"ผมได้แต่ถามตัวเองว่ามันจะมีโอกาสแบบนี้มาถึงอีกไหม แต่แล้วสโมสรในฝันสำหรับผมอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ติดต่อเข้ามา สโมสรอันยอดเยี่ยมในลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ผมแทบไม่ต้องคิดเลยแม้แต่วินาทีเดียวทันทีที่โอกาสมาถึง"

"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวต่างๆกับโซลชา และก็คุยกันเรื่องฟุตบอลด้วย เขาบอกว่าเขาตามดูผมมานานมากแล้ว เขารู้ดีมากๆว่าอะไรคือจุดแข็งที่สุดของผม และเขาอยากให้ผมเล่นทั้งในกรอบและรอบๆบริเวณกรอบ16หลาให้แมนยูไนเต็ดด้วย"

"เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ และดาลีย์ บลินด์ก็ช่วยผมในการตัดสินใจอย่างมากเช่นกัน พวกเขาตื่นเต้นมากเกี่ยวกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาบอกว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สโมสรใหญ่โต แต่ว่าที่นี่ก็ยังอบอุ่นอีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผมรับรู้เกี่ยวกับสโมสร และผมตื่นเต้นอย่างมากที่จะมาอยู่ที่นี่"

"ผมจะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์อีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มันอาจจะฟังดูเศร้าๆแต่ผมชอบสิ่งนี้นะ เพราะถ้าคุณเริ่มต้นจากตีนบันไดข้างล่าง คุณก็จะปีนขึ้นไปได้เรื่อยๆอีกครั้ง คราวนี้เป็นเรื่องของผมแล้วที่จะไปให้สูงได้สักแค่ไหน และผมมองว่ามันเป็นความท้าทายจริงๆ"

"การเล่นของทีมในเลเวลระดับเดียวกับเวลาที่ต้องเจอทีมอย่างเรอัลมาดริด ยูเวนตุส และท็อตแน่ม หรือสูงยิ่งๆกว่านี้นั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในตัว หากคุณอยากที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีกและเป็นตัวจริงของทีมอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

"ด้วยทีมที่ยอดเยี่ยมและยังหนุ่มอยู่ ที่ซึ่งผมน่าจะเข้าไปร่วมด้วยได้นั้น ผมว่าผมจะพาแมนยูไนเต็ดกลับไปสู่ระดับสูงสุดและพาพวกเขาประสบความสำเร็จและคว้าแชมป์ต่างๆได้ ผมหวังว่าจะได้เดินตามรอยของนักเตะอย่างฟานเดอร์ซาร์ ฟานเพอร์ซีย์ ฟานนิสเตอรอย สตัม และก็บลินด์"

"ผมเป็นมิดฟิลด์ที่ชอบเข้าไปในกรอบเขตโทษ ชอบวิ่งจู่โจม ทำประตู แอสซิสต์ หลายๆครั้งผมวิ่งทำระยะทางในหนึ่งเกมได้เยอะมาก และการเข้าไปในกรอบประตูของคู่ต่อสู้คืออีกหนึ่งจุดแข็งของผมเช่นกัน"

"ผมอยากที่จะพัฒนาทั้งทางด้านกายภาพร่างกาย และในทุกๆเรื่องเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง เพราะว่าสำหรับที่ฮอลแลนด์ถือว่าผมแข็งแรงและด้านกายภาพดีเยี่ยม แต่ตอนนี้ผมอยากจะก้าวหน้าขึ้นอีกครั้งเพื่อจะปรับปรุงให้ดีขึ้นและช่วยสโมสรคว้ารางวัลและแชมป์ต่างๆมาครอง"

"ผมได้ดูพวกเขาลงเล่นมาเยอะ ทีมมีนักเตะดีๆในตำแหน่งมิดฟิลด์มากมาย และผมก็อยากจะลงเล่นร่วมกับพวกเขาแล้ว มันคงจะดีมากๆและผมคงจะสนุกที่ได้เล่นกับนักฟุตบอลแบบนี้"

"มีคนที่ผมรู้จักอยู่คนเดียวเท่านั้นที่นี่ก็คือ ทิโมธี (โฟซูเมนซาห์) ผมได้เล่นกับเขาที่อาแจ็กซ์ในทีมเยาวชนเมื่อนานมาแล้ว ผมได้เคยคุยกับเขา และเขาบอกว่า 'เมื่อไหร่จะย้ายมาซะทีอ่ะ? นายรอนานไปนะ!' เขาอำผมเล่นๆซึ่งมันน่ารักมาก"

ตัวเลขจากตำแหน่งมิดฟิลด์ กับ10ประตู 11แอสซิสต์ จาก37เกมที่ตะลุยลงเล่น สะท้อนให้เห็นว่านักเตะผู้นี้จะเข้ามาแล้วสร้างประโยชน์ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้มากมายในฤดูกาลที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน คิดเอาเองว่าจากสถิติเบื้องต้นที่นักเตะคนนี้ลงเล่นไป 159นัด เกือบๆ160 แต่มีส่วนร่วมกับประตูทั้งหมด 40ประตู+43แอสซิสต์ = 83 ประตู จากราว160นัด

นั่นแปลว่า ทุกๆ2นัด ดอนนี่ ฟานเดอเบค จะมีส่วนร่วมกับหนึ่งประตูอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นKey Playerคนนึงที่สร้างผลการแข่งขันให้ทีมได้เป็นรูปธรรมมากจริงๆ

อีกคนนึงที่น่าจะตื่นเต้นไม่แพ้เจ้าตัว ก็คงจะเป็นผู้จัดการทีมที่เป็นคนสั่งซื้อหมอนี่เข้ามา นั่นก็คือโซลชานั่นเองที่เล็งและรอคอยตัวนี้มานาน แถมดำเนินการพูดคุยโน้มน้าวมาด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัวอีก โอเล่ กุนนาร์ โซลชากล่าวถึงVDBเอาไว้สั้นๆว่า

"ดอนนี่นั้นมีทักษะในทุกๆด้านและมีบุคลิกภาพที่ต้องการ จะประสบความสำเร็จที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ความสามารถในการหาพื้นที่ว่าง การอ่านจังหวะ การเคลื่อนที่ และการอ่านเกมจะเติมเต็มคุณภาพในแผงมิดฟิลด์ของเรา และการคว้าตัวเขามาสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของฝีเท้านักเตะในเชิงลึกที่เรามีในตำแหน่งนั้น"

"ผลงานของดอนนี่ในเอเรดิวิซี่และในเกมยุโรปนั้นยอดเยี่ยมมากๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเรารอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขา"

ถือว่าเป็นการจัดการซื้อขายได้สำเร็จลุล่วงอย่างเป็นทางการรายแรกของตลาดซัมเมอร์นี้แล้ว และหวังว่าบอร์ดบริหารจะยังไม่หยุดเดินหน้าเสริมทีมอย่างต่อเนื่องในจุดสำคัญๆ แต่จากดีลที่ไปจัดการมาได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการจ่ายเงินเพียง39ล้านยูโรเป็นเงินต้นนั้น ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากสำหรับทีมซื้อขาย ก็หวังว่าจะปิดดีลนักเตะดีๆแบบนี้เข้ามาได้อีก

ค่อนข้างเชื่อว่า Donny van de Beek น่าจะเป็นอีกครั้งที่บอร์ดและทีมงาน ซื้อตัวเข้าทีมมาได้ "โดน" อีกครั้งเหมือนปีที่แล้วที่ได้บิสซาก้า แมกไกวร์ บรูโน่ เข้ามา

เพราะเพียงแค่อ่านคำสัมภาษณ์และเห็นถึงทัศนคติที่ดีมากๆของเจ้าหนูคนนี้แล้ว ผมโคตรเชื่อว่าเด็กที่มีattitudeเช่นนี้จะประสบความสำเร็จกับเราล้านเปอร์เซ็นต์

-ศาลาผี-