:::     :::

หลุยส์ ซัวเรซ คิลเลอร์ที่ แอตเลติโก ตามหา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ว่ากันตรงๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับความคิดของ โรนัลด์ คูมัน เสียทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการโละ หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีม เพราะสุดท้ายเอล ปิสโตเลโร่ ไม่ได้ไปไหนไกลอย่างที่ตั้งใจ เมื่อการสอบเอาสัญชาติอิตาเลี่ยนที่เปรูจามีปัญหา ทั้ง ยูเวนตุส ยังเองก็ไม่อยากรอ ก่อนหันไปดึง อัลบาโร่ โมราต้า คืนถิ่น ทำให้ชีวิตของ ซัวเรซ หักเหอย่างไม่มีใครคาดคิด

ฟุตบอลยุคนี้มันพลิกเร็วไม่แพ้เราไถหน้าจอเลยนะครับ เพราะทันทีที่มีที่ว่างในตำแหน่งกองหน้า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ไม่รอช้า เดินหน้าเจราจากับ ซัวเรซ ทันที 

ถามว่านี่เป็นแผนที่เตรียมไว้แต่แรกหรือเปล่า ? 

ก็ตอบได้ว่าไม่ถึงขนาดนั้น แต่รับประกันได้ว่าความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ‘หมายเลข 9’ ของ เอล โชโล่ มันไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อรู้ว่า ซัวเรซ โดนเตะโด่งจาก คัมป์ นู 

ตามข่าวว่ากุนซืออาร์เจนไตร์อยากจะได้กองหน้าตัวจบสกอร์เข้ามาเสริมนานแล้ว เขาบอกให้บอร์ดตัดสินใจยืม โมราต้า มาจาก เชลซี ก่อนซื้อขาด แต่ขณะเดียวกันช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเขาก็ยังมองหาดาวยิงเข้ามาเพิ่มกำลังการผลิตสกอร์

แอตเลติโก เคยเกือบคว้าตัว โรดรีโก้ โมเรโน่ มาแล้ว โดยยื่นข้อเสนอให้ บาเลนเซีย พิจราณา ซึ่งตอนนั้นใครก็มองว่า โชโล่ จะเอามาทำไม เพราะมีทั้ง โมราต้า,ดีเอโก้ กอสต้า,ชูเอา เฟลิกซ์ รวมถึง อังเคล กอเรอา อยู่ในทีม แต่เขาก็ยืนยันว่ามันไม่เพียงพอหรอก

พอหรือไม่พอ ก็พิสูจน์ได้จากผลงานของ ‘ตราหมี’ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

แม้ทีมจะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ของตารางตามหลัง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งอาจพูดได้ว่าเป็นไปตามเป้าหมายขั้นต่ำที่วางไว้ แต่หากลงลึกไปในรายละเอียดจะเห็นได้ว่าพวกเขาควรทำได้ดีกว่านี้ ทั้งเรื่องของการเก็บแต้มและการยิงประตูคู่แข่ง



ใน ลา ลีกา แอตเลติโก เก็บชัยชนะได้แค่ 18 เกมจาก 38 นัด สถิติต่ำกว่า 50% 

มองที่ เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ กับ บาร์เซโลน่า อันดับ 2 ซึ่งเอาชนะคู่แข่งได้ 26 และ 25 เกม จะเห็นถึงช่องว่างพอสมควร และยิ่งน่ากังวลกว่าเดิมเมื่อมองลงล่างแล้วเห็นอันดับ 4 อย่าง เซบีย่า ชนะคู่แข่งได้มากกว่าพวกเขา 1 เกม ขณะที่อันดับ 5 อย่าง บียาร์เรอัล ชนะได้ 18 เกมเท่ากัน 

ถ้าสถิตินี้ยังเห็นไม่ชัดพอ ก็ต้องไปไล่ดูจำนวนประตูที่ ‘ตราหมี’ ยิงได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา  

จาก 38 เกมรุกของพวกเขาทำได้ 51 ประตู น้อยกว่า เรอัล มาดริด ที่ 70 ประตู, น้อยกว่า บาร์เซโลน่า ที่ยิง 86 ประตู, น้อยกว่าอันดับ 4 เซบีย่าที่ยิง 54 ประตู,น้อยกว่าอันดับ 5 บียาร์เรอัล ที่ยิง 63 ประตู,น้อยกว่าอันดับ 6 เรอัล โซเซียดาด ที่ยิง 56 ประตู และน้อยกว่าอันดับ 7 กรานาด้า ที่ยิง 52 ประตู 

ทีมอย่าง แอต.มาดริด ยิงประตูน้อยกว่า กรานาด้า !!?? 

ด้วยความเคารพต่อแฟนกรานาด้า แต่ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ? 

นั่นแหละครับคือสิ่งที่ โชโล่ เป็นกังวล แม้ใครๆจะมองว่า แอตเลติโก เป็นทีมที่รับเหนียวแน่น เพียงแค่ประตูเดียวก็เพียงพอที่จะเอาชนะคู่แข่งได้แล้ว แต่บนพื้นฐานความเป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยกล่าวไว้ว่า "เกมรุกจะช่วยให้คุณชนะ แต่เกมรับจะช่วยให้คุณเป็นแชมป์" แอตเลติโก มีเกมรับที่ดีอยู่แล้ว ตลอดทั้ง 38 นัด พวกเขาเสียให้คู่แข่งแค่ 27 ประตูเท่านั้น สถิตินี้เป็นรองแค่ เรอัล มาดริด ทีมเดียว (เสีย 25 ลูก) แต่การที่ โชโล่ และเด็กๆยังไปไม่ถึงแชมป์ หรือ ไม่ได้คั่วแชมป์อย่างที่ควรจะเป็น ก็เพราะว่าเกมรุกยังไม่ดีพอ 

จำนวนประตูที่มากกว่า อาจเปลี่ยนเกมที่เสมอเป็นชัยชนะ เปลี่ยนจาก 1 แต้มเป็น 3 แต้ม หรือเปลี่ยนจากไม่มีแต้มเป็นมีแต้ม จุดนี้แหละที่ทำให้ โชโล่ มองหากองหน้าประเภทจอมถล่มประตูเข้ามาเสริม


กับ อัลบาโร่ โมราต้า แม้จะเล่นได้ดี มีส่วนร่วมต่อเกม เก็บบอลได้ พักบอลได้ แต่ยิ่งเล่น ก็ยิ่งเห็นว่าเขาไม่ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ 

ตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาหัวหอกทีมชาติสเปนยิงได้ทั้งหมด 16 ประตู แบ่งเป็นยิงใน ลา ลีกา แค่ 12 ประตูจาก 34 เกมที่ลงสนาม 

รวมทั้งหมด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชลซี เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 โมราต้า ลงสนาม 61 เกม ยิง 22 ประตูในทุกรายการ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.36 ลูกต่อเกม  

ไม่ต้องถอยหลังไปไกล เอาแค่สถิติฤดูกาลที่ผ่านมาของ ซัวเรซ ขึ้นมาเทียบเคียงก็ยังยิงได้มากถึง 21 ประตู เป็นรองแค่ประตูเดียวเท่านั้น แถมยังเป็นฤดูกาลที่ ซัวเรซ ผ่าตัดหัวเข่าพักยาว 4 เดือนอีกด้วย  


1 ฤดูกาลครึ่งของ โมราต้า ยิง 22 ประตู , 1 ฤดูกาลของ ซัวเรซ ซึ่งพักยาว 4 เดือน ยิง 21 ประตู เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน 


หรือนับรวมสถิติยิงประตูตลอดทั้งชีวิตค้าแข้งในระดับอาชีพของ โมราต้า ก็ยังได้แค่ 116 ประตู เทียบเฉพาะกับที่ ซัวเรซ เล่นให้ บาร์เซโลน่า สโมสรเดียวก็ยังห่างกัน (198 ประตู) 

เรื่องการเพิ่มจำนวนประตู เป็นสิ่งที่ โชโล่ ขบคิดมาสักพักใหญ่แล้ว และช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา เขาก็เหมือนว่าจะตัดสินใจได้เด็ดขาด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ ควอเตอร์ไฟนั่ลกับ ไลป์ซิก เขาเลือกที่จะดร็อป โมราต้า ไว้ข้างสนามซึ่งนับว่าเซอร์ไพรส์อย่างมาก  

จนกระทั่งการมาของ คูมัน ที่ตัดสินใจเตะโด่ง ซัวเรซ ออกมา จึงทำให้ โชโล่ ได้โอกาสทองในการควานหายอดกองหน้าตัวเป้าระดับโลกเข้าสู่ทีม 

แม้อายุอานามของ ซัวเรซ จะ 33 เข้าไปแล้ว แต่ก็เห็นกันอยู่ว่าเขายังมีเขี้ยวเล็บ ทั้งสภาพร่างกายก็ยังดูดี แถมสไตล์การเล่นยังบู๊ดุดัน สู้ไม่ถอยอย่างที่ โชโล่ ต้องการอีกด้วย 

คงพูดได้ว่าทั้งสไตล์ ทั้งสถิติ ซัวเรซ คือกองหน้าในฝันที่ โชโล่ ตามหา ซึ่งการมาของหัวหอกอุรุกวัยสู่รัง ว่านต๋า ในครั้งนี้แม้จะไม่มีใครคาดฝัน แต่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน 

ให้เลือกอีกครั้ง ก็ยังเชื่อว่า โชโล่ จะเลือก ซัวเรซ แบบที่เราเห็นนี่แหละ 

เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด