:::     :::

VAR มาช่วย แต่ไม่ช่วย !!

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,610
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฤดูกาลนี้อะไรๆ หลายๆ อย่างดูจะไม่ค่อยเป็นใจกับลิเวอร์พูลจริงๆ นะครับ เริ่มจากเกมแห่งการสูญเสียเมื่อนัดก่อน ที่เสียทั้งฟาน ไดค์ และเสีย 3 คะแนนไป จากการตัดสินที่ค้านสายตาใครหลายคน .... การตัดสินของ VAR ในนัดก่อนนั้นดูแย่มากแล้วนะครับ แต่การตัดสินของ VAR ที่ลิเวอร์พูลเจอในนัดนี้มันเลวร้ายและแย่ไปยิ่งกว่าครั้งนั้นเสียอีก.....


3 ประสาน + 1 โชต้า

          หลายๆ คนเหมือนกันนะครับ ที่บอกว่า “คู่ต่อสู้จับทางลิเวอร์พูลได้หมดแล้ว” ซึ่งก็ดูมีเหตุมีผลอยู่พอสมควรเหมือนกันนะครับ เกมบุกของลิเวอร์พูลเองช่วงหลังๆ ก็ดูฝืดๆ ไปจริงๆ เหมือนกัน และทุกทีมนั้นวางแผนรับมือและหาทางป้องกันการเล่นของ 3 ประสาน ฟีร์มีโน่ , ซาล่าห์ ,  มาเน่ กันอย่างหนักหน่วงทั้งนั้น ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์และทีมงานเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหานี้ครับ เขาก็พยายามพัฒนาและหาแผนใหม่ๆ มาใช้เสมอๆ การจัดแผนของเจอร์เก้น คล็อปป์ในนัดนี้ เขาใช้ 3 ประสานเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยการใส่โชต้าลงไป และปรับใช้เฮนโด้ กับ ไวนัลดุ้มเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่  ซึ่งก็มีคำถามตามมากันล่ะครับว่า “แล้วจะเล่นกันยังไง” จากรูปเกม ซาล่าห์ก็ถูกดันเป็นหน้าเป้าไปเลยครับ และให้โชต้าไปเล่นริมเส้นด้านขวาแทน ใช้ฟีร์มีโน่ลงต่ำลงมากว่าปรกตินิดหน่อยเพื่อเชื่อมเกม แต่พอเล่นๆ ไปก็สลับตำแหน่งกันไปมา และด้วยความที่ยังเป็นแผนใหม่และต้องการการปรับตัวอยู่เล็กน้อย ทำให้หลายๆ ครั้งเราก็จะเห็นผู้เล่นในแนวรุกทับตำแหน่งกันอยู่บ่อยๆ เหมือนกันครับ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ แล้ว ที่ทีมมีอาวุธและความหลากหลายให้เจอร์เก้น คล็อปป์เลือกใช้มากขึ้นแบบนี้





VAR บ้าๆ บอๆ !!


          ลิเวอร์พูลนั้นพยายามเล่นเกมของตัวเองและก็พอจะคุมเกมได้อยู่ประมาณนึงนะครับ แต่สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายตามแบบงงๆ จากจังหวะที่ฟาบินโญ่เคลียร์บอลไม่ขาด ทำให้ตามไปสกัดบอลจากผู้เล่นเชฟฯ ยูไนเต็ด และโดนจับฟาล์วในจังหวะนี้ไป ซึ่งจากภาพช้าแล้ว จริงๆ ต้องบอกว่าลิเวอร์พูลไม่ควรจะเสียฟาล์วด้วยซ้ำ เพราะฟาบินโญ่นั้นสกัดโดนบอลแบบเต็มๆ แต่แล้วทีมงานผู้ตัดสินก็ทำให้แฟนบอลแทบจะทั้งโลกงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อ VAR ตัดสินให้ลูกนี้เป็นลูกจุดโทษไปซะอย่างนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าการฟาล์วเกิดขึ้นบนเส้นเขตโทษ และเส้นเขตโทษนั้นก็นับว่าเป็นส่วนนึงของกรอบเขตโทษ ทำให้ลูกนี้กลายเป็นลูกจุดโทษ!!!!  ผมเชื่อเหลือเกินว่าการตัดสินครั้งนี้ทำให้หลายๆ คนได้รู้กฏข้อนี้เป็นครั้งแรก และการตัดสินครั้งนี้น่าจะนำไปสู่มาตรฐานการตัดสินครั้งอื่นๆ ต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งในความคิดของผมแล้ว ถ้าผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน เห็นว่าสุดท้ายแล้วลูกนี้จะกลายเป็นจุดโทษในท้ายที่สุด น่าจะไม่เป่าฟาล์วในจังหวะนี้แน่นอน เพราะอย่างที่เขียนไปข้างต้นแหละครับ ว่าจริงๆ แล้วลิเวอร์พูลไม่ควรเสียแม้แต่ฟาวล์ด้วยซ้ำ และจากจังหวะนี้ทำให้ลิเวอร์พูลนั้นเจอกับงานยากโดนใช่เหตุไปทั้งเกมแบบไม่จำเป็นเลยจริงๆ



คมกว่า !           

          ด้วยสถานการณ์ที่ตกเป็นรองไปก่อนดังกล่าวทำให้ลิเวอร์พูลต้องพบกับความยากลำบากเพิ่มขึ้นอีกระดับครับ เพราะเป้าหมายของเชฟฯ ยูในนัดนี้ก็น่าจะเพียงแค่มาขอแบ่งแต้มก็ถือว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่นมั่นในการเล่นเกมรับอย่างเต็มที่เลย จะเห็นว่าบางจังหวะมีผู้เล่นอยู่ในกรอบเขตโทษถึง 8-9 คนเลยด้วยซ้ำ และด้วยสรีระของทางฝั่งนักเตะดาบคู่ก็สูงใหญ่กว่าทางนักเตะลิเวอร์พูลอยู่มากโขทีเดียว ทำให้อาวุธหลักของพวกเขาอย่างการครอสเข้าไปจากด้านข้างโดนสกัดออกมาได้บ่อยครั้งไป แต่แล้วด้วยคุณภาพผู้เล่นและคุณภาพของทีม ทำให้ลิเวอร์พูลตีเสมอได้ตั้งแต่ครึ่งแรก จากโอกาสจะที่เรียกได้ว่าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นของกองหลังเชฟฯ ยูฯ แต่นั้นก็เพียงพอแล้วครับที่จะโดนลิเวอร์พูลลงโทษได้ในจังหวะดังกล่าว โดยเป็นกัปตันเฮนโด้เห็นช่องว่างในแนวกองหลังครอสเร็วไปให้กับมาเน่โหม่งจ่อๆ อารอน แรมส์เดล ก็ยังไวพอที่จะปัดได้แต่บอลก็ไปเข้าทางฟีร์มีโน่ซ้ำเข้าไปง่ายๆ หลังจากเกมเสมอกัน เชฟฯ ยูฯ เองก็มีโอกาสที่จะขึ้นนำลิเวอร์พูลได้หลายต่อหลายครั้งครับ แต่ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า คุณภาพนักเตะของพวกเขาในปีนี้มาตรฐานค่อนข้างตกไปพอสมควรทำให้ลิเวอร์พูลเองยังเอาตัวรอดได้หลายต่อหลายครั้ง กลับกันกับลิเวอร์พูลที่เกมนี้พอมีโอกาสจะแจ้งไม่กี่ครั้งพวกเขาก็มีลุ้นทำประตูได้แทบจะทุกครั้งที่โอกาสเปิด พวกเขาเริ่มส่งสัญญาณเตือนภัยให้แล้วจากจังหวะที่ซาล่าห์หลุดเดี่ยวไปยิงได้แต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปเสียก่อน แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะจะแจ้งอีกครั้ง ที่มาเน่กระชากหนีกองหลังเชฟฯ ยูฯ ดื้อๆ และเปิดด้วยซ้ายอย่างแม่นยำให้โชต้าขึ้นโขกโล่งๆ ให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำจนได้ และสุดท้ายลิเวอร์พูลก็ประคองตัวเบียดเอาชนะไปจนได้อย่างหืดจับ ต้องเรียกได้ว่าเกมนี้ลิเวอร์พูลเอาชนะได้เพราะคุณภาพนักเตะที่เหนือกว่า .... เท่านั้นจริงๆ 



คุณสมบัติแชมป์


          ถึงแม้ว่าลิเวอร์พูลจะผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ยังเอาตัวรอดและเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้อยู่เสมอนะครับ  มีบ้างที่พวกเขาพลาดพลั้งและหลุดฟอร์มไปในบางนัด แต่พวกเขาก็ดึงตัวเองกลับมาได้อยู่เสมอ นี่คือข้อพิสูจน์ครับว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจจริงๆ  กับสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะเป็นศัตรูไปเสียหมด และลิเวอร์พูลเองมักโดนตัดแข้งตัดขาจากผลการตัดสินจาก VAR (ที่ย่อมาจากวีดีโอช่วยผู้ตัดสิน  แต่ดันไม่ช่วยอะไรลิเวอร์พูลเอาซะเลย)  แต่พวกเขาก็ยังเอาตัวรอดจากการตัดสินห่วยๆ ของผู้ตัดสินและ VAR แบบนี้ได้  ถึงตอนนี้พวกเขาพาตัวเองมาอยู่ในที่ๆ สมควรอยู่อีกครั้ง คือ อยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูงที่มีคะแนนเทียบเท่ากับจ่าฝูงอย่างเพื่อนร่วมเมืองเอฟเวอร์ตันเท่านั้น ต่อไปนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะเจอกับอะไรอีก แต่ผมมีความเขื่อมั่นเสมอว่า เจอร์เก้น คล็อปป์และลูกทีมก็น่าจะผ่าสถานการณ์ต่างๆ ไปได้ล่ะครับ 

          แต่ขอนานๆ เจอแบบนี้ทีแล้วกันนะ เจอติดๆ กันบ่อยๆ แบบนี้  ไม่ไหวจริงๆ .....

    


   




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด