:::     :::

ตัวแทนป็อกVol.1 : Eduardo Camavinga มิดฟิลด์ผู้ครองหินพลังขับ

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
10,645
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือตัวแทนที่ใกล้เคียงที่สุดในการที่แมนยูจะเสริมทัพ เผื่อว่าป็อกบาเลือกที่จะย้ายทีม หมอนี่คือตัวแทนระยะยาวเบอร์หนึ่งที่น่าไปตัดหน้าทีมอื่นซื้อมาเข้าทีมอย่างถึงที่สุดสำหรับ มิดฟิลด์จอมพริ้วแห่งพลังขับเคลื่อนในแดนกลาง "เอดูอาร์โด คาเมวิงก้า"

นี่คือนักเตะรายแรกจากซีรี่ส์การหานักเตะแบบ "เผื่อไว้ก่อน" สำหรับการเป็นตัวแทนของ ปอล ป็อกบา กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอนของเขาว่าจะฝากฝังไว้ในมือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ใต้ชายคาโอลด์แทรฟฟอร์ดหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าปีหน้าป็อกจะอยู่หรือจะไป

ซึ่งก็อย่างที่เขียนในคอลัมน์บ่อยๆว่า เราต้องยอมรับการตัดสินใจของป็อกบาตรงนี้หากว่าจะไม่อยู่กับเราต่อ ต้องเข้าใจว่านักเตะคนนึงก็ต้องการไขว่คว้าหาความสำเร็จในเส้นทางอาชีพที่ระยะเวลามันแสนจะสั้น การอยากย้ายไปอยู่กับทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ ถือว่าเป็นสิ่งที่ "เข้าใจได้"

ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวต่างๆออกมามากมาย แต่ป็อกบาในยามที่ลงสนามก็ทุ่มเทเต็มที่ และทำเพื่อสโมสรอย่างดีที่สุดแล้วในการแบกทีมมาตั้งแต่สมัยมูรินโญ่ จนกระทั่งปัจจุบันกับการคุมทีมของโซลชา ป็อกบาก็ยังเป็นนักเตะระดับคีย์แมนของทีมเช่นเดิม ดังนั้นนี่คือดีลที่ประสบความสำเร็จอีกดีลนึง กับการที่เราไปซื้อตัวเขากลับมาร่วมทีมในปี2016

ถ้าป็อกเลือกจะต่อสัญญาอยู่กับที่นี่เราก็จะดีใจมากๆ เพราะการมีนักเตะที่คลาสเหนือชั้นและสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เช่นนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่สโมสรชั้นนำจะต้องมีนักเตะแบบนี้ไว้ในทีม เพราะงั้นเบื้องต้นเราควรจะทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งและต่อสัญญาเขาให้อยู่ที่นี่ให้ได้

แต่หากว่าป็อกบา "เลือกที่จะไม่อยู่กับเรา" เราก็ต้องเข้าใจเขาอย่างที่กล่าวไปแล้ว และเราก็จะยังซัพพอร์ตและตามไปเชียร์ที่สโมสรใหม่ด้วยเช่นกัน

แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้น หากเป็นกรณีที่เขาไม่อยู่ต่อ เราก็จำเป็นที่จะต้องหาตัวแทนป็อกบาเข้ามาเผื่อไว้นั่นเอง เพราะทุกวันนี้กองกลางคนอื่นในทีมไม่มีใครมีความสามารถพอจะทำเกมบุกได้เลยนอกจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในตำแหน่งกลางรุก แต่มิดฟิลด์กลางสนามที่เหลือ ไม่มีใครที่มีสกิลบุกเลยแม้แต่คนเดียว

รวมถึงเรื่องของมิติการคุมเกมกลางสนาม การเป็นตัวโฮลด์บอล ในทีมมีเพียงแค่มาติช กับ ป็อกบา สองตัวเท่านั้นที่สามารถทำได้ นอกนั้นบ้อท่าหมด ไม่มีใครเก็บบอลหรือดึงจังหวะเกมได้เลยในพื้นที่กลางสนาม

ดังนั้นจะเห็นว่า สองมิติหลักๆนี้ (ทำเกมบุก + คุมเกมกลางสนาม) คือสเป็คมิดฟิลด์ที่เราอยากได้มาเพื่อทดแทนป็อกบา เราจึงมองหาดูในตลาดนักเตะว่ามีใครบ้างที่เป็นกองกลางที่น่าสนใจจะมาทดแทนมิติตรงนี้ที่หายไปได้

และนี่คือcandidateที่สามารถเรียกได้ว่าเข้าข่ายจะเป็นตัวแทนป็อกบาได้ในอนาคต ถ้าซื้อเข้ามา

จึงเป็นที่มาของซีรี่ส์ "ตัวแทนป็อก" นั่นเอง และใน Vol. 1 คนแรกที่จะมารีวิวนำเสนอในซีรี่ส์นี้ก็คือ กองกลางหนุ่มที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้วในฐานะดวงดาวแห่งอนาคตของทีมชาติฝรั่งเศส

เขาคือ "Eduardo Camavinga" นั่นเอง

1.ข้อมูลทั่วไป

Eduardo Camavinga

(เอดูอาร์โด้ "คาเมวิงก้า" ชื่อในภาษาฝรั่งเศสของน้องอ่านแบบนี้ หากเป็นสำเนียงคนอังกฤษจะอ่านเป็น แคมาวิงก้า แต่ไม่ใช่ คามาแวงก้าแน่นอน จะFrench หรือ English ก็ออก วิงก้า หมดทุกภาษา)

อายุ 18 ปี / ส่วนสูง 182 cm

สัญชาติ : ฝรั่งเศส (เชื้อสายสาธารณรัฐคองโก แต่เลือกเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ของฝรั่งเศสแล้ว ลง3นัด ยิง1ประตู)

เท้าที่ถนัด : ซ้าย

ต้นสังกัด : Stade Rennais FC (แรนส์)

ประเมินราคาค่าตัว : 60ล้านยูโร (51ล้านปอนด์)

หมดสัญญากับสโมสร : 30 Jun 2022 ปลายปีหน้า

2.ตำแหน่งและสไตล์การเล่น

เวลาจะพูดถึงคาเมวิงก้า ถ้าจะให้เรียกกันจริงๆควรเรียกเขาว่า "มิดฟิลด์ตัวกลาง" น่าจะดีที่สุด เพราะหมอนี่แม้ว่าจะลงไปเล่นกลางรับได้ แต่ก็ไม่ใช่กลางรับ, แม้จะดูเป็นกลางสายบุก แต่เขาก็ไม่ใช่กลางตัวรุกอีกนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเวลาจะเรียก เขาคือมิดฟิลด์ตัวกลางแบบแท้ๆเลย

ตำแหน่งถนัดในpositionที่เล่นเป็นประจำของเขาจริงๆคือ "Central Midfielder" ที่จะยืนอยู่บริเวณกลางสนามพอดี นั่นคือตำแหน่งถนัดของเขา ซึ่งส่วนใหญ่แทบจะทุกนัดเขาก็จะเล่นในจุดCMนี่แหละเป็นหลักๆเลย นานๆทีจะมีลงไปเป็น DMบ้างเล็กน้อย และAMแทบจะไม่มีเลย ด้วยสถิติการเล่นในตำแหน่ง CM26นัด DM4นัด AM1นัด ในฤดูกาลนี้

เรื่องตำแหน่งถนัดก็ชัดเจนว่าคือมิดฟิลด์ที่เป็นตัวกลางสนามขนานแท้

แต่เรื่องของ "Role" ที่เป็นบทบาทหน้าที่การเล่นนั้น คาเมวิงก้าเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางในลักษณะของการเป็น "มิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกม" อย่างแท้จริง ระบุแบบชัดเจนได้ว่าเขาเป็นกองกลางแบบ "The Mezzala" ซึ่งก็คือตัวขับเคลื่อนเกมนั่นเอง

ใส่แดงแล้วโคตรเท่เลย สนใจมาใส่เสื้อสีแดงแถวเมืองผมไหมครับ?

อธิบายแบบคร่าวๆ ตำแหน่ง Mezzala เป็นตำแหน่งที่ถือกำเนิดมาจากฟุตบอลอิตาลี หมายถึงคำว่า "Half Wing(er)" ซึ่งก็คือกองกลางที่ทำหน้าที่คล้ายปีกนั่นเอง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เจ้าหนูคาเมวิงก้าเล่นในสนาม แว้บแรกที่ผมเห็นก็จะรู้สึกคล้ายๆจะเป็นเช่นนั้นเลย เพราะเราดูแล้วรู้สึกเหมือนกับว่านี่คือ นักเตะที่เป็น"ปีก"ในร่างของ กองกลางนั่นเอง

คือกองกลางที่มีความเร็ว มีเทคนิค ไวพริบความคล่องแคล่วของนักบอลที่เป็นพวกWingerนั่นเอง

ถ้าจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ อยากให้ลองเทียบว่า ถ้าพวก Jessie Lingard กับ Hannibal Mejbri สองคนนี้ที่มีสไตล์การเล่นคล้ายกันคือเป็น "มิดฟิลด์ตัวรุกที่มีสกิลปีก" ซึ่งเต็มไปด้วยความเร็วความคล่องอยู่ในตัว Camavingaก็จะเป็น "มิดฟิลด์ตัวกลางที่มีสกิลปีกอยู่ในตัว" นั่นเอง

คือเหมือนจับเอา ลินการ์ด กับ ฮันนิบาล ลงต่ำมาเล่นมิดฟิลด์แดนกลางนั่นแหละง่ายๆ

โดยปกติแล้ว Mezzala เป็นตำแหน่งที่มักจะใช้ในระบบที่มีกลางสามตัวของ 4-3-3 โดยที่อีกสองตัวที่เหลือจะต้องมีหน้าที่เป็นตัวต่ำคุมเกมด้านหลังหนึ่งคน (DLP หรือว่า The Regista) ส่วนอีกคนนึงเป็นกลางสายลูกหาบ (ก็คือ Carrilero หรือ The Shuttler นั่นเองที่เคยอธิบายถึง "เฟร็ด" ของเราไปแล้ว) โดยสองคนนั้นเป็นตัวต่ำ และตัวซัพพอร์ตแดนกลาง ดังนั้น การจะพาบอลขึ้นแดนหน้าเพื่อไปต่อกับกองหน้าหรือปีกได้นั้น จึงเป็นหน้าที่ของอีกคนที่เหลือ นั่นก็คือ "The Mezzala" คนนี้นั่นเอง

Mezzala จึงเป็น "แรงขับเคลื่อนเกมรุกจากกลางสนาม" หน้าที่ของเขาจึงเป็น "ตัวพาบอลขึ้นหน้า" นั่นเอง และนั่นแหละคือการเล่นของ Eduardo Camavinga ซึ่งเป็นกองกลางสไตล์ที่เราไม่มีอยู่ในทีมตอนนี้

ทีมเราตอนนี้ถ้าจะมีก็มีเพียง "ปอล ป็อกบา" แค่คนเดียวในทีมเราตอนนี้ที่สามารถเล่นแบบนี้ได้ดี  และจริงๆตอนอยู่อิตาลีป็อกก็เล่นเป็น Mezzala ที่มี DLPเก่งๆคอยคุมเกมอยู่ด้านหลังเช่นกัน

ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดที่เห็นชัดๆว่า ทำไมเราถึงสามารถพิจารณาCamavinga เป็นหนึ่งในตัวแทนของป็อกบาได้

ลักษณะการยืนของMezzalaแบบนี้นั้น อย่างที่บอกไปว่าเป็นกองกลางที่เป็นแรงขับเคลื่อนในระบบที่มีกลางสามตัว เพราะงั้นจุดที่ยืนเขาจะไม่ได้ปักหมุดตรงกลางเป๊ะเหมือนDLP แต่จะขยับเยื้องมานิดนึงในแอเรียระหว่าง "กึ่งกลางสนาม กับ ริมเส้น" ที่เขาเรียกว่าพื้นที่ "Half-Spaces" นั่นเอง ซึ่งก็เข้าแก๊ปกันอยู่แล้วของ Mezzala ที่มันmeaningถึง Half Wing เพราะในอีกความหมายหากว่าเป็นฟุตบอลยุคเก่าสมัยคลาสสิค ตำแหน่งตรงนี้ในแผนการเล่นสมัยก่อนเค้าเรียกว่า "Inside Forward"

ปัจจุบัน ฮาล์ฟแบ็คตัวข้างมันก็คือ ฟูลแบ็ค/วิงแบ็คนั่นเอง ส่วนฟูลแบ็คเก่า ก็คือตัวเดิมที่ยืนอยู่ตรงกลาง เพราะฮาล์ฟแบ็คถอยต่ำลงมาในการจัดแบ็คโฟร์ ฟูลแบ็คแบบเก่าจึงกลายเป็น"เซ็นเตอร์"แบ็ค

ถ้าสังเกตดีๆคือ ฟร้อนท์ทรีด้านหน้าจะเป็น Winger Forward Winger ดังนั้นตัวรุกสองตัวด้านหลังสามคนนี้ จึงถูกเรียกว่า "Inside Forward" ตามรูป แต่แทคติกปัจจุบันไม่ได้ใช้ตัวแดนหน้าเยอะขนาดนั้น จุดนั้นเดิมที่เป็นInside Forward จากแผน 2-3-2-3 จึงกลายเป็น "มิดฟิลด์" ที่มายืนแทนนั่นเอง

นั่นแหละคือที่มาของ Mezzala ในปัจจุบัน และมันคือตำแหน่งการเล่นของ Eduardo Camavinga นั่นเอง

ส่วนนอกจาก Mezzala แล้ว Camavinga ยังสามารถที่จะเล่นในroleของ Deep-Lying Playmaker (DLP) ได้อีกด้วย ที่เป็นกลางยืนต่ำ ดังนั้นที่เห็นว่าหลายๆที่เขียนว่าตัวนี้เล่น DM ได้ด้วยนั้น จริงๆมันไม่ใช่DM มันเป็น DLP ต่างหาก แต่แค่ถูกเรียกรวมแบบกว้างๆว่าเป็นกลางรับ(DM)แค่นั้นเอง

คาเมวิงก้าในตำแหน่งDLPนั้น อาจจะจับมา "เล่นได้" ก็จริง แต่ถ้าจะให้เหมาะสมกับศักยภาพสูงสุดของเขาที่มีพลัง ความเร็ว ความคล่องตัวในแดนกลางแล้วล่ะก็ Camavinga ต้องเล่นเป็นตัวขับเคลื่อนเกมในแดนกลางขึ้นหน้าอย่าง "The Mezzala" เท่านั้น ถึงจะเก่งที่สุด เปรียบประหนึ่งเป็นกองกลางที่มี "หินพลังขับ" อยู่ในมือ และพร้อมที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนพาเอาเรือโจรสลัดสวีทมาดอนน่า โบยบินไปที่ไหนก็ได้ในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ นั่นแหละภาพลักษณ์ของคาเมวิงก้าที่เราจินตนาการเห็น

ตำแหน่งกลางตัวขับเคลื่อนเกมนี้นั้น เป็นกองกลางที่มีสกิลปีกอยู่เต็มตัว ผู้ที่จะเล่นจึงจำเป็นต้องมีสกิลเทคนิคที่สูง มีความเร็วความคล่อง การเลี้ยงพาบอล (สกิลหลักๆของปีก) ต้องมีการจ่ายบอลให้เพื่อนที่ดีและแม่นยำ (สกิลกองกลาง) แถมยังต้องสอดมาเติมเกมรุกได้ด้วยในบางครั้งถ้าทีมต้องการ

Italian Mezzala VS Spanish Mezzala

นักเตะสไตล์นี้ที่ชัดๆก็ ป็อกบานี่แหละ(ฮา) หรือไม่ก็ "อันเดรส อิเนสต้า" นี่ก็Mezzala หรือจะเป็น Mason Mount นี่ก็ใช่ Mezzala เช่นกัน เพราะจุดที่เขาเล่นเด่นอยู่กับเชลซีคือตัวรุกด้านข้าง มันเป็น Inside Forward ที่หุบมาเข้ากลางอยู่หลังหน้าเป้าชัดเจน แถมเม้าท์มีสกิลกองกลางอยู่ด้วย นี่ก็Mezzalaอีกแบบนึง

ตัวอื่นๆมีอีกหลายคนที่เป็นพวกที่เล่นกลางรุกแบบ 8s ได้ทั้งหลาย แบร์นาโด้ ซิลวา กับ KDB ก็ใช่ รวมถึงนาบี้ เกอิต้า ก็เป็นกลางสายMezzalaเช่นกัน โดยใช้ติอาโก้หรือไวนาลดุมเล่นDLPคุมอยู่ข้างหลัง และมีมิลเนอร์หรือเฮนโด้เล่นShuttlerอยู่ข้างๆ เป็นต้น

ทั้งหมดนี้น่าจะพออธิบายได้ว่า Eduardo Camavinga เล่นตำแหน่งไหน สไตล์การเล่นเป็นยังไงบ้างนั่นเอง

3.จุดเด่นที่สำคัญ

สามารถเลื่อนลงไปดูในคลิปต่างๆที่แปะไว้ท้ายบทความด้านล่างสุดตรงreferencesได้เลย หากว่าดูประกอบมาก่อนที่จะอ่าน จะทำให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น

3.1 เทคนิค (Technique)

สามารถพูดได้ว่า คาเมวิงก้า คือ "กองกลางจอมเทคนิค" คนนึงได้เลย ตามสไตล์นักบอลฝรั่งเศสที่คลาสสูง เป็นชาติที่นักบอลมีเทคนิคสูงมากๆ ยิ่งเป็น กลางฝรั่งเศสที่มีความเป็นตัวรุกในตัว เราก็พอจะเดาทางได้เลยว่าไอ้พวกนี้เทคนิคจะอยู่ระดับไหน ดูป็อกบา ซีดาน อะไรพวกนี้เป็นตัวอย่างก็ได้

คาเมวิงก้ามีเทคนิคการเล่นที่ดีมากๆในการเล่นกับบอล คอนโทรลบอลได้ดั่งใจนึก และมีลูกเล่นแพรวพราวมากๆ ถ้าจะให้วัดว่าสิ่งไหนมาเป็นอันดับแรกในด้านจุดเด่นของคาเมวิงก้า

ผมจะบอกว่าเทคนิคในการเล่นกับบอลของตัวนี้โดดเด่นสุดจริงๆ

3.2 ความคล่องตัว(Agility)

ศัพท์แร็คนาร็อคเรียก ความพริ้วนั่นแหละที่มอนฯจะตีไม่โดน เหมือนกันเลย ไอ้ตัวนี้เหมือนยัดการ์ดวิสเปอร์ใส่เสื้อลงสนามมาด้วย คำว่า "พริ้ว"นี่แหละ คืออีกคำที่เราจะจำกัดความให้เขาได้

ถ้าจะเรียกคาเมวิงก้าด้วยการIdentifiedอะไรบางอย่างเพื่อเรียกเขา ผมจะบอกว่า "กองกลางสายเทคนิคจอมพริ้ว" น่าจะเหมาะกับคาเมวิงก้าสุดแล้ว

เนื่องจากว่ามีเบสิคฟุตบอลที่ดีเป็นหลัก รวมถึงเทคนิคขั้นสูงที่น้องใช้ ไม่ใช่แค่เรื่องลูกเทิร์นต่างๆที่ทำบอล การหลอกหน้าขา การคุมบอลนั้นแพรวพราวมากๆ บอลติดเท้าดีจริงๆ พอมารวมกับสมรรถนะร่างกายที่หุ่นเขากำลังดี ไม่หนาเกินไปจนเทอะทะ แต่ก็ไม่บางเกินไปขนาดว่าโดนแตะนิดเดียวแล้วกระเด็น การเคลื่อนไหวร่างกายน้องถือว่าพริ้วและ "คล่อง" มากจริงๆ

3.3 การเลี้ยงไปกับบอล (Dribbling)

แน่นอนว่า ความเป็นMezzala ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ที่ขับเคลื่อนเกมรุกจากกลางสนาม ดังนั้นสกิลการเลี้ยงและไปกับบอลต้องโดดเด่นจริงๆ ไม่งั้นไม่ใช่กองกลางสายนี้ ซึ่งการเลี้ยงบอลของคาเมวิงก้าอยู่ในระดับที่ดีเลย

ก็อย่างที่บอกไป เหมือนเห็น "ปีกลงมาเล่นกลางสนาม" ที่ทั้งเร็ว คล่อง เลี้ยงบอลติดเท้า นั่นแหละจึงเป็นจุดเด่นอีกอย่างของคาเมวิงก้าที่กระชากบอลได้ดีมากๆ

ดังนั้นแน่นอน สกิลการเลี้ยงกินตัว และการดวล 1 on 1 ของคาเมวิงก้า จึงเป็นอีกจุดแข็งของเขาที่คู่แข่งคนเดียวเอาไม่อยู่แน่นอน ต้องรุมดับเบิ้ลทีมอย่างต่ำเท่านั้น

ในคลิปต่างๆจะเห็นเลยว่า หมอนี่เลี้ยงหลบคู่แข่งง่ายเหมือนตัดเต้าหู้เลย

3.4 การวางบอลยาว (Long Passes)

สกิลของนักเตะที่เล่นกลางสนามอย่างนึงซึ่งขาดไม่ได้คือ การจ่ายบอล(Passing) ซึ่งลูกpasses ของเขานี่แหละคือตัวบ่งบอกที่ยังทำให้เราremindได้ว่า "ไอ้หมอนี่มันเป็นกองกลางนะเว้ย ไม่ใช่ปีกลงมากลาง"

การจ่ายบอลของคาเมวิงก้าถือว่าดีมากๆ ข้อมูลตรงนี้ขอยกสถิติมาเปรียบเทียบจากFBref โดยเป็นPlayer Comparison เปรียบเทียบกันในฤดูกาลนี้ระหว่าง Eduardo Camavinga, Paul Pogba, Thomas Partey, Bruno Fernandes, Mason Mount

ข้อมูลทั้งหมดที่ระบบนำมาเปรียบเทียบกันนั้นก็มีครบทุกมิติทั้งรุกและรับ ซึ่งแน่นอน คาเมวิงก้าไม่ได้เก่งที่สุดอะไรขนาดนั้นในบรรดานักเตะเหล่านี้หรอก แต่ละคนมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน แต่ค่าพารามิเตอร์หนึ่งที่คาเมวิงก้านั้น "โหด" มากๆ ก็คือ"ลูกจ่าย" หรือการจ่ายบอลนั่นเอง

การจ่ายบอลของคาเมวิงก้าถือว่ามี "เปอร์เซ็นจ่ายสำเร็จ"(pass completion percentage) ที่สูงมากๆในทุกๆลูกจ่าย ไม่ว่าจะเป็นลูกจ่ายสั้น(short passes) สำเร็จอยู่ที่ 90.2% ซึ่งก็ถือว่าสูงเอามากๆแล้ว ตรงนี้สูงกว่าป็อกบาซะอีกที่89.3% อีกสองคนที่จ่ายสำเร็จเยอะกว่าคือ ปาร์เตย์ กับ เม้าท์ อยู่ที่ 91.7 และ 91.2% ตามลำดับ

แต่..

ลูกจ่ายระยะกลาง กับ ระยะไกล คาเมวิงก้า กินขาดทุกคนที่กล่าวมาแล้ว

ระยะกลาง (Medium Passes) คาเมวิงก้าจ่ายสำเร็จสูงสุดในบรรดาห้าคนนี้ อยู่ที่91.7 ส่วนสองคนที่จ่ายระยะกลางได้เข้ามาใกล้เขาที่สุดคือ ป็อกบา กับ ปาร์เตย์ อยู่ที่ 90.1%เท่านั้นเอง

ลูกจ่ายระยะไกล (Long Passes) อันนี้แหละ เด่นสุดโหดสุด น้องจ่ายสำเร็จอยู่ที่ "83.7%" ซึ่งเลขสูงขนาดเกิน80แบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ คือมันบ้าไปแล้วกับการที่ต้องวางบอลยาวๆ แต่ยังแม่นขนาดว่า พลาดเพียงแค่16.3%เท่านั้น พูดง่ายๆคือนานๆทีจะวางบอลยาวไม่ตรงนั่นแหละ!

มันบ้าจริงๆนะ เพราะอีกสี่คนที่เหลือ %สูงสุดของการวางบอลยาวปีนี้อยู่ที่76.1%เท่านั้นของปาร์เตย์คนเดียว คนอื่นๆที่วางบอลยาวอย่างป็อกบา หรือ เม้าท์ จ่ายสำเร็จแค่ 66%เอง

[อนึ่ง : ไม่ได้แปลว่า คาเมวิงก้าจ่ายบอลกลางกับไกลเทพสุดในโลก แต่วัดเฉพาะตัวที่เอามาเทียบ น่าจะยังมีคนอื่นที่สถิติดีกว่านี้อีก]

ส่วนบรูโน่ขวัญใจผู้เขียน ก็ไม่ต้องหยิบ%ตรงนี้มาพูดเพื่อเป็นการบูลลี่น้องน่าจะดีกว่า(ฮา) แต่ตรงนี้เห็นใจบรูโน่นิดนึงเพราะมันเป็นสไตล์การเล่นที่เขาเสี่ยงเล่นเร็ว จ่ายเร็วทันที เพื่อสร้างโอกาสให้มากที่สุดเพื่อจะมีสักบอลนึงที่ส่งให้เพื่อนหลุดเดี่ยวไปได้ อันนี้ก็แยกไว้ในฐานที่เข้าใจ และอย่าไปด่าพี่หนวดเรื่องนี้มาก

ในเรื่องของจุดเด่นเรื่องการวางบอลยาวอันนี้นั้น จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องมายกเอาสถิติเยอะแยะวุ่นวายเหล่านี้มาให้หนักกบาลเลยก็ได้ แต่เรานำfactมาเพื่อที่จะยืนยันว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะในการเช็คฟอร์มการเล่นของคาเมวิงก้าผ่านactionในสนามของเขานั้น สิ่งหนึ่งที่เห็นว่าโดดเด่นจัดๆเหมือนเป็นไม้ตายก้นหีบ ก็คือการที่เขามักจะใช้เท้าซ้ายข้างถนัดในการ "วางบอลยาว" ไปแดนหน้า หรือวางให้ตัวไกลในลักษณะของการสวิตช์บอลข้ามฝั่งก็ทำได้เช่นกัน

การเปิดบอลของเขามันเปิดบอลแบบปั่นใต้ลูกให้ติดสปินกลับหลังนิดหน่อยด้วย ลูกแบบนี้เพื่อนจะค่อนข้างเล่นง่ายมากๆ นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่%สำเร็จมันสูงก็ได้ เพราะลูกวางยาวที่เปิดมานอกจากจะแม่นและน้ำหนักดีแล้ว ยังสามารถนำไปเล่นต่อได้ง่ายดาย

สกิลการจ่ายบอลที่ดีมากๆของคาเมวิงก้า ทำให้เราค่อนข้างสบายใจว่า หากมีกองกลางตัวนี้อยู่ในทีมนั้น เขาจะจ่ายบอลสวยๆให้เพื่อนได้อย่างดีทีเดียวจากการขับเคลื่อนทีมมาทำเกมรุกในแดนหน้า

3.5 หน่วยก้านและความสามารถทางร่างกาย (Physical)

ตัวนี้ดูแล้วร่างกายดีมาก ในด้านของความแข็งแกร่งนั้นถือว่าโอเคมากๆ ในวัย18ปีสำหรับนักฟุตบอลบางคน เราจะเห็นชัดเลยว่า บางตัวนั้นจำเป็นต้อง "ใช้เวลา" ในการสร้างกล้ามเนื้อให้เต็ม ให้ร่างกายมันหนาและแกร่งพอจะรับมือเกมกลางสนามได้ แต่สำหรับคาเมวิงก้าในวัย18ปี ร่างกายตอนนี้ของเขา "พร้อมบวก" มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นมิดฟิลด์ที่ต้องเคลื่อนที่และปะทะตลอดเวลา ร่างกายสำคัญมากๆสำหรับผู้เล่นตำแหน่งนี้

คาเมวิงก้า มีร่างกายดีพอจะรับมือเกมได้ดีทีเดียว

ทั้งความแข็งแกร่งที่แม้อาจจะไม่ได้แกร่งขนาดว่าชนไม่ล้ม หรือกระแทกคนอื่นกระเด็นได้ เพราะเขาไม่ได้หนาขนาดนั้น แต่ที่เห็นๆก็คือ เลยจุดของคำว่า "ตัวบาง" แล้วอย่างแน่นอน

ด้านความแข็งแกร่ง ความฟิตของร่างกาย บาลานซ์ร่างกาย ทุกอย่างถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานที่น่าพอใจ

เมื่อนำมารวมกับ "ความเร็ว" พื้นฐานที่มีในเรื่องของสปีดต้นและความคล่องที่เร็วมากๆแล้ว ถือว่าในภาพรวมด้านPhysicalของคาเมวิงก้านั้นอยู่ในระดับที่ดีเลย

3.6 เกมรับและการสกัดบอล (Interceptions)

นี่คือจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่า นักเตะที่เล่นMezzalaแบบนี้จะมีอยู่ในตัว ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่ค่อนไปทางเป็นมิดฟิลด์สายรุกซะมากกว่า แต่คาเมวิงก้า กลับมีสกิลเกมรับพ่วงติดอยู่ในตัวด้วย นั่นก็คือการเข้าสกัดบอลนั่นเอง ซึ่งเขามีจุดเด่นตรงที่สกัดบอลได้ "แม่น" มากๆ คือเข้าแม่นที่บอล ไม่ได้เน้นเข้าหนัก แต่อ่านทางคู่แข่งได้เก่ง และกะจังหวะยื่นเท้าออกมาตัดบอลได้แม่นยำสุดๆ

อาจจะไม่ถึงขนาดวานบิสซาก้าแบบนั้น นั่นก็อวยเว่อร์ไป แต่ถามว่า สกัดดีขนาดไหน ก็ดีจนต้องมีคนทำคลิปว่า Nobody can dribble Eduardo Camavinga (ไม่มีใครเลี้ยงบอลได้ต่อหน้าคาเมวิงก้า) นั่นเอง

หัวข้อนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นในด้านเกมรับของคาเมวิงก้าที่มีติดปลายนวมไว้ ซึ่งโอเคว่าเขาไม่ใช่มิดฟิลด์ตัวรับที่ทำหน้าที่รับจ๋าๆ แต่หมอนี่เป็น CM ที่เล่นเกมรับเยอะพอสมควร เพราะสถิติบอกไว้ชัดเจนว่า ปริมาณของการเข้าTackles สูงมากๆอยู่ที่ 89 ครั้งในซีซั่นนี้ (เทียบกับกองกลางที่นำมาวัดกันอย่าง ปาร์เตย์ 41 เม้าท์ 63) และในด้านของ Interceptions ทำไปได้16ครั้ง ก็สูงกว่าป็อกบา ปาร์เตย์ บรูโน่ ที่สามารถเข้าสกัดบอลได้เยอะมากๆ มีเพียงเม้าท์เท่านั้นที่Interceptเยอะกว่า อยู่ที่30ครั้ง

แต่เมื่อรวม Tackles + Interceptions คาเมวิงก้าอยู่ที่ 105ครั้งในซีซั่นนี้ ซึ่งถือว่าปริมาณเยอะและสูงมากจริงๆในเกมรับ

เท่านั้นยังไม่พอ หากเทียบการเข้าเพรสซิ่งของคาเมวิงก้าก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อมีการเข้าเพรสถึง431ครั้งโดยรวม ถือว่าอยู่ในระดับที่เยอะมากจนน่าพอใจถึงความขยันในการเล่นกลางสนาม เป็นรองตัวเพรสหนักๆอย่างบรูโน่ กับเม้าท์ที่ 559 /516 ตามลำดับ

สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวสะท้อนที่ดีว่า นอกจากการพาบอลขึ้นหน้าแล้วนั้น เขายังเป็นมิดฟิลด์กลางสนามที่มีสกิลของเกมรับอยู่ในตัวพอสมควร โดยเฉพาะลูกการเข้าสกัดแม่นๆนี่คือเด่นมากจริงๆ

4. "จุดอ่อน"

แน่นอน นักรบย่อมมีบาดแผล ไม่มีใครที่จะเก่งเว่อร์ขนาดนั้นหรอกไม่งั้นป่านนี้ไอ้หนูนี่ค่าตัว100ล้านปอนด์ไปแล้วสิ(ฮา) จุดด้อยๆของคาเมวิงก้าก็มีให้เขียนอยู่หลายอย่างเหมือนกันดังต่อไปนี้

4.1 เท้าขวาที่ไม่ถนัด (weaker foot)

นี่คือกองกลางตีนซ้ายที่ซ้ายฉมังเอามากๆ โดยเฉพาะการเลี้ยงบอล วางบอล คอนโทรลบอลที่สุดยอดมากๆ แต่.. หากบอลเข้าขวาแล้วละก็เขาไม่ถนัดที่จะเล่นจริงๆ และมักที่จะใช้ซ้ายซะมากกว่าในจังหวะการออกเพลย์ต่างๆ ซึ่งข้อนี้ชัดเจนมากๆเพราะสถิติบ่งบอกไว้เลยว่า จากการจ่ายบอลทั้งหมด 1224 ครั้ง เขาใช้ซ้ายจ่ายทั้งหมด 1080ครั้ง และใช้ขวาเพียง "65" เท่านั้นเอง ซึ่งนั่นแปลว่า คาเมวิงก้า มีแนวโน้มที่จะเล่นด้วยเท้าหลักมากกว่าจะใช้ขวาที่ไม่ถนัดเล่น ข้อนี้อาจจะเป็นจุดอ่อนบางอย่างที่ถูกคู่แข่งปิดมุมเอาได้ง่ายๆ

อาจต้องหาทางแก้ในจุดนี้

4.2 ลูกกลางอากาศ

แน่นอนกับความสูง 182cm เขาไม่ใช่กองกลางที่ถนัดเรื่องลูกกลางอากาศเลย และก็อยู่ในระดับที่พอเล่นได้เท่านั้น แต่ถามว่าดีไหม ก็พูดตรงๆว่าไม่ดีและไม่ถนัด Aerial Duals Won แค่48.8% ชนะไม่ถึงครึ่งเวลาดวลลูกโด่ง

4.3 การเล่นจังหวะสุดท้าย

ข้อนี้ถือว่าสำคัญเอามากๆ แต่ต้องคุยกันก่อนว่า นักเตะคนนี้เป็น "มิดฟิลด์ตัวกลางขนานแท้" ซึ่งเล่นกลางจริงๆ เขาไม่ใช่ กลางรุกธรรมชาติแบบบรูโน่ ป็อกบา เพียงแต่ว่าเป็นมิดฟิลด์ที่เคลื่อนเกมขึ้นมาบุกเท่านั้นเอง

การทำเกมรุกด้วยตัวเองถือว่าน้อยมากๆ และได้โปรดว่าอย่าโดน "คลิปยูทูปหลอก" ที่เขามักจะตัดจังหวะสวยๆมาให้เราดู ซึ่งหนึ่งในซีนเหล่านั้นคือ ลูกที่ไอ้น้องมันยิงประตูกลับหลัง / กระชากไปยิงมุมแคบ / ยิงเบียดเสาเข้า สามลูกนี้แหละที่เด่นๆและโผล่มาทุกครั้งที่คุณไปดูคลิป เดี๋ยวจะกลายเป็นเทพยูทูปไปซะเปล่าๆ(ฮา)

แต่ในความเป็นจริงคือ คาเมวิงก้านั้น ลงเล่นมา 75นัดแล้ว เพิ่งทำไป "2ประตู" กับอีก "4แอสซิสต์" เท่านั้น ยิ่งซีซั่นนี้ 1เม็ด 2แอสซิสต์ หนักเข้าไปใหญ่

ฝากชวนเด็กมันให้หน่อยดิกัปตัน

เพราะฉะนั้นนี่ก็ชัดเจนว่า ผลลัพธ์ในการเล่นที่เป็น ประตู หรือแอสซิสต์ ซึ่งเป็นการเล่นใน"จังหวะสุดท้าย" ของคาเมวิงก้านั้นค่อนข้างที่จะย่ำแย่มากๆ กลัวว่าคนดูคลิปบางคนจะเข้าใจผิดว่ามันคือกลางรุกที่โคตรเก่ง

เปล่าเลย เขาคือมิดฟิลด์แท้ และไม่ได้เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกเหมือนบรูโน่ป็อกบาด้วย ดังนั้นนี่คือจุดอ่อนในตัวเขา แต่จะมาบอกว่า "ทำประตูไม่เก่งคือจุดอ่อนของคนเป็นมิดฟิลด์" มันก็ไม่แฟร์กับคาเมวิงก้าซะอีก เพราะเราก็ไม่ได้คาดหวังประตูหรือแอสซิสต์จากมิดฟิลด์กลางสนามอยู่แล้ว คล้ายๆกับการมอง "เฟร็ด" ของเรานี่แหละว่า เราหวัง "มิติเรื่องอื่น" จากเขามากกว่าเรื่องการทำประตู

ดังนั้นเราควรจะมองคาเมวิงก้าในทางเดียวกันแบบนั้น เรื่องนี้จะบอกว่าเป็นจุดอ่อนของเขาก็อาจพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะมันไม่แฟร์กับคนเล่นกองกลาง

สมราคาทีมแชมป์ตัดต่อภาพนักเตะ ก็ไม่พลาดเช่นเคย

5.การนำมาเข้าแผนกับแมนยูไนเต็ด

เรื่องของการจะซื้อตัวหมอนี่เข้ามาทีมเรานั้น ต้องบอกว่ายังมีโอกาสอยู่ เพราะยังอยู่กับสโมสรเล็กๆอย่างแรนส์ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะไปbidหมอนี่มาเพื่อแย่งกับสโมสรยักษ์รายอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่า มีโอกาสกว่าที่จะไปดึงน้องมาตอนอยู่สโมสรใหญ่แล้วซึ่งปล่อยยากมาก เพราะงั้นถ้าจะซื้อหมอนี ก็ต้องรีบๆไปซื้อมาตั้งแต่ตอนอยู่แรนส์นี่แหละ ดูจะมีลุ้นหน่อยเหมือนตอนไปฉกบรูโน่มาจากสปอร์ติ้งฯนั่นเอง

เรทราคาที่ประเมินกันเอาไว้ 60ล้านยูโร ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับสกิลปัจจุบัน และศักยภาพที่จะพัฒนาได้ในอนาคต(potential) ซึ่งเขายังสามารถไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะในฐานะกองกลางแห่งอนาคตของทีมชาติฝรั่งเศส ที่จะขึ้นมาต่อจากป็อกบาได้

เรื่องของการนำมาปรับเข้ากับแผนของยูไนเต็ดนั้น ก็ต้องบอกว่า สามารถจับมาลงได้ในหลายๆแผนเลย หรือถ้าคิดแบบง่ายสุด ง่ายมากๆก็คือ ป็อกบา"เล่นกลางสนาม"ตรงไหน ก็ให้คาเมวิงก้าเล่นตรงนั้นได้เลย

ต้องเน้นว่า มิติการเล่นกลางสนามของป็อกบา คาเมวิงก้าเล่นแทนได้หมด แถมอาจจะดีใกล้ๆกันเลยก็ได้ในพื้นที่กลางสนาม เพียงแต่ว่า หากจะดันขึ้นไปสูงกว่านั้นอาจจะทำไม่ได้ เพราะคาเมวิงก้าไม่สามารถเล่นเป็น "มิดฟิลด์ตัวรุก" ให้กับทีมเราได้ เหมือนกับที่ป็อกบาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่ง กลางรุกเบอร์8 / จอมทัพเบอร์10 หรือแม้แต่ "ตัวรุกด้านข้างหุบเข้ากลาง" ที่เป็นหน้าที่ของAdvance Playmakerนั้น คาเมวิงก้าไม่สามารถเล่นได้เลยแม้แต่ตำแหน่งเดียว

มาไล่ไปทีละแผนว่า formation ไหนที่จะซื้อCamavingaมาแล้วจับยัดลงไปได้

5.1 แผนหลัก 4-2-3-1

ในแผนหลักของโอเล่นั้น จุดที่คาเมวิงก้าเหมาะจะเล่นได้ใน 4-2-3-1 ก็คือ "คู่มิดฟิลด์ตัวกลาง" ที่เป็นdouble pivot เลข2หน้าแผงแบ็คโฟร์นั่นเอง โดยเขาจะเล่นในบทบาทของ "กองกลางตัวขับเคลื่อนเกมขึ้นหน้า" (Mezzala) โดยเป็นคนที่พาบอลขึ้นหน้า ทำเกมขึ้นไปจากพื้นที่ตรงกลาง

ดังนั้นแล้ว มิดฟิลด์อีกตัวที่เล่นคู่กับCamavingaในแผนนี้นั้น จำเป็นที่จะต้องเป็น "ตัวต่ำ" เท่านั้น จะเป็นกองกลางที่roleดันสูง หรือroamingออกจากแนวหลังไม่ได้เด็ดขาด

ไม่งั้นหลังลอย

วิธีการใช้งานที่ดูน่าจะเข้าทีที่สุด ก็คงจะเป็นการจับคู่กับตัวต่ำแท้ๆแบบ "เนมันย่า มาติช" ดูจะเข้าท่าดี เพราะคาเมวิงก้ามีความเร็วทดแทนมาติชได้ ให้น้าแกยืนต่ำไปเลย

เพียงแต่ว่า เราไม่สามารถcountมาติชเป็นตัวหลักของทีมได้อีกต่อไปแล้วเนื่องจากอายุและความสม่ำเสมอในการลงเล่น เพราะงั้นก็ต้องมาดูตัวอื่นที่มีอยู่ อย่าง แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด เป็นหลัก

ดูทรงแล้ว เหมาะมากที่จะยืนจับคู่กับ "เฟร็ด" มากที่สุด ในตำแหน่งกลางคู่ ซึ่งอยากบอกว่า มันจะลงตัวเป๊ะพอดีๆกับเฟร็ด และเหมาะกับการแก้จุดอ่อนแมนยูยุคปัจจุบันด้วย

การใช้งานกับแผนปัจจุบัน Camavinga สามารถลงกลางคู่กับเฟร็ด(หรือมาติช)ได้

เวลาเฟร็ดจับคู่กับแม็คโทมิเนย์ในยูนิต "แม็คเฟร็ด" จะเห็นเลยว่าเรามีปัญหามากๆในการเก็บบอล และพาบอลขึ้นหน้า ซึ่งจะทำให้เกมรุกไปไม่ถึงแดนหน้า เพราะสองคนนี้ไม่มีความสามารถพอจะเลี้ยงหลบตัวที่เข้ามาpressingได้ จนทำให้สุดท้ายบอลก็ไม่ขึ้นไปถึงแดนหน้า เพราะสิ่งที่แม็คเฟร็ดทำได้ดีที่สุดคือการวิ่งไล่สกรีนบอลหน้าแผงหลังเท่านั้นเอง นอกนั้นบอดเกือบหมด

หากว่าเป็น คาเมวิงก้า & เฟร็ด เราจะมีคนสกรีนเกมรับ และซัพพอร์ตบอลให้ จากนั้นคาเมวิงก้าก็จะเป็นคนที่หาทางเลี้ยงหาบอลขึ้นไปสู่นักเตะแนวรุกของทีมข้างหน้าได้ ทั้งจากการเลี้ยงหลบกินตัวที่เป็นความสามารถของเขา

และหากสังเกตดีๆ อย่างที่เกริ่นไปว่า Mezzala ของคาเมวิงก้านั้น ปกติแล้วจะเล่นในแผนกลางสามคน ที่อีกสองคนจะเป็น DLP คอยสนับสนุนและทำเกมจากแนวลึกข้างหลัง ส่วนอีกคนคือลูกหาบ Carrilero (Shuttler) ที่เป็นรถโดยสารคอยส่งข้าวส่งน้ำส่งผู้โดยสาร และส่งบอลให้กลางต่ำ/กลางรุก ในแดนกลาง

"เฟร็ด" คือนักเตะที่เล่นในหน้าที่ "กองกลางตัวลูกหาบ" ในขณะที่การยืนตำแหน่งของเฟร็ดก็สามารถยืนต่ำๆคอยซัพฯบอลจากด้านหลังเหมือนDLPได้ ดังนั้นถ้าจับคู่กับเฟร็ดในตำแหน่งคู่กลาง น่าจะดีไม่น้อยเลยเพราะเข้าแก๊ปเติมเต็มกันพอดี

อีกคนนึงที่เหลืออย่าง "แม็คโทมิเนย์" ถามว่าใช้คู่น้องแม็คไม่ได้เหรอ? มันก็ได้อยู่นะ แต่ปัญหาคือแม็คไม่ใช่กลางรับอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดถ้าดูแบบไม่ค่อยใส่ใจแทคติก เพราะเรารู้ๆกันอยู่ว่าแม็คเป็น Box to Box ที่ไม่ได้เน้นรับอย่างเดียว ดังนั้นถ้าเอาแม็คเล่นตัวต่ำคู่คาเมวิงก้าที่ดันสูง เราจะเสียมิติการเติมเกมของแม็คโทมิเนย์ไปแบบเต็มๆ

5.2 "4-3-3" แห่งความฝัน

แผนนี้อาจจะยังไม่มีทางเป็นจริงแน่นอน ตราบใดที่เรายังไม่มี "มิดฟิลด์ตัวรับ" เก่งๆที่สามารถยืนค้ำหน้ากองหลังได้คนเดียวแบบสบายๆชิลๆ

ถ้ายังไม่ซื้อเข้ามาก็เลิกพูดถึงแผนนี้ไปได้เลย

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แมนยูและโอเล่ พร้อมที่จะเล่น 4-3-3 คาเมวิงก้าก็จะแสดงศักยภาพได้สูงที่สุดทันทีกับแผน4-3-3 ในฐานะ กองกลางMezzalaตัวขับเคลื่อนเกมในแดนกลาง ที่เป็นเหมือนขุมพลังให้กับปีศาจแดงได้

ในแผน 4-3-3 นั้น คาเมวิงก้าจะยืนสูงกว่า "กลางรับ" ตัวด้านหลังขึ้นมาทางซ้าย (คล้ายๆป็อก) แต่จะยืนในระนาบเดียวกัน หรือ"ต่ำกว่ากลางรุก" ตัวข้างๆ นั่นก็คือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส นั่นเอง ถ้าเป็นแผนนี้ จะป็อกบา, คาเมวิงก้า หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ดอนนี่ ฟานเดอเบค" ก็เหมาะมากๆในการทำเกมอยู่ใกล้ๆบรูโน่

แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องย้อนกลับมาอีกครั้งว่า เราจำเป็นต้องมีกลางรับเข้ามาก่อน ถึงค่อยคุยกันได้ ดังนั้นก็ขอนำเสนอแผนในฝันไปเลยแล้วกัน กรณีที่ป็อกบาขอย้ายทีมนั้นและเราจะซื้อคาเมวิงก้ามาแทน เราควรที่จะเสริมทีมตำแหน่งอื่นๆให้ได้ดังนี้ เพื่อที่จะสร้าง "4-3-3 สมบูรณ์แบบ" ดังภาพ(มโน)ข้างล่างนี้

จะเห็นชัดเลยว่า คาเมวิงก้าจะมาอยู่ตรงไหนในแผน 4-3-3 นั่นก็คือ CM กลางสนามที่เยื้องซ้ายนิดนึง คล้ายๆป็อกบาเลยนั่นเอง โดยที่ด้านล่างในแผนนี้จะต้องมีกลางรับตัวต่ำอยู่คนนึงปักหลักเอาไว้ แต่จะเห็นได้ชัดว่า เขาจะไม่ขึ้นไปสูงเท่าบรูโน่ อย่างที่บอกไปแล้วว่า นี่ไม่ใช่กลางรุก เพราะงั้นก็จะเป็น 4-3-3 ลักษณะที่ยืนอยู่ระหว่าง กลางต่ำ กับ กลางรุก ในฐานะCentral Midfielder นั่นเองสำหรับ Eduardo Camavinga

นี่คือตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา

คนซ้ายมันจะชวนไปลอนดอนอยู่แล้ว ทำหน้าที่หน่อยคนขวาน่ะ

สรุปทั้งหมดทั้งมวลนี้นั้น รีวิวเพื่อทำความรู้จักแบบละเอียดกับนักเตะที่เชื่อว่า หลังจากนี้ในข่าวฟุตบอลต่างๆ จะต้องมีชื่อของเอดูอาร์โด้ คาเมวิงก้า ขึ้นมาอีกมากมายทีเดียวโดยเฉพาะในซัมเมอร์นี้ที่น่าจะ "ย้ายชัวร์" เพราะอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า สัญญาน้องกับแรนส์จะหมดช่วงปีหน้า เพราะงั้นถ้าไม่มีคนซื้อปีนี้ ก็ต้องแย่งกันเซ็นฟรีแล้ว ต้องดูว่าใครจะกล้าลงทุนกับหมอนี่ ในฐานะ "wonderkid" แดนกลางของทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งบอกได้เลยว่า กับวัย18ปี แต่ฝีเท้าใช้งานได้จริงขนาดนี้ ในตำแหน่งสำคัญๆอย่างตัวกลางสนาม เป็นอะไรที่น่าลงทุนมากๆ

เพียงแต่ว่า เราเองก็ยังไม่รู้ว่าป็อกบาจะอยู่หรือไป หากว่าป็อกเลือกที่จะต่อสัญญา เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตัวนี้เข้ามาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงขอรีวิวเอาไว้เป็นหนึ่งในทางเลือกของเป้าหมาย "เผื่อป็อกบาย้าย" ถ้าหากถึงตอนนั้นจริงๆ การพุ่งเป้ามาที่ตัวนี้ก็ถือว่าน่าลุ้นเป็นตัวแทนระยะยาวของป็อกได้เลย แถมยังเข้า "แก๊ปอายุน้อยร้อยล้านpotential" ที่โซลชาชอบด้วย

การเคยมีข่าวกับแมนยูไนเต็ดทำให้เรามีลุ้นอยู่บ้างเล็กน้อย แต่การแย่งหมอนี่เราต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่สุดอย่าง "เรอัลมาดริด" ที่มีภาษีดีมากๆ และทำท่าว่าจะเอาแน่ๆ นอกจากนั้น ปารีส บาเยิร์น ดอร์ทมุนด์ มิลาน ก็มีเล็งนักเตะรายนี้อยู่ ก็ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

ถือเป็นนักเตะแห่งอนาคตที่น่าจับตามองมากๆของโลกฟุตบอลอย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้ย้ายมาก็ไม่เสียหายอะไรถ้าเราจะทำความรู้จักกับดาวรุ่งดวงใหม่ที่มีแววคนนี้

มิดฟิลด์ผู้ถือครองหินพลังขับ.. Eduardo Camavinga

-ศาลาผี-

References

https://fbref.com/en/players/7b9c2d84/Eduardo-Camavinga

https://www.transfermarkt.com/eduardo-camavinga/profil/spieler/640428

https://www.football-italia.net/127534/just-what-mezzala

https://www.youtube.com/watch?v=AiKeZnf9wyI&t=531s

https://www.youtube.com/watch?v=kv_J69YGS4E

https://www.youtube.com/watch?v=tvTsNSEmdMM

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด