จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 ปี แล้วที่ นิโกล่าส์ เปเป้ ลงเล่นตัวจริงครั้งแรกให้ อาร์เซน่อล ซึ่งเกิดขึ้นในเกมกับ ลิเวอร์พูล
ด้วยเตะมูลค่า 72 ล้านปอนด์ของ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขาจากการลงสำรองในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล และ เบิร์นลี่ย์ ก่อนที่ อูไน เอเมรี่ จะตัดสินใจส่งเขาลงตัวจริงในเกมที่แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 2019
เกมนั้น ดาเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์ระเบิดฟอร์มอันน่าตื่นตาตื่นใจ และเกือบที่จะทำประตูได้ ซึ่งดูเหมือนว่าการทุบคลังครั้งใหญ่ของ อาร์เซน่อล ทำให้แฟนๆ มองเห็นอนาคตที่สดใส
แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา เปเป้ ก็ยังคงย่ำอยู่ที่เดิม แถมเหมือนจะถอยหลังลงคลองเสียด้วยซ้ำ และกับการที่ ปืนใหญ่ จะไปเยือนแอนฟิลด์ ในวันเสาร์นี้ คาดว่าดาวเตะวัย 26 ปี ก็น่าจะอยู่บนม้านั่งสำรองที่คุ้นเคยมาตลอดในช่วงหลัง
เปเป้ ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล เพียง 5 จาก 11 นัดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยมีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่เขาได้ลงตัวจริงจาก 6 นัดที่ผ่านมา
อดีตดาวเตะ ลีลล์ ต้องพบว่าเขาอยู่นอกสายตาของ มิเกล อาร์เตต้า ทั้งที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไร มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นเขาลงสนามในระบบ 4-4-2 ที่นายใหญ่ เดอะ กันเนอร์ส ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตัวริมเส้นของเขาคือ เอมิล สมิธ โรว์ และ บูคาโย่ ซาก้า
กับการที่เขาจะเหลือสัญญาเพียงแค่ 2 ปีในตอนสิ้นสุดซีซั่นนี้ มันจึงทำให้เกิดคำถามว่าอนาคตของ เปเป้ จะเป็นอย่างไร
???
"เขาต้องการช่วงเวลาของการปรับตัว แต่ตอนนี้มันหมดไปแล้ว" อาร์เตต้า กล่าวเมื่อสิ้นสุดซีซั่น 2020-21
"เราไม่สามารถที่จะพึ่งพาการปรับตัวได้อีกแล้ว ตอนนี้มันเป็นเรื่องของประสิทธิภาพ และเขาก็สามารถทำได้"
"เขามีนักเตะที่คอยหนุนหลัง ผู้จัดการทีมที่เชื่อใจเขา เขามีทีมงานทุกคนที่เต็มใจช่วยเหลือเขา และเพื่อนร่วมทีมก็ชอบเขามาก เพราะเขามีคาแร็คเตอร์ที่น่ารัก"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เปเป้ นั้นเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถมหาศาล แต่ความไม่สม่ำเสมอคือปัญหาใหญ่ของเขาในลอนดอนเหนือ
เขาเริ่มต้นได้ค่อนข้างช้า ก่อนที่จะมีบทบาทสำคัญกับความสำเร็จในถ้วยเอฟเอ คัพ ของ ปืนใหญ่ ในปี 2020 และจบฤดูกาลแรกของเขาในเมืองผู้ดีด้วยการทำไป 8 ประตู และ 10 แอสซิสต์ จากทุกรายการ โดยมีเพียง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง และ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ที่มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าเขา
ซีซั่นที่สองของเขาก็ยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม โดยตัวรุกรายนี้ทำได้ 16 ประตู จาก 47 นัดที่ลงสนาม โดยมีอีก 5 แอสซิสต์
"ผมมีกำลังใจ และคิดบวกอย่างมากด้วยเหตุผลสองข้อ" อาร์เตต้า กล่าวหลัง เปเป้ ทำไป 8 ประตู จาก 11 เกมในฤดูกาลนั้น
"ข้อแรกคือเขามาไกลในแง่ของความสม่ำเสมอ และสิ่งที่เขาผลิตออกมาในเกมซึ่งไม่ใช่แค่ในพรีเมียร์ลีก แต่ยังเป็นในฟุตบอลยุโรปด้วย"
"อย่างที่สองคือเขาเปลี่ยนความคิด เขาต้องการที่จะดูรีวิวหลังการแข่งขันทุกครั้งที่เราทำให้เขา"
"โดยส่วนตัวแล้ว เขาอยากทำงาน และต้องการเป็นคนที่้เก่งที่สุด เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ด้วยพรสวรรค์ที่เขามี ผมคิดว่ามันเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยม"
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของ เปเป้ ก็คือเขาไม่สามารถลงเล่นได้อย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่จบฤดูกาลที่แล้ว
ซีซั่นนี้เขาทำได้เพียงประตูเดียวจาก 9 นัดรวมทุกรายการ และยังหาตาข่ายในพรีเมียร์ลีกไม่ได้เลย และด้วยตอนนี้ที่ สมิธ โรว์ กำลังฟอร์มแรงแบบฉุดไม่อยู่ ประกอบกับ ซาก้า ก็เล่นได้ตามมาตรฐาน นั่นทำให้เขายิ่งลำบากไปใหญ่
ปีที่แล้ว อย่างน้อยเขาก็ยังมีเกมยูโรปา ลีก ให้ลงสนาม แต่ด้วการที่ อาร์เซน่อล ไม่ได้ไปลุยเกมยุโรปในซีซั่นนี้ โอกาสของเขาจึงเหลือน้อย และยิ่งห่างไกลออกไปอีก
สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ข่าวลือที่ว่า อาร์เซน่อล ยินดีที่จะปล่อย เปเป้ ออกไป โดยมี นิวคาสเซิ่ล, คริสตัล พาเลซ และ เอฟเวอร์ตัน ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นจุดหมายปลายทาง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของ อาร์เซน่อล ก็คือหากปีกรายนี้ได้รับอนุญาตให้ย้ายได้ พวกเขาจะต้องขาดทุนครั้งประวัติศาสตร์จากที่จ่ายไปเมื่อ 2 ปีก่อน
กับตอนนี้ ยิ่ง เปเป้ ไม่ได้เป็น 11 ตัวจริงนานมากเท่าไหร่ มูลค่าของเขาก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เขากำลังเข้าสู่ช่วง 2 ปีสุดท้ายของสัญญา
แม้ว่าจะมีสโมสรติดต่อเข้ามาในเดือนมกราคม หรือปลายฤดูกาล ค่าจ้างของ เปเป้ ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ราว 140,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ก็เป็นเรื่องยากสำหรับหลายทีม
อาร์เซน่อล ต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทั้ง อาร์เตต้า และ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคได้ลงมือยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ โดยมีแข้งชื่อดังหลายรายที่ต้องย้ายออกไป
แม้ เปเป้ จะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นการเซ็นสัญญาที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียว
พาสต้า
