:::     :::

"200 วัน" อาร์เตต้า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นเวลา 200 วันพอดีที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล นับจากวันที่ 20 ธันวาคม ปีที่แล้ว

200 วันผ่านไปเร็วมาก กุนซือวัย 38 ปีได้พบเจอประสบการณ์หลากหลายทั้งแบบที่คาดคิดเอาไว้และไม่ทันตั้งตัว ก่อนผ่านมาได้อย่างน่าประทับใจและเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นเพื่อเข็นทีม "ปืนใหญ่" ไปถึงเป้าหมายให้ได้

งานแรกในอาชีพโค้ชเต็มตัวของ อาร์เตต้า เป็นงานหนักอึ้งและท้าทายอย่างยิ่งกับการคุม อาร์เซน่อล ในสภาพเหมือนคนป่วยที่มีหลายโรครุมเร้าจนสุดท้ายต้องแยกทาง อูไน เอเมรี่ ที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้

ความท้าทายที่สุดคงเป็น อาร์เตต้า ไม่มีประสบการณ์คุมทีมเต็มตัวมาก่อน ข้อเท็จจริงที่ทำให้เห็นภาพชัดคือ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือจอมเก๋าของ คริสตัล พาเลซ เริ่มงานโค้ชได้เกือบ 6 ปีตอนที่กุนซือปืนใหญ่คนปัจจุบันลืมตาดูโลกในปี 1982 

อาร์เตต้า เริ่มงาน 2 นัดแรกด้วยการเก็บได้เพียงคะแนนเดียวจากการเสมอ บอร์นมัธ 1-1 และแพ้คาบ้านต่อ เชลซี 1-2 แต่จากนั้น 13 นัดจากทุกรายการ อาร์เซน่อล ไม่แพ้ใครใน 90 นาที 

ใน 13 นัดหลังสุดที่ไม่แพ้ใน 90 นาทีก่อนฟุตบอลหยุดแข่งขัน ยังมีจุดอ่อนที่ซุกซ่อนอยู่มากมายอย่างที่เห็นในเกมยูโรปา ลีก ที่พ่าย โอลิมเปียกอส ในช่วงต่อเวลาจนตกรอบคาบ้าน 

แต่กระนั้น ทิศทางในภาพรวมของ อาร์เซน่อล ดีกว่าเดิมชัดเจนทั้งเรื่องผลการแข่งขัน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทีม และความเชื่อมั่นจากแฟนบอลที่เริ่มกลับมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับต้องสะดุดลงในวันที่ 12 มีนาคมเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส "โควิด-19" ที่เริ่มระบาดในสหราชอาณาจักร

สมาชิกในทีมทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านทั้งหมด และมีผลต่อการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกที่ต้อง "หยุด" การแข่งขันเอาไว้ก่อนจนถึง ณ ตอนนี้ 

ในสุดสัปดาห์นั้น รัฐบาลยังไฟเขียวให้มีการแข่งขันกีฬากันได้ ทว่าพรีเมียร์ลีกเลือกที่จะระงับเอาไว้หลังได้รับข่าวการติดเชื้อของ อาร์เตต้า รวมถึง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปีกดาวรุ่งของ เชลซี ในเวลาไล่เลี่ยกัน

  อเล็กซ์ เบนแน่ม นักวิทยาศาสตร์ด้านสังคมและว่าที่ดร. มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ให้ความเห็นว่า "ความคิดผมนะ ผลการวินิจฉัยว่าติดเชื้อของ อาร์เตต้า เปิดเผยให้เห็นถึงขอบเขตของการแพร่ระบาด และทำให้เกิดมาตรการที่จำเป็นและนำไปสู่การตัดสินใจของพรีเมียร์ลีก" 

การเป็นคนมีชื่อเสียงของ อาร์เตต้า ทำให้ข่าวการติดเชื้อของเขาได้รับความสนใจและสร้างความตื่นตัวให้กับคนในแวดวงลูกหนังได้ตระหนักมากขึ้นว่าโควิด-19 ใกล้ตัวเข้ามาแล้ว ดังนั้นอาจเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไปที่จะให้มีการแข่งขันฟุตบอลอันเป็นกิจกรรมที่มีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกัน 

ขณะที่ ดร. เบอร์คู เทเปคูเล่ (Dr Burcu Tepekule) นักสร้างแบบจำลองโรคติดเชื้อและนักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาซูริค ได้จำลองแบบเพื่อประเมินถึงผลต่อเนื่องเมื่อหยุดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก (Mass gathering) ที่มีต่ออัตราการเสียชีวิต 

ในช่วงที่ อาร์เตต้า เปิดเผยว่าติดเชื้อ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรเพียง 8 คน ดร.เทเปคูเล่ ใช้แบบจำลอง SEIR (susceptible, exposed, infectious, recovered) ประเมินพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ "อัตราการเสียชีวิตระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 19 พฤษภาคม ลดลง 450 ราย"


หนุนหลัง ชาก้า ให้กลับมามีบทบาทในทีมอีกครั้ง

"นี่เป็นการประเมินจำนวนผู้รอดชีวิตเบื้องต้นหลังการยกเลิก (ชั่วคราว) ของพรีเมียร์ลีก และนำไปสู่การตัดสินใจคล้ายกันของสหพันธ์ฟุตบอลในประเทศอื่นๆ พอจะกล่าวได้ว่าผลการตรวจเชื้อที่เป็นบวกของ อาร์เตต้า เหมือนได้ช่วยชีวิตคนจำนวนหลายพันโดยไม่คาดคิด" ดร.เทเปคูเล่ กล่าว 

มิเกล อาร์เตต้า เจอบททดสอบแห่งชีวิตอย่างไม่คาดคิด เขาต้องต่อสู้กับไวรัสอยู่นานหลายวันก่อนก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากและหายเป็นปลิดทิ้งอีกครั้ง

ในขณะที่อดีตกุนซืออย่าง อูไน เอเมรี่ เอาแต่กล่าวโทษทุกคนที่ อาร์เซน่อล ยกเว้นตัวเองถึงความล้มเหลวในอดีต มิเกล อาร์เตต้า เลือกที่จะก้มหน้าก้มตาแก้ไขปัญหาในทีมแม้กระทั่งในช่วงที่สภาพร่างกายไม่เต็มร้อยระหว่างรักษาอาการป่วยอยู่ที่บ้าน 

อาร์เตต้า ติดต่อพูดคุยกับลูกทีมและสตาฟฟ์โค้ชอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Zoom และ WhatsApp ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อไม่ให้ช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่บ้านของแต่ละคนต้องสูญเปล่า

กุนซือหนุ่มมีศิลปะในการสื่อสารที่ดีเยี่ยม สิ่งนี้ช่วยสร้างความกลมเกลียวให้เกิดขึ้นในทีมและค่อยๆ หลวมรวมทีมที่เหมือน "ปริแตก" ไปแล้วพอสมควรให้กลับมาเหนียวแน่นเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง  

หากต้องยกตัวอย่างผลงานที่สะท้อนความเป็นทีมของ อาร์เซน่อล ในยุค มิเกล อาร์เตต้า ได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นนัดเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี ที่แข้งปืนใหญ่ป็นฝ่ายไล่ตีเสมอถึง 2 ครั้ง โดยที่เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแรก  

จุดแข็งที่สุดและน่าประทับใจที่สุดของ อาร์เตต้า คือการแถลงข่าวที่เขาแสดงวิสัยทัศน์ที่มีได้ชัดเจน สามารถสื่อสารไปถึงทุกคนทั้งนักเตะ แฟนบอล และสื่อมวลชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ อูไน เอเมรี่ มีปัญหาอย่างมากระหว่างคุม อาร์เซน่อล 

อาร์เตต้า สามารถขับเคลื่อนผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมให้เดินหน้าไปด้วยกันได้อีกครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งบางคนที่ก่อนหน้านี้มีความคิดต้องการย้ายทีม ใจลอยไปที่อื่นล่วงหน้า 

หนึ่งในนั้นคือ กรานิต ชาก้า ที่ความสัมพันธ์กับสโมสรอยู่ในสถานะ "แตกหัก" เกินแก้ไขหลังเหตุการณ์ตอบโต้แฟนบอลในเกมกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนตุลาคม กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ส่อแววย้ายออกจากทีมอย่างแน่นอนในตลาดหน้าหนาว ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็เริ่มมองหาตัวแทนรายใหม่


เตรียมความพร้อมก่อนรีสตาร์ตพรีเมียร์ลีก

แต่หลังการมาของ อาร์เตต้า สถานการณ์ของ ชาก้า ก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เพียงแค่ถูกรั้งให้อยู่กับทีมต่อไปเท่านั้น แต่อดีตกองกลาง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ยังได้แรงสนับสนุนจาก มิเกล อาร์เตต้า อย่างเต็มที่จนกระทั่งสามารถกลับมายืนหยัดในทีมได้อีกครั้ง และมีโอกาสปักหลักระยะยาวตามสัญญาที่มีถึงปี 2023 

นอกจากแข้งระดับซีเนียร์ได้ประโยชน์แล้ว กลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งอีกจำนวนมากในทีมเยาวชนก็อยู่ในสายตาของ อาร์เตต้า เช่นกัน กุนซือหนุ่มชาวสเปนพร้อมผลักดันในแบบเดียวกับ บูคาโย่ ซาก้า และ รีสส์ เนลสัน ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อีกหนึ่งดาวรุ่งอย่าง แม็ตต์ สมิธ กองกลางวัย 19 ปีก็น่าจะได้โอกาสในทีมชุดใหญ่ 

อีกจุดยืนยันถึงการเป็นคนที่เข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ในทีมแนบแน่นมากขึ้นเหมือนเป็น "มือประสาน" คนใหม่คือการทำหน้าที่ตัวกลางเจรจากับนักเตะในทีมให้ยอมรับข้อตกลงลดค่าเหนื่อยเพื่อช่วยสโมสรในช่วงวิกฤตทางการเงินหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในตอนแรกนักเตะในทีมบางคนไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ 

ภารกิจต่อไปของ อาร์เตต้า คือพยายามหาทางออกเรื่องสัญญาของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีม และ บูคาโย่ ซาก้า ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงที่เหลือระยะเวลาอีกเพียง 12 เดือน และจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนขุมกำลังของทีมในช่วงซัมเมอร์

แต่ก่อนจะเคลียร์เรื่องสัญญาดังกล่าว ภารกิจสำคัญตรงหน้าตอนนี้คือเตรียมความพร้อมของทีมให้ได้มากที่สุดก่อนพรีเมียร์ลีกกลับมารีสตาร์ตอีกครั้งในเกมเยือน แมนฯ ซิตี้ วันพุธที่ 17 มิถุนายนนี้ซึ่ง อาร์เตต้า จะได้กลับ เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกหลังแยกตัวมารับงาน อาร์เซน่อล 

อาร์เตต้า อาจได้ช่วยชีวิตคนหลายคนโดยไม่ตั้งใจหลังยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 แต่ตลอด 2 เดือนต่อจากนี้ ภารกิจสำคัญที่เขาต้องช่วยให้ได้คือนำ อาร์เซน่อล ไปถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด