:::     :::

เอล เดร์บี้ เซบียาโน่ (เซบีย่า ปะทะ เรอัล เบติส)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เอล เดร์บี้ เซบียาโน่ เกมสุดเดือดแดนใต้ แม้ในแง่คุณภาพอาจสู้ เอล กลาซีโก้ กับ เดร์บี้ มาดริเลนโญ่ ไม่ได้ แต่ถ้าว่ากันถึงความเข้มข้นและ 'แพสชั่น' ล่ะก็ ศึกนี้ไม่เป็นรองใคร

เอล เดร์บี้ เซบียาโน่ (เซบีย่า ปะทะ เรอัล เบติส) 

ถือเอาฤกษ์งามยามดีที่ ลา ลีกา กลับมาลงสนามกันอีกครั้ง  แถมยังประเดิมด้วย 'เอล เดร์บี้ เซบียาโน่' เสียอีก เลยอยากหยิบเอามาคุยซักหน่อยครับ 

'เซบีย่า-เบติส'  คือสโมสรร่วมเมืองเซบีย่า เวลาเจอกัน จะถูกเรียกว่า 'เอล เดร์บี้ เซบียาโน่' หรือ เกมดาร์บี้ของคนเซบีย่า 

ว่ากันถึงความเก่าแก่ เซบีย่า ก่อตั้งก่อนในปี 1890  ส่วน เรอัล เบติส มาทีหลังในปี 1907 แก่อ่อนกว่ากัน 17 ปี 

ที่มาของชื่อสโมสรเซบีย่า ก็ง่ายๆ ตั้งตามชื่อเมือง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมืองเอกของแคว้นอันดาลูเซีย แคว้นใหญ่ทางใต้ของสเปนที่ร่ำรวยด้วยศิลปะวัฒนธรรม กลิ่นอายชาวมัวร์ และ อิสลาม 

ส่วน เรอัล เบติส มันง่ายที่จะเดาว่า “คงจะมาจากชื่อเมืองซักเมืองในแคว้น” แต่จริงๆชื่อสโมสรพวกเขามีที่มาอันสำคัญไม่แพ้ชื่อเมืองเซบีย่าเลย..มันมาจากชื่อแม่น้ำสายสำคัญที่ชื่อเรียกโคตรยากว่า ‘กวาดัลกีบีร์’ 

กวาดัลกีบีร์ มีความยาวเป็นลำดับ 5 ของแม่น้ำทุกสายที่ทอดตัวอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย ซึ่งสมัยที่ชาวโรมันปกครอง พวกเขาเรียกชื่อแม่น้ำนี้ว่า ‘Baetis’ (บาเอตีส)

ปัจจุบัน ตัวแม่น้ำถูกจดจำเรียกขานในนาม ‘กวาดัลกีบีร์’ ไม่มีใครเรียก ‘บาเอตีส’ อีกแล้ว หากแต่ชื่อนี้ได้เพี้ยนเสียงจนเรียกขานกันว่า ‘เบติส’ 

คำว่า เบติส สำหรับชาวเมือง ไม่ใช่แม่น้ำอีกต่อไป แต่คือสโมสรลูกหนังที่ร้อนระอุด้วยแพสชั่น เมื่อก้าวเท้าเข้ามาแล้ว คุณไม่มีวันถอดตัวจากไปได้ 

เบติส มีชื่อเต็มๆว่า ‘เรอัล เบติส บาลอมปี’ (Real Bertis Balompie)  อันถอดความแต่ละคำออกมาได้ดังนี้ 

เรอัล (Real) คำอังกฤษก็คือ รอยัล (Royal) เป็นสโมสรที่อยู่ในพระบรมชาชูปถัมภ์ ซึ่งมีสัญลักษณ์ที่สังเกตได้คือตราสโมสรจะมีมงกุฏประดับอยู่ 

เฉกเช่นหลายๆสโมสรในสเปน ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด,เรอัล โซเซียดาด หรืออย่าง เอสปันญ่อล ก็มีมงกุฏประดับด้วยเช่นกัน เพราะชื่อเต็มๆของทีม ‘นกแก้ว’ คือ เรอัล กลุ๊ป เดปอร์ติอู เอสปันญ่อล (RCD Espanyol) 

‘Balompie’ แยกออกเป็นสองคำ Balom คือ ลูกบอล และ pie คือเท้า รวมแล้วหมายถึงกีฬาที่เล่นลูกบอลด้วยเท้า

ปัจจุบันคนสเปนไม่มีใครเรียกว่า ‘บาลอมปี’ แล้ว ทุกคนเรียกเหมือนอย่างที่ทั่วโลกเรียกว่า ‘ฟุตบอล’ หากแต่เวลาเขียน ภาษาสเปนจะเขียนว่า ‘futbol’ ไม่ใช่ ‘football’

สีประจำของ เรอัล เบติส คือสีเขียวขาว เช่นนี้หนึ่งในฉายาของพวกเขาก็คือ verdiblancos (verdi สีเขียว,blancos สีขาว)  อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งฉายาของ เบติส ที่ส่วนใหญ่เรียกกันเฉพาะคนท้องถิ่นจริงๆ ก็คือ เอลิโอโปลิตานอส (heliopolitanos) ซึ่งมีที่มาจากตำบลที่ตั้งของสนามเบนีโต้ บียามาริน นั่นเอง 

แต่ลึกลงไปกว่านั้น คำนี้ไม่ใช่ภาษาสเปน แต่เป็นภาษากรีกที่แปลว่า “เมืองแห่งพระอาทิตย์” ซึ่งสะท้อนคาแรดเตอร์ของเมืองเซบีย่าได้อย่างชัดเจน 

พวกเขาเป็นหัวเมืองทางใต้ของประเทศที่อากาศไม่หนาวจัดและมีแดดแรงตลอดทั้งปี 

ส่วน เซบีย่า แม้ชื่อสโมสรจะไม่ได้ซับซ้อนเหมือนเช่น เบติส แต่พวกเขาก็โดดเด่นและแตกต่างจากสโมสรส่วนใหญ่ในสเปนจากชาติกำเนิด 

หากสังเกต แต่ละทีมในสเปนจะใช้คำว่า CF ต่อท้าย ซึ่งย่อมาจาก CLUB DE FUTBOL (กรุ๊บ เด ฟุตบอล) แต่ เซบีย่า ใช้คำต่อท้ายแบบเดียวกับพวกทีมในอังกฤษว่า FC ซึ่งก็คือ Futbol Club ด้วยเหตุเพราะสโมสรถูกตั้งขึ้นโดยคนอังกฤษ 

เอ๊ดเวิร์ด ฟาร์คูฮาร์สัน จอห์นสัน ลูกชายของ เจมส์ จอห์นสัน คหบดีผู้มั่งคั่งผู้เกิดและเติบโตในลอนดอน ถูกตระกูลส่งมาดูแลกิจการขนส่งส้มที่เมืองเซบีย่า เมืองท่าสำคัญของแคว้นอันดาลูเซีย ไปยังท่าเรือที่เมืองดันดี, สกอตแลนด์ เพื่อป้อนโรงงานผลิตแยมผลไม้ 

เอ๊ดเวิร์ด จอห์นสัน ก่อตั้งสโมสรเซบีย่า ฟุตบอล คลับ ขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 1890 พร้อมขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนแรก ทำให้ เซบีย่า กลายเป็นสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดเป็นลำดับ 2 ของสเปน ต่อจาก เรเครอาตีโบ อูเอลบา 

……………………………….

บีริส นอร์เต้ vs ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์

ความเป็นอริศัตรูระหว่าง เซบีย่า กับ เรอัล เบติส ไม่ใช่แค่จากเหตุเพราะทีมเป็นร่วมเมืองเดียวกันเท่านั้น หากแต่แนวคิดหลายๆอย่างก็ต่างกันสุดขั้ว โดยเฉพาะการเมือง ซึ่งมันทำหน้าจำแนกแฟนบอลในเมืองออกเป็นสองฝ่ายโดยปริยาย  

กองเชียร์อุลตร้าสของ เซบีย่า มีชื่อว่า ‘บีริส นอร์เต้’ (Biris Norte) ก่อตั้งในปี 1975 ที่มาของชื่อมาจาก บีริ บีริ อดีตศูนย์หน้าขาวแกมเบียของสโมสรในยุค 70 ส่วนของ เรอัล เบติส ชื่อว่า ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์ (Supporters Gol Sur) 

บีริส นอร์เต้ ของ เซบีย่า เป็นพวกซ้ายจัด ส่วน ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์  ฝักใฝ่ฝ่ายขวาแบบสุดลิ่ม  

ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์ เป็นพันธมิตรกับ เฟรนเต้ แอตเลติโก กองเชียร์ขาโหดของ ‘ตราหมี’ เวลาไปเยือนเมืองหลวง พวกเขาไปอย่างฉันท์มิตร ขณะที่แฟนหมีจะปรบมือให้การต้อนรับเป็นอย่างดี 

ขณะที่ บีริส ไม่เอาใครเลย นอกจากจะไม่ถูกกับ ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์ แล้ว ก็ยังมีเรื่องมีราวกับ เฟรนเต้ แอตเลติโก อยู่บ่อยๆ 

อีกทั้งแทนที่จะญาติดีกับ อุลตร้าส ซูร์ กองเชียร์ฮาร์ดคอร์ของ เรอัล มาดริด ไว้ เพื่อถ่วงดุลอำนาจให้สูสี แต่ บีริส นอร์เต้ กลับเปิดศึกด้วยเสียอย่างนั้น  

บีริส นอร์เต้ และ  ซัพพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์ ทั้งสองกลุ่มถูกจัดอันดับให้เป็นพวกอุลตร้าสหรืออันธพาลลูกหนังที่เก่าแก่และมีประวัติโชกโชนที่สุดกลุ่มนึงของวงการอุลตร้าสสเปน 

ยุคสมัยนึง บีริส นอร์เต้  โรมรันพันตูกับ ซัพอร์ตเตอร์ โกล ซูร์ จนเป็นเรื่องปกติ  จนกระทั่งความตายของ จิมมี่ แห่ง ริอาซอร์ บลูส์ เกิดขึ้น ในสมรภูมิริมแม่น้ำมานซานาเรส ทำให้แกนหลักของทั้งสองกลุ่มถึงกับออกมายอมรับว่า  “เดี๋ยวนี้หาโอกาสฉะกันยากซะเหลือเกิน” 


เอล เดร์บี้ เซบียาโน่ ปะทุขึ้นครั้งแรกเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 1909 หนนี้จะดวลกันเป็นครั้งที่ 184 แต่ถ้าจะนับแบบออริจินอลตามสไตล์คนสเปน ต้องนับเฉพาะเกม ลา ลีกา ซึ่งที่ผ่านมา 97 ครั้ง เป็น เซบีย่า ที่ทำได้ดีกว่า ชนะไป 45 ครั้ง เสมอ 22 และ เบติส ชนะ 30 ครั้ง 

เอล เดร์บี้ เซบียาโน่  ในแง่คุณภาพอาจสู้ เอล กลาซีโก้ กับ เดร์บี้ มาดริเลนโญ่ ไม่ได้ หากแต่คู่นี้ก็เข้มข้นด้วย 'แพสชั่น' ตามประสาคนอันดาลูซ ที่ 'ปากว่ามือถึง'  

        ในสนามไม่ว่าจะนักเตะท้องถิ่น หรือต่างชาติ แต่เมื่อสวมเสื้อเขียวขาวของ เบติส หรือ ขาวสลับแดงของ เซบีย่า วิญญาณนักรบจะเข้าสิงทันที เกมเล่นกันหนักมาก ใบเหลือง ใบแดง ปลิวว่อนเป็นเหตุปกติ  

         ส่วนกองเชียร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง  ปากด่าปุ๊บ มือเท้าถึงปั๊บ แทบไม่ต้องเสียเวลารอคอย ศึกแห่งศักดิ์ศรี พวกเขาพร้อมปะทะเสมอ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ ‘โบเตยาโซ่’ (botellazo)’ หรือ ‘ขวดโค้กในตำนาน’


……………………………….

28 กุมภาพันธ์ 2007 เซบีย่า กับ เรอัล เบติส จับสลากมาเจอกันในศึกโกปา เดล เรย์ โดยเกมเล่นกันที่เบนีโต้ บียามาริน ของฝ่ายหลัง  

ปรากฏว่าหลัง เฟเดริก กานูเต้ ซัดให้ เซบีย่า ทีมเยือนขึ้นนำ ความโกรธกริ้วของเหล่า 'เบตีโก้' ก็พุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด อึดใจต่อมาก็มีขวดโค้กพุ่งตัวอย่างรวดเร็วลงมาจากอัฒจรรย์ และกระแทกเข้าที่หัวของ ฆวนเด้ รามอส กุนซือเซบีย่าในตอนนั้นแบบเต็มๆ

รามอส ค่อยๆ ทรุดลง ทรุดลง และสลบในที่สุด เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เกมที่เหลืออีก 33 นาที ต้องย้ายไปเตะที่ โกลีเซียม อัลฟองโซ่ เปเรซ ของ เคตาเฟ่ ที่กรุงมาดริด แทน

ส่วนตัวการ..ริการ์โด้ การ์เซีย อัลฟองโซ่ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของชวดโค้ก ขึ้นให้การต่อศาลพร้อปฏิเสธกล่าวหาทุกประการ

การ์เซีย ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "ขวดเป็นของผมก็จริง แต่ผมไม่ได้เป็นคนขว้าง"

"ข้างหลังผมมีวัยรุ่นนั่งอยู่ 3 คน พวกมันตระโกนด่า เซบีย่า ตั้งแต่นกหวีดปรี๊ดแรก"

"ผมรำคาญพวกนั้น เลยขยับเปลี่ยนที่นั่งถอยลงมาหนึ่งสเต็บ แต่ผมดันลืมขวดโค้กไว้"

"จากนั้น ตอน กานูเต้ ยิงเข้า พวกมันก็เอาขวดโค้กผมขว้างลงไปทันที"

"แค่สามวิ แม่งก็หนีไปแล้ว ทุกคนเห็นว่ามันทำ แต่ไม่มีใครจับได้ แต่อย่างนึงที่ต้องยอมรับคือ(แม่ง)แม่นจริงๆ”

         

         ครับ นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์เดือดของ เอล เดร์บี้ เซบียาโน่ ซึ่งไม่รู้ว่าโชคดี หรือโชคร้าย ที่ครั้งนี้ เราจะได้ดูเกมสุดเดือดแบบไม่มีคนดูในสนาม บรรยากาศคงกร่อยพิลึก แต่อย่างน้อยๆ ก็เบาใจได้ว่าไม่มีอะไรลอยลงมาโดนหัวใครอีก 

         เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด