอิตาลีได้เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ 5เกมแรกที่เขาเล่นในเซเรียอา เขาชนะการแทคเกิล100% และลูกจ่าย282ครั้งนั้นสำเร็จถึง92% และที่สำคัญ จุดแข็งอย่างลูกดวลกลางอากาศต่อเกมก็สูงที่สุดในลีกอีกที่ค่าเฉลี่ย5.8 และได้แมนออฟเดอะแมตช์อย่างรวดเร็วภายในเพียงแค่นัดที่สองที่ลงเล่นให้โรม่าเอาชนะเลชเช่ไป 1-0

ดูแกร่งและเก๋ามากๆ

ซึ่งสมอลลิ่งนั้นเปิดเผยว่าเขานั่งดูวิดิโอการเล่นเป็นชั่วโมงๆเพื่อหาความแตกต่างระหว่างกองหน้าของลีกที่นี่ และมันก็ได้รับผลตอบแทนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามแม้เริ่มต้นได้สวย สมอลลิ่งก็ต้องรักษาความฟิตเอาไว้ให้ดีเพราะว่าสามซีซั่นก่อนของเขานั้นเขาพลาดการลงสนามไปถึง29เกมจากอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะเอ็นที่หัวเขา เพื่อแก้ปัญหานั้นสมอลลิ่งจึงต้องเปลี่ยนมาทานแบบวีแกนดู คือเลิกกินเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นมทั้งหลายเหล่านี้ และมันก็ช่วยเขาได้ทั้งนอกและในสนาม

"เรื่องเส้นเอ็นของผม ผมได้ยินมาว่าการกินแบบวีแกนมันช่วยได้ ดังนั้นผมจึงต้องงดพวกเนื้อแดงต่างๆ และกินอาหารที่เป็นplant-basedเอาไว้ก่อน เน้นพวกพืชเป็นหลักในระยะเวลาเป็นหลักปีๆเลย"

"เวลาเล่นกีฬา เรามักจะรู้กันดีว่า พอมีอาการบาดเจ็บ ตื่นมาวันที่สองมันมักจะปวดกว่าเสมอ แต่ผมฟื้นฟูได้เร็วกว่าเดิมมาก สถิติต่างๆเมื่อเทียบระหว่างที่ยูไนเต็ดกับโรม่าก็พิสูจน์แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ลองทดสอบสิ่งเหล่านี้ดู แต่ยังไงโดยรวมผมยังรู้สึกดีขึ้นอยู่ดี ดังนั้นผมรู้ละว่าไอ้ที่ลองทำดูนั้นมันเวิร์ค  ผลในด้านที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลนั้นก็คือ ผมกระปรี้กระเปร่ามีแรงมากขึ้น ผิวหนังดีขึ้น และหลับสนิทขึ้น ทุกอย่างพัฒนาขึ้นอย่างมาก"

เชื่อแล้วว่ามันดีขึ้นจริงๆ

ไลฟ์สไตล์ที่นี่รู้กันดีว่าประเทศนี้กินกันแต่พิซซ่ากับพาสต้า อ่านข่าวมาดูเหมือนชีวิตจะลำบาก แต่สมอลลิ่งบอกว่าการคุมอาหารนั้นไม่ได้ยากสำหรับเขาที่นี่เลยเพราะว่าร้านอาหารวิีแกนโลคอลของที่นี่บริเวณรอบๆเมืองหลวง และรวมถึงเชฟภายในสโมสรโรม่าเอง

"ตอนผมมาที่นี่ใหม่ๆผมอยู่ในโรงแรมและออกมาหาไรกินข้างนอก ผมโชคดีมากที่เจอร้านดีๆแถวนี้เพียบเลย มีร้านนึงที่ผมไปกินตอนเที่ยงบ่อยๆ ร้านชื่อ 100% BIO ซึ่งเป็นมังสวิรัติออร์แกนิคเลย มันเฮลธ์ธี่มากๆ จริงๆผมอยู่ในบ้านและทำอาหารกินเองได้ แต่ว่ามันดีกว่าถ้ามีตัวเลือกข้างนอกให้ผมไปหาทานได้ด้วย"

"ส่วนสโมสรนั้นตอนที่ผมเซ็นสัญญาวันแรกผมเห็นเชฟที่นี่มีเมนูหลากหลายมากเลย พวกเขามาแสดงให้ผมดูว่ามันเป็นยังไง ทำยังไงบ้าง ผมประทับใจมาก"

"มันไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลยอีกต่อไป เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ"

จุดเริ่มต้นสู่ไดเอ็ท และตอนนี้มันคือpassionของเขาไปแล้ว

สมอลลิ่งให้เครดิตภรรยาคนสวยของเขาอย่างแซม คุกที่หักดิบกลายมาเป็นมังฯเบสเช่นเดียวกัน ความหลงใหลนี้ทำให้เขาเริ่มพบเส้นทางหลังจากสิ้นสุดอาชีพนักฟุตบอล โดยที่หลังจากรีเสิร์ชเรื่องความขัดแย้งในสวัสดิภาพของสัตว์ในโรงงานทำเครื่องหนังแล้วนั้น สมอลลิ่งก็ลงทุนเรื่อง Pinatex กับบริษัทAnanas Anam โดยที่Pinatexคือใยของใบสับปะรดซึ่งเป็นwaste-productของโรงงานสับปะรดนี่ละที่สามารถเอามาใช้ผลิตสิ่งแทนเครื่องหนังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ ส่วนใหญ่ก็เอามาใช้ด้านเสื้อผ้าและเครื่องแฟชั่นต่างๆ

"การได้ทำธุรกิจที่อยากทำนั้นผมฝันมานานมากก่อนจะเตะบอลซะอีกนะ มันเป็นหลักสูตรที่ผมลงเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัยก่อนที่ผมจะเล่นฟุตบอลอาชีพ ตอนนี้ผมสามารถทำมันได้แล้วและมันเป็นสิ่งที่ช่วยโลกในด้านที่ดีได้อีกด้วยเพราะว่าผมอยากที่จะกระจายความคิดในแง่บวกนี้ออกไปในรูปแบบของโพรดักส์ที่ยั่งยืนในธุรกิจที่ผมสนใจ"

"มันเป็นครั้งแรกของผมในฐานะการทำบริษัทที่ผมอยากจะมีส่วนร่วมด้วยตัวเอง และหลังแขวนสตั๊ดมันจะกลายเป็นหลักสำคัญในชีวิตผม"


ในวัย30ปีหมาดๆและเริ่มเข้าสู่ฉากใหญ่สุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งแล้ว อย่างไรก็ตามสมอลลิ่งยังมีเวลาเหลืออีกเยอะที่ค่อยคิดเรื่องหลังจากแขวนสตั๊ดไปแล้ว เพราะการดีลของเขามาอยู่กับโรม่าในปีนี้ และอนาคตก็ยังไม่ชัวร์ว่าเขาจะกลับยูไนเต็ดหรือว่าอยู่โยงที่อิตาลีก็ยังไม่มีใครรู้ได้ บางทีเขาอาจจะไปหาความท้าทายที่อื่นอีกก็ได้ แต่ก็พูดได้ว่า สมอลลิ่งนั้นมีความสุขกับชีวิตที่เขาเลือกบ้านใหม่ด้วยตัวเองอย่างมาก เขาจึงตั้งใจที่จะเรียนภาษาอิตาเลียนทุกวันเพื่อที่จะกลายมาเป็นโรมันอย่างเต็มตัวให้ได้

"หวังว่าหมดปีนี้ผมน่าจะพูดคุยสื่อสารได้ดีนะ ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมากและการเรียนภาษาทำให้ผมเป็นชาวเมืองและเป็นนักเตะของที่นี่แบบเต็มตัวมากขึ้นจริงๆ"

..และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของกองหลังคนหนึ่งซึ่งรับใช้แมนยูไนเต็ดของเรามายาวนานถึง9ปี และกำลังไปได้ดีมากๆกับชีวิตในลีกอิิตาลี ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กับทีมเราในยุคที่ยากลำบากและไร้แชมป์ใหญ่ๆติดมือ แต่นี่ก็เป็นกองหลังอีกคนหนึ่งที่มีฝีเท้าที่สูงมากๆ เพียงแค่มันอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ความสำเร็จให้กับยูไนเต็ดเท่านั้น แต่เชื่อว่าจะอย่างไรก็ตาม แฟนผีทั้งหมดน่าจะรักพี่ไมค์ไม่ต่างกัน และเราก็เข้าใจในวิถีเส้นทางของนักฟุตบอล

หากนักเตะที่เรารักและคุ้นเคยนั้นมีเส้นทางที่ไปได้ดีกว่า เราก็มีความสุขมากๆนะที่ได้เห็นเขาประสบความสำเร็จเช่นนี้

จริงๆแล้วเขาอาจจะเป็นหนึ่งในกองหลังระดับKing ตามที่ชื่อฉายาที่เคยล้อกันเล่นๆมาเวลาที่เขาทำผิดพลาดตอนอยู่ยูไนเต็ด แต่หากใครจะยังจำได้ไม่ลืม หลายคนไปติดภาพจุดด่างพร้อยเล็กๆน้อยๆของเขามา แต่เอาจริงๆนี่คือกองหลังที่ "สม่ำเสมอมากที่สุด" ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคหลังจากเซอร์อเล็กซ์รีไทร์ไป

ฟอร์มที่ไว้ใจได้เป็นแกนหลักพยุงทีมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และร่างสุดยอดตอนเปิดอัลติ "Mike Smalling" ในยุคของLVGที่ฟอร์มระดับเทพเจ้านั้น มันไม่น่าจะมีอะไรสงสัยในฝีเท้าของเขาแล้วว่า นักเตะผู้นี้นั้น "ของจริง"  แฟนผีคนไหนที่ก่นด่าหรือดูถูกฝีมือของเขามันก็อคติมากเกินไป ซึ่งในความรักสโมสร ผมคิดว่าสมอลลิ่งก็รักทีมเราไม่ต่างจากนักเตะคนอื่นๆเหมือนกัน

เขาอาจจะเป็น"ราชันย์" ที่แค่ไม่ได้เกิดมาเพื่อแมนยูแค่นั้นเอง

Chris Smalling

-ศาลาผี-

References

https://www.businessinsider.com/how-chris-smalling-has-built-a-new-life-at-roma-2019-10

https://footballbh.net/2019/11/26/seriea-201920-asroma-bresciacalcio-tactical-analysis-tactics/

https://www.asroma.com/en/news/2019/9/smalling-fonseca-s-tactical-approach-suits-me-well

https://www.whoscored.com/Players/71345/Show/Chris-Smalling

https://www.whoscored.com/Players/90880/Show/Kalidou-Koulibaly

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด