:::     :::

จอมทัพหมายเลข 10 คนใหม่แห่งเอมิเรตส์

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในวัยย่าง 21 ปี เอมิล สมิธ โรว์ ลงหลักปักฐานกับ อาร์เซน่อล อย่างจริงจังมากขึ้นด้วยการต่อสัญญาระยะยาวพร้อมรับภาระอันยิ่งใหญ่กับเสื้อหมายเลขที่สำคัญสุดในทีม

อาร์เซน่อล ประกาศยืนยันข่าวที่แฟนบอล "ปืนใหญ่" รอคอยนั่นคือการต่อสัญญาฉบับใหม่ของ เอมิล สมิธ โรว์ ที่ตัดสินใจฝากอนาคตกับทีมยาวถึงปี 2026 พร้อมกับเปลี่ยนจากเสื้อหมายเลข 32 มาเป็นหมายเลขตำนานอย่างหมายเลข "10" 

สมิธ โรว์ เป็นเด็กสร้างจากรั้วยาวชนของ อาร์เซน่อล โดยตรง เขาอยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนได้โอกาสประเดิมชุดใหญ่ในเกมปรีซีซั่นที่สิงคโปร์เมื่อปี 2018 ในยุคเริ่มต้นของ อูไน เอเมรี่ 

ในวัย 19 ปี สมิธ โรว์ ลงเล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปลายปี 2019 แต่จุดเปลี่ยนจริงๆ ที่ทำให้กลายเป็นตัวหลักของทีมคืออีกหนึ่งปีถัดมาในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ที่ลงตัวจริงเกมลีกครั้งแรกพบ เชลซี 

  ผลงานของ สมิธ โรว์ ในวันนั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ มิเกล อาร์เตต้า จนถึงปัจจุบันซึ่งหากนับเวลาจริงๆ แล้วคือช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลล่าสุด แต่นั่นก็มากพอสำหรับการทำให้ทุกคนเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้คืออีกหนึ่งอนาคตที่สโมสรต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งตัวให้อยู่กับทีมต่อไป

ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ไล่ต่อสัญญากลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งดาวรุ่งของสโมสรหลายคนได้สำเร็จไม่ว่าจะเป็น บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, โฟลาริน บาโลกุน หรือกระทั่ง คีแรน เทียร์นีย์ ที่เพิ่งอายุครบ 24 ปีในช่วงยูโร 2020 ที่ผ่านมานี้เอง

และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ถึงคิวของ เอมิล สมิธ โรว์ อีกหนึ่งผลผลิตอันน่าภาคภูมิใจจากศูนย์ฝึกเยาวชน "เฮล เอนด์"  

"ความฝันของผมคือกลายเป็นตำนานของที่นี่ ผมมองเห็นตัวเองกลายเป็น 'วันคลับแมน' หากทุกอย่างออกมาราบรื่น" สมิธ โรว์ เคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ และความรู้สึกหลังการเซ็นสัญญาระยะยาวก็ไม่เปลี่ยนแปลง 

"แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ผมเคยพูดเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์และหมายความแบบนั้นจริงๆ ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้ลงเล่นให้สุดยอดสโมสรแห่งนี้และเราจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น"

"การเซ็นสัญญามีความหมายกับผมมากๆ ผมเฝ้ารอคอยในสิ่งนี้ และการได้เล่นให้สโมสรก็มีความหมายกับผมมาก ผมมีความสุขทีเดียว" 

"ผมรู้สึกว่าผมไม่จำเป็นต้องคิดให้มากเลยอะไรเลยนะ คุณก็รู้ดี ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ดังนั้นสำหรับผมแล้วก็เป็นเพียงการได้เล่นให้สโมสรแห่งนี้ต่อไป อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมมีความสุขจริงๆ"


เอมิล สมิธ โรว์ คือตัวอย่างสำหรับที่ดีสำหรับเยาวชนที่ไต่เต้าจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้สำเร็จซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน 

"มันเป็นการเดินทางอันบ้าคลั่งทีเดียว อย่างที่ผมบอกผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ผ่านระดับต่างๆ ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมมากมายและลุยมาตลอดเส้นทาง การได้จรดปากกาต่อสัญญาระยะยาวคือสิ่งที่ผมรอคอยมาตลอด"

"ผมรู้สึกจริงๆ ว่าเป็นการเดินทางที่มีช่วงเวลาทั้งขึ้นและลง มีช่วงเวลาแย่ๆ ด้วยอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง แต่ขณะเดียวกันผมก็รู้สึกเหมือนว่าได้ประสบการณ์มากมายทั้งการถูกปล่อยยืมตัวและอื่นๆ แน่นอนว่ามันไม่ง่าย แต่ผมก็มีความสุขจริงๆ ที่ได้ฝากอนาคตเอาไว้กับ อาร์เซน่อล"

ในฤดูกาลแรกกับทีม 2018/19 สมิธ โรว์ ยังไม่ได้โอกาสมากนัก ทำให้ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลเขาถูกปล่อยไปให้ แอร์เบ ไลป์ซิก ยอดทีมของบุนเดสลีกา ยืมใช้งาน ทว่าก็ได้โอกาสลงสนามเพียง 3 นัดเพราะเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน 

จากนั้นฤดูกาลต่อมา สมิธ โรว์ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เต็มๆ กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพด้วยการลงเล่นไป 19 นัด ทำได้ 2 ประตู ก่อนกลับคืนสู่ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลล่าสุดและแจ้งเกิดกับทีมได้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล และแน่นอนว่าฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่เขาถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น 

"ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้พยายามต้องปรับตัวเองเพื่อความท้าทายใดๆ ข้างหน้า ผมเพียงพยายามเดินหน้าไปแบบเกมต่อเกมและดูว่าเป็นอย่างไร ผมไม่ต้องการทำให้ตัวเองกดดันเกินไป แต่ผมมั่นใจว่าจะเป็นฤดูกาลที่สำคัญสำหรับผมและของทีมด้วย"   

"ผู้จัดการทีมต้องการให้ผมยิงประตูได้มากขึ้น ผมคิดว่านั่นสำคัญสำหรับตำแหน่งที่ผมลงเล่นนะ ดังนั้นผมจะต้องพยายามยิงประตูและสร้างโอกาสเพื่อทีมให้มากขึ้น ผมคิดว่านั้่นจะช่วยเราได้อย่างมาก และเป็นสิ่งที่ผมต้องโฟกัสให้มากในการฝึกซ้อมเช่นกัน"

ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า กล่าวถึงการต่อสัญญาครั้งนี้ว่า "ผมคิดว่าเขาคู่ควรกับสัญญาใหม่อย่างแท้จริงๆ เขาคู่ควรกับทุกอย่างที่จะอยู่ในจุดซึ่งสโมสรต้องคิดถึงการตอบแทนในสิ่งที่เขาทำและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อสโมสรแห่งนี้"

"เราต้องการและผมก็ต้องการนักเตะที่มีพรสวรรค์ หิวกระหาย ลงเล่นด้วยความทะเยอะทะยานที่ยิ่งใหญ่ซึ่ง เอมิล มีครบทุกอย่าง" 

"ถ้าเป็นแบบนั้น การที่คุณได้แสดงถึงความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน คุณภาพ และพรสวรรค์ออกมาในทุกวัน คุณก็อยู่ในสโมสรที่ใช่และในเวลาที่ถูกต้อง และผมคิดว่า เอมิล ก็รู้สึกแบบเดียวกัน"


นับตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมา ดาวดังของสโมสรหลายคนต่างเคยสวมใส่หมายเลข 10 ลงสนามไม่ว่าจะเป็น เดนนิส เบิร์กแคมป์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, แจ็ค วิลเชียร์ และ เมซุต โอซิล 

การที่ เอมิล สมิธ โรว์ ในวัยย่าง 21 ปีหาญกล้าใส่หมายเลขนี้ย่อมบ่งบอกถึงคุณสมบัติพิเศษที่ มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับและกุนซือชาวสแปนิชก็เปิดเผยลูกทีมเป็นร้องขอหมายเลขนี้เอง 

"เขาขอหมายเลข 10 เองเลย นั่นแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่น ผมชอบนักเตะที่พร้อมทำมากกว่าในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้หากว่าพวกเขาเชื่อว่าทำได้ ไม่มีข้อจำกัดกับมัน ตอนที่เขาถามผมและสโมมสรว่าเขาอยากได้หมายเลขนี้ ผมก็ตอบตกลง เอาเลย"

"เขาไม่ได้พูดมาก เราปรึกษากันและเขารู้ถึงความสำคัญดี เขารู้สึกว่าพร้อมแล้วและหากเขารู้สึกแบบนั้น ผมก็พร้อมผลักดันเพื่อให้เขาได้สบายใจและมีความสุขในสิ่งที่่เขาต้องการทำ"

ขณะที่สมิธ โรว์ กล่าวถึงการเลือกหมายเลข 10 ของตัวเองว่า "ทุกคนรู้ว่าหมายเลข 10 คือเสื้อที่ยิ่งใหญ่และเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากด้วย เอาตามตรงผมตื่นเต้นมากๆ นะ ผมแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะใส่ลงสนามแล้ว"

"มันพิเศษจริงๆ ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้หรอกนะ ผมไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบายได้ถูกต้องในตอนนี้ แต่เอาเป็นว่าผมมีความสุขมากๆ"

"ตำนานหลายคนที่เคยลงเล่นที่นี่ต่างเคยสวมใส่ มันก็ตื่นเต้นอยู่นิดๆ ในตอนนี้ แต่ผมมั่นใจว่าอีกสักพักจะสงบลงได้" 

"ตอนผมเด็กกว่านี้ ผมเคยเฝ้าดู เดนนิส เบิร์กแคมป์ และตอนที่ผมอยู่ในอคาเดมี่ เมซุต โอซิล ก็อยู่ที่นี่แล้ว การได้โอกาสซ้อมและลงเล่นร่วมกับเขานั้นเหลือเชื่อเลย ผมเพียงอยากทำงานให้หนักต่อไปและหวังว่าผมจะสามารถเล่นให้ได้เหมือนพวกเขาและตามรอยในสิ่งที่พวกเขาเคยทำเอาไว้"

ท้ายสุด ผลผลิตจากศูนย์ฝึกเฮล เอนด์ กล่าวถึงความรู้สึกที่จะได้สวมเสื้อตัวนี้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

"คงต้องมหัศจรรย์แน่ๆ ผมอดใจรอไม่ไหวแล้ว ผมจะไม่คิดมากเกินไปนะ ผมเพียงรอเวลาและเราจะได้เห็นกัน"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด