:::     :::

ปัจจัยความฝืดของเมสซี่

วันพฤหัสบดีที่ 05 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
3,165
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์อาร์เจนไตน์ของ บาร์เซโลน่า ยังอยู่ห่างไกลกับคำว่าสุดยอดนักเตะในช่วงต้นฤดูกาลนี้หลังทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวจากการลงเล่น 9 นัดที่ผ่านมา

ลิโอเนล เมสซี่ ทำสถิติลงเล่นรายการแชมเปี้ยนส์ลีกกับ บาร์เซโลน่า เกมที่ 150 มากสุดในประวัติศาสตร์สโมสร นัดเฉือนชนะ ดินาโม เคียฟ 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมทำอีกหนึ่งประตูจากการสังหารจุดโทษตั้งแต่ช่วงต้นเกม 

มันเป็นประตูที่ 638 จากการลงเล่นกับทีมอาซูลกราน่า 740 เกมของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ 

เมสซี่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของวงการลูกหนังนานกว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา จากการทำผลงานส่วนตัวยอดเยี่ยมจนยากเกินกว่าจะหาคนลอกเลียนแบบ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่าในซีซั่น 2004-2005

ทว่าทุกอย่างเป็นไปตามวัฎจักรของมันและคงเหลือเวลาอีกไม่นานนักสำหรับ เมสซี่ ที่วัยย่างเข้า 34 ปี ซึ่งเจ้าตัวยังยอมรับว่าเขาเริ่มนับถอยหลังสู่การอำลาสังเวียนแข้งแล้วเช่นกัน


ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในซีซั่นนี้คือ เมสซี่ ยังคลำเป้าไม่เจอจากการลงเล่น 9 นัดแรกของฤดูกาลนี้ ทั้ง 4 ประตูที่เขาทำได้มาจากการสังหารลูกจุดโทษทั้งหมด ไม่ได้มาจากจังหวะโอเพ่นเพลย์แม้แต่ประตูเดียว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ 

เมสซี่ ลงเล่นทั้ง 6 เกมบนเวทีลีกาซีซั่นนี้และเพิ่งยิงเพียงประตูเดียวจากการยิงจุดโทษในเกมชนะ บียาร์เรอัล 4-0 ส่วนอีก 3 ประตูในฤดูกาลนี้เกิดขึ้นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสามเกมกับ เฟเรนซ์วารอส, ยูเวนตุส และ ดินาโม เคียฟ ที่มาจากการสังหารลูกจุดโทษเช่นเดียวกัน

จากผลงานในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้เห็นได้ชัดว่าซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังอยู่ห่างไกลกับการเป็นนักเตะดีที่สุดในโลก 

เหตุการณ์เช่นนี้กับยอดแข้งอย่าง เมสซี่ มาจากหลายปัจจัยมีอะไรบ้างไปดูกันครับ


1.แรงจูงใจ

กองหน้าระดับตำนานของทัพอาซูลกราน่าแสดงความปรารถนาว่าต้องการย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา หลังจากสูญเสียศรัทธาต่อโครงการกีฬาของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ก่อนที่เขาจะอำลาตำแหน่งในเวลาต่อมา 

เมสซี่ ตกลงอยู่ต่อตามสัญญาที่เหลืออีกหนึ่งปีเนื่องจากเขาไม่ต้องการสร้างความบาดหมางกับสโมสรหากถึงขั้นต่อสู้กันทางกฎหมาย แต่มันไม่ใช่ความเต็มใจ แม้กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ยืนยันว่ายังคงทำหน้าที่แบบมืดอาชีพก็ตาม ทว่ามันดูเหมือนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเขาในตอนนี้ที่ยังยิงประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวหลังการลงเล่นมาแล้ว 9 เกม

ขณะเดียวกัน การ์ลอส ตูสเก็ตส์ ที่ก้าวขึ้นมารักษาการตำแหน่งประธานสโมสรแทน บาร์โตเมว มีภารกิจสำคัญคือการหาทางลดค่าใช้จ่ายของสโมสรราว 300 ล้านยูโรเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตทางการเงินที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

ส่วนการเจรจาเพื่อโน้มน้าว เมสซี่ ให้เปลี่ยนใจอยู่กับสโมสรต่อไปคงเป็นหน้าที่ของประธานสโมสรคนใหม่ที่จะมีการลงคะแนนโหวตเลือกในช่วงเดือนมกราคมศกหน้า แต่เมื่อถึงเวลานั้นมันอาจสายเกินการณ์และทำได้แค่มองดูกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์โบกลาหลังจบฤดูกาลนี้ 

2.โรนัลด์ คูมัน

บาร์เซโลน่า ดึง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาแทน เอ็นรีเก้ เซเตียน ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนสิงหาคมที่่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่นานนักมีข่าวลือว่าเทรนเนอร์ชาวดัตช์แจ้งกับกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ว่าเขาจะไม่มีอภิสิทธิ์เหมือนที่ผ่านมาแล้ว 

ข่าวดังกล่าวไม่เป็นผลต่อดีสโมสรแม้แต่น้อย แม้ เมสซี่ จะตัดสินใจเล่นกับ บาร์เซโลน่า ต่อไปหลังแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' ทว่ากองหน้าชาวอาร์เจนไตน์เล่นฟุตบอลตามหน้าที่ของตนเองเท่านั้น

ขณะเดียวกัน คูมัน เป็นเทรนเนอร์ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงคนหนึ่ง เขาพร้อมชนกับทุกคนที่มีความคิดเห็นไม่เป็นไปตามแนวทางเดียวกับเขาเหมือนที่เคยมีปัญหากับแข้งอาวุโสตอนที่ทำงานกับ บาเลนเซีย ในช่วงปี 2007-2008

ถึงแม้ คูมัน จะไม่มีความขัดแย้งหรืองัดข้อกันโดยตรงกับ เมสซี่ แต่ทั้งสองคนเชื่อมโยงกันเฉพาะเทรนเนอร์กับนักเตะเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์หรือผูกพันกันในส่วนอื่น 

ที่สำคัญ เมสซี่ ยังไม่พอใจสโมสรที่ปฏิบัติต่อเพื่อนสนิทอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ด้วยการบีบกองหน้าชาวอุรุกวัยต้องเลือกย้ายทีม โดยมี คูมัน เป็นกลไกสำคัญที่ในผลักไสออกจาก 'คัมป์ นู'

3.ระบบ

ลิโอเนล เมสซี่ เติบโตมากับระบบ 4-3-3 ตั้งแต่เล่นกับทีมเยาวชนก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในซีซั่น 2004-2005 แม้มีเทรนเนอร์บางคนของทีมอาซูลกราน่าจะปรับระบบมาเล่นระบบอื่นบ้างก็ตาม แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 

นับตั้งแต่ โรนัลด์ คูมัน เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า เขามองว่าขุมกำลังของทีมอาซูลกราน่าชุดปัจจุบันเหมาะสมกับระบบ 4-2-3-1 มากกว่าระบบอื่น ซึ่งมันอาจจะไม่เอื้อประโยชน์ต่อการเล่นของ เมสซี่ เหมือนระบบ 4-3-3 

แม้จะมีข้อถกเถียงว่าการเป็นยอดนักเตะย่อมสามารถปรับตัวเข้ากับการเล่นทุกระบบก็ตาม แต่มันก็ต้องมีระบบที่เหมาะสมสุดในการรีดเค้นประสิทธิภาพการเล่นสูงสุดของเขาด้วยเช่นกัน

4.นักเตะ

เมสซี่ ผ่านการเล่นร่วมกับยอดนักเตะมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่แข้งระดับเทพอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, โรนัลดินโญ่, เธียร์รี่ อองรี, อันเดรส อีเนียสต้า, ดาบิด บีย่า หรือ หลุยส์ ซัวเรซ 

ตามรายนามข้างต้นต่างเป็นสุดยอดนักเตะทั้งสิ้น ดังนั้นการปรับจูนการเล่นให้เข้าขารู้ใจกันจึงเป็นเรื่องง่าย ต่างจากขุมกำลังชุดปัจจุบันของ บาร์เซโลน่า ที่มีแต่ผู้เล่นสายเลือดใหม่อย่าง อันซู ฟาตี, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ หรือ ฟรานซิสโก ตรินเกา ที่ยังขาดความเข้าใจในการเล่นของ เมสซี่ 

ขณะที่หน้าเก่าอย่าง อองตวน กรีซมันน์ หรือ อุสมาน เดมเบเล่ ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับ เมสซี่ ได้เหมือนที่ หลุยส์ ซัวเรซ เคยทำมาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา นั่นจึงสร้างปัญหาต่อการเล่นของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ที่ยังติดขัดไม่ลื่นไหลเหมือนที่่ผ่านมา 

5.ตำแหน่งการเล่น

คูมัน เลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 แต่เทรนเนอร์ชาวดัตช์ยังไม่สามารถหาตำแหน่งการเล่นที่ลงตัวของนักเตะ โดยเฉพาะสองดาวดังอย่าง เมสซี่ กับ กรีซมันน์ ที่หมุนเวียนเล่นหลายตำแหน่งจนทำผลงานฝืดทั้งคู่ 

เมสซี่ ถูกส่งลงเล่นทั้ง หน้าเป้า, แนวรุกฝั่งขวา และ หน้าต่ำ แต่ยังไม่มีคำตอบจาก คูมัน ว่าตำแหน่งใดลงตัวกับซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์มากสุด เช่นเดียวกับตำแหน่งที่จะทำให้ กรีซมันน์ แสดงประสิทธิภาพการเล่นดีที่สุดของตนเองออกมา

บางเกมที่ เมสซี่ ลงเล่นตำแหน่งหน้าเป้า แต่เขาต้องถอยลงต่ำเพื่อรับบอลทำเกมด้วยตัวเอง นั่นทำให้เขาอยู่ไกลออกไปจากประตูฝั่งตรงข้ามมากขึ้น ผลที่ตามมาคือจำนวนประตูที่ลดน้อยถอยลงและยังยิงจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว

6.อายุ

นักเตะทุกคนไม่สามารถฝืนสังขารของตัวเองได้ไม่เว้นแม้แต่ ลิโอเนล เมสซี่ ด้วยวัย 33 ปี ทำให้ประสิทธิภาพการเล่นลดน้อยลงตามสังขารที่โรยรา 

เมสซี่ ยังลงสนามต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงรีสตาร์ทซีซั่นที่ผ่านมาและมีเวลาพักเพื่อฟื้นร่างกายไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่และยังลงเล่นตลอด 9 เกมแรกของซีซั่นนี้ แน่นอนว่ามันทำให้พละกำลังถดถอยและฟื้นตัวช้าตามวัยที่มากขึ้น 

เมื่อมีเวลาพักฟื้นน้อยและยังไม่เคยหยุดพักบางเกมที่ไม่สำคัญเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมา บวกกับปัจจัยจากข้อ 4 และ 5 รวมกัน การแบกทีมแต่เพียงผู้เดียวจึงทำไม่ง่ายเหมือนก่อนและส่งผลต่อประสิทธิภาพของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์อย่างที่เห็นในตอนนี้ 

7.โชค 

มันอาจไม่ใช่ข้ออ้างทั้งหมด แต่ต้องยอมรับว่าเรื่อง'โชค'มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ทั้งที่ เมสซี่ มีโอกาสสับไปทำประตูหลายครั้ง แต่มันยังไม่สัมฤทธิ์ผล เนื่องจากซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ขาดโชคเกื้อหนุน หลายจังหวะที่ควรจะเป็นประตู แต่ไม่ชนคาน, ชนเสา ก็ผู้รักษาประตูคู่แข่งโชว์ฟอร์มเซฟขั้นเทพ 

อย่างไรก็ตามนักเตะชั้นอ๋องอย่าง เมสซี่ คงใช้เวลาไม่นานนักในการสลัดความฝืดจากปลายสตั๊ดตนเอง เพียงแต่สาวกบาร์เซโลนิสต้าคงต้องทำใจยอมรับว่าซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์กำลังอยู่ในช่วงถดถอยและจะไม่กลับมาเป็นเหมือนที่เราเคยคุ้นตาอีกแล้วเท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด