:::     :::

เพื่อนปีศาจแดง พูดถึงโรนัลโด้

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,100
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากเอ่ยถึงชายที่ชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้

นี่คือนักฟุตบอลระดับโลก ที่เต็มไปด้วยความมืออาชีพ และระเบียบวินัย จนสามารถยืนระยะในเส้นทางลูกหนังได้อย่างยาวนาน และเก็บเกี่ยวความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง 


ช่วงนี้ เราย้อนกลับไปสมัยที่เจ้าตัวเพิ่งเริ่มสร้างชื่อ กับการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเรื่องราวจากปากของทีมงาน และอดีตเพื่อนร่วมทีม "ปีศาจแดง" หลายต่อหลายคน รวมถึงประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพที่น่าประทับใจ ที่พวกเขาประสบพบเจอในตัวของ "CR7" เราไปย้อนวันวาน และความประทับใจเหล่านั้นกันเลย 

คำบอกเล่าจากปากของ ปาทริซ เอวร่า 


"ผมอยากให้คำแนะนำถึงทุกคน เมื่อคริสเตียโน่ ชวนคุณไปกินอาหารกลางวันที่บ้านของเขา คุณตอบไปเลยว่า -ขอไม่ไป-"


"เขาชอบพูดว่า -ปาทริซ เรามาเจอกันหลังซ้อมนะ- ผลสุดท้าย ผมก็ไปตามคำชวน แม้ว่าจะเหนื่อยหน่ายก็ตาม เนื่องจากบนโต๊ะที่บ้านของเขา มีเพียงแค่อาหารอย่างสลัด และเนื้อไก่แห้งๆ ผมคิดในใจว่า มันก็พอโอเค นอกจากนั้นจะมีน้ำเปล่า ไม่มีน้ำผลไม้อะไรทั้งนั้น เราเริ่มกินอาหารกัน ซึ่งในใจผมคิดว่า สักพักคงมีเมนูเนื้อมื้อใหญ่ตามมาแน่นอน แต่สุดท้าย มันไม่มีอะไรเลย !!!"


"จากนั้น เขาก็หยุดกิน ก่อนจะเอาลูกบอลมาเล่น พร้อมกับโชว์เทคนิคต่างๆ เขาเอ่ยว่า -มาเล่นด้วยกันหน่อยซิเพื่อน- ผมคิดว่า ตัวเองจะหยุดกินได้แล้วใช่มั้ย ? จากนั้นเราก็เริ่มเล่นกัน เพียงไม่นาน เขาก็ชวนไปลงสระว่ายน้ำ ผมก็โอเค ตามด้วยการลงอ่างจากุซซี่ แถมมาด้วยซาวน่า เพียงแค่นั้นแหล่ะ ความอดทนผมมันจบลงทันที !!!"


"ผมถามว่า -คริสเตียโน่ เรามาทำบ้าอะไรที่นี่ ? เรามาเพราะพรุ่งนี้มีเกมการแข่งขัน หรือเพียงแค่มากินข้าวกลางวันกันเฉยๆ ?- นี่เป็นเหตุผลที่ผมแนะนำถึงทุกคน เมื่อเขาชวนไปบ้านของเขา โปรดอย่าไป พูดไปเลยว่า ขอไม่ไป เพราะเขาคือเครื่องจักรดีๆนี่เอง เขาไม่เคยหยุดการฝึกซ้อมเลย"


"อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับริโอ เฟอร์ดินานด์ พวกเราดวลปิงปองกัน ปรากฏว่าริโอ ดันไปชนะคริสเตียโน่ เราต่างตะโกนกันด้วยความสะใจ แต่คริสเตียโน่ หัวเสียเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น เขาสั่งให้ญาติออกไปซื้อโต๊ะปิงปองมา เขาฝึกฝนมันอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ที่บ้านของตัวเอง จากนั้นเขาก็กลับมา และเอาชนะริโอ ต่อหน้าทุกคน !!!"


"นี่แหล่ะคือชายที่ชื่อว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมทุกวันนี้ เขายังอยากได้รางวัลบัลลงดอร์ อยู่เหมือนเดิม และทำไมเขาถึงอยากได้แชมป์ฟุตบอลโลก นั่นเพราะเขาเป็นตัวแทนของความหิวกระหายยังไงล่ะ"

คำบอกเล่าจากปากของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์


"หลังจากที่ทุกคนฝึกซ้อมเสร็จแล้ว, คริสเตียโน่ มักจะอยู่ฝึกฝนลูกฟรีคิกต่อ เขาชอบหันมาทางผม พร้อมกับเอ่ยปากถามว่า -เอ็ดวิน คุณเป็นผู้รักษาประตูให้ผมได้หรือเปล่า ?-"


"ผมตอบกลับกับเขาไปว่า ผมอายุมากแล้วนะ โดยจะเป็นการดีกว่า หากว่าไปซ้อมต่อกับบรรดานายทวารดาวรุ่ง อย่างไรก็ตาม เขายืนยันเสียงแข็งว่า ต้องการให้ผมเป็นผู้รักษาประตูเท่านั้น เพราะเขาต้องการยิงประตูผ่านมือผม"


"ผมทำการหยอก และบอกไปว่า -นายยิงประตูผ่านมือฉันไม่ได้หรอกน่า นายรู้ดีหนิ นายควรมองหาผู้รักษาประตูจากทีมสำรองมาซ้อมด้วย มันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นายได้นะ-"


"จากนั้นเขาจะกระวนกระวายใจ และพูดแต่เพียงว่า -ไม่เอา คุณต้องเป็นผู้รักษาประตูให้ผมเท่านั้น-"




คำบอกเล่าจากปากของ โทนี่ สตรัดวิค ทีมงานวิเคราะห์คุณภาพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


"ตอนที่ผมเข้ามาทำงานกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกนั้น คาร์รอซ เคยรอซ (อดีตผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน) บอกกับผมว่า ต้องทำให้แน่ใจว่า นักเตะจะไม่เสียเวลาฝึกซ้อมมากจนเกินความจำเป็น"


"แต่เห็นได้ชัดเลยว่า โรนัลโด้ เป็นคนที่พร้อมทำงานพิเศษอยู่เสมอ ผมต้องรับมือกับความตึงเครียด เพราะผมต้องเป็นคนเดินไปบอกกับนักเตะว่า พวกเขาต้องออกจากสนามซ้อมได้แล้ว"


"บรรดานักเตะจะรู้ขีดจำกัดในร่างกายของตัวเอง และต้องการฝึกซ้อมมากขึ้นกว่าเดิม นี่คือวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาต้องการฝึกฝน ทำให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ นี่คือภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งมีความต้องการอยากซ้อมมากมายเหลือเกิน เราต้องดึงพวกเขาออกมา"


"วันหนึ่ง, ที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน ผมเห็นโรนัลโด้ ฝึกซ้อมอยู่คนเดียว เขากำลังถ่วงน้ำหนักเอาไว้ที่ข้อเท้าของตัวเอง เพื่อให้มีความมั่นใจว่า เขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น เขามักเสริมการซ้อมพิเศษในเรื่องเท้า เพราะเขาต้องการความรวดเร็วที่มากขึ้น หลายครั้งที่เขารู้สึกไม่พอใจกับตัวเอง ดังนั้น เขาจึงทำงานมากขึ้น รวมถึงเรื่องการยิงฟรีคิก และลูกยิงประตู เขาฝึกมันมากขึ้นไปเรื่อยๆ"

คำบอกเล่าจากปากของ คาร์ลอส เตเวซ 


"หลังจบการฝึกซ้อม คริสเตียโน่ จะตรงดิ่งเข้าโรงยิมเสมอ สำหรับเขาแล้ว การเข้ายิมคือสิ่งที่หลงใหลมากๆ โดยเขาต้องการทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด แน่นอนว่า เขามาฝึกซ้อมเร็วมากด้วย"


"เมื่อทีมมีการฝึกซ้อมในช่วงเวลา 9 โมงเช้า ผมก็จะเดินทางไปก่อนเวลา โดยถึงสัก 8 โมง ซึ่งผมเห็นเขาอยู่ที่สนามซ้อมแล้ว !! แม้ว่าบางครั้ง ผมจะไปถึงก่อนเวลาเร็วขึ้นสัก 7 โมงครึ่ง เขาก็อยู่ที่นั่นแล้วเหมือนเดิม !!"


"ผมเริ่มถามตัวเองแล้วว่า -ผมจะจัดการชายคนนี้ยังไงดี ?- วันหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจไปถึงสนามซ้อม ในช่วง 6 โมงเช้ามันซะเลย แต่เขาก็มาอยู่ที่นั่นอีกแล้ว !! แม้จะน่าง่วงนอน แต่เขาก็อยู่ที่นั่นแล้ว




คำบอกเล่าจากปากของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 


"เสียงหัวเราะเยาะ .... ขัดขวางเขาไม่ได้หรอก"


"ตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวขาเข้ามายังสโมสร เขามีความคิดฝังหัวว่า ต้องการเป็นนักเตะที่เก่งสุดในโลก เขามาซ้อมไวกว่าคนอื่น เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ผลสุดท้าย เขาก็เสพติดมันจนได้"


"หลายต่อหลายครั้ง เขามักนำที่ถ่วงน้ำหนักมาติดที่ข้อเท้าของตัวเอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อม เขามองว่ามันช่วยให้เท้ารวดเร็วขึ้น แม้ว่าการทำในรูปแบบนั้น ทำให้เพื่อนร่วมทีมต่างพากันหัวเราะเยาะ แต่มันขัดขวางเขาไม่ได้"



คำบอกเล่าจากปากของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 


"คริสเตียโน่ มีครบทุกอย่าง เขาสามารถยิงได้ทั้งสองเท้า, เล่นลูกกลางอากาศ และห้าวหาญเหมือนราชสีห์ ช่วงเวลาของผมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้เจอกับผู้คนมากมาย ที่จำเป็นต้องฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อก้าวไปเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้น แต่สำหรับคริสเตียโน่ เขาจัดการทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาแค่อยากเป็นแข้งที่ดีสุดในโลก"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด