การเซ็นสัญญากับยอดแข้งแห่งยุคในตำแหน่งของเขามาจาก บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ยุโรปได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับแฟนบอลทุกทีมในโลกโซเชียล

    หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ครั้งแรกในฤดูกาล 2019-20 เรื่องยากกว่าการคว้าแชมป์ก็คือการรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้

    เมื่อ เด็กหงส์ ทุกมุมโลกได้เห็นการเสริมทัพของเหล่าผู้ท้าชิงต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 'ยากแล้ว' สำหรับปีนี้ ซึ่งความคิดนั้นก็เปลี่ยนไปในทันทีที่ ติอาโก้ ถูกเซ็นสัญญาเข้ามา ก่อนที่ ดีโอโก้ โชต้า จะตามมาอีกคน

    นี่คือรายละเอียดทั้งหมดที่บ่งบอกว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงต้องคว้าตัว ติอาโก้ มาร่วมทีม

ค่าตัวจิ๊บจ๊อย...

    ใช่แล้ว ลิเวอร์พูล จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้ บาเยิร์น เพียงแค่ 20 ล้านปอนด์ กับอีก 5 ล้านปอนด์ที่เป็นโบนัส

    ค่าตัวนั้นถือว่าน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไปเพื่อ เฟร็ด (53 ล้านปอนด์) และน้อยกว่าที่ เชลซี ซื้อ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ (34 ล้านปอนด์) มาถึง 9 ล้านปอนด์

    ราคานี้ถูกอย่างกะได้ฟรี!

เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ

    ระหว่าง 7 ปีของเขาในบาวาเรีย ติอาโก้ คว้าแชมป์ไปถึง 16 ครั้ง ซึ่งค่าเฉลี่ยของเขาคิดได้ 2.28 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว ไม่เลวเลยใช่ไหม

    มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกได้ 2 ครั้ง โดยได้กับ เสือใต้ ในปี 2019-20 และก่อนหน้านั้นก็กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2010-11

    เรียกได้ว่า ติอาโก้ กับถ้วยรางวัลนั้นเกิดมาคู่กัน

ถูกยกเป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกเวลานี้

    มันง่ายมาก ลองคิดตามเลยว่าไม่มีสโมสร หรือทีมชาติใดในโลกที่ ติอาโก้ ไม่สามารถเดินเข้าไปเล่นด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้, เรอัล มาดริด หรือทุกสโมสรในยุโรป

    นั่นคือความสุดยอดของเขา และการได้กองกลางทีมชาติสเปนมาร่วมทีม มันหมายความว่า หงส์แดง มีขุมกำลังยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหลายตำแหน่ง

    อาลีสซง เบ็คเกอร์ ตรงหน้าปากประตู, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เซนเตอร์แบ็ก, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับแบ็กขวา และตอนนี้ ติอาโก้ ก็อยู่ในแดนกลางแล้วใช่ไหมล่ะ?

    คุณน่าจะไม่โง่เลยถ้าจะลองวางเดิมพันว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสครองแชมป์อีกครั้งในปี 2020-21

เล่นได้ทุกพื้นที่ในแผงมิดฟิลด์

    "ติอาโก้ สามารถเล่นได้หมดในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกองกลาง 3 คน, 4 คน หรือ 5 คน" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยพูดไว้ในช่วงที่เขายังคุม บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเว็บไซต์ทางการของบุนเดสลีกา

    นักเตะที่มีความสามารถหลากหลายถือเป็นของมีค่าอย่างมากในทุกวันนี้ และความสามารถของ ติอาโก้ ในแดนกลางคือบุคลากรคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล

    นอกจากนี้ เขายังเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวต่ำที่สุด หรือโฮลดิ้งมิดฟิลด์แบบไม่เคอะเขิน แม้ว่าตัวเขาเองจะมีทักษะสกิลมากกว่านั้นก็ตาม

ช่วยทีมแก้ปัญหาเรื่องการสร้างสรรค์เกมได้

    กลุ่มมิดฟิลด์ของ หงส์แดง ในปี 2019-20 มีศักยภาพมากมายหลายอย่าง แต่ดูเหมือนจะขาดไหวพริบไปในบางครั้ง โดยเฉพาะกับการเผชิญหน้าทีมที่ด้อยกว่า และแพ็คเกมแน่นในแดนตัวเองทั้ง 10 คน

    จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จีนี่ ไวนัลดุม เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาไม่น่าจะพังการตั้งรับหลายชั้นด้วยการเลี้ยงบอลทะลุทะลวง หรือจ่ายบอลได้เหมือน ลีโอเนล เมสซี่

    แต่นั่นคือสิ่งที่ ติอาโก้ สามารถยกระดับได้ เขามีทักษะที่จะสร้างสรรค์เกมจากแนวลึกได้อย่างไม่มีใครเทียบได้ และถ้าคุณยังไม่เชื่อก็ลองคลิปข้างล่างนี้

https://twitter.com/HunterGodson/status/1274998148226846720

เป็นสุดยอดนักเตะในเกมใหญ่

    แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกเหรอ? จะบอกแบบนั้นก็คงไม่ผิด

    สิ่งที่ทำให้นักเตะระดับโลกแตกต่างจากคนอื่นๆ ก็คือความโดดเด่นในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดในเกมฟุตบอล และนั่นคือสิ่งที่ ติอาโก้ ทำได้

    เชลซี, บาร์เซโลน่า, ลียง และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ไม่สามารถหยุดเขาได้เลยในรอบน็อคเอาต์ของรายการแชมเปี้ยนส์ลีก และตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็ได้สมาชิกใหม่ที่เป็น 'บิ๊กเกมเพลเยอร์' แล้ว

พูดอังกฤษได้อย่างคล่องปาก

    มันอาจดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเท่าไหร่ แต่ความเชี่ยวชาญด้านภาษาของ ติอาโก้ หมายถึงเขาสามารถปรับตัวกับชีวิตในพรีเมียร์ลีกได้แบบทันที

    แน่นอนว่ามีนักเตะบางคนที่สามารถเติบโตในอังกฤษได้โดยแทบไม่ต้องเข้าใจเรื่องของภาษาเลย แต่การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในสนาม และกับสื่อของเมืองนั้นๆ ถือว่าช่วยได้มาก

    ภาษาอังกฤษของ ติอาโก้ ดีขนาดไหน เขาแทบจะเชี่ยวชาญสำเนียง สเก๊าเซอรื เลยด้วยซ้ำ

ฟอร์มนัดประเดิมสุดแจ่ม

    ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันไปนั่นแหละ...