:::     :::

'อาร์เตต้า-เอดู' กับการมาของ 'ปาร์เตย์'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล มาเนิ่นนานหลายเดือน ในที่สุด โธมัส ปาร์เตย์ ก็ได้ย้ายมาเล่นในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จนได้หลังถูกฉีกสัญญาให้เป็นอิสระจาก แอตเลติโก มาดริด

กองกลางป้ายแดงของ อาร์เซน่อล เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในบ้านเกิดกานาด้วยการเข้าร่วมทีมเยาวชน โอโดเมทาห์ เอฟซี (Odometah FC) ก่อนย้ายมาร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด ในปี 2011

ปาร์เตย์ ใช้เวลาเรียนรู้ประสบการณ์ลูกหนังและชีวิตใหม่ในเมืองหลวงของสเปนเหมือนเช่นนักฟุตบอลดาวรุ่งทั่วไป เขาเริ่มต้นในทีมชุดสำรององสโมสรก่อนถูกส่งต่อให้ เรอัล มายอร์ก้า ในลีกเซกุนด้า ยืมใช้งาน ในฤดูกาล 2013/14 ต่อด้วย อัลเมเรีย ในฤดูกาลถัดมา (เป็นเพื่อนร่วมทีมของ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา)

จากนั้น ปาร์เตย์ พัฒนาฝีเท้าและความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนี่งในกองกลางชั้นยอดของยุโรป เขาลงสนามให้ แอต.มาดริด ทั้งหมด 188 นัดจากทุกรายการ ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำ แต่สุดท้ายเป็น อาร์เซน่อล ที่คว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ

กว่าจะมาถึงวันนี้ของ ปาร์เตย์ ได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย คนรอบข้างที่บอกเล่าเส้นทางของเจ้าตัวได้ดีที่สุดคงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก "จาค็อบ ปาร์เตย์" คุณพ่อแท้ๆ ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูกชายคนนี้ 

"มันไม่ง่ายเลยสำหรับ ปาร์เตย์ ในการย้ายออกจากกานามาสเปน ผมต้องขายที่ดินและทรัพย์สินเพื่อช่วยลูกชายของผม" หัวหน้าครอบครัวเปิดใจ 


ปาร์เตย์ และคุณพ่อ

คุณพ่อจาค็อบ ชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เขาจึงสนับสนุนลูกชายแทบทุกเรื่องในเส้นทางลูกหนัง พยายามวิ่งหาสปอนเซอร์เพื่อให้มีทุนในการใช้จ่ายสำหรับการเดินทางต่างๆ ของมีค่าหลายยอย่างในชีวิตถูกขายออกไปเพื่อให้ลูกชายได้เดินตามความฝัน

"ความจริงที่ว่าลูกชายของผมย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล มันดีที่สุดแล้ว ในบางช่วงของนักเตะมีการย้ายไปสโมสรอื่น และ ณ จุดนี้ ลูกชายของผมจะลงเล่นด้วยหัวใจเพื่อนำสโมสรประสบความสำเร็จ"

"ผมได้ยินการถกเถียงกันว่าการเล่นในพรีเมียร์ลีกดุดันกว่าลีกสเปน แต่ผมเชื่อว่า ปาร์เตย์ มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการแข่งขันในอังกฤษ เขามีความแข็งแกร่งในการเล่นพรีเมียร์ลีกและจะทำได้เป็นอย่างดี" 

ปาร์เตย์ ได้แชมป์ยูโรปา ลีก กับ แอต.มาดริด ในปี 2018 รวมถึงแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ในปีเดียว ส่วน 2 ปีก่อนหน้านั้น เขาพลาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน่าเสียดายหลังพ่ายดวลจุดโทษต่อ เรอัล มาดริด ทีมคู่ปรับร่วมเมือง

ในการเล่นที่ลา ลีกา ปาร์เตย์ ไม่ต้องพิสูจน์ผลงานใดๆ แล้ว เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดกองกลางอีกคนในลีกแดนกระทิงดุ เป็นกำลังสำคัญในทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ อยู่หลายปี ซึ่งว่ากันว่าการผ่านงานภายใต้สังกัด "ตราหมี" และ ซิเมโอเน่ มาได้เหมือนมีใบรับประกันทั้งเรื่องคุณภาพของฝีเท้าและหัวจิตหัวใจของนักสู้ 

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือวัย 38 ปีที่เพียรพยายามอย่างหนักในการไลล่าตัว ปาร์เตย์ กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่ว่า "พวกเราพิจารณาเขามาหลายเดือน และติดตามดูพัฒนาการของเขาโดยตลอด และเมื่อคุณได้รู้จักนักเตะมากขึ้น คุณจะยิ่งรู้ว่าจะพัฒนาส่วนใดได้บ้าง" 


"พวกเราพิจารณาเขามาหลายเดือน และติดตามดูพัฒนาการของเขาโดยตลอด และเมื่อคุณได้รู้จักนักเตะมากขึ้น คุณจะยิ่งรู้ว่าจะพัฒนาส่วนใดได้บ้าง" 

"พวกเราเชื่อว่าเขามีคุณภาพที่เหมาะสมทั้งเรื่องของคาแรกเตอร์และบุคลิก รวมถึงคุณภาพทางด้านเทคนิคและทางเลือกในตำแหน่งการเล่นที่เขาสามารถเพิ่มให้ทีมได้"

มีการคาดกันว่าการมาของ ปาร์เตย์ จะทำให้ อาร์เตต้า สามารถเล่นระบบ 4-3-3 ที่เขาเรียนรู้ระหว่างรับบทมือขวาให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งในช่วงนี้กับ อาร์เซน่อล เขายังไม่สามารถเล่นระบบนี้ได้ด้วยเพราะคุณภาพของผู้เล่นยังไม่ดีพอ อีกทั้งมีปัญหาเกมรับที่เสียประตูง่ายจึงยึดระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กไปก่อน  

"ผมคิดว่าเขาจะทำให้เราเล่นได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นและเขาก็ปรับเข้ากับทุกรูปแบบในตำแหน่งการเล่นที่ต่างกันไปซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับกลุ่มผู้เล่นที่ผมคิดว่ายังขาดไปบ้างในแดนกลางของเรา" 

"ผมคิดไว้หลายอย่างและอยากจะเริ่มฝึกซ้อมทีมพร้อมกับเขา มันจะต้องใช้เวลาสำหรับพวกเราบ้างในการปรับตัวและปรับสมดุลในเกมรับและการเปลี่ยนจังหวะเกมรุก รวมไปถึงการเซ็ตโครงสร้างให้มีเกมรุกที่ดีกว่าเดิมในบางจังหวะของเกม"

"ผมคิดบางอย่างว่าผมอยากเริ่มฝึกซ้อมทีมพร้อมกับเขา การเซ็นสัญญากับเขาช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นในการเล่นมากขึ้น มีสมดุลในเกมรับและเปลี่ยนจังหวะเกมรุก รวมไปถึงการเซตเกมรุกที่ดีกว่าเดิมในบางจังหวะของเกม"

ด้วยคุณภาพในเกมรับและเกมรุก ปาร์เตย์ สามารถเล่นได้ทั้งระบบกองกลาง 2 คน หรือ 3 คน อาร์เตต้า มีภาพในหัวอยู่แล้วทั้งการจับคู่กับ กรานิต ชาคา หรือ ดานี่ เซบายอส คนใดคนนึง รวมถึงการเล่นร่วมกันทั้ง ปาร์เตย์, ชาคา และ เซบายอส โดยมี โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ เป็นอีกทางเลือก

ขณะที่ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนนิคที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการปิดดีลคว้า ปาร์เตย์ มาเสริมแดนกลางให้ อาร์เซน่อล ได้ก็เปิดเผยถึงเบื้องหลังว่าเป็นผู้เล่นที่อยู่ในแผนการสร้างทีมมานานหลายเดือนแล้ว แม้ว่าท้ายที่สุดจะได้ตัวร่วมทีมเอาในวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ก็ตาม

"ผมเดาได้เลยว่าคนที่กลายเป็นข่าวใหญ่พาดหัวในวันปิดตลาดคือ โธมัส ปาร์เตย์ แฟนบอล อาร์เซน่อล ต่างตื่นเต้นกันมากๆ ในการย้ายทีมนี้ เราทำสำเร็จในท้ายที่สุด"

"ในวันหนึ่งข้างหน้า ผมอยากจะให้แฟนบอลได้เห็นว่าเราทำงานกันอย่างไร เพราะหากคุณเห็นแผนงานของผมที่ทำร่วมกับ มิเกล ตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมาแล้วล่ะก็ โธมัส (ปาร์เตย์) อยู่ในแผนงานนั้นอยู่แล้ว"

"ดังนั้น คุณจะเห็นได้ว่าเราใช้เวลากันหลายเดือนในความพยายามหานักเตะที่เหมาะสมกับสโมสร"


"มีหลายสิ่งต้องทำ มีการประชุมกันหลายครั้ง เราจำเป็นต้องดูว่าจะซื้อนักเตะอย่างไร ต้องดูว่าสถานการณ์การเงินของเราซื้อนักเตะได้หรือไม่ ดูขั้นตอนทางกฎหมาย ขั้นตอนด้านการเงิน พูดคุยกับนักเตะ พูดคุยกับเอเยนต์ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการซื้อขาย แต่สุดท้ายเราก็ทำสำเร็จ!" 

นอกจากนี้ เอดู ยังเผยถึงช่วงเวลาที่มั่นใจสามารถดึง ปาร์เตย์ มาร่วมทีมได้แน่ว่า "ก็ตอนที่ผมได้รับไฟเขียวจากบอร์ดบริหารและเจ้าของทีม ว่ากันตามตรงนะ มันเป็นการลงทุนมหาศาลเลยในสถานการณ์ที่เราเจอตอนนี้ และแน่นอนว่าเราต้องการไฟเขียวจากพวกเขา" 

"ตอนผมเสนอแผนให้ดู พวกเขาตื่นเต้นทีเดียว พวกเขาเข้าใจแผนของเราและให้ไฟเขียว ผมเลยรู้สึกมั่นใจมาก ๆ เพราะมันไม่ง่ายเลยในการลงทุนเงินจำนวนก้อนโตในช่วงเวลาแบบนี้"

โธมัส ปาร์เตย์ กลายเป็นแข้งใหม่รายสุดท้ายของ อาร์เซน่อล ในตลาดซัมเมอร์ และเป็นรายที่ 5 ของทีมต่อจาก วิลเลี่ยน ปีกจอมเก๋าบราซิเลียน, กาเบรียล มากัลเญส เซนเตอร์จากแดนแซมบ้าเช่นกัน, อเล็กซ์ รูนาร์สสัน ผู้รักษาประตูชาวไอซ์แลนด์ 

นอกจากนี้ก็สามารถยืมตัว ดานี่ เซบายอส กองกลางทีมชาติสเปนมาใช้งานได้อีกฤดูกาล รวมถึงเซ็นสัญญาถาวรกับ ปาโบล มารี เซนเตอร์ชาวสเปน และ เซดริก โซอาเรส แบ็กขวาทีมชาติโปรตุเกส

เอดู กล่าวสรุปตลาดนักเตะครั้งนี้ว่า "ผมพอใจกับแนวทางที่เราทำนะเพราะเราเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากมากๆ ด้วยการมีโควิดและในตลาดนักเตะ ทุกคนล้วนกังวลกับอนาคต การวางแผน รายได้ จะไม่เงินใช้หรือไม่ มันค่อนข้างท้าทายทีเดียว แต่การทำงานของเรามหัศจรรย์เลย"

"มันไม่ได้มีเพียง เอดู ไม่ได้มีเพียง มิเกล อาร์เตต้า เรามีกลุ่มคนมากมายเคียงข้างในสโมสรนี้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกล่าวถึงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเงิน ฝ่ายกฎหมาย ทีมแพทย์ ฝ่ายสรรหา ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ และแน่นอนเราต้องไม่ลืมการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารและเจ้าของทีมซึ่งผมได้รับอย่างเต็มที่ หากไม่มีพวกเขา เราคงทำอะไรไม่ได้มากนักและผมรู้สึกผ่อนคลายในวิธีการทำงานและการสื่อสารของเรา เราพูดคุยกันเกือบทุกวันในตอนนี้ มันยอดเยี่ยมมาก"


เอดู สุดปลื้มปิดดีล ปาร์เตย์ ได้สำเร็จ

  "ผมบอกพวกเขาไปว่าด้วยความเป็นไปได้ในการมีความสัมพันธ์การทำงานแบบนั้น ผมรู้สึกถึงความเข้มแข็งมากขึ้น นั่นคือแนวทางที่พวกเขามีต่อผลรวมถึง มิเกล ด้วย นั่นแหละคือวิธีการทำงานของเราในตอนนี้"

"ผมคิดว่าเราได้ปรับปรุงทั้งคุณภาพและกายภาพของกลุ่มผู้เล่น ในรายของ โธมัส ก็อยู่ในแผนงานอนาคตของเรา ตอนที่ผมและ มิเกล นั่งถกกัน ผมคิดว่าได้นักเตะทั้งหมดที่เราพิจารณาอย่างจริงจัง คุณดูอย่าง วิลเลี่ยน เขาเข้ามาเพิ่มในเรื่องประสบการณ์ให้กับเรา และก็มีร่างกายที่พิเศษมากๆ ในเรื่องสปีดการเล่น ขณะที่ กาเบรียล ก็เพิ่มเติมในด้านร่างกายและการเข้าปะทะได้อย่างมาก ดานี่ ก็มีคุณภาพ ส่วน โธมัส ได้ทั้งเรื่องร่างกาย คุณภาพการเล่น และสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมากๆ"

หากไม่นับขาออกที่ไม่สามารถปล่อยส่วนเกินบางรายออกไปได้ ซัมเมอร์นี้ของ อาร์เซน่อล ถือว่าเสริมทัพได้น่าพอใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะในรายของ โธมัส ปาร์เตย์ ที่อาจกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในแดนกลางที่ อาร์เซน่อล ตามหามานาน 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด