อาร์เซน่อล ประกาศยืนยันคว้าตัว วิลเลี่ยน มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญากับ เชลซี ทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน พร้อมกับเซ็นสัญญายาว 3 ปี และมอบเสื้อหมายเลข 12 ให้ใส่ลงวาดลวดลายในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
นอกจากได้สัญญา 3 ปีที่ เชลซี ไม่สามารถให้ได้แล้ว ปีกจอมเก๋าสายพันธุ์แซมบ้าจะได้ค่าเหนื่อยอีกสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ละ 220,000 ปอนด์หากรวมเงื่อนไข และโบนัสต่างๆ เข้าไปด้วย
วิลเลี่ยน จึงกลายเป็นการเสริมทัพรายแรกของ อาร์เซน่อล เพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2020-21 ที่จะเป็นฤดูกาลแรกในการคุมทีม "เต็มฤดูกาล" ของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มผู้เข้ามารับช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมาและพาทีมจบด้วยตำแหน่งแชมป์เอฟเอ คัพ
การย้ายข้ามฟากระหว่าง เชลซี กับ อาร์เซน่อล ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอลแล้วเพราะ วิลเลี่ยน กลายเป็นนักเตะคนที่ 11 ที่กำลังจะได้เล่นให้ 2 สโมสรดังของเมืองหลวงอังกฤษในยุคพรีเมียร์ลีก
10 แข้งที่เคยเป็นทั้ง "สิงห์บูลส์" และ "ปืนใหญ่" ก่อนหน้านี้คือ นิโกล่าส์ อเนลก้า, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, วิลเลี่ยม กัลลาส, แอชลี่ย์ โคล, ลาสซาน่า ดิยาร่า, ยอสซี่ เบนายูน, เชส ฟาเบรกาส, ปีเตอร์ เช็ก, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ดาวิด ลุยซ์
หากนับเฉพาะการ "ย้ายตรง" จาก เชลซี มา อาร์เซน่อล แข้งใหม่ปืนใหญ่คนล่าสุดก็กลายเป็นคนที่ 6 ต่อจาก กัลลาส, ลาสส์ ดิยาร่า, เบนายูน (ยืมตัว), เช็ก และ ลุยซ์ และเป็นซัมเมอร์ที่ 2 ติดต่อกันที่ อาร์เซน่อล เลือกใช้บริการนักเตะ เชลซี แถมเป็นบราซิเลี่ยนเหมือนกันอีกต่างหาก
ในวัย 32 ปี วิลเลี่ยน มีประสบการณ์ในอาชีพเต็มเปี่ยม เขาฉายแววออกมาจนได้ย้ายร่วมทีมเยาวชนของ โครินเธียนส์ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนก้าวขึ้นเล่นชุดใหญ่ตอนอายุ 18 ปี และแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วและได้โอกาสค้าแข้งในยุโรปกับ ชัคตาร์ โดเนทส์ค ยอดทีมของยูเครนหลังเป่าเทียนฉลองวันเกิดครบ 19 ปีได้เพียงไม่กี่วัน
ตลอด 5 ปีกับ ชัคตาร์ วิลเลี่ยน พาทีมกวาดแชมป์ลีกยูเครนได้ 4 สมัย, แชมป์ยูเครน คัพ อีก 3 สมัย รวมถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 2009 ที่เอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน ในรอบชิงชนะเลิศซึ่ง เบรเมน ในตอนนั้นมี เมซุต โอซิล อยู่ในทีมด้วย
วิลเลี่ยน ลงสนามให้ ชัคตาร์ โดเนทส์ค ทั้งหมด 221 นัด ยิงได้ 37 ประตูกับอีก 63 แอสซิสต์ ก่อนย้ายไปร่วมทีม อันจิ มาคัชคาล่า ในต้นปี 2013 ด้วยค่าตัวถึง 35 ล้านปอนด์ แต่ก็อยู่กับทีมเพียงชั้นๆ เพราะในซัมเมอร์ปีดังกล่าว วิลเลี่ยน ต้องย้ายทีมอีกครั้งเพราะ อันจิ มีปัญหาการเงินก่อนเป็น เชลซี ที่ยื่นข้อเสนอดังตัวไปเล่นในอังกฤษ
ปีกจากเมืองเซา เปาโล ปักหลักค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นาน 7 ปีเต็ม สร้างชื่อเสียงและเก็บเกี่ยวความสำเร็จอย่างมากมายทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 1 สมัย และยูโรปา ลีก อีก 1 สมัย โดยลงสนามมากถึง 339 นัด ยิงได้ 63 ประตูและอีก 62 แอสซิสต์
14 ปีเต็มกับการเดินทางอันยาวไกลที่พิสูจน์ตัวเองทั้งในบ้านเกิดบราซิล, ในตะวันออกของยุโรปอย่าง ยูเครน และในลีกอังกฤษที่ขึ้นชื่อว่าหินโหดที่สุดโดยเฉพาะนักเตะจากอเมริกาใต้ วิลเลี่ยน ได้เริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งแม้ยังอยู่ในลอนดอนเหมือนเดิม
หลังเปิดตัวกับทีมอย่างเป็นทางการ วิลเลี่ยน กล่าวถึงเหตุผลในการเปลี่ยนสีเสื้อจาก "น้ำเงิน" มาเป็น "แดง" ว่า "ผมตัดสินใจย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล เพราะเป้นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามีโปรเจคใหม่กับ มิเกล อาร์เตต้า ผมคิดว่า สโมสรแห่งนี้สมควรที่จะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง และผมก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ การได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว อาร์เซน่อล เป็นเรื่องมหัศจรรย์"
"ผมมาที่นี่เพื่อพยายามคว้าแชมป์ให้ได้ สโมสรแห่งนี้สมควรกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง และผมก็คิดว่า คุณต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อคว้าชัยชนะในทุกๆ เกม"
"ผมซ้อมหนักเสมอ และเมื่ออยู่ในสนาม ผมจะทุ่มเท 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อช่วยทีมให้เอาชนะ และคว้าแชมป์ให้จงได้ ผมตื่นเต้นอย่างมากที่ได้มาเป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล ผมแทบรอไม่ไหวแล้วกับการเริ่มต้นฝึกซ้อม และลงเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมของผม"
อาร์เตต้า : "วิลเลี่ยนสร้างความแตกต่างให้อาร์เซน่อลได้"
ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า ในฐานะเฮดโค้ชคนใหม่ของ วิลเลี่ยน ก็ได้กล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่คนแรกประจำซัมเมอร์ 2020 ว่า "ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าเขาเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเราได้"
"เราเฝ้าดูเขามาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เรามีความชัดเจนที่จะเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกและตำแห่นงปีก เขาก็เป็นนักเตะที่ช่วยเราได้อย่างมากมายด้วยความสามารถอันหลากหลายของเขา เขาสามารถเล่นได้ 3 หรือ 4 ตำแหน่งเลย"
"เขานำคุณภาพมากมายมาให้เราเช่นเดียวกับบางสิ่งที่เราต้องการนั่นคือการเป็นผู้ชนะ เขาผ่านประสบการณ์แทบครบทุกอย่างในโลกฟุตบอล แต่ยังคงมีความทะเยอทะยานที่จะย้ายมาที่นี่ และพยายามช่วยสโมสรกลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น"
ตามตำแหน่งแล้ว วิลเลี่ยน คือปีกขนานแท้ที่เล่นทางฝั่งขวาเป็นหลัก แต่ก็สามารถโยกไปเล่นฝั่งซ้าย รวมถึงตรงกลางได้ ความสารพัดประโยชน์ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นทางเลือกให้กับ อาร์เซน่อล ได้อย่างมากมาย
"คุณภาพของเขามีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสามารถเล่นในพื้นที่แคบได้ดี คุณภาพในการพาบอลผ่านคู่แข่ง โจมตี ขับเคลื่อนเกมรุก และสร้างสรรค์โอกาส เขามีความอันตรายทั้งการเล่นโอเพ่นเพลย์และจังหวะเซตพีซทั่วไป"
"ผมรู้สึกประทับใจมากๆ กับการได้คุยกับเขา เขาแสดงให้เห็นว่า เขาอยากมาอยู่ที่นี่จริงๆ เขามีคาแรกเตอร์ที่เราต้องการ ผมคิดว่านี่จะเป็นการเสริมทัพที่ดีมากๆ ใน่แง่คุณภาพที่เขานำมาสู่ทีม ผมมีความสุขอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับเขา"
เอดู : "ทุกคนแฮปปี้ได้ วิลเลี่ยน มาร่วมทีม"
วิลเลี่ยน กลายเป็นนักเตะบราซิเลียนคนที่ 11 ที่จะได้เล่นให้ อาร์เซน่อล ในยุคพรีเมียร์ลีก และเป็นคนที่ 3 ในทีมชุดปัจจุบันต่อจาก ดาวิด ลุยซ์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
10 แข้งแซมบ้าที่เคยสวมเสื้อ "ปืนใหญ่" ก่อนหน้า วิลเลี่ยน คือ ซิลวินโญ่, ฮวน, เอดู, จิลแบร์โต้ ซิลวา, ชูลิโอ บาปติสต้า, เดนิลสัน, อันเดร ซานโต๊ส, กาเบรียล เปาลิสต้า, ลุยซ์ และ มาร์ติเนลลี่
แน่นอนว่าคนที่มีส่วนในการนำ วิลเลี่ยน ข้ามฟากจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ มาลงเอยที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม คือ เอดู อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล ที่ปัจจุบันรับตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค
"เขามีคุณสมบัติสุดยอดมากมายในฐานะคนคนหนึ่งและในฐานะนักฟุตบอล นั่นคือคาแรกเตอร์ของเขา ผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทุกคนในทีม แฟนบอล ตัวผมเอง และ มิเกล ต่างแฮปปี้กับการได้ วิลเลี่ยน มาร่วมทีม"
"เราพยายามสร้างสมดุลในทีมให้ดีขึ้น แต่เรารู้ว่าต้องใช้เวลาเพื่อสร้างสมดุลในทีมอย่างที่ มิเกล และผมต้องการ การทำให้ได้แบบนั้น เราจำเป็นต้องขายผู้เล่นออกไป และซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาซึ่งล้วนใช้เวลา มันไม่สามารถเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน"
"มันต้องใช้เวลาแต่สำหรับ วิลเลี่ยน เริ่มได้เริ่มต้นด้วยก้าวย่างสำคัญ เรามองหาความต้องการในทีมและเขาก็คือหนึ่งในคนที่่จะเข้ามาสร้างสมดุลอย่างที่เราต้องการได้"
"ผมตื่นเต้นมากๆ และดีใจมากๆ ที่ได้นักเตะอย่าง วิลเลี่ยน เพราะผมเชื่อว่าเขาจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ช่วยทีมได้ทันที สำหรับผมแล้วนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดเพราะผมคิดว่าทีมต้องการผู้เล่นอย่าง วิลเลี่ยน ในการเข้ามาช่วย ได้เล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่น เขาช่วยได้ทุกอย่างเลย ผมจึงตื่นเต้นอย่างมากทีเดียว"
