โดยนักเตะคนนั้นคือ “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กองกลางดาวรุ่งของ “ชลบุรี เอฟซี” ที่ย้ายไปร่วมทีม “เอดี อูนิอ้น อดาร์เบ้” ในระดับลีกา 4 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี

แน่นอนว่าการไปเล่นฟุตบอลระดับอาชีพบนแดนกระทิงดุครั้งแรกของ “หนึ่ง” ไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะมีเงาตามตัวที่ชื่อ “ภูมิ” ภาคภูมิ โพธิเวชกุล คอยดูแลอย่างใกล้ชิด แล้ว “ภูมิ” เป็นใครมาจากไหน ในคอลัมน์นี้ เราจะไปติดตามเรื่องราวของเขา พร้อมกับมุมมองของฟุตบอลสเปน ที่น่าจะเป็นข้อมูลให้คอบอลไทย ได้เห็นภาพกว้างของเวทีทดสอบฝีเท้า “เจ้าหนึ่ง” มากขึ้น  

แมน : ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยครับ 

ภูมิ :  ผมชื่อ ภาคภูมิ โพธิเวชกุล ชื่อเล่นชื่อ ภูมิ ครับ รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้โอกาสมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ 

แมน :  ภูมิเข้ามาในวงการฟุตบอลอย่างไรครับ เชียร์ทีมไหนมาก่อน

ภูมิ : จุดเริ่มต้นผมเชียร์ เทโร ครับ ส่วนต่างประเทศผมเชียร์ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ แชมป์ยุโรป 6 สมัย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 

ส่วนในการทำงานในวงการฟุตบอลไทย เริ่มที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเวลากว่า 3 ปี ครึ่ง ได้มีโอกาสทำงานรับใช้ทีมชาติไทย โดยผมเคยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำทีมชาติไทยมาแล้วทุกชุด ตั้งแต่ทีมชาติไทย รุ่น U-13,U-14,U-19,U-22,U-23 ชุดแชมป์ซีเกมส์ปี 2017 ณ ประเทศมาเลเซีย และทีมชาติไทย ชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

รวมถึงได้มีโอกาสเข้าศึกษาหลักสูตรการบริหารจัดการฟุตบอลอาชีพกับทางสหพันธ์ฟุตบอลแห่งทวีปเอเชีย (เอเอฟซี) และอบรมหลักสูตรโค้ชฟุตบอลระดับเบื้องต้น(Introductory coaching course) กับสมาคมฯ  

ซึ่งทั้งหมดคือจุดเริ่มต้นในการทำงานในวงการฟุตบอลของผม ต้องขอขอบคุณทางสมาคมฯ ที่ให้โอกาสในการเข้าทำงานและช่วยให้ผมมีประสบการณ์ที่ดีมากมายในโลกฟุตบอลมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

แมน :  ปัจจุบัน ภูมิ ทำงานอะไรอยู่ครับ 

ภูมิ : ปัจจุบันผมทำงานเป็นเอเย่นต์นักฟุตบอลให้กับบริษัท Luckystar sport management โดยทีมงานของเราจะเต็มไปด้วยผู้มีประสบการณ์ในวงการฟุตบอลระดับอาชีพของประเทศไทย ซึ่งเจ้าของบริษัทของผมคือ คุณมิญช์ นาเงิน 

เขามีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการส่งนักฟุตบอลไทยที่มีศักยภาพและความสามารถออกไปเล่นในต่างประเทศเยอะๆ เช่น สเปน, โปรตุเกส, เยอรมนี และ ญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาความสามารถนักฟุตบอลไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้นและกลับมายกระดับวงการฟุตบอลบ้านเราได้

ซึ่งทางบริษัทมีคอนเนคชั่นที่ดีกับสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ ทางทีมงานหวังว่าการมาเล่นในสเปนของ “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จะเป็นใบเบิกทางสำหรับการส่งออกผู้เล่นไทยให้มีโอกาสไปค้าแข้งในสโมสรที่มีคุณภาพในยุโรปเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

แมน : ภูมิ พูดได้กี่ภาษา ครับ

ภูมิ : พูดได้ 3 ภาษาครับ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาสเปน

แมน : แล้ว ภูมิ มาเป็นล่ามให้ หนึ่ง ได้อย่างไร

ภูมิ : มันเป็นจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เนื่องจากบริษัทมีโปรเจคส่ง น้องหนึ่ง มาเล่นใน สเปน ซึ่งผมเคยเรียนภาษาสเปน จึงได้โอกาสมาปฏิบัติภารกิจสำคัญในครั้งนี้ครับ 

แมน : หน้าที่หลักในการช่วย หนึ่ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ของ ภูมิ คืออะไรบ้างครับ

ภูมิ : หน้าที่หลักคือช่วยดูแลน้องหนึ่งทุกอย่าง ทั้งในเรื่องชีวิตประจำวันในสเปน เป็นพี่เลี้ยงและเป็นเพื่อนให้น้องหนึ่งรู้สึกสบายใจในการใช้ชีวิตที่นี่ ซึ่งผมจะสอนน้องเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศสเปน 

การเดินทางไปสนามซ้อมและสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญเลยคือการสอนภาษาสเปนเบื้องต้น เพื่อใช้ในการเล่นฟุตบอล เพราะเราต้องการสนับสนุนให้เขารู้จักปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง 

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลผมจะช่วยเหลือในการเจรจากับสโมสรทั้งเรื่องของรายละเอียดเงื่อนไขสัญญา และช่วยสนับสนุน น้องหนึ่ง ในการแปลภาษาสเปนในระหว่างการฝึกซ้อมด้วย

แมน : คิดว่าทำไม เอดี อูนิอ้น อดาร์เบ้ ถึงคว้า หนึ่ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ไปร่วมทีม

ภูมิ : เหตุผลสำคัญคือ หนึ่ง เป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งอายุน้อยที่ได้ลงเล่นในไทยลีก ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพระดับที่สูงสุดของประเทศไทย แน่นอนว่าเขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม 

มีฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ ทั้งนี้สไตล์การเล่นฟุตบอลของ หนึ่ง มีความคล้ายคลึงกับนักฟุตบอลชาวสเปน คือ เป็นบอลที่ใช้มันสมองและทักษะ มีความคล่องแคล่ว คอนโทรลบอลดี เข้าใจระบบการเล่นฟุตบอลแบบ Build up ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทางสเปนเน้นมาก 

ส่วนเครื่องหมายการค้าของ หนึ่ง คือวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล ซึ่งถือว่าหนึ่งมีคุณสมบัติสำคัญของนักเตะในตำแหน่งกองกลางตัวรุกตามแบบฉบับที่สเปนต้องการ 

นอกจากนี้ หนึ่ง ยังเคยมีประสบการณ์ระดับนานาชาติในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติไทยในรุ่น U-19 ด้วย ทางโค้ชของสโมสรประทับใจในตัว หนึ่ง มาก และอยากได้ตัวมาเล่นเพื่อสร้างมิติในเกมรุกของทีมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แมน : นักเตะไทย ควรฝึกตรงไหนหากต้องการไปเล่นในต่างแดน

ภูมิ : สิ่งสำคัญมากที่สุดเลยคือเรื่องสภาพร่างกายและความฟิต เหมือนที่ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าหากร่างกายของคุณฟิต คุณสามารถเล่นฟุตบอลระดับสูงได้ทุกที่บนโลก เพราะจริงๆ แล้ว ผมคิดว่าทักษะการเล่นฟุตบอลของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างชัดเจนระหว่างเรากับเขาคือเรื่องของความฟิต เพราะคนสเปนและอเมริกาใต้ มีขนาดรูปร่างที่ไม่ต่างกับคนไทย แต่ด้วยรูปแบบการฝึกซ้อมที่เข้มข้นและถูกจุดทำให้นักฟุตบอลเหล่านี้มีความแข็งแรงและความฟิตชนิดที่ว่านักฟุตบอลตัวเล็กอย่าง เมสซี่ , อิเนียสตา, เปดรี้ สามารถลงแข่งขันในระดับสูงสู้กับนักกีฬาตัวใหญ่ๆ ได้อย่างสบาย ทั้งที่พวกเขาไม่ได้มีขนาดรูปร่างที่แตกต่างไปจากคนไทยเลย

ส่วนเรื่องเบสิคพื้นฐาน การจับบอล และ การจ่ายบอล ต้องมีความเป๊ะพอสมควร เพราะ นักฟุตบอลต่างประเทศเขาจับบอลเนียนมาก แทบไม่ลั่นเลย การออกบอลต้องคิดไวทำไว ไม่เก็บบอลไว้กับตัวนานจนทำให้ทีมเสียจังหวะในการขึ้นเกมได้

แมน : ความต่างระหว่างฟุตบอล ดิวิชั่น 4 สเปน กับ ไทยลีก คืออะไร

ภูมิ : ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสนามซ้อมหรือสนามแข่งขันที่ต้องยอมรับว่ามาตรฐานที่สเปนเหนือกว่าไทยลีกพอสมควร แม้ว่าจะเป็นทีมระดับดิวิชั่น 4 

แม้ว่าสนามแข่งขันและศูนย์ฝึกฟุตบอลจะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่ แต่ต้องบอกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีคุณภาพที่ดีจัดอยู่ในระดับมาตรฐานที่สูงมาก ส่วนในระดับลาลีกานั้นผมเคยมีโอกาสไปเยี่ยมชมสนามและศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรเกตาเฟ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นสโมสรที่ไม่ใหญ่ แต่ต้องบอกเลยว่าศูนย์ฝึกซ้อมเขามีมาตรฐานระดับโลก ทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามาตรฐานฟุตบอลที่นี่อยู่ในระดับสูงมาก

ส่วนคุณภาพการแข่งขันผมคิดว่าดิวิชั่น 4 สเปน มีความเข้มข้นและยากไม่แพ้ระดับไทยลีก 1 บ้านเราแน่นอน เราอย่าคิดว่าอยู่แค่ดิวิชั่น 4 แล้วจะเล่นกันแบบไม่มีคุณภาพ เพราะอย่าลืมว่านี่คือ ดิวิชั่น 4 ของชาติมหาอำนาจฟุตบอลและเคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 

ผมกล้าพูดขนาดนี้เพราะผมเห็นกับตาตัวเองมาแล้วในการฝึกซ้อม ซึ่งคุณภาพของทีมระดับดิวิชั่น 4 อย่าง เอดี อูนิอ้น อดาร์เบ้ ถือว่าคุณภาพการเล่นสูงไม่แพ้สโมสรชั้นนำในไทยลีก 1 เลย

แมน : อะไรบ้างคือสิ่งที่สโมสรไทยควรปรับให้มีมาตรฐานเทียบเท่าทีมในยุโรป

ภูมิ : สิ่งแรกเลยคือเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อม ถ้าจะเอามาตรฐานระดับยุโรปเลยคือ พื้นสนามต้องดีเยี่ยมและใช้อุปกรณ์คุณภาพระดับสูงทั้งหมด เพราะถ้ามาดูสนามฟุตบอลที่สเปนไม่ว่าจะเป็นสนามซ้อมหรือสนามแข่งขันจะเห็นได้เลยว่าพื้นหญ้าของเขามีสีเขียวสวยงามเรียบเนียนมาก 

ส่วนรูปแบบการฝึกซ้อมต้องเข้มข้น ถูกต้องตามวัตถุประสงค์อย่างมีคุณภาพ เพราะว่าการซ้อมฟุตบอลในสเปนแตกต่างกับการซ้อมฟุตบอลในประเทศไทยมาก หากในอนาคตเรามีโอกาสได้นำโค้ชฟุตบอลระดับ ยูฟ่า โปร ไลเซนส์ เข้ามาทำงานในไทยลีกได้มากขึ้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนไทย เพราะนักฟุตบอลไทยจะได้เรียนรู้และฝึกซ้อมในสไตล์ที่เป็นแบบยุโรปจริงๆ ซึ่งสามารถนำรูปแบบเหล่านั้นมาวางเป็นรากฐานและปรับให้เข้ากับสไตล์ของคนไทยได้ เพื่อยกระดับคุณภาพการฝึกซ้อมนักกีฬาของเราให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกับชาติชั้นนำในยุโรป

แมน : สิ่งที่นักฟุตบอลไทยขาดไป จนไม่สามารถก้าวข้ามวัยรุ่นได้

ภูมิ : ผมย้ำเสมอว่านักฟุตบอลไทยมีความสามารถสูงมาก โดยเฉพาะเยาวชน แต่สิ่งสำคัญที่นักฟุตบอลไทยขาดไปจนไม่สามารถก้าวข้ามวัยรุ่นได้คือ เรื่องของระเบียบวินัยและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราสูญเสียนักฟุตบอลพรสวรรค์สูงไปหลายคน เนื่องจากนักฟุตบอลไทยมีนิสัยติดเพื่อนและสิ่งยั่วยุต่างๆ จึงทำให้นักฟุตบอลพรสวรรค์สูงไปได้ไม่ไกลในเส้นทางฟุตบอล 

อีกทั้งเรื่องคือจิตใจ (Mentality) ถือว่าสำคัญมาก เพราะนักฟุตบอลไทยยังไม่กล้าออกจาก comfort zone บางคนได้รับโอกาสไปเล่นต่างประเทศ แต่ก็ปฏิเสธไป เพราะกลัวเหงา ติดเพื่อน ติดอาหารไทย 

เราต้องสร้างนักฟุตบอลรุ่นใหม่ให้มีทัศนคติที่ดี มีความมุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง และมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ถ้าหากเราเปลี่ยนแนวคิดนักฟุตบอลให้เป็นแบบนั้นได้รับรองว่าสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน 

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดคือนักฟุตบอลไทยที่ไปได้ดีในการเล่นต่างประเทศ อย่าง ชนาธิป, ธีราทร และกวินทร์ ล้วนมีคุณสมบัติที่ผมกล่าวมาทั้งนั้น

แมน : รูปแบบการฝึกซ้อมของสเปนที่บอกว่าเข้มข้นและหนักหน่วงมันเป็นอย่างไร มีความแตกต่างกับประเทศไทยตรงไหนบ้าง

ภูมิ : การซ้อมของสเปนเป็นรูปแบบการซ้อมที่มีความเข้มข้น ( high intensity ) สูงมาก ซึ่งทาง สเปน ให้ความสำคัญกับเรื่องของสภาพร่างกายและความฟิต โดยจะเน้นการฝึกซ้อมแบบ Plyometric Exercise เพื่อเป็นการพัฒนาพลังระเบิดของกล้ามเนื้อ ( Explosive power ) ของกล้ามเนื้อที่ใช้สำหรับการเล่นฟุตบอล ได้แก่ ต้นขาและแกนกลางลำตัว (core body)

โดยการฝึกจะให้นักฟุตบอลสคอช หรือกระโดดขึ้นลงบ่อยมาก มีการฝึกวิ่งกลับตัวในระยะสั้น รวมไปถึงฝึกระบบประสาทให้มีการตอบสนองไวโดยการวิ่งไปเหยียบ marker ที่มีไฟกระพริบอยู่รอบตัวเราให้ดับตามสีที่ถูกต้องให้ไวที่สุด ผมเชื่อว่าแฟนบอลน่าจะเคยเห็นนักฟุตบอลระดับโลกซ้อมลักษณะนี้กันมาแล้ว

ผมขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพการฝึกที่หนักหน่วงและแตกต่างจากประเทศไทยให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การฝึกยิงประตู ถ้าเป็นการฝึกในประเทศไทย นักฟุตบอลก็แค่ต่อแถวรอยิงประตู พอถึงคิวตัวเองก็วิ่งไปรับบอลที่ถูกเปิดเข้ามาแล้วยิงประตู 

หลังจากยิงเสร็จก็จะวิ่งหรือเดินกลับไปต่อคิวในแถวตัวเองใหม่ แต่สำหรับการฝึกในสเปนก่อนยิงประตูนักฟุตบอลจะต้องแบกลูกบอลฟิตเนสที่มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม จากนั้นสคอชและกระโดดขึ้นมาโดยการแบกลูกบอลนั้นราว 5 ครั้ง พอสิ้นเสียงนกหวีดนักฟุตบอลต้องวิ่งไปส่งบอลแล้วสปีดไปเข้าจุดรับบอลเพื่อยิงประตู

หลังจากที่ยิงประตูไปแล้ว ไม่ต้องสนใจว่าจะเข้าหรือไม่เข้า ให้นักฟุตบอลรีบวิ่งสปริ้นสุดแรงเกิดจากกรอบเขตโทษกลับมาที่บริเวณครึ่งสนามเพื่อสกัดบอลจากฝ่ายรุกให้ได้ 

ซึ่งฟุตบอล สเปน เป็นฟุตบอลที่เล่นแบบเป็นระบบ ดังนั้นนักฟุตบอลทุกคนจะต้องใส่ใจในการช่วยเกมรับ และต้องขยันวิ่งเพื่อช่วยเกมรับทุกคน ไม่งั้นจะไม่สามารถเล่นที่นี่ได้เลย 

อีกทั้งการซ้อมที่นี่เข้มข้นมากชนิดแทบไม่มีเวลาให้นักฟุตบอลพัก รูปแบบการฝึกซ้อมมีความต่อเนื่องและเข้มข้นสูงมาก ถ้าเวลาเข้ายิมจะซ้อมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เป็นชั่วโมงเดียวที่ซ้อมอย่างต่อเนื่องและโฟกัสอย่างถูกจุด 

ที่สำคัญคือนักกีฬาจะงอแงไม่ได้เลย ที่ สเปน โค้ชจะไม่มีการสงสารนักกีฬาเด็ดขาด หากยังทำไม่ครบเซ็ตจะไม่มีการบอกว่า โอเค เหนื่อยแล้ว พักก่อนเด็ดขาด เพราะโค้ชจะให้ความสำคัญกับการซ้อมตรงนี้มาก ซึ่งโค้ชเขาจะรู้เองว่าใครไหวหรือไม่ไหว 

หากไม่อาเจียนออกมายังถือว่าไหว ห้ามงอแงกับความเหน็ดเหนื่อยเด็ดขาด นักกีฬาต้องซ้อมให้ครบตามโปรแกรมที่วางไว้สถานเดียว ไม่มีมาตรการผ่อนปรนสำหรับความเหน็ดเหนื่อยใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความแตกต่างกับการซ้อมเมืองไทยเป็นอย่างมาก 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักฟุตบอลสเปนมีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องมาจากรูปแบบการฝึกซ้อมที่เข้มข้นนั่นเอง หวังว่าแฟนบอลน่าจะพอเห็นภาพเกี่ยวกับรูปแบบของการฝึกซ้อมฟุตบอลใน สเปน มากยิ่งขึ้นนะครับ

แมน : ในอนาคตอันใกล้น่าจะมีนักเตะมาเล่นที่สเปนอีกไหม

ภูมิ : มีแน่นอนครับทางทีมงานของเรายังคงปฏิบัติงานอย่างหนักเพื่อทำตามเป้าหมายที่วางไว้คือ สนับสนุนให้นักฟุตบอลไทยที่มีศักยภาพและความสามารถได้รับโอกาสในการมาเล่นฟุตบอลอาชีพที่สเปน เพื่อพัฒนาฝีเท้าและนำเอาประสบการณ์กลับไปยกระดับวงการฟุตบอลไทย 

ผมคิดว่าในอนาคตจะต้องมีนักเตะไทยได้มาสัมผัสกลิ่นอายลูกหนังแดนกระทิงดุแบบน้องหนึ่งมากขึ้นอย่างแน่นอน

จบการสัมภาษณ์ต้องบอกเลยครับว่าการไปเล่นฟุตบอลอาชีพในสเปน ไม่ยากเกินความสามารถของคนไทย เพราะคนไทย หากตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาวโลกแน่นอน