แมน : สวัสดีครับพี่โก้ สอบโปรไลเซ่นเป็นไงมั่งพี่ ผ่านมาครึ่งทางแล้วใช่มั้ยครับ

ซิโก้ : ก็ครึ่งทางแล้วล่ะ ปวดหัวเหมือนกันครับแมน ตอนนี้พี่ก็พยายามเต็มที่ สมาธิอยู่ที่การสอบสุดๆ 

แมน : ยากมากเลยหรอพี่ เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยมั้ยครับ

ซิโก้ : ก็มีอินสตรัคเตอร์เป็นชาวต่างชาตินะ ที่ยากเพราะมีความรู้ใหม่ๆ ที่เราต้องศึกษา และได้ประโยชน์อย่างมากเลย เขาจะเน้นให้ผู้เข้าอบรมรู้จักเปิดใจรับความรู้ใหม่ๆ ให้เป็นคนน้ำไม่เต็มแก้ว

แมน : ใช่ มิสเตอร์ลิม  (ลิม คิม ชอน ชาวมาเลเซีย)ที่มาทำงานให้สมาคมฟุตบอลไทยเป็นหัวหน้าผู้อบรมโค้ชรึเปล่าพี่ เห็นมาทำงานที่พัฒนาสปอร์ตคลับที่พัทยา

ซิโก้ : มิสเตอร์ลิม เขามาเป็นผู้ช่วยนะ เฮดของการอบรมโปรไลเซ่น จะเป็นมร.วินเซนต์ (วินเซนต์ ซูบรามาเนี่ยน ชาวสิงคโปร์ โค้ชชิ่ง อินสตรัคเตอร์ ระดับ อีลิท ของ เอเอฟซี) เขาก็ให้คำแนะนำและยกตัวอย่างให้เราศึกษา อย่างวันนี้เขาก็เน้นในเรื่องของลีดเดอร์ชิพ ความเป็นผู้นำ คือการเป็นเฮดโค้ชไม่ใช่แค่เรื่องในสนามนะ ต้องดูแลการจัดการทั้งหมดเลยทั้งทีมสตาฟฟ์ แม้กระทั่งคนดูแลสนาม ก็ต้องมีการสร้างความสัมพันธ์เพราะทุกคนทุกภาคส่วนมีความสำคัญหมดกับการทำทีมฟุตบอลทีมนึง เขาก็ยกตัวอย่างว่าขนาด เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาเป็นโค้ชที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ยังต้องไปเข้าคอร์สอบรมเรื่องการสื่อสารกับสื่อมวลชนที่อังกฤษเลย

แมน : นั่นขนาดเข้าคอร์สแล้วนะพี่ ผมเห็นเซอร์เฟอร์กี้แกยังฟัดกับสื่ออังกฤษอยู่ตลอดเลย อย่างโชเซ่ มูรินโญ่ นี่ก็เพิ่งด่าเด็กเก็บบอลออกสื่อ แล้วสั่งปลดยกชุดให้เอาเด็กอคาเดมี่มาเป็นเด็กเก็บบอล เพราะรู้จังหวะเกมฟุตบอลมากกว่า ว่าตอนไหนควรส่งบอลเข้ามาให้เล่นเร็วถ้าทีมต้องการประตู แต่ก่อนก็เคยมีปัญหาสั่งปลดหมอนวดหญิงของทีมเชลซี จนดราม่ากันไปใหญ่

ซิโก้ : นั่นแหละคือโค้ชทุกคนก็อาจจะมีวิธีการต่างกัน แต่เขาก็เอาใจใส่และต้องดูแลทั้งทีม เพราะอย่างที่บอกทุกคนแม้จะเป็นองค์ประกอบเล็กๆ ก็มีความสำคัญกับทีม

แมน : คุยกันวันนี้ผมว่าผมเอาไปเขียนเป็นคอลัมน์ดีกว่าพี่ มีหลายประเด็นเลยที่อยากคุยกับพี่

ซิโก้ : ได้เลยน้องรัก

ผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรโปรไลเซ่นรุ่นแรกของประเทศไทย

แมน : ตอนนี้เริ่มมีกระแสเรียกร้องจากแฟนบอลให้พี่กลับมาทำทีมชาติไทยชุดยู-23 นะ เห็นพี่เฮงก็พูดเป็นนัยๆ ว่ามีโค้ชไทยและต่างชาติหลายคนที่กำลังสอบโปรไลเซ่นอยู่ เหมาะสมที่จะเข้ามาทำงาน ซึ่งพี่โก้เองตอนนี้ก็อบรมอยู่กับพี่เฮงซะด้วย

ซิโก้ : พี่อยู่กับพี่เฮงด้วยกันทุกวันแหละ พี่เฮงยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่เลยนะ จริงๆ แล้วพี่ไม่อยากออกความเห็นเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นให้แฟนคลับมาด่ากันไปมาอีก เรื่องนี้แล้วแต่ผู้ใหญ่ของทางสมาคมดีกว่า ยังไม่มีใครคุยอะไรกับพี่เลย พี่เองก็อยากตั้งใจสอบโปรไลเซ่นให้จบก่อนมากกว่านะ

แมน : นี่ขนาดพี่กับพี่เฮงยังไม่ได้พูดอะไรถึงกันเลย ก็มีแฟนบอลด่าพี่กับพี่เฮงแล้วนะ

ซิโก้ : ก็นั่นน่ะสิ จริงๆ แล้วพี่กับพี่เฮงไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยนะ พี่เจอกันทุกวันอะ แล้วแกก็คุยกับพี่มาตลอด เรื่องนี้ก็อยากให้แฟนบอลเข้าใจ ยิ่งตอนนี้วงการฟุตบอลไทยกำลังต้องการกำลังใจด้วย ทีมชาติยู-23 ก็โดนแฟนบอลด่าว่าเยอะ อยากให้มาให้กำลังใจกันมากกว่า เอาเรื่องดีๆ มาคุยกัน เพื่อให้บรรยากาศดีๆ มันกลับมา อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เดี๋ยวพี่แบนก็ต้องกลับไปคุม เมืองทอง เจอ ยะโฮร์ พี่ก็อยากให้เมืองทองเข้ารอบแบ่งกลุ่มให้ได้นะ บรรยากาศมันจะได้ดีขึ้น เดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูเวียดนามก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่นะ (ตอนนั้นเวียดนามยู-23 แซงอิรัก ขึ้นนำ 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย)

แมน : ได้พี่ ผมก็ดูอยู่เหมือนกัน กำลังมันส์เลย

ซิโก้ : โอเคเดี๋ยวโทรมาใหม่นะ

(ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เวียดนาม ดวลจุดโทษชนะ อิรัก เข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ)

แฟนบอลเวียดนามแห่ออกมาฉลองกันทั้งเมืองหลังดวลจุดโทษชนะอิรัก เข้ารอบรองฯ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย

แมน : (โทรไปใหม่ หลังจบเกม) จบแล้วพี่โก้ โคตรมันส์เลยอะ เวียดนามเล่นดีมากเลย 

ซิโก้ : ใช่ ต้องแสดงความยินดีกับเวียดนามที่เขาประสบความสำเร็จ เราเป็นชาวอาเซียนด้วยกันก็รู้สึกชื่นชมไปกับเขาด้วย 

แมน : เวียดนามนี่โดนปรามาสไว้เยอะเลยนะพี่ เมื่อกี๊ก่อนจะยิงจุดโทษผมเห็นเว็บซอกเกอร์เวย์ ลงไว้ก่อนเลยว่า อิรัก เข้ารอบไปเจอ กาตาร์ ทั้งที่เกมยังไม่จบ

ซิโก้ : นั่นน่ะสิ กรรมการก็แปลกๆ เหมือนกัน ดูอยู่ใช่ป่าว คิดเหมือนพี่มั้ยล่ะ 

แมน : โหพี่ กรรมการออสเตรเลียนี่สุดๆ อะ ให้จุดโทษอิรัก ทั้งที่ไม่น่าให้ แล้วก็ตอนเกือบหมดเวลา อิรักล้ำหน้าเป็นเมตรปล่อยให้ยิงเฉย ดีนะโกลเวียดนามเหนียว เหมือนกับว่าทีมในอาเซียนมักจะมีปัญหาเรื่องกรรมการเวลาไปแข่งระดับเอเชียอยู่เรื่อยเลย ไทยเราก็เจอบ่อย ตอนช่วงพี่คุมก็เห็นอยู่

ซิโก้ : ก็อย่างที่เห็น นั่นแหละ แต่ต้องชมเวียดนามจริงๆ ที่เขาทุ่มเทจนผ่านเข้ารอบไปได้

แมน : อย่างนี้เวียดนามเขาจะยังติดต่อพี่อยู่มั้ยครับเนี่ย 555

ซิโก้ : 555 เขาคงไม่เอาพี่หรอก โค้ชเกาหลี (พาร์ค ฮัง-ซอ) เขาทำทีมได้ขนาดนี้ เขาเจอคนที่ใช่ที่เขาตามหามานานแล้วล่ะ 

แมน : 555 ครับ อืมแล้วกลับมามองทีมชาติไทยล่ะพี่ เวียดนามกับมาเลเซียเขาสุดยอดจริงๆ ทัวร์นาเม้นต์นี้ เดี๋ยวก็ต้องมาเจอเราในชุดใหญ่ เอเชี่ยนเกมส์ก็ใช้ชุดนี้ด้วย นักเตะไทยทั้งโค้ชเราโดนด่ายับเลย สมาคมหรือพี่เฮงก็โดนเยอะ พี่คิดว่าไง

ซิโก้ : โอ้ย อย่าให้พี่พูดเรื่องนี้เลย เอาเป็นว่าพี่ก็ให้กำลังใจทุกคนในทีมชาติ วันนึงนักเตะชุดนี้ก็จะขึ้นมาเล่นทีมชาติชุดใหญ่ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา วันข้างหน้าอาจจะเป็นวันของเราก็ได้ 

แมน : คือผมคุยกับหลายคนนะ อย่างเช่นน้าฉ่วย (สมชาย ชวยบุญชุม), พี่จุ่น (อนุรักษ์ ศรีเกิด), พี่แม็ก (ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์) ทุกคนมีความคิดตรงกันว่าโค้ชไทยจะสามารถกระตุ้นนักเตะไทยให้ทุ่มเทเพื่อชาติได้ดีกว่าในเรื่องจิตวิทยา อาจจะไม่ต้องเป็นเฮดโค้ชก็ได้ แต่สตาฟฟ์ในทีมก็มีส่วนสำคัญที่จะกระตุ้นเด็กๆ 

ซิโก้ : โค้ชแต่ละคนก็มีวิธีการที่แตกต่างกัน อย่างเวียดนามชุดนี้ ต่อให้เขาดวลจุดโทษแพ้อิรักวันนี้ ก็คงไม่มีใครต่อว่าพวกเขา เพราะนักเตะทุ่มเทสุดชีวิต เราเห็นได้ว่าเขาเล่นเพื่อชาติสุดหัวใจจริงๆ นักเตะไทยก็เหมือนกันถ้าเล่นด้วยหัวใจแบบสุดชีวิตเพื่อชาติ ต่อให้แพ้ก็คงไม่มีใครกล้าตำหนิหรอก

แมน : ผมเคยเห็นภาพนัดนึงตอนพี่คุมทีมชาติ ที่พี่เขียนบนกระดานไวท์บอร์ดในห้องแต่งตัว ประมาณว่าพวกเราคือทีมชาติไทย เป็นการกระตุ้นความฮึกเหิมให้นักเตะ ก่อนที่จะพูดคุยเรื่องแท็กติก มันเป็นยังไงพี่เล่าให้ฟังหน่อย

ซิโก้ : คือพี่จะเน้นในเรื่องวินัยเป็นหลัก และก็ย้ำตลอดว่าเราทุกเล่นมาเล่นเพื่อทีมชาติ เป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศนะ พี่ต้องการให้น้องๆ ลงไปเล่นเหมือนออกรบ ว่าเราจะต้องทุ่มเทกับทุกเกมให้สมกับที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทย

แมน : โค้ชแต่ละคนที่ผมคุย ก็เห็นตรงกันอีกว่าทีมชาติไทยยังจำเป็นต้องมีผู้จัดการทีม พี่คิดยังไง

ซิโก้ : อืมอันนี้ทางสมาคมเขาก็มีนโยบายที่จะดูแลการจัดการทีมชาติเอง ซึ่งหากบริหารจัดการได้พี่ว่าก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร 

แมน : คือโค้ชคนอื่นๆ เขามองว่าผู้จัดการทีมไม่ได้มีหน้าที่แค่ควักเงิน แต่บทบาทการเป็นล็อบบี้ยิสต์ อาศัยบารมีและคอนเน็คชั่นเพื่อที่จะขอตัวผู้เล่นจากต้นสังกัดมันทำได้มากกว่าที่จะให้โค้ชหรือสมาคมไปคุยเอง อย่างตอนพี่โก้คุมก็มี พี่เปี๊ยก (สมศักดิ์ ศิริธรรม) คอยประสานพูดคุยกับสโมสรให้ถูกมั้ยพี่ น้าฉ่วยเองก็บอกผมว่าถ้าไม่ได้พี่เปี๊ยก แกคงไม่มีทางเรียก เจ ชนาธิป หรือคนอื่นๆ ไปเล่นชุดยู-19 ชุดที่ชนะเกาหลีใต้ เสมอญี่ปุ่น ได้แน่ๆ เพราะตอนนั้นพี่เปี๊ยกต้องขอแล้วขออีกถึงจะได้ตัวมา

"พี่เปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย

ซิโก้ : ก็มีส่วน แต่ตอนพี่เป็นโค้ช สโมสรต่างๆ ก็ให้ความร่วมมือดีมากนะ คือมันมีกฎฟีฟ่าเดย์อยู่ว่าต้องปล่อยตัว 5 วัน 7 วันอยู่ด้วย แต่ตรงนี้ในอนาคตก็ต้องหวังพึ่งความร่วมมือของสโมสรต่างๆ ด้วยในการปล่อยนักเตะมารับใช้ชาติ จริงๆ จะไปว่าสโมสรก็ไม่ได้นะ ส่วนหนึ่งก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะนักเตะไทยไม่ได้มีตัวเลือกที่มีคุณภาพเยอะอย่างประเทศอื่นๆ สมาคมเองก็ไม่ได้มีนักเตะของตัวเอง ก็ยังต้องพึ่งพาสโมสรที่สร้างนักเตะขึ้นมาเหมือนกัน

แมน : เหมือนอย่างญี่ปุ่นหรือเยอรมันอะนะพี่ ที่เขามีตัวเลือกเยอะ จนไม่ง้อสตาร์ ใครไม่มาเล่นก็เรียกคนอื่นแทนทันที 

ซิโก้ : ใช่ เราก็ต้องอาศัยเวลาที่จะสร้างกลุ่มนักเตะที่มีคุณภาพให้เยอะมากขึ้น เพื่อที่จะไม่เสียหายมากหากขาดตัวหลักไปแค่ 2-3 คน แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ไงเรายังไม่ได้มีตัวเลือกที่ทดแทนกันได้มากขนาดนั้น

แมน : นักเตะก็โดนด่าเยอะเลย แต่ชั่วโมงนี้คนที่ถูกด่าเยอะมากคือ เจ ชนาธิป ผมมีโอกาสคุยกับคุณพ่อของเจบ่อยๆ เจเองก่อนบวชผมก็ได้คุยอยู่เหมือนกัน เรื่องส่วนตัวน้องผมไม่ยุ่งไม่ถามเลยนะ แต่ผมเป็นห่วงน้องมากกว่าว่าจะกระทบต่อผลงานในสนามในการไปเล่นที่เจลีก

ซิโก้ : ไม่หรอก วันก่อนพี่ก็คุยกับเจอยู่ เขาก็ยังโอเคอยู่นะ เจเป็นเด็กดี เป็นคนที่มีวินัยสูง เรื่องความรักมันมีสมหวังผิดหวัง ขึ้นๆ ลงๆ เป็นธรรมดา หากจะประสบความสำเร็จได้ เขาก็ต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้  และพี่เชื่อว่าเจจะผ่านได้ พี่เป็นห่วงทั้งคู่แหละทั้งเมย์ทั้งเจ ทั้งสองคนเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นธรรมดาที่แฟนคลับทั้งสองฝั่งจะวิพากษ์วิจารณ์ แต่พี่ว่าอย่าไปด่าทั้งคู่เลย เรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องของครอบครัวเขา คนอื่นไม่รู้หรอกว่าเขามีปัญหาอะไรบ้าง อย่าไปว่าเขาเลย เขาก็เสียใจทั้งคู่แหละ   

ภาพที่เรา(อาจ)จะไม่ได้เห็นอีกแล้ว เสียใจกับทั้งคู่ สู้ๆ ขอเป็นกำลังใจให้

แมน : เจเคยเล่าให้ผมฟังนะ ว่าพี่โก้เป็นผู้มีพระคุณต่อเขามาก ถ้าไม่มีพี่ช่วยผลักดันในการเล่นทีมชาติก็คงไม่มีเจ ชนาธิป อย่างวันนี้ ตอนที่บอลไทยฟีเวอร์ นักเตะทีมชาติได้มาทั้งชื่อเสียงเงินทอง ได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเยอะแยะมากมาย 

ซิโก้ : ทุกคนก็มีส่วนช่วยกันทั้งนั้นแหละ พี่เชื่อว่าใครที่มีวินัยก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ ทั้ง เจ, มุ้ย, อุ้ม, ตอง พวกนี้เป็นคนที่มีวินัยสูง แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น พี่อยากให้รุ่นน้องๆ ดูคนเหล่านี้เป็นตัวอย่าง 

แมน : พูดถึงเรื่องนี้พอดี พี่คิดว่าเจ, มุ้ย, อุ้ม, ตอง ที่ได้ไปเล่นต่างประเทศ จะไปได้ดีมั้ย

ซิโก้ : พี่ก็ให้กำลังใจน้องๆ ทุกคนนะ ก็อยากให้เขาผ่านไปได้ด้วยดีน่ะ

แมน : ผมเห็นข่าวว่าอุ้ม จะได้ใส่เบอร์ 3 ของ วิสเซิ่ล โกเบ ซึ่งเป็นเบอร์ประจำตัว แต่อุ้มไม่เอา ขอใช้เบอร์ 30 เพราะไม่อยากแบกรับความกดดัน และอยากเริ่มต้นใหม่ด้วยการพิสูจน์ตัวเองแบบไม่ต้องเป็นที่สนใจมากนัก พี่คิดว่ายังไง

ซิโก้ : ถูกต้องเลย อย่าไปยึดติดกับเบอร์เสื้อ พี่เห็นด้วยกับความคิดของอุ้มนะ อุ้มเป็นคนที่มีวินัย และใส่ใจกับการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา พี่เชื่อว่าอุ้มอยู่ที่ไหนก็จะประสบความสำเร็จได้

แมน : ผมเคยเห็นข่าวว่าคิงพาวเวอร์จะดึงพี่ไปเป็นผู้ช่วยของ ไนเจล เพียร์สัน ที่ OHL ในลีกเบลเยียม เป็นเรื่องจริงมั้ยครับ

ซิโก้ : ยังนะ ยังไม่เคยพูดคุยกันเลย พี่ก็คิดว่าขอสอบเอาโปรไลเซ่นก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปคิดเรื่องงานโค้ช

แมน : ผมนึกขึ้นได้พอดี อยากถามเรื่องของ ลี เหงียน (กองกลางทีมชาติสหรัฐอเมริกาเชื้อสายเวียดนาม) ที่เคยมีบทสัมภาษณ์ว่าเขามีปัญหากับพี่โก้ ตอนพี่ไปคุม ฮองอันยาลาย 

ลี เหงียน ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติสหรัฐฯเชื้อสายเวียดนาม

ซิโก้ : ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันขนาดนั้น คือพี่เน้นในเรื่องของวินัยมากกว่า แล้วก็ดูจากฟอร์มการเล่นเป็นหลัก ลี เหงียน ตอนนั้นเขาก็เก่งมากนะ พี่ว่าตอนนั้นระดับเดียวกัน โก้ ดัสกร ทองเหลา ของไทยเรานี่แหละ

แมน : ผมเคยอ่านสกู๊ปตัวนั้น เขาบอกว่าพี่เข้าไปคุม 3-4 นัดแรกไม่ส่งเขาลงสนามเลย ทั้งที่เขาเป็นสตาร์ของทีม และผลงานดีมากในฤดูกาลก่อน แต่พอพี่เข้าไปพี่กลับดร็อปเขา จนประธานด่วน เหงียน ดึ๊ก ต้องเรียกประชุมทีม เห็นว่าปัญหาคือพี่ไม่ชอบเขา เป็นเพราะเขาได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในเวียดนาม และไม่เชื่อฟังพี่ แล้วพี่สั่งให้เขาขอโทษพี่ แต่เขาบอกว่าไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษ เรื่องนี้จริงมั้ยครับ

ซิโก้ : ไม่มีเลยนะ ใครเป็นคนให้สัมภาษณ์เนี่ย 

แมน : ก็ลี เหงียน นั่นแหละครับ 

ซิโก้ : คือจริงๆ แล้ว ลี เหงียน เขาโด่งดังมาจากการเคยเล่นให้พีเอสวี แล้วก็ไปติดทีมชาติสหรัฐฯ แต่พี่ต้องการสร้างทีมที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นซูเปอร์สตาร์ ใครทำตัวเป็นสตาร์ก็ต้องแก้ไขในเรื่องวินัย ถ้าพี่คิดว่าใครเหมาะสมที่จะลงสนามมากกว่าด้วยผลงานของทีมที่ต่อเนื่อง พี่ก็จะเลือกคนนั้น ฤดูกาลนั้นที่พี่ไม่ได้ใช้ ลี เหงียน ทีมของเราก็ผลงานดีเกือบได้แชมป์เลยนะ แล้วก็ได้รองแชมป์บอลถ้วยเวียดนามด้วย

แมน : เห็นมีข่าวว่าเมืองทอง เคยสนใจ ลี เหงียน แต่ตกลงค่าตัวกันไม่ได้เพราะแพงมาก

ซิโก้ : ไม่มีทางหรอก เพราะพี่แบนเขาก็รู้จักดีว่า ลี เหงียน เป็นยังไง พี่แบนเองก็เคยไปเล่นอยู่เวียดนามในช่วงนั้น เขาไม่เอาหรอก 

แมน : แสดงว่าเขาต้องมีปัญหาอะไรจริงๆ แต่พอไปเล่นที่สหรัฐฯ เขากลับเก่งมากเลยนะพี่ ถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของเมเจอร์ลีกเลย แล้วก็ถูก เจอร์เก้น คลินส์มัน เรียกไปติดทีมชาติสหรัฐฯ อีกครั้งด้วย หลังๆ ก็กลับมามีกระแสเรียกร้องให้เรียกเขาไปติดทีมชาติสหรัฐฯอีกแล้ว

ซิโก้ : เขาเป็นผู้เล่นที่ดี แต่เรื่องวินัยก็มีความสำคัญต่อทีม ถ้าเขามีความทุ่มเทให้กับสโมสรเหมือนที่เขาเล่นในพีเอสวีหรือที่สหรัฐฯ พี่เชื่อว่าเขาไปเล่นที่ไหนก็ได้ เออแมน เดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูเลสเตอร์ก่อนนะ กำลังจะแข่งแล้ว

แมน : โอเคครับพี่ ขอบคุณมากครับ

ซิโก้ : โอเคน้อง ไว้มีอะไรอยากคุยอีกก็โทรมาได้เลยครับ

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ แล้วอย่าลืมให้เครดิตกันด้วยนะครับ ("แมน" โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)