หลังจากที่นำเสนอเรื่องราวที่ทีมเรามีข่าวกับแซร์คิโอ เรกีลอน มาสักระยะ ก็มีแฟนๆปีศาจแดงหลายๆคนตามsocial media ต่างพูดถึงและกังวลกันแต่เรื่องของเงื่อนไขการ "ซื้อกลับ" จากต้นสังกัดอย่างเรอัลมาดริด วันนี้จะมาแถลงไขให้เห็นกันชัดๆ เพราะเจอแทบทุกเม้น จึงต้องขอมาเขียนเป็นโพสต์นี้อธิบายให้จบในทีเดียวจะได้เห็นกันแบบจะจะ
แต่ก่อนที่จะไปประเด็นนั้นขอนำข่าวที่เพิ่งจะอัพเดทความคืบหน้าของดีลเรกีลอนสดๆร้อนๆมาฝาก
- เรกีลอนจะไม่อยู่เล่นแบ็คซ้ายให้กับทางเซบีญ่าต่อในซีซั่นหน้า เพราะว่าทางเซบีญ่านั้นต้องการที่จะซื้อในราคา20ล้านยูโร (17.9ล้านปอนด์) แต่ยูไนเต็ดสามารถจ่าย30ล้านยูโรได้ พร้อมเสนอค่าเหนื่อยปีละ5ล้านยูโรให้กับทางนักเตะ[@EscalanteSenen]
- แมนยูไนเต็ดเองนั้นก็สนใจในตัวเรกีลอนอย่างจริงจังและเป็นที่รู้กันอย่างมาก ซึ่งทางต้นสังกัดอย่างมาดริดเองนั้นก็หวังที่จะได้ข้อเสนอแบบเน้นๆจากฝั่งพรีเมียร์ลีก โดยที่ซีดานนั้นไม่ได้มองเขาอยู่ในแพลนเพราะว่าชอบที่จะใช้งานทางด้านมาเซโล่ และแฟร์ล็อง เมนดี้ มากกว่า [@Estadio_ED]
- เรกีลอนที่บาดเจ็บมาจากเกมทีมชาติตอนนี้ก็กลับไปพักฟื้นรักษาตัวที่Valdebebasในกรุงมาดริดจนกว่าจะตัดสินใจเรื่องอนาคตเรียบร้อย โดยที่มาดริดอยากทำกำไรจากการขายตรงนี้ หรือไม่ก็ปล่อยยืมกลับไปเซบีญ่าอีกครั้ง[marca]
- แมนยูไนเต็ด อาร์เซนอล และเซบีญ่า คือตัวเลือกของทางเรกีลอน โดยที่มาดริดนั้นต้องการจะขายเขาด้วยออฟชั่นซื้อกลับ โดยที่ตัวนักเตะนั้นอยากที่จะย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก[@AlvaroMonteroTV,sky]
- แมนยูไนเต็ดนั้นเป็นตัวเต็งที่จะคว้าตัวเรกีลอน และมีทีมอังกฤษอื่นๆเข้ามาbidด้วยเหมือนกัน อนาคตของเขาจะทราบในไม่กี่วันข้างหน้านี้ [@eldesmarque_sfc ทวิตเตอร์สายเซบีญ่า]
- มีความสนใจมาจากทางนาโปลีเช่นกันแต่ว่าทางนักเตะถอยห่าง ไม่สนใจจะย้ายไปร่วมทีม ส่วนแมนยูพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการเป็นกิจจะลักษณะ โดยยื่นข้อเสนอพร้อมกับโบนัส ในราคา 25ล้านปอนด์คว้าตัวแซรค์คิโอ เรกีลอนให้สำเร็จ[Mondo Napoli sportwitness]
: มา จะสรุปประเด็นเรื่องนี้ให้แบบหนักๆเลย สำหรับใครที่จะได้อ่านโพสต์นี้จะได้ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
ผมจะอธิบายให้ฟังว่า สาเหตุที่หลายๆคนคิดเรื่องนี้ผมเองก็รู้ มันมีตัวอย่างให้เห็นจากเคสของ โมราต้าที่ย้ายจากยูเว่กลับมาดริด / คาเซมิโร่ที่ย้ายจากปอร์โต้กลับมาดริด และล่าสุด เคสตัวอย่างที่ผมจะยกมาให้เห็น มันคือเส้นทางเดียวกันเป๊ะๆกับเรกีลอนชัดเจนนั่นก็คือ "Achraf Hakimi"
ฮาคิมี่นั้นเป็นเด็กปั้นแท้ๆของเรอัลมาดริดในชุดกาสตีญ่า ถูกปล่อยตัวให้ดอร์ทมุนด์ยืมไปเล่น ไปปั้นอยู่2ปี พอเริ่มยึดตำแหน่งและพัฒนาฝีเท้าก็ถูกมาดริดขายออกให้กับอินเตอร์มิลานล่าสุดด้วยราคา 40ล้านยูโร
คุ้นๆไหม?
เส้นทางของเรกีลอนตอนนี้คล้ายกับฮาคิมี่มาก ปล่อยตัวมาให้เซบีญ่าชุบจนโปร จากนั้นก็ขายออกได้แบบ"มีราคา" ซึ่งแมนยูกำลังจะตามรอยอินเตอร์ด้วยการสอยหมอนี่มาในราคา 30ล้านยูโร ก็ใกล้ๆกับฮาคิมี่เลย ถูกกว่านิดหน่อยราว10ล้าน
ปัญหาก็คือ มี"ข่าว"ขึ้นมาว่า มันมี buy-back clause หรือเงื่อนไขการซื้อกลับจากทางมาดริดที่สามารถดึงตัวฮาคิมี่กลับไปได้เกิดขึ้น จึงเป็นประเด็นเรื่องฮาคิมี่กันเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรแม้แต่นิดเดียวที่จะประกาศofficialออกมาว่ามันมีเงื่อนไขซื้อกลับที่ว่านั้นจริง
(สื่อนอกยังบอกเองเลยว่า nothing is offcial)
สุดท้ายแล้วtier1สายอิตาลีอย่าง F.Romano ก็ออกมาตอกย้ำอีกครั้งว่า ข้อสันนิษฐาน(มโน)กันไปเองนั้นมันไม่ถูกต้อง
ไม่มี buy-back clause ที่ว่าอยู่ในเงื่อนไขcontractของ Hakimi คิดกันไปเองทั้งนั้น
จากการที่ตามข่าวของเรกีลอนมาเขียนตลอด ยังไม่มีข่าวที่ไหน"คอนเฟิร์ม"เลยสักที่ว่า "เรกีลอนต้องมีเงื่อนไขซื้อกลับ" ถ้าเอาที่เห็นจริงๆที่มีน้ำหนักหน่อย และมีหลายๆสื่อพูดนั่นก็คือเรื่องส่วนแบ่งซื้อขายครั้งต่อไปที่มาดริดอยากได้
ต่อจากนี้คือข่าวที่ "ว่ากันว่า" มันคือเงื่อนไขสองข้อที่ทางเรอัลมาดริดนั้นต้องการ 2เงื่อนไขใหญ่ๆก็คือ
1. "25 percent sell-on clause."
แปลเป็นภาษาไทยชาวบ้านๆ มันคือ "ส่วนแบ่ง" หรือ เปอร์เซ็นต์จากการขายนั่นเอง ซึ่ง"ข่าว"บอกว่ามาดริดอยากได้ส่วนแบ่ง 25% จากการขายครั้งต่อไป
คิดง่ายๆเช่น ถ้าแมนยูซื้อมาแล้ว อีกสามปีข้างหน้าจะขายเรกีลอนออก เพราะวิลเลียมส์อัพร่างสุดยอดมาแล้ว ถ้าแมนยูขายน้องนักวิ่งตีนจรวด "เรวดีศรีท้าว เรกีลอน" ได้ในราคา 20ล้านปอนด์
หมายความว่า แมนยูจะได้เงินก้อนนั้นแค่15ล้าน ส่วนอีก5ล้าน(25%)เราต้องเอาตังไปให้มาดริดนั่นเอง
ถือเป็นเงื่อนไขแบบ "ตีกิน" ส่วนแบ่ง ปกติแล้วที่เคยเห็นมาเขาไม่จะเอาส่วนแบ่งสูงขนาดนี้ - -'' จะขอแบ่งเงินจากการขายครั้งต่อไปถึง1ใน4ของเงินที่ขายได้ ถือว่าเยอะมาก เยอะน่าเกลียด
ถ้าจริง เงื่อนไขนี้ถือว่าเอาเปรียบสุดๆ แน่นอน เอ็ดไม่ยอมหรอกถ้ามันจริง
2. First refusal clause.
ซึ่งก็คือสิทธิ์ในการซื้อตัวกลับเป็นเจ้าแรก ง่ายๆคือ ถ้าทีมจะขายนักเตะ เราต้องบอกเจ้าของสัญญานี้ก่อน ต้องแจ้งว่าใครติดต่อมาบ้าง ราคาเท่าไหร่ .. ข่าวบอกว่าเงื่อนไขที่สองที่มาดริดต้องการคือสิ่งนี้
และ buy-back clause กับ first refusal clause มันคนละอย่างกัน
คิดเอาว่า ขนาด "เป็นแค่ข่าว" ยังไม่ใช่ buy-back clauseเลย แต่เป็น first refusal clause
ผมจะเขียนอธิบายเรื่องความแตกต่างระหว่าง buy-back clause กับ first refusal clause อีกทีในภายหลัง แต่เอาแค่ง่ายๆสุดคือ เงื่อนไขซื้อกลับ(buy-back)ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเวลามันtriggered "เข้าเงื่อนไข" นั้นมักจะเป็นการ "บังคับ" ซื้อกลับแบบไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนมากไอ้เจ้าbuy-backนี่เขาก็มักไว้ใช้เวลาที่มีตัวอายุน้อยประเภทที่ ไม่มีโอกาสลง จึงจำเป็นต้องปล่อยขายไปก่อน แล้วถ้าผ่านไปสักปีสองปี เกิดมันปั้นขึ้น จะได้ดึงตัวกลับได้
ไอ้นี่ก็สนิทกับพี่มอสเหลือเกิ๊น
(*อนึ่ง buy-backมันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมาซื้อกลับไปได้ทุกเมื่อ มันต้องมีเงื่อนไขทำการด้วยนะ ทุกอย่างอยู่ที่การตกลงในสัญญาล้วนๆว่าจะมีรายละเอียดยังไง)
ส่วน first refusal นั้น มีแค่สิทธิ์ในการจะได้เป็นคนซื้อ หากว่ามีสโมสรอื่นๆเข้ามาแย่งตัวจะซื้อ จะต้องขายให้เขาก่อน แต่ว่าสโมสรที่จะขาย(ซึ่งก็คือแมนยู)ยังคงมีสิทธิ์ตัดสินใจได้อยู่ว่า จะขายหรือไม่ขาย แถมยังต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักเตะด้วย ถ้าเขาไม่ได้อยากจะย้ายกลับมาดริด เราก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ขายคืนมาดริด หรือปฏิเสธได้ เพราะมันเป็นเพียงแค่ผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อตัวทีมแรก "ถ้าแมนยูจะขาย" เท่านั้น
ก็ถ้าแมนยูไม่ได้จะขาย ก็ทำอะไรไม่ได้ไง
ไม่เหมือนกับ buy-back ที่สามารถโดนบังคับให้ต้องขายคืนได้ทันทีที่เข้าเงื่อนไข
ดังนั้นเมื่อย้อนกลับไปตอนต้นอีกครั้ง อยากให้อ่านย้อนซ้ำว่า นี่เป็นเพียงแค่ "ข่าว" ที่พูดกัน ลือกันเฉยๆเท่านั้นว่า มาดริดอยากได้อย่างงู้นอย่างงี้ อยากได้สองเงื่อนไขนี้ อย่างเช่นประเด็นนี้ก็ออกมาจากสื่อสเปนอย่าง ABC Deportes รายงานมา
แต่ "nothing is official" ทั้งสิ้น
ดังนั้นมันไม่มีอะไรคอนเฟิร์มเลยสักอย่างว่ามาดริดจะใส่เงื่อนไขซื้อกลับในสัญญาของเรกีลอนแน่นอนแล้วเหมือนที่ใครหลายๆคนเอาไปพูดกันประหนึ่งว่ามีการใส่เงื่อนไขซื้อกลับชัวร์100%แล้วในดีลเรกีลอน
ขนาดอันที่ว่ามีน้ำหนักเยอะสุด มีข่าวออกมาให้เห็นหลายครั้งซึ่งก็คือ ส่วนแบ่ง25%ของการขายครั้งต่อไปนั้น มันก็ยังเป็นแค่ข่าวอยู่เลย
แถมที่สำคัญ ไอ้ข่าวที่ว่ามาดริดจะใส่เงื่อนไขมานั้น มันเป็น first refusal clause ซะด้วย ไม่ใช่buy-back นั่นแปลว่าพวกเขาแค่มีสิทธิ์ในการจะเจรจาซื้อเป็นทีมแรกๆเท่านั้น ถ้าแมนยูจะขาย
แต่ถ้าเราไม่ได้อยากขาย และต่อสัญญานักเตะได้ แค่นั้นก็จบ
และ..
ต่อให้มี buy-back clause ติดมาในสัญญา ก็ไม่ได้แปลว่าโลกจะแตกขนาดนั้น เพราะทราบหรือไม่ว่าจริงๆแล้ว ในดีเทลยังสามารถระบุเพิ่มเติมได้อีกเช่น สามารถ "remove" ไอ้เจ้า buy-back clause นี้ออกจากสัญญานักเตะได้อีกหากมีเงื่อนไขเท่านี้ๆ หรือจ่ายเงินเพิ่มเป็นจำนวนนี้ๆ เช่น จ่าย5m เพื่อจะถอดเงื่อนไขบังคับซื้อกลับนี้ออก ก็สามารถทำได้อีก
คือดีเทลตรงนี้มันเยอะและละเอียดมากจริงๆ มันไม่ได้จะซื้อกลับกันง่ายๆเหมือนที่แฟนบอลคิด
เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะเขียนบทความยกตัวอย่างให้เห็นแบบละเอียดอีกครั้งว่า buy-back clause มันต่างกับ first refusal clause ยังไง
อีกประเด็นสำคัญที่ทุกคนน่าจะอยากรู้คือ "ทำไมมาดริดถึงได้มาเร่ขายเรกีลอนขนาดนี้" ทั้งๆที่ผลงานกับเซบีญ่าและทีมชาติสเปนก็ดี ถังแตกอะไรขนาดนั้น? แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องที่แฟนผีไม่ควรจะกังวลในการซื้อตัวเรกีลอนยังไง
คำตอบสำคัญก็คือ นักเตะนั้นไม่อยู่ในแผนการทำทีมของผู้จัดการทีม หรือเรียกง่ายๆว่า "ตัวเกิน" นั่นเอง
ดังนั้นการบริหารจัดการที่จะเปลี่ยนนักเตะส่วนเกิน แทนที่จะปล่อยยืมต่อ ก็ขายออกไปเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นเม็ดเงินกลับมาช่วยสโมสรนั้นถือว่าเข้าใจได้ดี
และเหตุสำคัญที่สุดเรื่องนึงก็คือ การมาของ "แฟร์ล็อง เมนดี้" แบ็คซ้ายวัย25ปีของมาดริด ซึ่งพวกเขาซื้อมาจากลียงในราคา 53ล้านยูโรรวมแอดออน
ซึ่งหากใครเคยดูเมนดี้เล่นจะรู้ว่าตัวนี้ก็มีอนาคตไกลเช่นกัน เป็นแบ็คที่แข็งแกร่งมากๆตัวนึงและอายุก็กำลังดี และมันทับกันกับเรกีลอนที่วัย23ปีมาก แทบจะไม่แตกต่างกันเลยระหว่าง 25กับ23 ดังนั้นมาดริดไม่มีวี่แววว่าจะได้ใช้เรกีลอนแน่ๆหากเขายังคงมีตัวหลักในสายตาซีดานอยู่ครบแล้วถึงสองคนอย่าง Marcelo และ Ferland Mendyที่ลงไปทั้งหมด32นัดทั้งซีซั่นให้ราชันชุดขาว และน่าจะอยู่ไปอีกยาวๆ
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมมาดริดถึงไม่ได้จะต้องยึดโยงกับตัวเรกีลอนขนาดนั้น การมีแบ็คซ้ายดีๆประจำการอยู่แล้วสองตัว จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมมาดริดจึงอยากขายเรกีลอนออกเพื่อหาเงินนั่นเอง
ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับผู้อ่านก็คือ อย่าเพิ่งคิดกันไปเองว่า มาดริดจะใส่เงื่อนไขซื้อกลับ(buy-back)เอาไว้ในดีลเรกีลอน ทำให้เราไม่ควรจะซื้อเขามา .. มันไม่ใช่เลย เพราะไม่มีอะไรยืนยันทั้งนั้นว่ามาดริดจะใส่เงื่อนไขนี้มา มีแต่ข่าว มีแต่สิ่งที่แฟนบอลเราคิดกันไปเองทั้งนั้นว่ามันต้องมี
เพราะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงคิดมาก เพราะตัวอย่างของโมราต้า คาเซมิโร่ และดีลต่างๆของมาดริดที่มักจะมีพฤติกรรมหัวหมอแบบนี้ (หรือในทางที่ดีคือ เขี้ยวลากดิน) เวลาที่จะทำสัญญาขายนักเตะออกจากทีม
แต่เราก็เห็นกันแล้วว่า มันไม่มีข่าวลือนี้ในดีลของฮาคิมี่ รายนั้นขายขาดโคตรคลีน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมไม่อยากให้แฟนบอลเราพูดกันแต่เรื่องที่ยังไม่มีมูล ไม่มีน้ำหนักจริงเช่นนี้ เพราะถ้าให้พูดกันตรงๆ เอาแบบยังไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น
ทีมเราจะซื้อรึเปล่ายังไม่รู้เลย - -''
เพราะตอนนี้ที่มีข่าวตามนำเสนอก็เท่าที่พวกคุณเห็น ผมก็เห็นพร้อมๆกับทุกคนนั่นแหละคือ มาดริดเสนอขายให้เรา ส่วนเรายังไม่ได้bidไปก็แค่นั้น แต่ว่าสนใจจริง และทีมก็ต้องการเสริมแบ็คซ้ายจริงด้วย เพราะว่าดีลCBของน้องอเมริกาโน่ไม่หวานคนนั้น มันก็เงียบไปแล้ว และตะกี๊ก็มีข่าวว่า โรโฮซ้อมหนักเป็นสองเท่า มีโอกาสอีกรายที่อาจจะชนะใจโอเล่แล้วอยู่เป็นแบ็คอัพต่อ พอๆกับเคสสมอลลิ่งที่ก็ยังลูกผีลูกคน
เพราะหากแมนยูซื้อCBมาไม่ได้ สองคนนี้คือออฟชั่นแบ็คอัพแมกไกวร์ที่ดี ประหยัดตังอีกด้วย ดังนั้นเงินก็อาจจะย้ายจากCBมาลงที่LBแทน
ผมนำเสนอความน่าสนใจในตัวเรกีลอน แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่า ณ ตอนนี้ดีลมันยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะว่าเรายังไม่ได้เดินเข้าไปยื่นข้อเสนอเลยว่าจะซื้อ ดังนั้นจึงได้แต่ลุ้นกันต่อไปว่าขอให้ทีมอยากได้จริง และเงินเหลือพอจะซื้อ หากเจียดเอาไว้จากดีลอภิมหาบิ๊กบึ้มคนนั้น
ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ลุ้นขอแค่ให้แมนยูขยับก็พอยังยากเลย
สรุปสุดท้ายแล้ว อยากให้ทุกคนเลิกกังวลเรื่องนี้ และขอให้คิดเอาไว้เสมอ อย่าลืมว่าธรรมชาติในการซื้อขายของบอร์ดเรานั้นก็เห็นๆกันอยู่อย่างชัดเจนว่า ทีมเราไม่ยอมดีลที่เสียเปรียบแน่ๆ
ทุกคนต้องรู้สิว่าเอ็ดมันงกและเขี้ยวขนาดไหน
เอาง่ายๆนะครับอย่าว่าแต่ buy-back clause เลยนะ แค่ไอ้ 25% sell-on clause คนอย่างเอ็ดแม่งก็ไม่มีทางยอมแล้วผมมั่นใจ
จงคิดเอาไว้ว่า บอร์ดเราไม่มีทางหน้ามืดซื้อมาในแบบที่โง่ยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว มันจะต้องมีรายละเอียดอะไรที่สามารถตกลงกันได้และไม่โดนเอาเปรียบอยู่ข้างเดียว ต่อให้กรณีที่แย่ที่สุดที่มี buy-back clause จริงๆนะ
ธรรมชาติของclauseนี้ก็คือ ราคาค่าธรรมเนียมที่เขาsetกัน ส่วนใหญ่จะ "แพงกว่า" เงินที่เราไปซื้อมาอยู่แล้ว
นั่นก็คือ ต่อให้มึงบังคับซื้อกลับได้ มึงก็ต้องจ่ายเงินที่สูงกว่าตอนที่เราซื้อมาอยู่ดี เช่นวันนี้เราซื้อมา 30ล้านยูโร ในbuy-backที่จะซื้อกลับ ก็อาจจะระบุละเอียดไว้ว่า คุณจำเป็นต้องจ่ายเงิน 60ล้านยูโรเท่านั้น เป็นต้นถ้าจะtriggeredเงื่อนไขนี้ให้activatedได้
พูดง่ายๆว่าต่อให้แมนยูโดนบังคับซื้อกลับมาดริด เราก็ได้กำไรจากการขายอยู่ดี นี่คือ worst case แล้วด้วยซ้ำสำหรับbuy-back clause เพราะเขาก็ไม่ได้เอากลับไปฟรีๆสักหน่อย
ขอย้ำอีกครั้งให้ชัดเจนว่า เหตุผลสำคัญสุดเลยที่เราไม่ควรจะกังวลกับเรื่องนี้จนเกินเหตุก็คือ
"อย่าคิดกันไปเองว่ามันจะมีเงื่อนไขนี้ เพราะมันยังไม่มีจริง"
และ
"บอร์ดเราไม่ยอมเจรจาซื้อขายแบบเสียเปรียบสุดโต่งเช่นนั้นแน่ๆ"
ดูข่าวอ่านข่าว ต้องวิเคราะห์ อย่าเชื่อซะทุกอย่าง และอย่าสร้างขึ้นมาเกินกว่าเนื้อข่าวที่ปรากฏ เสพด้วยสติ มันจึงจะดีที่สุด
เพราะฉะนั้นแล้ว เลิกกังวลเรื่องเงื่อนไขซื้อกลับกันได้แล้วครับ มีแต่ข่าวลือล้วนๆ ต่อให้จริงก็ไม่ได้โลกแตกกันขนาดนั้น เพราะมันก็ยังอาจจะเป็น first refusal clauseด้วย ไม่ใช่buy-back หรืออาจจะมีแค่ sell-on clause ส่วนแบ่งจากการขายครั้งต่อไปแค่นั้น ซึ่งก็อาจจะตกลงกันลงมาได้เหลือสัก 10-15% อะไรแบบนี้ก็หรูแล้ว ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันขึ้นอยู่กับดีเทลในสัญญาว่าเราจะตกลงกับเขายังไงถึงจะโอเคทั้งสองฝ่าย จากนั้นค่อยจ่ายเงินซื้อตัวมาโดยมีสัญญากำกับ แค่นั้นเอง
ไม่ต้องคิดมาก และบอกแฟนผีต่อๆกันไปว่า "เลิกเอาไปพูดกันเองได้แล้วว่า ซื้อเรกีลอนมาจะโดนเงื่อนไขบังคับซื้อกลับ"
มันยังไม่มีอะไรจริงสักอย่าง
-ศาลาผี-
