มิดฟิลด์เนื้อหอมได้ฉลองอย่างสนุกสนานกับการคุมจังหวะ และเข้าปะทะในเวทียูโร 2020 ในขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงสถานะของบเขาว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกกับความสนใจในตัวเขา

    ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต่างเป็นที่รู้กันดีว่ามีความกระตือรือร้นที่จะคว้าดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้มากแค่ไหน และเมื่อไม่นานมานี้ทั้งสองสโมสรก็ได้รับแรงหนุนจากการที่ ไรซ์ ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่ในถิ่นลอนดอน สเตเดี้ยม

    มีการเปิดเผยออกมาเหมือนกันว่า ไรซ์ เองก็กระสันอยากจะไปพิสูจน์ตัวเองในแชมเปี้ยนส์ลีก และการตัดสินใจของเขาที่บอกปัดข้อตกลงใหม่ได้ส่งข้อความที่ชัดเจนว่าเขาอาจต้องการหาความท้าทายใหม่

    นั่นเป็นผลให้สองทีมจาก 'บิ๊กซิกซ์' อาจตัดสินใจที่จะเคาะประตู และทดสอบความอดทนของ เดอะ แฮมเมอร์ส แม้ว่าการบรรลุข้อตกลงกับ ไรซ์ ดูจะเป็นไปได้ยากมากในเวลานี้

    ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากสัญญาของ ไรซ์ ที่ยังเหลืออีกนาน 3 ปี และยังมีอ็อปชั่นสำหรับอีกปีแบบอัตโนมัติด้วย เวสต์แฮม อยากที่จะผูกมัดเขากับเงื่อนไขใหม่ที่หมายถึงเงินจำนวนมาก และปัดเป่าความสนใจจากทีมอื่น

    แต่เมื่อ ไรซ์ เกิดลังเล ประตูนั้นก็ยังแง้มไว้ และเขาก็ค่อนข้างที่จะเลือกได้ตามชอบใจ

    ต่อกรณีดังกล่าว เราจึงได้พิจารณาถึงจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้ของ ไรซ์ และศึกษาว่าเขาควรจะอยู่นิ่งๆ หรือทำอะไรสักอย่างหรือไม่

    แมนฯ ยูไนเต็ด

    ไม่ใช่ความลับเลยเรื่องที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหามิดฟิลด์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ และ ไรซ์ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ

    ปัญหาก็คือพวกเขาจะยังมีกำลังจ่ายหนักอีกหรือไม่ หลังจากทุ่ม 73 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว เจดอน ซานโช่ มาแล้ว และยังเริ่มการเจรจากับ ราฟาแอล วาราน ของ เรอัล มาดริด อีก

    แต่ถ้าข้อตกลงเป็นไปได้ ความทะเยอทะยานของ ผีแดง ในการปลดล็อก ปอล ป็อกบา ในที่สุดก็อาจเกิดขึ้นได้ ไรซ์ จะเข้ามาสนับสนุนทั้งเขา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อย่างสมบูรณ์แบบ

    ด้วยการเล่นบอลง่าย, ความกล้าหาญ และหัวจิตหัวใจ ไรซ์ มีจุดเด่นทั้งหมดที่จะเป็นมิดฟิลด์ ยูไนเต็ด

    เขาจะดีกว่า เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และกระทั่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค โดยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ชอบที่จะเล่นแบบมิดฟิลด์ 2 คนตรงกลาง

    นอกจากนี้ โปรเจ็คท์ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานภายใต้การคุมทีมของ โซลชา อาจช่วยดึงดูด ไรซ์ ให้ไปยังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตอนนี้รากฐานของพวกเขาเริ่มมั่นคงแล้วหลังผ่าน 2 ปีที่ทุลักทุเล

    ขณะเดียวกัน ยูไนเต็ด ก็จะเสนอความสำเร็จได้มากกว่า เวสต์แฮม ในแง่ของโอกาสคว้าถ้วยรางวัลด้วย

    การสวมเสื้อสีแดงอันศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นไฮไลท์ของนักเตะอาชีพส่วนใหญ่ และหสกพวกเขาโทรมา มันอาจเป็นโอกาสที่ดีเกินกว่า ไรซ์ จะปฏิเสธ

    ผีแดง อาจเสนอข้อตกลงแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยให้การเจรจากับ ขุนค้อน ราบรื่อ ซึ่งอาจมี เจสซี่ ลินการ์ด เข้ามาเกี่ยวข้อง

    ลินการ์ด มีความสุขกับการเล่นกับ เวสต์แฮม แบบยืมตัว เมื่อครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้ว และ เดวิด มอยส์ ก็ชัดเจนว่าต้องการเซ็นสัญญากับเขาอีกครั้ง ดังนั้นการประนีประนอมอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจ

    ตามรายงานจาก เดอะ การ์เดี้ยน ผู้เล่นของ ยูไนเต็ด บางคนในทีมชาติอังกฤษได้คุยกับ ไรซ์ ถึงเรื่องชีวิตที่สโมสร ซึ่งหมายความว่านี่อาจเป็นเรื่องราวที่น่าจับตามอง

    เชลซี

    ไรซ์ ถูกลอยแพจาก เชลซี เมื่อตอนอายุ 14 ปี และเชื่อกันว่าประตูที่จะคืนกับสโมสรวัยเด็กของเขาเปิดกว้างแล้วในอีกเกือบทศวรรษ

    โบนัสเพิ่มเติมหาก ไรซ์ เลือกที่จะย้ายกลับไปยังถิ่นสแตมฟอร์ด บริจด์ ก็คือเขาจะได้เล่นร่วมกับ เมสัน เมาท์ เพื่อนสนิทที่สุดขอเขา

    และเมื่อ โธมัส ทูเคิ่ล เลือก ไรซ์ เป็นเป้าหมายในซัมเมอร์นี้ ข้อตกลงมันก็ดูจะสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน

    ที่สโมสรมีที่ว่างสำหรับ ไรซ์ อย่างไม่ต้องสงสัย โดย บิลลี่ กิลมอร์ ถูกปล่อยไปให้ นอริช ยืมตัวแล้ว และพวกเขาก็ต้องการกำลังเสริมระดับสูงในตำแหน่งนั้น

    สิ่งที่ เชลซี สามารถมอบให้มากกว่า ยูไนเต็ด ก็คือการคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่กว่า หลังจากที่พวกเขาเพิ่งได้ชูถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    ดูเหมือนว่าะพวกเขาพร้อมที่จะผลักดันแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างเต็มรูปแบบในตอนนี้ และบรรดาเกจิก็พากันแย้งว่าพวกเขามีสถานะดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในการท้าชิงชัยกับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2021-22

    ด้วยเงินที่มีให้ใช้สอย หมายความว่าราคาของ ไรซ์ อาจจะต้องมากกว่าเดิมเล็กน้อยหากเป็น เชลซี

    นอกจากนี้ เขายังรับประกันตัวจริงกับ เชลซี เช่นเดียวกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็จะมีเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนที่พร้อมจะก้าวเข้ามาหากเขาฟอร์มตก

    เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับของสโมสรอยู่แล้ว แต่ ไรซ์ ได้พิสูจน์ความยืดหยุ่นของเขาแล้ว ซึ่งจะกลายเป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้ในฤดูกาลหน้า

    นี่อาจเป็นความฝันของ ไรซ์ ด้วยก็ได้ เนื่องจากเป็นโอกาสที่เขาจะได้กลับมาเหยียบที่เก่า และแสดงให้เห็นว่าเขาพัฒนาขึ้นอย่างไรนับตั้งแต่จากไปเมื่อกลายปีก่อน

    เวสต์แฮม

    ไรซ์ เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับ เวสต์แฮม เมื่อปี 2015 และในปีต่อๆ มาเขาก็เติบโตขึ้นจนตอนนี้กลายเป็นกัปตันทีมในตอนที่ มาร์ค โนเบิ้ล ไม่ได้อยู่ในสนาม

    ความหลงใหล และความรักอันแท้จริงของเขาที่มีต่อสโมสรนั้นชัดเจน และได้แสดงให้เห็นด้วยการฉลองสแบบบ้าคลั่งไม่ว่าจะทำประตู หรือทีมได้ชัยชนะ

    และความรู้สึกร่วมก็คือ เวสต์แฮม เองก็ชื่นชมเขามาก มากจนพวกเขาตัดสินใจเสนอข้อตกลงใหม่ระยะยาวที่ทำให้เขาร่ำรวย

    เป็นที่เข้าใจว่า พวกเขาอยากให้ ไรซ์ อยู่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับความก้าวหน้าของพวกเขาในอนาคต

    มันเป็นสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ ไรซ์ กองเชียร์รักเขา เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มความสามารถ และ มอยส์ ก็ทำงานได้อย่างมหัศจรรย์นับตั้งแต่กลับมาคุมทีมเป็นครั้งที่สอง

    แต่เขาก็อาจต้องก้าวไปอีกขั้นตอนในอาชีพค้าแข้ง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะปักหลักกับ เวสต์แฮม แม้ว่าตอนนี้สโมสรจะได้ไปเล่นยูโรปา ลีก

    หากพวกเขาสามารถต่อยอดฟอร์มขาขึ้นได้ต่อเนื่อง ไรซ์ อาจจะพบกับความท้าทายใหม่ และนั่นอาจเพียงพอที่จะโน้มน้าวใจให้เขาอยู่ต่อ

    เนื่องจากสถานการณ์ในสัญญาของเขา เวสต์แฮม ยังถือไพ่ทั้งหมด และจะไม่เร่งรีบที่จะปล่อยเขาออกไป

    โชคดีด้วยที่มันไม่มีสัญญาณงอแงอะไรที่ชัดเจนจาก ไรซ์ ในตอนนี้ และในขณะที่เขายังคงสร้างความประทับใจให้กับชาวโลกผ่านเครื่องแบบ ทรี ไลออนส์ สโมสรของเขาก็สามารถภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาได้

    พาสต้า