ในช่วงที่ผ่านมา มีมิดฟิลด์รายหนึ่ง มีชื่อเสียงโดดเด่นขึ้นมาจากการเป็นข่าวกับสโมสรใหญ่หลายๆแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีข่าวกับ "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" ทำให้เขายิ่งเป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้น สำหรับ "อูเรลียัน ชูอาเมนี่" (Aurélien Tchouaméni) มิดฟิลด์ตัวรับวัย 21 ปี ดาวโรจน์คนล่าสุดที่น่าจับตามองในฐานะมิดฟิลด์สายรับ เลือดใหม่ของทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งอายุเพียงเท่านี้ แต่ได้รับโอกาสการติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้วถึง 7 นัด

นักเตะคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน ไม่งั้นเราคงไม่เอามารีวิวให้เสียเวลา

บทความนี้จะนำพาทุกท่านให้รู้จักกับชูอาเมนี่ ผ่านการรีวิวในเบื้องต้น ที่จะทำให้ผู้อ่านเห็นภาพว่า นักเตะคนนี้มีดีอะไร โดดเด่นด้านไหน สไตล์การเล่นเป็นยังไง และเหมาะกับการซื้อมาเสริมทีมหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหานักเตะใหม่ในตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรับ" เข้ามาเสริมทีมอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปัญหาของปีศาจอย่างมาก จนทำให้ทีมไม่มีทรงการเล่นที่ดีพอในขณะนี้

เรามาดูกันว่า "ชูอาเมนี่" นั้นใช่คำตอบของแฟนผีหรือไม่ ไปดูรีวิวกัน

อินโทรวววววววววววววววววววววววววว มาาาาาาาาาาาาา!!!!

ตึงตึงตึง ตึ่งตึ๊งตึง ตึ่งตึ๊งตึง

ตืงตืงตืง ตื๊งตึงตืง ตื่งตึ๊งตืง

1.ข้อมูลทั่วไป

 Aurélien Djani Tchouaméni (อูเรลียัน ชูอาเมนี่)

อายุ : 21 ปี / เกิด 27 มกราคม 2000

ส่วนสูง : 187 cm / น้ำหนัก : ราว 81 Kg

สัญชาติ : ฝรั่งเศส

เท้าที่ถนัด : ขวา

ต้นสังกัด : Monaco

expired contract : 30 June 2024

ค่าตัวโดยประมาณ : 50-60 ล้านยูโร (transfermarkt : 35 ล้านยูโร)

2.ตำแหน่งและสไตล์การเล่น

อยากให้เห็นภาพกันชัดๆ ก่อนจะลงไปอ่าน ลองแวะไปดูคลิปการเล่นของชูอาเมนี่ ที่แปะไว้ท้ายสุดของบทความกันก่อน แล้วค่อยย้อนขึ้นมาอ่านตรงนี้จะเห็นภาพได้ง่ายมาก

ต้องบอกว่า อูเรลียัน ชูอาเมนี่ เป็น "มิดฟิลด์ตัวรับสายตัดเกม ที่มีความครบเครื่องอยู่ในตัว" โดยที่พื้นที่การเล่นหลักๆของชูอาเมนี่ คือการปักหลักอยู่หน้าแผงหลัง ในลักษณะของ "มิดฟิลด์ตัวต่ำ" ที่เล่นแบบ MFเบอร์6 แต่ก็มีความสามารถในการดันสูง พาบอลขึ้นมาในลักษณะของ "เบอร์8" ได้เช่นกัน

มีความหลากหลายในตัว ทั้งภาคเกมรับ การซัพพอร์ตทีม การขับเคลื่อนบอล และเกมรุก

จุดเด่นๆของชูอาเมนี่คือ เกมรับ เกมป้องกัน ประหนึ่งชุดเกราะที่แข็งแกร่งให้กับแผงกองหลังของทีม แต่มีพิษสงอยู่รอบตัวประหนึ่งอสรพิษ เราจึงมอบฉายาเล่นๆให้กับเขาว่า "ชุดเกราะอสรพิษ" (Viper Armor) จะได้นึกภาพออก

หากให้เปรียบเทียบเป็นศัพท์ ก็น่าจะจำกัดความชูอาเมนี่ได้ว่าเป็น "Ball-winning Midfielder" คงจะชัดเจนที่สุดแล้วสำหรับสกิลเด่นที่สุดของเขา นั่นก็คือมิดฟิลด์ตัวที่เน้นการเอาชนะแดนกลาง และทำลายเกมของคู่ต่อสู้ได้ดี จากการตัดบอลและเข้าแทคเกิลได้อย่างแม่นยำ แน่นอน และแข็งแกร่ง

สไตล์ของหมอนี่คือเรียกง่ายๆว่าเป็นตัวที่ "ชอบเข้าบอล" มากๆ ด้วยความกล้า การตัดสินใจที่รวดเร็ว ทำให้ปริมาณการแทคเกิลของเขาสูงมากเมื่อเทียบกับกลางรับคนอื่นๆ ทำให้ตัดเกมได้บ่อยและเยอะ ซึ่งก็ตามมาด้วยการเสียฟาล์วเยอะขึ้นด้วย แต่ถ้าวัดปริมาณใบเหลืองแค่ 9 ใบ, 1ใบแดง ทั้งซีซั่นที่แล้ว กับจำนวนการเข้าแทคเกิล+ตัดบอล ทั้งหมด 206 ครั้งแล้ว ถือว่าไม่เยอะเลย

เท่ากับว่า โอกาสเข้าสกัดแล้วโดนตักเตือนจากกรรมการด้วยใบเหลืองนั้น มีแค่ 5% ต่อการเข้าบอลหนึ่งครั้งเท่านั้น ซึ่งมันคุ้มมาก เพราะแบบนี้เราก็ถือว่าเขาเข้าบอลปลอดภัยพอสมควร (ไปดูในคลิปกันเอาเองจะรู้เลยว่าหมอนี่คลีนแทคเกิล)

อย่างที่บอกไปว่า นอกจากการใช้ชูอาเมนี่ยืนในตำแหน่ง "DM" เป็นมิดฟิลด์เบอร์6แล้ว ชูอาเมนี่ยังเล่น "เบอร์8" ได้ ดังนั้นRoleที่เขาสามารถเล่นได้ดี ยังมีหน้าที่ประเภทที่ยืนในพื้นที่กลางสนามของตัว "CM" ได้อีกด้วย ซึ่งชูอาเมนี่ยังเป็นตัวซัพพอร์ตเพื่อนได้ในลักษณะของ "Carrilero" (แบบเฟร็ด)

หรือรวมถึงการเป็น Mezzala ขับเคลื่อนบอลขึ้นในแดนหน้าด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของเขา คล้ายๆกับ เรนาโต้ ซานเชซ หรือว่าคู่แข่งในทีมชาติเดียวกันอย่าง "เอดูอาร์โด้ คาเมวิงก้า"

แต่หลักๆแล้ว ใช้ยืนเป็นเบอร์ 6 น่าจะดีที่สุด เพราะเด่นด้านเกมรับและปัดกวาดในพื้นที่หน้าแผงหลังมากๆ ซึ่งสามารถใช้ยืนเป็นกลางรับเดี่ยวคนเดียวได้สบายๆ หรือจะเล่นในระบบ double pivot ก็ไม่ติดอะไร

เรตติ้งของชูอาเมนี่จาก Whoscored บ่งบอกชัดเจนว่าตำแหน่งถนัดสุดของเขาคือDM เพราะเรตติ้งการเล่นตำแหน่งนั้นอยู่ที่ 7.74 แต่เมื่อมาเล่น CM (หรือMCนั่นแหละ) เรตติ้งการเล่นลดเหลือแค่ 6.91 เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ชัดเจน

ด้วยร่างกายที่หน่วยก้านกำลังดีกับตำแหน่งนี้ ไม่หนาเทอะทะเกินไปแต่ก็ไม่บาง พร้อมกล้ามเนื้อที่ฟิตเนสมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้ด้านphysical ของชูอาเมนี่ดีมากๆ การตัดบอลจึงดีตามไปด้วยเพราะร่างกายได้เปรียบ + เล่นบอลฉลาด และมีสกิลทักษะสูง ตามสไตล์นักเตะฝรั่งเศส

หากให้เปรียบเปรยให้เห็นภาพใครสักคนนึง ผมคิดว่าเขาเหมือนกับเป็นตัวลูกของ "คาเซมิโร่" แบบชัดเจนมากๆ เห็นภาพการยืนเก็บกวาดหน้าแผงกองหลัง การยืนตำแหน่ง การเล่นเกมรับ การครอบครองบอล การจ่าย ลักษณะสไตล์ท่าทางเห็นแล้วนึกถึงคาเซมิโร่จริงๆ

(ที่น่าตกใจกว่าคือ เพิ่งไปดูข้อมูลกายภาพของคาเซมิโร่มา ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง 185 ตัวเกือบๆจะเท่ากันเป๊ะเลยสองคนนี้)

แน่นอนว่า ชูอาเมนี่ ยังคงไปไม่ถึงกับระดับของคาเซมิโร่ ในตอนนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงพีคที่สุดทั้งร่างกาย ทักษะ ด้านจิตใจ และประสบการณ์

แต่ชูอาเมนี่ มีpotential ที่จะเดินตามรอยคาเซมิโร่ได้ในอนาคต ด้วยวัยที่อ่อนกว่าถึง 8 ปีเต็มๆ ใช้งานได้อีกยาวๆ เป็นตัวแห่งอนาคตเลยจริงๆ

3.จุดเด่นของชูอาเมนี่

3.1 การตัดบอลและเข้าแทคเกิล

สกิลนี้ถือเป็นไม้ตายหลักของชูอาเมนี่เลย นั่นก็คือการเข้าสกัด และตัดบอลคู่ต่อสู้ ที่ทำได้แข็งแกร่งและแม่นยำมากๆ ด้วยการเข้าแบบคลีนแทคเกิลที่เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่ตัวสายตัดเกมบ้าพลังที่เน้นความหนักหน่วงรุนแรง แบบพวกกลางรับสมัยโบราณยุค รอย คีน กัตตูโซ่ หรือ วิเอร่า

เข้าบอลฉลาดอ่ะพูดง่ายๆ ซึ่งสถิติเกมรับตรงนี้ของชูอาเมนี่ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ วัดจากสถิติปีก่อนกับโมนาโก ถือว่าเป็นตัวที่เข้าแทคเกิลเยอะมากๆ

และเข้าบอลได้ "โคตรแน่น" จริงๆ สกัดขาดทุกลูก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะในแนวรับทุกคนควรมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซ็นเตอร์แบ็ค

3.2 ความคล่องตัว และทักษะการเอาตัวรอดกลางสนาม

ถือว่าทำได้ดีและโดดเด่นมากๆ เท่าที่สังเกต ชูอาเมนี่ ไม่ค่อยกลัวกับการที่โดนคู่แข่งเพรสซิ่งใส่ จะหนึ่งหรือสองคน เขามีทักษะ มีเหลี่ยมบอล และความนิ่งที่มากพอจะใช้ "เทคนิค" ชั้นดีในแบบของมิดฟิลด์ฝรั่งเศส หนีออกจากการเล่นงานของคู่ต่อสู้ได้สบายๆ ถ้า 2-1 นี่คือยังรอดได้อยู่ ไม่ตึงมือมากนัก

เอาตัวรอดในแดนกลางเก่งมากๆ เนื่องจากความฉลาด ใจเย็น และเบสิคฟุตบอลที่ดี รวมถึงร่างกายที่แข็งแกร่ง

3.3 ลูกกลางอากาศ

ต้องบอกเลยว่าตัวนี้เป็นกองกลางที่ ลูกกลางอากาศเด่นสุดๆ ถ้าใครได้ดูคลิปประกอบการเล่นของเขา จะเห็นเลยว่า ชูอาเมนี่ เติมมาทำประตู ในลักษณะของลูกโหม่ง ที่ทำการวิ่งมาโขกเข้าไปสวยๆด้วย ซึ่งหากพิจารณาส่วนสูงของเขา จะไม่แปลกใจที่มีความสามารถในเรื่องนี้โดดเด่น สำหรับส่วนสูง 187cm (ข้อมูลเก่าบอกว่า 185 แต่ก็ถือว่าสูงอยู่ดี)

ข้อมูลเชิงสถิติในเกมลีก บ่งบอกชัดเจนว่า การดวลลูกกลางอากาศของเขาในซีซั่นก่อนยอดเยี่ยมขนาดไหน ด้วยจำนวนของ Aeriel Duel Won 69.2% (คือทุกครั้งที่เทคตัวขึ้นแย่งโหม่งกับคู่แข่ง โอกาสชนะเกือบ 70%) โดยที่ Aeriel Duel ชนะ 92 ครั้งจากการดวลทั้งหมด 133 ครั้ง

ส่วนสถิติซีซั่นนี้ก็ยังถือว่าคุณภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ %ชนะดวลลูกโด่งยังสูง อยู่ที่ 66.7%

ทั้ง Heading และ Jumping Reach ถือว่าน่าสนใจเลย ซึ่งแมนยูไนเต็ดมีคนที่แย่งโหม่งลูกกลางอากาศได้น้อยมากถ้าไม่นับ แมกไกวร์ วาราน โรนัลโด้ นอกนั้นตัวอื่นๆ โดยเฉพาะมิดฟิลด์ทั้งหลาย แทบไม่เคยเห็นกองกลางเราแย่งโหม่งชนะคู่แข่งแบบชัดๆเลยหลังจากหมดเฟลไลนี่ไปแล้ว

3.4 การยืนตำแหน่ง

เรื่องนี้เป็นจุดที่เราชอบมากๆ เพราะเนื่องจากว่า ในทีมชาติฝรั่งเศส ชูอาเมนี่ก็สามารถเล่นในลักษณะของการเป็นตัวปัดกวาดหลังบ้าน คู่กับ ปอล ป็อกบา ให้เติมสูงขึ้นไปได้อย่างสบายใจ ในขณะที่แอ็คชั่นสำคัญๆของเจ้าตัว ก็มักจะเกิดขึ้นในบริเวณหน้าแผงหลังบ่อยๆ ซึ่งเท่าที่ดูด้วยตา การรักษาพื้นที่ ในเกมการแข่งขันจริงเต็ม 90นาที ถือว่าชูอาเมนี่ ยืนคุมโซนได้โคตรดี

ยืนต่ำ เก็บกวาดหน้ากองหลัง ยังยืนตำแหน่งดีที่ช่วยในการเซ็ตบอลขึ้นหน้าของbuild-up playได้ด้วย

ข้อนี้ถูกอธิบายได้เพิ่มเติมจากคลิปวิดิโอการเข้า "แทคเกิล" และสกัดบอลของเขา ให้สังเกตดีๆว่า ลูกสกัดของชูอาเมนี่นั้น หลักๆจะไม่ใช่การแทคเกิลที่ใช้สปีดวิ่งไล่ตามจากระยะห่างๆ เหมือนอย่างที่ "เฟร็ด" ทำ

คือวิ่งเข้าหาบอล 50/50 จากระยะทางที่ค่อนข้างไกล (เรื่องนี้เคยมี infographic วิเคราะห์เอาไว้แล้วในบทความ ว่าเฟร็ดเป็นนักเตะที่มีระยะทางการวิ่งเข้าสกัดบอลค่อนข้างไกลมาก) ซึ่งลักษณะการวิ่งเข้าหาบอลแบบ 50/50 เช่นนั้น มีโอกาสเสี่ยงสูงมากๆที่จะเสียฟาล์ว หรือเข้าไม่ทันคู่ต่อสู้

สปีดต้นของชูอาเมนี่ ไม่ได้เร็วเท่าเฟร็ด แต่ชูอาเมนี่ ใช้ความฉลาดในการผสมผสานระหว่าง ความแข็งแกร่งทางร่างกายที่เร็วพอจะใช้วิธี "วิ่งไล่กวด" คู่แข่งได้ ผสมกับการ "อ่านเกม" (Anticipation) รวมถึงการยืนตำแหน่ง (Positioning) ของตัวเองในการดักทาง อ่านเกมคู่แข่ง แล้วใช้การตัดสินใจ เข้าแทคเกิลอย่างแม่นยำทันที โดยที่ไม่ได้ต้องอาศัยการวิ่งเยอะ

การที่ดักสกัดในลักษณะของการอ่านทางคู่ต่อสู้ได้ดีเช่นนี้ เป็นตัวบ่งบอกว่า การอ่านเกม การยืนตำแหน่งของเขามันดีแค่ไหน รู้ได้เลยจากเทปการเล่นของนักเตะรายนี้

3.5 ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ความขยัน และความอึด (Physical + Work rate & Stamina)

แน่นอนว่าเรื่องนี้โดดเด่นมากๆ ร่างกายแกร่งมาก หน่วยก้านดี ส่วนสูงได้เปรียบมิดฟิลด์คนอื่นที่ตัวเล็กกว่านี้ (ซึ่งมันมีไม่มากหรอกที่จะมีมิดฟิลด์ระดับ 190+ อย่างแม็ค191 หรือพวกซูเช็ค192) ความสูง 187 ถือว่าเพียงพอแล้วที่ร่างกายจะได้เปรียบMFตัวอื่นๆ แถมแรงจัมพ์ก็ดี เห็นว่าเทคตัวแย่งโหม่งคู่แข่งได้อยู่บ่อยๆ อย่างที่บอกไปว่ามีจุดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศ

Physical ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งสิ่งนี้มาจากการฝึกฝนร่างกายด้วย รวมถึงพรสวรรค์ที่ได้จากพระเจ้า ซึ่งบางคนแม้จะพยายามแค่ไหน แต่มันก็มีขีดจำกัดทางด้านร่างกายอยู่ดี อย่างเช่นเฟร็ดของเรานี่แหละ คือตัวอย่างที่ดีที่สุด

เฟร็ดถ้าเทียบกับขนาดตัว ทำได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะร่างกายมันเล็กและบอบบางจริงๆ มวลร่างกายแทบไม่มี ไปชนเค้าก็กระเด็นออกมาเองซะอีก

ชูอาเมนี่ ทั้งสูง และหนาแบบพอดีๆ โดยที่ไม่เทอะทะเกินไปจนขาดความคล่องตัว

เมื่อรวมกับ ความขยันในการเล่น ที่เห็นเขาวิ่งไล่บอลอยู่ตลอดเวลา บวกกับความอึดที่สามารถทำเช่นนั้นได้ทั้งเกม เนื่องจากยังหนุ่มแน่น และร่างกายสดอยู่มากๆ ทำให้เรื่องร่างกาย เป็นอีกจุดเด่นสำคัญของเขา

เพราะงั้น ถ้าถามว่า จากลีกเอิงมาพรีเมียร์ลีกแล้วจะปรับตัวได้หรือไม่ เรื่องนี้ไม่กังวลเลย นักเตะฝรั่งเศสถูกโฉลกกับลีกอังกฤษเยอะแยะ

3.6 สกิลอื่นๆที่มีในตัว แต่ยังไม่ถึงกับโดดเด่น

นอกจากสามข้อข้างบนที่เป็นจุดเด่นมากๆของเจ้าตัว ก็ยังมีความสามารถอื่นๆที่ถือว่าเข้าขั้น "ดี" ของชูอาเมนี่ แต่อาจจะไม่ได้ถึงกับขนาดโดดเด่นมากจนหยิบยกมาเป็นจุดแข็งได้ ซึ่งเราก็จะไม่อวยเกินเหตุ ก็พูดตามจริงที่ Fact แสดงให้เห็น และการเล่นในสนามที่เกิดขึ้นเท่านั้น

-ด้าน Mentality

ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี เท่าที่ดูเทปการเล่นของชูอาเมนี่นั้น เขามีจินตนาการในการจ่ายบอลที่ดี(เห็นมีจ่ายเร็ว มีแทงคิลเลอร์พาส มีวางบอลยาวอยู่) มีไหวพริบดีมาก(การเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ) มีสมาธิ การตัดสินใจ และความ"กล้า" (Bravery) ในการเล่นสูงมากๆ ดังแสดงให้เห็นออกมาในสแตทปริมาณการเข้าแทคเกิลที่เยอะจัดๆ

ในอนาคต ถ้าประสบการณ์ และ พัฒนาการด้านอารมณ์ เป็นไปได้ด้วยดี เขาก็จะเป็นกองกลางเชิงสูงที่หาตัวจับยากมากๆอีกคนที่บัญชาการเกมกลางสนามได้ไม่ต่างกับตัวรับอย่างคาเซมิโร่เลย

-การเลี้ยงบอล ครองบอล

ทักษะ เบสิค ก็ถือว่าสูง สมกับความธรรมดาของมิดฟิลด์จากฝรั่งเศสที่เล่นกันอย่างมีคลาส เล่นกันได้เนียน เมื่อรวมกับไหวพริบความฉลาดในกลางสนาม กับความคล่องตัวของเขา การเลี้ยงบอล เก็บบอลอยู่กับตัว รวมถึงการพาบอลเลี้ยงกินตัวคู่แข่ง ก็ทำได้สบายๆ อย่างที่กล่าวไปว่าเขาไม่กลัวการโดนเพรส และเอาตัวรอดเก่งมาก เนื่องจากไหวพริบดี และคล่อง

-การจ่ายบอล

ถือว่าจ่ายบอลอยู่ในระดับมาตรฐาน ดีแต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ไม่ได้กาก แย่อะไรขนาดนั้น มีลูกวางยาวให้ได้เห็นอยู่บ้างเรื่อยๆ ถือว่ามี tools ในการเล่นเยอะ ทักษะรอบตัวดี

-เกมรุก

หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดจากไฮไลต์ที่คลิปทั้งหลายตัดภาพมา ซึ่งก็มักจะตัดมาแค่บางส่วน แล้วเอาลูกยิงที่มีอยู่ไม่กี่ลูกมาให้ดู(ฮา) ซึ่งเอาจริงๆแล้วการทำเกมรุกไม่ใช่จุดเด่นของชูอาเมนี่ แต่เขาก็มี "ความพยายามที่จะทำเกมรุกให้ทีม" ที่ดีอยู่

เรียกง่ายๆว่า ยังมีทรง เห็นการวางเท้ายิงแล้วดูมีความหวังกว่า "กลางรับคู่" สองตัวของเราเยอะ!

เรื่องตรงนี้วัดจาก Fact ที่ว่า ทั้งฤดูกาลในลีก เขาทำไปทั้งหมด 2 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ จากความพยายามลองยิงทั้งหมด 52 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 10 ครั้ง (ฮา) นั่นก็คือ shot on target แค่ 19.2% เท่านั้นเอง

พูดง่ายๆคือ ลองยิง 5 ครั้ง เข้ากรอบครั้งเดียว ดังนั้น ไม่แปลกถ้าคุณจะดูคลิปไฮไลต์แล้วเห็นคุณน้องเค้ายิงนกอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ตาม ดูการยิงแล้วมีความมั่นใจที่จะยิงดี ปริมาณการยิงต่อเกมคือ 1.53 ครั้ง ก็ถือว่า มีส่วนร่วมกับเกมรุกดีแหละ ไม่ถึงกับไม่รุกเลยขนาดนั้น

ถามว่า มันเก่งขนาดเล่นรุกได้ด้วยเลยขนาดนั้นไหม ผมคิดว่าไม่ใช่สิ่งถนัดของชูอาเมนี่ที่เอามาอวยเป็นจุดเด่นได้

แต่ก็อย่างที่บอก ถือว่า "มีความพยายามดีในการจะเติมเกมรุก" เพราะถ้าเทียบกับนักเตะตำแหน่งเดียวกันอย่าง เดแคลน ไรซ์ แล้วนั้น ทั้งซีซั่น ไรซ์ ลองยิงแค่ 24 ครั้งเอง น้อยกว่าชูอาเมนี่ เท่าตัว แต่ว่า ไรซ์ ยิงตรงกรอบมากกว่าชูอาเมนี่ อยู่ที่ 29.2% หรือตีง่ายๆว่า ยิงสามครั้ง เข้ากรอบราวๆครั้งนึงก็ได้ (1ใน3)

ในประเด็นของการแอสซิสต์นั้นที่ทำได้ 4 แอสซิสต์ เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะแอสซิสต์ เยอะกว่าไรซ์ สามลูก ในการทำ 2 ประตูเท่ากันในฤดูกาลที่แล้ว

การสร้างสรรค์โอกาสยิงให้เพื่อน(SCA) เฉลี่ยแล้วชูอาเมนี่ ทำได้อยู่ที่ 1.59 ครั้งต่อเกม เทียบกับ เดแคลน ไรซ์ 1.53 ครั้งต่อเกม ข้อนี้ถือว่าสูสีกัน

ในขณะที่ "การเล่นที่ทำให้เกิดประตู" (GCA)นั้น ชูอาเมนี่ ก็ดูจะทำได้ดีกว่าไรซ์

เฉลี่ย GCAต่อเกม ชูอาเมนี่ มีการเล่นที่ทำให้เกิดประตู อยู่ที่ 0.26 ต่อเกม ส่วนไรซ์ มีการเล่นที่ทำให้ทีมได้ประตูแค่ 0.09 ต่อเกม เท่านั้นเอง

คิดง่ายๆ กะแบบหยาบๆว่า 4 นัด จะมี 1แอคชั่นของชูอาเมนี่ ที่ทำให้ทีมได้ประตูนั่นเอง อาจจะยิงเอง อาจจะแอสซิสต์ หรืออาจจะมีส่วนในลูก pre-assist ก็ได้

เทียบเกมรุกกันจริงๆ ชูอาเมนี่น่าจะขึ้นมามีส่วนร่วมดีกว่า เดแคลน ไรซ์ อยู่นิดหน่อย

3.7 จุดอ่อน (weakness)

เรื่องจุดอ่อนยังไม่มีให้เห็นเด่นชัดเท่าที่ควร คุณภาพของฝีเท้าโดยรวมถือว่าสมดุล เด่นกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน และมีศักยภาพที่จะเก่งกว่านี้ได้อีกในอนาคตเมื่อเก็บชั่วโมงบินเพิ่มขึ้น

ไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับชูอาเมนี่ทั้งนั้น แม้ลีกเอิงอาจจะไม่แข็งเท่ากับพรีเมียร์ลีก แต่การติดทีมชาติก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความสามารถเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

เรื่องที่เสียไป 9 ใบเหลือง 1 ใบแดง ถือว่าเป็นจำนวนที่ธรรมดามากๆสำหรับนักเตะในตำแหน่งนี้ ไม่ใช่จุดอ่อนของชูอาเมนี่ที่ต้องกังวลอะไร (ดังที่เกริ่นไว้ว่าเขาไม่ใช่สายเข้าบอลหนัก แต่เน้นอ่านจังหวะ + เข้าแม่นๆ แน่นๆ) ส่วนใหญ่น้องจะเข้าสกัดแบบคลีนแทคเกิลทั้งนั้น

ปริมาณที่ชูอาเมนี่เข้าสกัดบอล เยอะมากกว่านักเตะกลางรับด้วยกันบางคนถึง "2 เท่า" ตลอดทั้งซีซั่น มิดฟิลด์ตัวรับหลายๆคน บางครั้งเฉลี่ยแล้ว มีปริมาณการเข้าแทคเกิลในลีกแค่ราวๆ 70 กว่าครั้งต่อฤดูกาลเท่านั้นเอง

ยกตัวอย่างง่ายๆ ตัวที่ว่าขยันๆวิ่งไล่คู่แข่ง ขยันเข้าบอลคู่ต่อสู้อย่าง เฟร็ด ของทีมเรา ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดนั้น ยังแทคเกิลแค่ 88 ครั้ง ตลอดทั้งซีซั่น

ส่วนชูอาเมนี่ แทคเกิลไปทั้งหมด 142 ครั้ง ยังไม่รวมเกมรับชนิดอื่นๆเช่น Interceptions / Blocks / Clearances เป็นต้น

ส่วนเรื่อง Injury History ประวัติอาการบาดเจ็บ ยิ่งไม่ต้องห่วงเข้าไปใหญ่ ทั้งฤดูกาล พี่แกเจ็บข้อเท้า พักไปแค่4วัน พลาดเกมแค่ "นัดเดียว" เท่านั้นเอง

..เจอสถิตินี้เข้าไป น่าจะมีผู้จัดการทีมบางคนลูบปากเลย คนที่ชอบใช้นักเตะkey playerลงสนามอยู่ทุกนัดนั่นแหละ!

4.ความเหมาะสมในการซื้อมาเสริมทีมให้กับปีศาจแดง

4.1 ดีกว่าใช้แม็คเฟร็ดเล่นกลางรับคู่กัน ทำให้ทีมปรับFormationได้

เมื่อเราพูดในบริบทของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถามว่า ชูอาเมนี่ น่าซื้อขนาดไหน ก็ต้องบอกเลยว่า "ควรซื้อเป็นอย่างยิ่ง" ระดับความอยากได้อยู่ในระดับเป้าหมายตัวท็อปอีกคนนึงในตำแหน่งกลางรับ ที่ตรงกับสิ่งที่ทีมเราขาดพอดี นั่นก็คือ มิดฟิลด์ตัวต่ำที่สามารถเล่นเกมรับด้วยตัวคนเดียวได้ เคลียร์บอลก่อนถึงแนวรับ และปักหลักอยู่หน้าเซ็นเตอร์แบ็คได้เป็นอย่างดี

เป็นกลางรับเดี่ยว ตัวที่แมนยูไนเต็ดตามหาอยู่ และจะทำให้ทีมสามารถเล่นแผน 4-3-3 อย่างสมบูรณ์แบบได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบ double pivot และเสียนักเตะมาเล่นกลางรับถึงสองคนอย่างเปล่าประโยชน์

ถ้าได้ตัวมาก็แผนนี้เลย แจ่ม ในกรณีที่ป็อกบาอยู่ต่อ

ผมดูชูอาเมนี่เล่นนะ ผมพูดตรงๆเลยว่า การเล่นของตัวนี้ ผมว่าชูอาเมนี่มีประโยชน์มากกว่าการเล่นของแม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด มัดรวมกันซะอีก

นี่คือคำพูดจากนักเขียนที่ไม่นิยมการดูถูกทีมตัวเอง และเกลียดการด่านักเตะตัวเองแบบสุดๆอย่างศาลาผี แต่ผมพูดโดยยอมรับความเป็นจริงว่า สกิลการเล่นของชูอาเมนี่ มันดีกว่า ทั้งแม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด มากๆ

ดีกว่าอย่างไร?

ประการแรก "การตัดเกม" หรือภาคเกมรับของทีม ชูอาเมนี่ ดูจะตัดเกมคู่แข่งได้ดีกว่าแม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ดเยอะมากในด้านของคุณภาพ เพราะเข้าบอลแม่น และปริมาณการแทคเกิลสูงมากๆ

วัดจากความรู้สึกแค่ที่ตาเห็นจากการเล่นในเทป ก็บ่งบอกเช่นนั้นแล้ว เมื่อมาดู "Fact" ยิ่งน่าตกใจหนักกว่าอีก เมื่อปริมาณการเข้าแทคเกิล ของเฟร็ด รวม กับ แม็คโทมิเนย์สองคน รวมแล้วยังไม่เท่า ชูอาเมนี่แค่คนเดียว

จำนวนการแทคเกิลในเกมลีกของซีซั่นที่แล้ว

เฟร็ด 88 + แม็คโทมิเนย์ 48 รวมสองคน = 136 ครั้ง

ชูอาเมนี่ (คนเดียว) = 142 ครั้ง

แถมแทคเกิลแล้วชนะ ชูอาเมนี่ก็ยังชนะเยอะกว่าอีก

แม็คเฟร็ด แทคเกิลชนะรวมกัน 55+29 = 84 ครั้ง

ส่วนชูอาเมนี่คนเดียว แทคเกิลชนะไป 97 ครั้ง

และเมื่อคิดในภาคเกมรับทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Blocks + (Tackles + Interceptions) + Clearances จะได้ปริมาณออกมาดังนี้

McTominay : 56+99+54 = 209

Fred : 62+135+33 = 230

Tchouameni : 54+206+70 = 330

วัดปริมาณกันส่วนตัว ชูอาเมนี่ ชนะขาด ทั้งเฟร็ด ทั้งแม็คโทมิเนย์ และเมื่อเอาแม็คเฟร็ดสองคนมารวมกัน เกมรับทั้งหมด 439 ครั้ง มากกว่า ชูอาเมนี่ คนเดียว แค่ราวๆ 100 แอ็คชั่นของเกมรับ

แหงล่ะ เอาสถิติของตัวรับสองคน มารวมกัน ตัวเดียวมันจะไปชนะได้ยังไง แต่จะเปรียบเทียบให้เห็นว่า ขนาดชูอาเมนี่คนเดียว ยังแพ้สองคนรวมกันแค่ 439-330 = 109 แค่นั้นเอง

ยังไม่พูดด้านคุณภาพการเล่นเกมรับที่แม่นยำและมีคุณภาพดีกว่า ด้วย tackle won percentage 68.309% ของชูอาเมนี่ และของแทคเกิลชนะของ "แม็คเฟร็ด" มีเปอร์เซ็นต์ชนะอยู่แค่ 61.764% เท่านั้นเอง ซึ่งต่างกันเยอะมากจริงๆ

ทั้งด้านปริมาณแทคเกิล ชูอาเมนี่ก็ชนะแม็คเฟร็ดรวมกัน และคุณภาพแทคเกิลก็ดีกว่าแบบชัดเจน

สปีดกลับอย่างรวดเร็ว track back วิ่งมาตัดเกมกลางสนามก่อนที่ทีมจะโดนสวนได้ดีมาก ดังภาพที่ชูอาเมนี่เข้าตัดบอลทันที

ดังนั้นแล้ว ตรงนี้คือหลักฐานเชิงสถิติที่ทำให้เห็นชัดว่า หากได้ชูอาเมนี่มาเข้าทีม ไม่ว่าทีมไหนๆก็ตาม เขาสามารถแบกกลางรับเอาไว้ด้วยตัวคนเดียวได้สบายๆ ด้วยภาคเกมรับที่โดดเด่นสุดๆ ถ้าแมนยูไนเต็ดต้องการกลางรับเดี่ยวที่จะเข้ามายืนรับหน้าที่ตรงนี้ให้กับทีม เพื่อให้ทีมเลิกใช้ กลางรับคู่ แล้วไปเติมมิดฟิลด์ตัวรุกได้อีกคนในแผนอื่นๆเช่น 4-3-3

ชูอาเมนี่ถือว่าเข้าแก๊ป

4.2 การเล่นคู่กับ ปอล ป็อกบา

นอกจากนี้ความน่าสนใจของเจ้าหนูคนนี้นั้น ยังเกี่ยวพันกับ ปอล ป็อกบาอีกด้วย หากว่าเกิดการพลิกล็อค ต่อสัญญาป็อกบาขึ้นมาจริงๆ ยิ่งทวีความน่าสนใจที่จะซื้อ ชูอาเมนี่ เข้ามาผนึกกำลังเล่นคู่กับป็อกบาแดนกลาง ซึ่งจะทำให้ป็อกบา ปลดพันธนาการ และโบยบินเป็นอิสระ เล่นกลางสนามและเติมสูงได้อย่างสบายใจ โดยที่กลางไม่ยวบ

เพราะมีคนคอยปัดกวาดด้านหลังที่มีคุณภาพสูงๆอย่างชูอาเมนี่ อยู่ด้านหลังป็อกบา หรือบรูโน่แล้ว

ดังนั้น หลังบ้าน ปล่อยชูอาเมนี่คนเดียวจัดการได้เลย สบายๆ แล้วป็อกบา อยากจะเล่นรุกคู่กับบรูโน่ หรืออยากจะทำอะไรตามใจชอบก็เล่นได้เลย โดยไม่ต้องรับผิดชอบเกมรับมากนัก เพราะมีตัวเข้าแทคเกิลเจ๋งๆ ยืนตำแหน่งด้านหลัง คอยซัพพอร์ตให้อย่างดี และช่วยเล่นเกมรับให้

เดี๋ยวๆๆ ภาพประกอบนี่มันยังไงๆอยู่นะ

4.3 เปรียบเทียบกับ "เป้าหมายหลัก" ในตลาดหน้า อย่าง "เดแคลน ไรซ์"

หากเทียบกันกับ เดแคลน ไรซ์ แล้วนั้น มีสถิติอยู่หลายๆอย่างที่ควรจะต้องนำมาเปิดให้ดู เพื่อเทียบกันว่า ใครดูจะเหมาะสมสำหรับแมนยูไนเต็ดกว่ากัน

ต้องบอกก่อนว่า เอาจริงๆแล้วคือ สองตัวนี้ดีมากทั้งคู่ พูดง่ายๆว่า "ใครก็ได้" ขอเข้ามาสักคน ดีหมด คือดีย์ ประเด็นนี้ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่บอร์ดมันเอาจริงๆเถอะ จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

แต่ถ้าให้เปรียบเทียบจริงๆว่า "ใครเหมาะกับแมนยูไนเต็ดมากกว่ากัน" ผมมีข้อสรุปมาให้ดังนี้ จากข้อมูลสถิติ และภาคการเล่น

ภาคเกมรุก

ชูอาเมนี่ ชนะ เดแคลน ไรซ์ ในด้านตัวเลขอยู่นิดหน่อย จากสถิติในลีกซีซั่นที่แล้ว เกมเฉลี่ยหาร90นาที ชูอาเมนี่ลง 34 ไรซ์ลง 32 พอจะเทียบเคียงกันได้

ชูอาเมนี่ ทำไป 2 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ ในลีกเอิง ส่วน เดแคลน ไรซ์ ทำไป 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก

ในขณะที่ SCA (Shot Creating Actions) และ GCA (Goal Creating Actions) ก็ดีกว่าเดแคลน ไรซ์ ด้วยสถิติ

SCA/90 : ชูอาเมนี่ 1.59 ต่อ ไรซ์ 1.53

และ GCA/90  ชูอาเมนี่ 0.26 ต่อ ไรซ์ 0.09

ปริมาณการยิง (shots) รวมแล้วก็ชนะขาดเกินเท่าตัว เมื่อชูอาเมนี่ ส่องยิงทั้งหมด 52 ครั้ง ส่วนไรซ์ ส่องแค่ 24 ครั้งเท่านั้น

ผมคิดว่าเราพอจะตัดสินได้ว่า เกมรุก ชูอาเมนี่ ดูจะเติมรุกมากกว่าไรซ์อยู่ (จาก number of shots)

ส่วนด้านคุณภาพเกมรุก ถือว่าชูอาเมนี่พอๆกันกับไรซ์ ไม่ได้ดีกว่ากันมากแบบเห็นชัด เพราะในยูโรปาลีกปีนี้ ไรซ์ซัดไป 2 เม็ดแล้วให้เวสต์แฮม ส่วน ชูอาเมนี่ ในรายการเดียวกัน ยังยิงให้โมนาโกไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว

ถัวเฉลี่ยกับปีก่อนแล้วก็ถือว่าพอๆกัน มันไม่ต่างกันมากแบบเห็นได้ชัด

เกมรุกถือว่า "เสมอ" กันไป

ภาคเกมรับ

ลูกกลางอากาศก่อน ชูอาเมนี่ ดวลลูกโด่งทั้งสิ้น 133 ครั้ง ชนะ 69.2% ส่วนไรซื ดวลลูกโด่ง 76 ครั้ง ชนะแค่ 61.8%

คุณภาพการแทคเกิลพอๆกัน ชูอาเมนี่ อัตราการแทคชนะ 68.3% ส่วนเดแคลน ไรซ์ อัตราการแทคเกิลชนะ 68.8% ถือว่าไรซ์เฉือนไปนิดเดียวด้านวินเรท แต่ถ้าวัดปริมาณ ต้องบอกว่า ชูอาเมนี่กินขาด จากจำนวน 142 ครั้งทั้งซีซั่นในลีก ส่วนไรซ์ แทคเกิลรวมแล้ว 77 ครั้งในลีก

ผมคิดว่าถ้าเทียบแบบนี้ ให้ชูอาเมนี่ ชนะไรซ์ได้ เรื่องการแทคเกิล

ส่วน Defensive Actions ด้านอื่นๆ รวม Blocks + (Tackles + Interceptions) + Clearances

ชูอาเมนี่ : 54+206+70 = 330

ไรซ์ : 54+145+46 = 245

เกมรับ ชูอาเมนี่ เหมือนจะชนะเดแคลน ไรซ์ แบบเด็ดขาดเหมือนกัน นี่ขนาดว่าเอาเดแคลน ไรซ์ มาเปรียบเทียบแล้วนะ ซึ่งก็คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะแม้จะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำเหมือนกัน แต่ "สไตล์" การเล่นก็ต่างกันพอสมควร เราจะเอาปัจจัยตรงนี้มาตัดสิน Overall ของนักเตะคนนึงที่จะมาเล่นกลางต่ำให้ทีมเลยก็ได้

เพราะ เดแคลน ไรซ์ คือ "Defensive Midfielder" หน้าที่หลักๆคือเป็นมิดฟิลด์แกนกลางให้กับทีม มีหน้าที่ในเกมรับเป็นหลักๆ

แต่ ชูอาเมนี่ คือ "Ball-winning Midfielder" เป็นมิดฟิลด์ตัวรับสายตัดเกมแบบจ๋าๆโดยตรง

ดังนั้นถ้าเอาสถิติเกมรับ การตัดเกม การป้องกัน ชูอาเมนี่กินขาดอยู่แล้ว

แต่หน้าที่ของมิดฟิลด์ ไม่ได้มีเพียงแค่ เกมรับ หรือ เกมรุก ...

ภาคการคุมเกม เชื่อมเกม และการโฮลดิ้ง

ต้องบอกว่า เดแคลน ไรซ์ ยังคงเป็นตัวโฮลดิ้งที่ไว้ใจได้อยู่ และเมื่อเอาสถิติตัวเลขที่ชัดเจน มากางเปรียบเทียบกันระหว่าง ไรซ์ กับ ชูอาเมนี่ ต้องบอกเลยว่า เดแคลน ไรซ์ เล่นโฮลดิ้งให้ทีม ดีกว่าชูอาเมนี่

เอาที่เรื่องแรกก่อน อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ ต้องบอกว่า เรื่องการจ่ายบอล ไรซ์ชนะขาดลอยทุกเม็ด

Rice : เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสำเร็จ 86.2% จากจำนวนทั้งหมด 1506 ครั้ง และจ่ายแม่นกว่าชูอาเมนี่หมดทั้งสามระยะ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายระยะใกล้ 90.5% ระยะกลาง 90.3% และการวางบอลยาว(มากกว่า30หลา) 73.6% ซึ่งถือว่ายังสูงอยู่

Tchouameni : เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสำเร็จ 83.8% จากจำนวนทั้งหมด 1852 ครั้ง จ่ายระยะใกล้ 87.7% ระยะกลาง 88.8% และการวางบอลยาว(มากกว่า30หลา) 68.0%

การจ่ายบอล เดแคลน ไรซ์ กินพอสมควรในภาคความแม่นยำของการแจกจ่าย เดินเกม เชื่อมต่อเกม

แต่มีสถิติน่าสนใจเล็กๆว่า ชูอาเมนี่ เป็นตัวที่ได้รับมอบหมายให้เล่นลูกนิ่ง(ทุกประเภท)ค่อนข้างเยอะ อยู่ที่ 45ครั้ง ส่วนไรซ์แค่ 22 ครั้ง

เรื่องที่สอง คือการโฮลดิ้ง จากสถิติPossession ครองบอลนั้น การเลี้ยงบอล ไปกับบอล ไรซ์กินขาด

Percentage ของ Dribbles Success นั้น ไรซ์อยู่ที่ 89.2% (สูงมาก แทบไม่เคยพลาดเลย)

ส่วนชูอาเมนี่ Dribbles Success อยู่ที่ 78.6% ก็ไม่ได้แย่ แต่ไรซ์เหนือกว่ามากๆในเรื่องนี้

total distance ไรซ์ก็พาบอลไปเป็นระยะทางรวมที่ไกลกว่า อยู่ที่ 8223 หลา ส่วนชูอาเมนี่  total dist 8045 หลา

เปอร์เซ็นต์การรับบอลสำเร็จ (Passes Recieved %) ไรซ์ก็ยังเฉือนอยู่ที่ 93.3% ต่อชูอาเมนี่ 93.1%

การพาบอลขึ้นหน้า ระยะทางรวม ไรซ์ 4320 หลา ส่วนชูอาเมนี่ 3605 หลา

ทั้งๆที่จำนวนการสัมผัสบอล ชูอาเมนี่เยอะกว่าเยอะ 2299 ครั้ง ส่วนไรซ์ แค่ 1800 ครั้งเท่านั้นเอง แต่สถิติการครอบครองบอลทุกอย่างเหนือกว่าชูอาเมนี่ทั้งหมด

Fact ตรงนี้สามารถนำมา analyze ได้เลยว่า เรื่องความสามารถในการโฮลดิ้งบอลเอาไว้กับตัว และรักษาการครองบอลให้ทีมนั้น เดแคลน ไรซ์ เหนือกว่า อูเรลียัน ชูอาเมนี่ ค่อนข้างมาก

ในหัวข้อการเปรียบเทียบกับเป้าหมายหลักในข้อ 4.3 นี้ มันทำให้เราเห็นอะไร?

เราเห็นว่า ชูอาเมนี่ ทำได้ดีในภาคเกมรับมากๆ ดีกว่าไรซ์แบบชัดเจนเกือบทุกๆมิติ ในขณะที่เกมรุกสองคนนี้ไม่ต่างกันมากนัก และสุดท้าย ภาคการโฮลดิ้ง การครองบอล และคุมเกมให้กับทีม ดูเหมือนว่า เดแคลน ไรซ์ จะเหนือกว่า ชูอาเมนี่ ในด้านนี้

เราต้องมาพิจารณาว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กำลัง "มีปัญหาเรื่องไหนอยู่ในแดนกลาง"

ซึ่งผู้เขียนสามารถตอบให้ได้เลยว่า เรามีปัญหาที่ขาดมิดฟิลด์ตัวต่ำในการ "คอนโทรลเกมแดนกลาง", ปักหลักเล่นเกมรับป้องกันแผงหลัง และ "เซ็ตเกมจากแดนหลังขึ้นหน้า"

ซึ่งคนที่ดูจะลงล็อคกับการแก้ปัญหาที่ซื้อมาแล้ว ตรงจุดมากที่สุด ที่จะทำให้ทีมมีทรงการเล่นที่ดีขึ้น รวมกับเกมรับที่ดีใช้ได้ไม่แพ้กัน เปรียบเทียบด้วยสถิติเชิงวิเคราะห์แล้วนั้น เทียบจุดเด่นระหว่างตัวท็อปๆเหมือนกันอย่าง ไรซ์ กับ ชูอาเมนี่ ที่กำลังมาแรง และเป็นที่ต้องการในยุโรป ว่าจุดแข็งของใครเหมาะกับการเข้ามาแก้ปัญหาแมนยูมากกว่ากัน

"เดแคลน ไรซ์" (Declan Rice) ยังคงเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สมควรซื้อเข้ามาเสริมทีมมากที่สุด เป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี 

เพราะทีมเราเล่นกันไม่มีทรงมากๆ คุมสถานการณ์ในสนามไม่ได้ เก็บบอลไม่ได้ กลางต่ำตัวเดียวที่เล่นได้ดีอย่างมาติชก็จะปลดระวางอยู่แล้ว มันไม่มีใครเล่นตำแหน่งนี้จริงๆ (แม็ค เฟร็ด ถ้าใช้ให้ถูกตำแหน่งในจุด CM จะดีกว่านี้มาก แต่DM ยังไงก็ต้องหาคนมายืนแทน)

เขียนมาตั้งนาน มันไม่ได้หักมุมนะ ว่า อ้าว สรุป ไรซ์ดีกว่า จะเขียนมาทำไมตั้งยาว

ก็รีวิวให้ดูไงครับ รีวิวนักเตะ

จะบอกว่า ชูอาเมนี่เป็นกลางรับที่เก่งมาก โคตรเก่ง มีอนาคตและมีศักยภาพที่จะเดินตามรอยเทพของ คาเซมิโร่ ได้สบายๆเลย แต่ถ้าจะเอาแบบแก้ปัญหาแมนยูไนเต็ดจริงๆ เดแคลน ไรซ์ ดูจะตรงจุดกว่าเล็กน้อย

แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ สองคนนี้ ขอแค่ซื้อมาก่อนเหอะ ใครก็ได้สักคน ซื้อๆมาให้ได้

ดูแล้วความเป็นไปได้ของทางชูอาเมนี่ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะปัจจัยเรื่องของราคา

เดแคลน ไรซ์ ถูกตั้งค่าหัวไว้ในฐานะสมบัติของเวสต์แฮม และ "สมบัติของชาติ" ในราคา 100 ล้านปอนด์ เรทเดียวกันกับที่ซิตี้ต้องจ่ายให้แอสตัน วิลล่า เพื่อดึงตัว แจ็ค กรีลิช มา

ส่วน ชูอาเมนี่ ราคาค่าตัวราวๆ 50-60 ล้านยูโร ซึ่งการทำธุรกิจกับโมนาโกไม่น่ายาก และราคาถูกกว่ากันครึ่งนึง

พูดในบริบทของการคุมทีมแล้ว หากว่าผู้จัดการทีมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นใคร ต้องการที่จะเล่นแผนในลักษณะของ "กลางรับคู่" เพื่อที่จะให้ตัวรุก 4 คนด้านหน้าได้โบยบินกันอย่างเป็นอิสระในแผน 4-2-3-1 ซึ่งจริงๆแล้วเอื้อให้กับการใช้งานตัวรุกเก่งๆที่มีมากมายของเราในทีมได้นั้น

การจะใช้ 4-2-3-1 นั้น "กองกลางสองคนของทีมต้องเก่งจริง" เท่านั้นถึงจะเล่นแผนนี้ได้ เพราะมันเป็นformationที่ตัวรุกไปกองกันด้านหน้า และมิดฟิลด์จะภาระหนักสุดๆ

แต่ทุกวันนี้เรามีมิดฟิลด์สองคนที่ยังไม่ดีพอ จะรับภาระหนักขนาดนี้ได้

พูดก็พูดเถอะ ถึงมันจะไม่มีทางเป็นไปได้จริงก็ตาม แต่สำหรับชูอาเมนี่ กับ เดแคลน ไรซ์นั้น น่าจะจับมายืนคู่กันในระบบdouble pivot คู่กันซะด้วยซ้ำ ชูอาเมนี่มีหน้าที่ปัดกวาด ตัดเกม ซัพพอร์ต เติมเกม ส่วน เดแคลน ไรซ์ มีหน้าที่โฮลดิ้ง ครองบอล รักษาshapeการเล่น และคุมจังหวะของเกม

ถ้าได้มาคู่กันเลย จะเป็นแผนในฝันมากๆที่กลางคู่สองตัวนี้เอาอยู่ และแดนหน้าบุกกระจุยแน่นอนเพราะหลังบ้านเซฟแล้ว ให้บรูโน่บัญชาการเกมรุกไปเลยเต็มๆ

ถ้าไม่ได้ตามนี้ ขอเป็นคอมโบ ไรซ์-เนเวส / เนเวส-บิสซูม่า / ชูอาเมนี่-เนเวส ก็ได้เหมือนกัน

บางครั้งนักเตะมันใช่ มันเหมาะก็จริง แต่จังหวะ โอกาส และความเป็นไปได้มันเกิดขึ้นยาก เราก็ไม่มีโอกาสได้ตัวเหมือนกัน เพราะทุกอย่างมันไม่ง่ายเหมือนเล่นเกม (FMเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เล่นง่ายๆแล้วด้วย ถ้าไม่รีเซฟจริงๆ ฮา)

เพราะงั้น บทความนี้ จึงขอฟันธงเลยว่า อูเรลียัน ชูอาเมนี่ คือมิดฟิลด์ตัวรับที่โคตรเก่งมาก และเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ "น่าซื้อ" หากว่าทีมไม่สามารถดึงตัวเดแคลน ไรซ์ มาได้จริงๆเพราะราคาแพง หรืออาจจะโดนเชลซีปาดไปซะก่อน

ถือเป็นตัวเลือกที่โคตรน่าสนใจมากๆในการซื้อมาเสริมทีมให้กับปีศาจแดงครับ

-ศาลาผี-

References

https://fbref.com/en/players/4f255115/all_comps/Aurelien-Tchouameni-Stats---All-Competitions

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=4f255115&p1yrfrom=2020-2021&player_id2=1c7012b8&p2yrfrom=2020-2021

https://www.whoscored.com/Players/353423/Show/Aur%C3%A9lien-Tchouam%C3%A9ni

https://www.transfermarkt.com/aurelien-tchouameni/profil/spieler/413112

https://www.eurosport.com/football/transfers/2021-2022/manchester-united-identify-50-million-aurelien-tchouameni-as-paul-pogba-replacement-paper-round_sto8586898/story.shtml

https://www.monaco-tribune.com/en/2021/10/masterful-tchouameni-continues-to-thrive-with-as-monaco/

https://www.thesun.co.uk/sport/football/16410582/man-utd-line-up-tchouameni-rice-transfer/

https://fbref.com/en/players/b853e0ad/Fred

https://fbref.com/en/players/d93c2511/Scott-McTominay

https://www.youtube.com/watch?v=65t_t26iF6A

https://www.youtube.com/watch?v=4KRgMfx_xJY