ผู้เล่นทั้งหมด 105 คนถูกดึงเข้าสู่รั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลวก็เป็นวิถีของเกมลูกหนัง แต่ในแง่ของความสำเร็จที่จับต้องได้อย่างถ้วยรางวัลเป็นตัวชี้วัดว่า "ป๋า" ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
หรือจะบอกว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเหล่าบรรดากุนซือที่โลกเคยมีมาก็ไม่ได้เป็นการยกย่องมากจนเกินไป
แต่ว่าก็มีหลายครั้งที่เป้าหมายที่ต้องการแต่กลับไม่ได้มาร่วมทีม ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น
จัดทีมทั้ง 11 คนเลยว่าใครกันบ้างที่เป็นเป้าหมายเสริมทัพของ "ป๋า" แต่สุดท้ายไม่ย้ายมาร่วมทีม
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
ก่อนจะกลายมาเป็นตำนานของ เชลซี, ปีเตอร์ เช็ก น่าจะได้เป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อน
ในวัย 19 ปี, มือกาวร่างโย่งสร้างชื่อมากับการค้าแข้งในลีก เอิง ฝรั่งเศสกับ แรนส์ ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งมุมมองไปซุ่มดูฟอร์มของมือกาวคนนี้และหวังจะดึงตัวมาร่วมทีม
แต่สุดท้ายนักเตะไม่ได้ย้ายมาร่วมทีม สาเหตุก็คือว่าเจ้าตัวยังเด็กจนเกินกว่าที่จะให้มาแบกรับความกดดันในทัพ "ปีศาจแดง"
"ผมเดินทางไปดูฟอร์มของ ปีเตอร์ เช็ก ตอนที่เขาอยู่กับ แรนส์" เฟอร์กูสัน เผยเมื่อปี 2011 "เขาอายุ 19 ในตอนนั้นและผมบอกกับตัวเองว่า 'เขายังเด็กเกินไป'"
แบ็คขวา : ฟิลิปป์ ลาห์ม
ตำนานนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมัน คือหนึ่งในเป้าหมายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากที่ได้เจอกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกสมัยที่นักเตะมายืมตัวกับ สตุ๊ตการ์ท ในฤดูกาล 2003/04
ไม่ใช่ว่าจะเอามาเป็นแบ็คขวาแทน แกรี่ เนวิลล์ แต่ ลาห์ม สามารถเล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย รวมถึงตำแหน่งมิดฟิลด์ด้วย
แฮร์มีนน์ แกร์ลันด์ อดีตผู้ช่วยโค้ชของ บาเยิร์น มิวนิค ออกมาเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พยายามที่จะดึงตัว ลาห์ม ไปค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในช่วงต้นของอาชีพ
"การจัดการไม่ใช่เรื่องง่าย, แต่ที่ สตุ๊ตการ์ท, ฟิลิป์ ได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก, หลังจาก 3 เดือน เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามเกมเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" แกร์ลันด์ กล่าว
"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการตัวเขาไปเล่นที่อังกฤษ, ฉันคิดว่านั่นเพียงพอแล้ว"
เซนเตอร์ : แว็งซ็องต์ ก็องปานี
ตำนานกองหลังของคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้ประสบความสำเร็จกับทีมอย่างสูง แต่ก่อนหน้านี้ลงเรือใบเขาเป็นเป้าหมายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เหมือนกัน
ย้อนกับไปเมื่อปี 2004 สมัยที่ยังค้าแข้งกับ อันเดอร์เลช ในช่วงซัมเมอร์นั้นเขาคือหนึ่งในลิสต์ที่ "ป๋า" ต้องการดึงมาเสริมกองหลังซึ่งในตอนนั้น ก็องปานี อายุเพียง 18 ปีเท่านั้น
แถมทาง อันเดอร์เลช ก็พิจารณาที่จะขายตัวออกจากทีมด้วย
แต่การเป็นว่าการเจรจาไม่เป็นรูปเป็นร่าง หลังจากนั้น ก็องปานี ย้ายไปเล่นกับ ฮัมบูร์ก ในปี 2006 และมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในอีกสองปีต่อมา
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์กับเรือใบ
เซนเตอร์ : เปาโล มัลดินี่
เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่ใครก็อยากได้ตัวไปร่วมทีม แต่ทว่าไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่อาจจะพรากเขาให้ออกจาก เอซี มิลาน ได้
ตลอดชีวิตค้าแข้งของ เปาโล อยู่กับ "ปีศาจแดง-ดำ" มาตลอดชีวิต เช่นเดียวกับคุณพ่อของเขาก็ได้ชื่อว่าเป็น "ตำนาน" ของสโมสรแห่งนี้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้เขาย้ายทีม
"ผมได้ลองพยายามแล้ว, แต่ตอนที่ผมเจอกับพ่อของเขาที่ดูเป็นคนน่าเกรงขามทีเดียว, ผมผงกศีรษะ, นั่นคือทั้งหมดที่ผมทำได้" เฟอร์กูสัน กล่าว
"เขาพูดว่า 'ปู่ของฉันเป็นมิลาน, พ่อของฉันก็เป็นมิลาน, ผมเองก็เป็นมิลานรวมถึงลูกของผมก็เป็นมิลาน, ลืมมันซะ'
แบ็คซ้าย : บีเซนเต้ ลิซาราซู
ก่อนที่ โรแบร์โต้ คาร์ลอส จะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา หากให้พูดถึงแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลกต้องยกให้ บีเซนเต้ ลิซาราซู
ยิ่งหลังคว้าแชมป์โลก 1998 กับยูโร 2000 ยิ่งทำให้ชื่อของแบ็คทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ทวีความร้อนแรงจนไปเตะตาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ต้องการตัวมาร่วมทีม แต่ต้นสังกัดอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ปฏิเสธที่จะปล่อยตัวออกจากทีม
"ผมมีโอกาสอยู่, คิดว่าน่าจะปี 2001 หรือ 2002 ที่จะย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แต่มันถูกตัดตอนอย่างรวดเร็วเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค ตอบปัดทันที" ลิซาราซู เผย
"อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการที่จะเซ็นสัญญากับผมและมีการพูดคุยกับ บาเยิร์น, แต่ บาเยิร์น บอกว่าไม่สนใจที่จะปล่อยตัวดังนั้นผมจึงอยู่กับพวกเขาต่อไป"
"ผมมีความสุขเป็นอย่างดีที่มิวนิค แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลองพยายามแล้ว"
กองกลาง : พอล แกสคอยต์
สุดยอดกองกลางของอังกฤษที่โด่งดังในยุค 80'-90' ด้วยฝีเท้าที่หาตัวจับยาก ไม่แปลกที่จะเตะตา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังได้เห็นเต็มๆในการเจอกันด้วยการเล่นงานทั้ง นอร์แมน ไวท์ไซด์ และ ไบรอัน ร็อบสัน
ป๋า พยายามดึงตัว พอล แกสคอยน์ มาร่วมทีมหลังนักเตะมีข่าวเตรียมแยกทางกับต้นสังกัดอย่าง นิวคาสเซิ่ล ในปี 1988
"แล้วเขาก็แยกออกจากกัน" เฟอร์กูสัน พูดถึงแข้งวัย 20 ปีที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรคค์และก็พยายามดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้แต่สุดท้ายลงเอยด้วยความล้มเหลว
"ผมเดินหน้าลุย, ผมนอนอยู่ที่สระว่ายน้ำที่แทนและได้รับโทรศัพท์" ป๋า อธิบาย "เป็น มาร์ติน เอ็ดเวิร์ด (ประธานสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ดในตอนนั้น) บอกผมว่า ท็อตแน่ม ได้เซ็นสัญญากับเขาด้วยการซื้อบ้านให้พ่อกับแม่ของเขา"
ถือเป็นความน่าเสียดายสำหรับ ป๋า รวมถึงแฟนบอลปีศาจแดง ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า แกสคอยน์ มีแค่แชมป์เอฟเอ คัพกับ สเปอร์ส ถ้วยเดียว หากมาอยู่กับยูไนเต็ดน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้
กองกลาง : ซีเนดีน ซีดาน
หากไม่ใช่เพราะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โปรดปราน เอริก คันโตน่า เหนือกว่าใครทั้งมวล เราคงมีโอกาสได้เห็น ซีเนดีน ซีดาน สวมเสื้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว
ในสมัยที่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสยังค้าแข้งกับ บอร์กโดซ์, เลส เคอร์ชอว์ หัวหน้าแมวมองสะกิดให้ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จับตาดูแข้งรายนี้ให้ดี จากการเปิดเผยผ่านทาง อัตชีวประวัติของ มาร์ตอน เอ็ดเวิร์ด อดีตประธานสโมสรปีศาจแดง
"ตอนที่ ซีดาน อยู่กับ บอร์กโดซ์, เลส เคอร์ชอว์, หัวหน้าทีมแมวมอง, บอกกับผมว่าเราควรจะให้ความสนใจเขา (ซีดาน) และบอกเรื่องนี้กับ อเล็กซ์" เอ็ดเวิร์ด เผย
"อเล็กซ์ บอกว่า เอริก (คันโตน่า) ก็พูดถึง ซีดาน กับเขาเหมือนกัน แต่ อเล็กซ์ รู้สึกว่า ซีดาน เล่นในตำแหน่งเดียวกันกับ เอริก"
"เราต้องไปที่ฝรั่งเสสเพื่อชักชวนให้ เอริก กลับมาเล่นอีกครั้งหลังเหตุการณ์กับ คริสตัล พาเลซ (โดนแบน 8 เดือนจากการกังฟูคิกใส่แฟนบอล) เขารู้สึกว่าหากคว้า ซีดาน มาร่วมทีมจะส่งผลกับตำแหน่งของ เอริก, ดังนั้นเขาเลือก เอริก"
ปีกขวา : อาร์เยน ร็อบเบน
ปีกความเร็วสูงที่เล่นงานกองหลังมานักต่อนัก ผู้เล่นที่เกือบย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่สุดท้ายไปลงเอยที่ เชลซี
ไม่ว่าที่ไหนที่เขาไปค้าแข้งทั้งกับ "สิงห์บลูส์", เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค เขาคือฝันร้อยของกองหลังโดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็คทั้งสองข้าง ซึ่งเรื่องราวเมื่อครั้งเกือบย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดออกจากปากของ ร็อบเบน เป็นอะไรที่ต่างจากสิ่งที่สาวกเร้ด เดวิลล์สคาดเอาไว้อย่างมาก
"ผมมีการสนทนาที่ดีมากๆกับ เฟอร์กูสัน ในระหว่างดินเนอร์ที่แมนเชสเตอร์ และเราคุยเกี่ยวกับฟุตบอลและเรื่องชีวิต, ผมยังได้ไปเดินรอบสนามซ้อมและทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี" ร็อบเบน กล่าว
"แต่หลังจากที่ผมกลับไปที่พีเอสวีไม่มีอะไรเกิดขึ้น, ไม่มีการติดต่ออย่างจริงจังและและไม่มีข้อเสนอเกิดขึ้น, พีเอสวี มีการเจรจากับ เชลซี อยู่ด้วยในตอนนั้น, พวกเขาเสนอเงินให้ พีเอสวี มากกกว่ารึเปล่า? ผมไม่รู้จริงๆ"
"ผมคุยกับ เชลซี และผมชอบแผนของพวกเขา, เราได้คุยกันครึ่งหนึ่งและทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว, ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอให้หลังจากที่เราคุยกัน, ผมคงได้เซ็นสัญญากับพวกเขา, แต่มันไม่เกิดขึ้นและผมก็ไม่เสียใจเลย"
ปีกซ้าย : โรนัลดินโญ่
อีกหนึ่งยอดนักเตะที่เกือบย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อปี 2003 จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่สุดท้ายเป็น บาร์เซโลน่า ที่ได้ตัวไปร่วมทีม
ในวัย 23 ปี โรนัลดินโญ่ ได้แชมป์โลกกับ บราซิล ในปี 2002 ซึ่งมีการคาดกันว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และอย่างที่รู้กันว่ามันก็ไม่ได้เป็นการคาดที่ผิดอะไร
การเสีย เดวิด เบ็คแฮม ไปให้กับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2003 ยิ่งเป็นแรงจูงใจชั้นเยี่ยมให้ "ปีศาจแดง" ต้องหาคนที่มีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมเข้ามาเสริม แต่ก็พลาดไป
"มีปัญหาตรงพี่ชายของเขา, ที่เป็นเอเย่นต์ส่วนตัว, แต่ ปีเตอร์ เคนย่อน, ที่เป็นซีอีโอในตอนนั้น, ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้" เฟอร์กูสัน พูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
กองกลางตัวรุก : ดาบิด ซิลบา
เช่นเดียวกับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี, ดาบิด ซิลบา ก้าวเข้ามาเป็นตำนานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ก่อนหน้าไปลงเอยกับเรือใบเกือบได้ย้ายไปอยู่กับทีมอีกฝั่งของเมืองแมนเชสเตอร์ แต่เบอร์ 10 แบบ ซิลบา แม้จะยอดเยี่ยมแต่สิ่งที่ผีแดงต้องการในตอนนั้นคือต้องช่วยทีมเล่นเกมรับด้วย
"เราติดตาม ซิลบา อย่างต่อเนื่องสมัยที่อยู่กับ บาเลนเซีย" เฟอร์กูสัน กล่าว "และนักเตะคนอื่นที่พวกเขามี, ในประเภทเดียวกัน, ปีก่อนหน้านั้น, ในตำแหน่งเบอร์ 10"
"ปัญหาของผมคือคุณต้องเก่งมากๆในตำแหน่งที่นั้น, เพราะเขาจะไม่มีหน้าที่ในการลงมาช่วยเล่นเกมรับ"
"ดังนั้นถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง, ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง คุณรู้ไหม?"
"ผมลำบากใจในเรื่องนั้น, แต่, ท้ายที่สุดแล้ว, แน่นอน, มันยอดเยี่ยม, คุณสามารถพูดได้ว่า ลิโอเนล เมสซี่ คือเบอร์ 10 ประเภทนั้น, (ดีเอโก้) มาราโดน่า, สุดยอดนักเตะซึ่งผมไม่แย้งในเรื่องนี้เลย"
"แต่ที่ยูไนเต็ดเราพบว่ามันยากเสมอ, เบอร์ 10 แบบนั้นจากประสบการณ์ในฐานะนักฟุตบอลของผม"
กองหน้า : อลัน เชียเรอร์
ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก, กองหน้าที่มีพลังในการยิงประตูไม่น้อยไปกว่าใคร ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของอังกฤษ
มาร์ติน เอ็ดเวิร์ด เผยผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่าทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดต่อดึง อลัน เชียเรอร์ มาร่วมทีมแต่เจ้าตัวตอบปฏิเสธในท้ายที่สุด
"เชียเรอร์ มาที่บ้านของ อเล็กซ์ เฟอร์ก๔สัน, พูดคุยกับเขาและรับรองว่าเขาต้องการมาร่วมทีม" เอ็ดเวิร์ด เผย "ปัญหา, ผมคิดว่ามันอยู่ที่ประธานสโมสรแบล็คเบิร์น, แจ็ค วอล์คเกอร์, คนที่เกลยีด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างมาก, เราเป็นคู่ปรับกัน, สองสโมสรจากแลงคาเชียร์"
"เขาไม่ต้องการให้ อลัน เชียเรอร์ ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
"เชียเรอร์ ค่อนข้างสนิทกับ วอล์คเกอร์, คนที่เป็นเหมือนกับพ่อของเขา, และผมไม่คิดว่า อลัน ต้องการทำให้เขาอารมณ์เสียด้วยการย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ด"
"ผมไม่แน่ใจว่า แจ็ค จะยอมปล่อยให้ เชียเรอร์ ย้ายทีมในขณะที่เขายังมีความสุขที่จะเห็น อลัน ไปนิวคาสเซิ่ล, ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นภัยคุกคามกับเขา (ในการลุ้นแชมป์)"
