"ฟาน บาสเท่น" หนึ่งลูกยิงสุดสวยในประวัติศาสตร์ยูโร
นี่ถือเป็นชาติที่เต็มไปด้วยแบบแผนการเล่นฟุตบอลที่มีเสน่ห์มากที่สุดทีมหนึ่งของโลก พวกเขามีเกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจ และระบบที่น่าเกรงขาม ... พร้อมกับป้อนดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสู่วงการฟุตบอลอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม น่าเหลือเชื่อมากว่า พลพรรค “อัศวินสีส้ม” สามารถคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ที่เยอรมันตะวันตก รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ซึ่งพวกเขาเอาชนะสหภาพโซเวียต ในนัดชิงชนะเลิศ 2-0
โดยชัยชนะในครั้งนั้น นอกจากเป็นเกียรติยศสูงสุดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส แล้วนั้น หนึ่งสิ่งที่กลายเป็นตำนาน และถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือนักเตะวัย 23 ปีนามว่า “มาร์โก ฟาน บาสเท่น” ที่จบรายการในฐานะดาวซัลโวของรายการที่ 5 ประตู
1 ใน 5 ประตูของฟาน บาสเท่น เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ โดยที่เป็นลูกยิงแบบใบไม้ร่วง ที่ได้รับการขนานนามว่า มีความคลาสสิค และสวยงามมากที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยูโรเลยทีเดียว
ประตูดังกล่าว เริ่มต้นจากจังหวะที่ “อาดรี ฟาน ทิกเกเล่น” ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนจะจ่ายให้กับ “อาร์โนลด์ มูห์เร”น ที่เติมเกมทางกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลโด่งเข้าในกรอบเขตโทษด้านขวา โดยมีฟาน บาสเท่น วิ่งเข้าไปรอประจำการอยู่
จังหวะนั้นเอง ฟาน บาสเท่น ตัดสินใจยิงบอลด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลพุ่งราวกับใบไม้ร่วง และเสียบมุมประตูด้านไกลอย่างสวยงาม ชนิดที่ผู้รักษาประตู และกัปตันทีมของสหภาพโซเวียต อย่าง “รินาต ดาซาเยฟ” หมดโอกาสที่จะเซฟเลยทีเดียว
ประตูดังกล่าว ไรนุส มิเชลส์ บรมกุนซือของ “อัศวินสีส้ม” ถึงกับขยี้ตาแบบไม่อยากเชื่อต่อภาพที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า เพราะนี่เป็นประตูที่ยิงยากเอามากๆ เพราะมันต้องพอดีทั้งน้ำหนัก และทิศทาง นอกจากนี้ มุมในการยิงยังไม่กว้างมากอีกต่างหาก
การยิงประตูของฟาน บาสเท่น เกิดขึ้นในนาที 54 ของเกม ถือเป็นประตูตอกฝาโลง 2-0 ช่วยให้บ้านเกิดผงาดคว้าแชมป์รายการหลักระดับเมเจอร์ เป็นรายการแรก และเป็นรายการเดียวในประวัติศาสตร์ นับจนถึงเวลานี้
เจ้าของฉายา “เพชรฆาตพรายกระซิบ” ที่ได้มาจากการอยู่ถูกที่ถูกเวลา และสามารถแปรเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้เสมอ ออกมาย้อนความทรงจำถึงลูกยิงดังกล่าวว่า นอกจากความพยายาม มันยังเป็นลูกยิงที่ต้องอาศัยการเสี่ยงโชคเหมือนกัน
โดยบอกว่า “ตอนนั้น เกมเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังแล้ว ผมรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย บอลถูกเปิดมาจาก อาร์โนลด์ มูห์เรน ผมมีทางเลือกในใจว่า จะจับบอลลง และดวลกับกองหลังฝ่ายตรงข้ามดี ? หรือว่าจะลองเสี่ยง ด้วยการยิงแบบไม่ต้องจับดี ?”
ฟาน บาสเท่น กล่าวต่อว่า “สำหรับการยิงในลูกลักษณะดังกล่าว คุณต้องโชคดีมาก ทุกอย่างต้องพอดิบพอดี ท้ายที่สุดแล้ว คุณต้องพยายามที่จะลองทำมันดู แต่อย่างที่บอกไป มันจะไม่สำเร็จ หากคุณไม่มีโชคเข้ามาช่วย เวลานั้น ผมมีโชคเข้าข้างด้วย มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม”
ตำนานดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมสามารถเล่าเรื่องนี้ได้มากมาย มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษเอามากๆ ผมมีความสุข ต้องขอขอบคุณช่วงเวลานั้น ที่มอบความสุขให้ผม และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส”
“โดยการยิงประตูดังกล่าวเข้าไปตุงตาข่ายนั้น เราสามารถมั่นใจได้ว่า นี่คือประตู 2-0 และมันจะพาเราเข้าไปคว้าโทรฟี่แชมป์มาครอบครองได้”
“มีความตื่นเต้นมากมาย ผมแทบไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะยิงประตูแบบนั้นได้สำเร็จ คุณสามารถเห็นปฏิกริยาของผมตอนยิงประตูได้เลย ผมไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่า เมื่อสักครู่มันเกิดอะไรขึ้น”