:::     :::

ดีทมาร์ ฮามันน์: Unsung Hero ของหงส์แดงที่หลายคนหลงลืม

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,411
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมื่อพูดถึงชื่อของกองกลางระดับตำนานที่แฟน ๆ ลิเวอร์พูล ชื่นชอบ ชื่อของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ หรือกระทั่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อาจเป็นชื่อแรก ๆ ที่เดอะ ค็อป นึกถึง

แต่คนมักจะหลงลืมชื่อนี้ไปอีกคน คนที่เป็นคีย์แมนสำคัญของค่ำคืนมหัศจรรย์แห่งอิสตันบูล

ดีทมาร์ ฮามันน์


อดีตนักเตะเยาวชนของ บาเยิร์น มิวนิค คนนี้ ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 8 ล้านปอนด์เท่านั้นในปี 1999 และเขายังเป็นนักเตะที่ถูกจารึกชื่อเอาไว้ว่าเป็นคนสุดท้ายที่ยิงประตูในสนาม เวมบลีย์ เก่า ได้อีกด้วย


ฮามันน์ เป็นนักเตะประเภทห้องเครื่องของทีมที่มีสไตล์การเล่นเรียบง่าย เนียนตา คอยยืนหน้ากองหลังเพื่อคอยปัดกวาด ตัดบอล แย่งบอล นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้โดดเด่นแบบคนอื่น ๆ ซึ่งอาจมีลีลาการเล่นหวือหวา แต่ในมุมมองของโค้ช ฮามันน์ คือคนที่โคตรจะสำคัญเลยล่ะครับ เขาเป็นหัวใจหลักของทีมมาโดยตลอด เป็น 1 ในขุนพลชุดที่คว้า 3 แชมป์ตอนปี 2001 และยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงประตู แมนเชสเตอร์ ยู​ไนเต็ด ในเกมรอบชิง ลีก คัพ ได้อีกด้วย


ฮามันน์ ยิงให้ ลิเวอร์พูล​ แค่ 11 ประตูก็จริง แต่ประตูส่วนใหญ่ที่เขาทำได้ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิกใส่ ฟูแล่ม ตอนปี 2002 ซึ่งนายทวารของเจ้าสัวน้อยในตอนนั้นคือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หรือกระทั่งประตูที่วอลเล่ย์ใส่ ชาก้า ฮิสล็อป ชนิดที่นายด่านของ พอร์ทสมัธ ได้แต่ยืนเซฟด้วยสายตาเท่านั้น




"ฮามันน์ น่าจะยิงประตูได้มากกว่านี้ ถ้าเขาเห็นแก่ตัวบ้าง เวลาเขาเห็นเพื่อนอยู่ในกรอบเขตโทษ เขาไม่เคยลังเลที่จะส่งไปให้เลยสักครั้ง แม้ตัวเขาจะยิงไกลเองได้เช่นเดียวกัน" เจมี่ คาราเกอร์ ให้สัมภาษ​ณ์กับ ลิเวอร์พูล ทีวี เมื่อถูกถามถึงรุ่นพี่คนนี้


"ในสนามซ้อมและแข่งจริง เขาคือต้นแบบที่ยอดเยี่ยม เขามีวินัยในแบบของคนเยอรมัน และวางตัวได้ดีจนทุกคนในทีมต่างเคารพเขา เวลาคุณซ้อมแล้วอยู่คนละทีมกับเขามันคืองานยากจริง ๆ ที่จะฝ่าด่านเขาเข้าไปถึงพื้นที่สุดท้าย เขาอ่านเกมเหมือนรู้ล่วงหน้าว่าบอลจะไปตกตรงไหน แถมเขายังออกบอลแทบไม่พลาดเลย"


1 ในเกมที่ทำให้ชื่อของ ฮามันน์ เข้าไปอยู่ในหัวใจของเดอะ ค็อป อย่างเต็มหัวใจทุกห้องก็คือเกมกับ เอซี มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005


เกมนั้น ราฟา เบนิเตซ พักเขาไว้เป็นสำรอง เนื่องจากเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ แต่ในเมื่อ ลิเวอร์พูล​ จบครึ่งแรกแล้วตามหลังไกลถึง 3-0 ในช่วงพักครึ่งจึงจำเป็นต้องปรับแผนและเรียกใช้งานเขาทันที


"จุดเปลี่ยนของเกมนั้นคือการที่ ลิเวอร์พูล ส่ง ฮามันน์ ลงสนาม" เอร์นัน เครสโป ดาวยิงของ มิลาน เผยถึงเหตุการณ์วันนั้น


จริงอย่างที่ เครสโป ว่าไม่มีผิด ฮามันน์ที่ลงมาแทน สตีฟ ฟินแนน และยืนปัดกวาดหน้ากองหลังคู่กับ ชาบี อลอนโซ่ โดยที่เขาปล่อยให้ ชาบี เติมเกมสูงกว่าเขา และทำให้ เจอร์ราร์ด เล่นเกมรุกได้อิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องพะวงอะไรเมื่อมี ฮามันน์ อยู่เป็นแบ็คอัพให้


เกมของ ลิเวอร์พูล ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฮามันน์ บัญชาการเกมตรงกลางอย่างเหนือชั้น เขาสกัดกั้นเกมรุก มิลาน ได้หมดจด ทำให้ กาก้า เคลื่อนตัวลำบาก ทำให้ เชฟเชนโก้ หาโอกาสยิงยากเพราะบอลถูกตัดก่อนจะถึงตีน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะสร้างปาฏิหารย์ยิง 3 ลูก ไล่ตามตีเสมออย่างเหลือเชื่อ หลังจาก ฮามันน์ ลงมาอยู่ในสนามเพียงแค่ 15 นาที


เกมยืดเยื้อไปถึงช่วงดวลจุดโทษ และ ฮามันน์ ก็รับหน้าที่เป็นคนยิงจุดโทษคนแรกของทีม


"ตอนนั้น ราฟา เดินมาบอกผมให้ยิงจุดโทษ ผมก็ตอบตกลง แม้ในใจยังพะวงนิด ๆ เพราะเคยยิงมาแค่ 2 ครั้ง และพลาดมาแล้วในลีก คัพ นัดเจอ เบอร์มิงแฮม" ฮามันน์ เล่าถึงเกมในวันนั้น


"สักพัก ราฟา เดินมาหาผมอีกครั้งแล้วบอกว่า -​นายยิงคนแรกนะ- ผมมองไปที่พวก มิลาน เห็นพวกเขากำลังอยู่ในสภาพจิตใจที่ไม่ค่อยดี ผมเลยตอบตกลง และคิดเสมอว่าหากผมยิงเข้าคนแรก จะช่วยให้คนที่เหลือยิงด้วยความมั่นใจมากขึ้น"


ซึ่ง ฮามันน์ ก็ไม่พลาดจริง ๆ ครับ เขาบรรจงกดจุดโทษเข้าไปอย่างเลือดเย็นสมกับเป็นแข้งชาวเยอรมัน ทว่า เรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ฮามันน์ กระดูกเท้าขวาแตกตั้งแต่ในเวลาปกติแล้ว และฝืนเล่นทั้งที่เจ็บมาโดยตลอด


"ผมไม่อยากบอกใคร เพราะโมเมนตัมทีมเรากำลังเป็นไปได้สวย และไม่อยากให้พวก มิลาน รู้ด้วยว่าฝั่งเรามีคนเจ็บอีก มันเป็นเรื่องของขวัญกำลังใจด้วย" 


จบเกมนัดประวัติศาสตร์นี้ ฮามันน์ ต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาอาการบาดเจ็บนั้นยาวเลยทีเดียว




ฮามันน์ ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล หลังการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2006 ซึ่งเขาเป็นคนยิงจุดโทษคนแรกเหมือนเดิม พร้อมทิ้งความทรงจำไว้ที่ แอนฟิลด์ ด้วยผลงาน 11 ประตู 22 แอสซิสต์ 9 แชมป์ จาก 283 นัด


"เขาคือคนที่คอยสนับสนุนผมอยู่ข้างหลังเสมอมา เขาใจกว้าง และคอยช่วยทำให้งานของผมง่ายขึ้น" เจอร์ราร์ด กล่าวยกย่อง "เขาคือ 1 ในกองกลางที่เก่งที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย"


ดีทมาร์ ฮามันน์ คว้าแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ได้มากถึง 9 รายการจากการอยู่กับทีม 7 ปี โดยได้เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อย่างละ 2 ครั้ง พ่วงด้วย คอมมิวนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกอย่างละครั้ง และถึงแม้เขาจะไม่ใช่สตาร์ดังในทีมแบบคนอื่น ๆ ทว่า ฮามันน์ คือแข้งเยอรมันที่โคตรจะสำคัญและเป็น Unsung Hero ของ ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นยุคมิลเลนเนียมที่แฟนบอลหลายคนหลงลืมอย่างแท้จริง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด