จัสติน ไคลเวิร์ต ได้รับการยกย่องจากหลายคนว่าเป็นหนึ่งในแข้งอัจฉริยะที่โลกจะได้เห็น
ในเกมนัดรองสุดท้ายของ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ กองหน้าชาวดัตช์คอนโทรลบอลยาวจาก มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วดึงหลอก เควิน เอ็มบาบู กองหลัง โวล์ฟสบวร์ก จนล้มหลักหัก ก่อนจะซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย
หนึ่งสัปดาห์ถัดมากับ อูนิโอน เบอร์ลิน ไคลเวิร์ต ก็พังประตูได้อีกครั้ง โดยรับบอลทะลุจาก คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ก่อนจะแตะหลบผู้รักษาประตู และยิงเข้าไปซุกก้นตาข่ายที่ว่างเปล่า
แม้จะเป็นการจบฤดูกาลอย่างแข็งแกร่ง แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังเป็นปีที่น่าผิดหวังในการถูกยืมตัวมาเล่นในบุนเดสลีกา ของดาวเตะวัย 22 ปี
จากการลงสนามไป 27 นัดให้ ไลป์ซิก ไคลเวิร์ต ทำได้เพียง 4 ประตู และแอสซิสต์อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
3 ปี หลังจากได้ชื่อว่าเป็นนักเตะทีนเอจที่ดีที่สุดในโลกจาก NXGN อาชีพของเขาก็ถือว่าอยู่บนทางแยก
การย้ายไป ไลป์ซิก ของเขาแบบยืมตัวดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากทีมลุ้นแชมป์ลีกเยอรมันนั้นต้องการตัวรุกมาอุดช่องว่างที่ ทิโม แวร์เนอร์ ทิ้งเอาไว้ ในขณะที่ ไคลเวิร์ต ก็จะได้โอกาสเรียนรู้ภายใต้การทำงานของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ที่้เขาเคยเกือบจะได้ร่วมงานด้วยมาแล้วในปี 2019
"จริงๆ แล้วผมมาที่นี่เมื่อสองปีก่อนแล้ว และมองไปยังสนามซ้อม" ไคลเวิร์ต กล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021
"ผมไม่สามารถพูดได้ว่าทำไมสุดท้ายแล้วผมจึงไม่ได้มาที่นี่ในตอนนั้น"
"ผมมีความสุขมาก (ที่ได้มาที่นี่ในตอนนี้) ระดับการเล่นนั้นสูงมาก เราได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก และอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของบุนเดสลีกา"
"นี่เป็นเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเตะอายุน้อยอย่างผม"
มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีกว่าตอน ไคลเวิร์ต อยู่กับสโมสรแม่ของเขาอย่าง โรม่า ซึ่งอาชีพของเขาต้องหยุดชะงักด้วยอาการบาดเจ็บ และฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจ
ไคลเวิร์ต เล่นครบ 90 นาทีเพียง 7 เกมเท่านั้นในเซเรีย อา ฤดูกาล 2019-20 โดยทำได้ประตู 2 ประตู ในซีซั่นแรกของเขาที่สตาดิโอ โอลิมปิโก
แพทริก ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้า บาร์เซโลน่า และทีมชาติฮอลแลนด์ พ่อของเขาเคยเตือนเขาเรื่องการย้ายไปยังทีมเมืองหลวงของอิตาลีไปแล้วในระหว่างซัมเมอร์ ปี 2018
ตอนนั้น ไคลเวิร์ต จูเนียร์ กำลังจะย้ายออกจาก อาแจ็กซ์ ที่ซึ่งเขาถูกยกย่องโดย NXGN เขาทำไป 11 ประตู และทำไป 5 แอสซิสต์รวมทุกรายการ และแม้จะมีสโมสรชั้นนำในยุโรปแสดงความสนใจเขามากมาย แต่คำแนะนำที่เขาได้รับจากพ่อก็คือการอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัมต่อไป
"ที่สุดแล้ว พ่อของผมก็แค่ต้องการสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับผม"
"ในความเห็นของเขา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมก็คือการอยู่ที่ อาแจ็กซ์ ต่อไปอีกปี"
"การฟังสิ่งที่พ่อแม่คิดเป็นสิ่งสำคัญ แต่การฟังตัวเองก็สำคัญเช่นกัน"
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ขั้นตอนที่เขาย้ายไปยังพลพรรค จัลโล่รอสซี่ ถือสิ่งที่ถูกต้องในเวลานั้น
และพอมองย้อนกลับไป? "จากมุมมองของผม การย้ายครั้งนี้มีประโยชน์มาก ผมมีช่วงเวลาดีๆ มากมายที่ โรม่า แต่ผมก็ต้องเหมือนปีนเขาด้วยในบางครั้ง ผมไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้มาก่อน"
"หลายปีที่ อาแจ็กซ์ ผมมีประสบการณ์แค่ในด้านบวก การเผชิญหน้ากับอุปสรรคเป็นครั้งแรกทำให้ผมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นการดีที่จะสังเกตุว่าเส้นทางค้าแข้งนั้นไม่ใช่ว่าจะอยู่ในขั้นที่สูงเสมอไป แต่ก็ยังมีช่วงตกด้วยเช่นกัน"
แต่การเปลี่ยนแปลงในปีที่ผ่านมาของ ไคลเวิร์ต ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างออกไป เขาไม่สามารถโน้มน้าวใจให้ นาเกลส์มันน์ มองเห็นถึงพรสวรรค์ของเขาได้อย่างเหมาะสม เขาได้เป็นตัวจริงเกมลีกแค่ 8 นัดเท่านั้นให้กับ ไลป์ซิก และจากมาถึงในช่วงต้นเดือนตุลาคม
ตามสถิติจาก อ็อปต้า อดีตวันเดอร์คิดรายนี้ทำประตูได้เพียง 1 ใน 3 จากโอกาสทอง ในขณะที่ระดับความฟิตของเขาก็ยังเป็นที่สงสัย
"มีช่วงที่เราเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เราได้เห็น ไคลเวิร์ต ที่เราหวังเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาต้องหายไปอีกครั้ง" นาเกลส์มันน์ กล่าว
"ผมได้เห็นเขาซ้อมน้อยมาก นั่นก็เป็นปัญหาเช่นกัน เขาต้องมีความมั่นคงมากกว่านี้ เมื่อคำนึงถึงเรื่องร่างกายของเขา"
ด้วยอาการบาดเจ็บที่น่องในช่วงเปลี่ยนปีไม่ได้ช่วยอะไร ไคลเวิร์ต แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อจบซีซั่น นาเกลส์มันน์ ได้เห็นเพียงพอแล้วที่จะแนะนำว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นสำคัญของเกมรุก
นั่นคือคำพูดของเทรนเนอร์วัย 33 ปี ที่ย้ายไปยังถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า กับโอกาสที่ ไคลเวิร์ต จะได้อยู่ ไลป์ซิก ต่อไปในฤดูกาลหน้า
"ใช่ ผมนึกภาพออก แต่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ไม่ใช่ของผมคนเดียว" ไคลเวิร์ต กล่าวเมื่อถูกถามเรื่องการที่จะได้อยู่ต่อเมื่อจบซีซั่น 2020-21
เขาย้ำประเด็นในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดัตช์ อัลเกมีน ดักบลัด ในเดือนเมษายนว่า "ผมรู้สึกดีกับที่นี่ ไม่ว่าผมจะอยากอยู่ต่อไปหรือไม่"
ตามรายงานจาก คิกเกอร์ ระบุว่า ไลป์ซิก จำเป็นต้องจ่ายเงิน 12 ล้านยูโร (10 ล้านปอนด์) เพื่อทำข้อตกลงถาวร แต่ก็ต้องรอดูก่อนว่านายใหญ่คนใหม่อย่าง เจสซี่ มาร์ช ต้องการเขาในแผนหรือไม่
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม มันก็เป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังของ ไคลเวิร์ต จริงๆ
พาสต้า
