:::     :::

เสน่ห์แห่งลูกหนังแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,063
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รังเหย้าที่ถูกตั้งชื่อตามนามสกุลของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ทางตอนใต้ของประเทศไทย เริ่มต้นก่อสร้างในปีพุทธศักราช 2538 เพื่อใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ

เดิมที "สนามติณสูลานนท์" สามารถจุแฟนบอลได้ถึง 35,000 คน ซึ่งหลายคนก็อยากจะเห็นทีมในจังหวัดนี้ก้าวขึ้นไปเล่นใน ไทยลีก ให้ได้ จนมาถึงวันหนึ่งใน ยาฮามา ลีก วัน หรือดิวิชั่น 1 เดิม ฤดูกาล 2011 หรือเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2554 ในเกมที่ สงขลา เอฟซี พบ บุรีรัมย์ เอฟซี กับการสร้างสถิติจำนวนผู้ชมที่สูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 36,715 คน 


พร้อมกับทำลายสถิติจากการเก็บรายได้เข้าสโมสรในเกมแมตช์เดียว จากบัตรผ่านประตูและขายของที่ระลึก เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,466,000 บาท ซึ่งเดิมทีสโมสรผลิตมาเพียง 3 หมื่นใบ แต่ไม่พอต่อความต้องการของแฟนบอลทำให้ต้องผลิตเพิ่มอีก 6 พันกว่าใบ แสดงให้เห็นถึงกระแสความคลั่งไคล้ต่อเกมกีฬาลูกหนังของชาวจังหวัดสงขลาได้เป็นอย่างดี

ก่อนที่ต่อมาจะซื้อสิทธิ์จาก บุรีรัมย์ เอฟซี ที่ขึ้นลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ลีกพระรอง และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ วัวชน ยูไนเต็ด ก่อนจะมาเป็น สงขลา ยูไนเต็ด และตกชั้นในปี 2560 ทว่าในปีเดียวกันทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ยังเดินหน้าต่อด้วยการใช้งบประมาณร่วม 200 ล้านบาทในการปรับปรุงสนามทั้งสนามฟุตบอลและสนามอื่นๆ 

โดยเพิ่มความจุสนามเป็น 45,000 ที่นั่งและเป็นเก้าอี้นั่งทั้งหมด เพื่อรองรับงานใหญ่กีฬาแห่งชาติ สงขลาเกมส์ 2560 แต่จากนั้นกระแสฟุตบอลเริ่มซบเซาลงมาก จนปี 2561 ทางจังหวัดได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันไทยแลนด์ อเมเจอร์ ลีก ในนามทีมสงขลา เอฟซี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับอีกทีมอย่าง สงขลา ยูไนเต็ด หรือ วัวชน ยูไนเต็ด


กระทั่งทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาไทยลีก 3 พร้อมกับสนามแห่งนี้ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในศึกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ของกลุ่ม ซี โดยมี 4 ทีม คือ อุซเบกิสถาน (แชมป์เก่า) เกาหลีใต้ อิหร่าน และ จีน โดยใช้งานไป 5 นัด จำนวนผู้ชมที่เข้าร่วมทั้งหมด 26,285 คน หรือเฉลี่ยต่อนัด คือ 5,257 คน

มาถึงปีนี้ สงขลา เอฟซี ที่กำลังขับเคี่ยวกับ นครศรี ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3 โซนใต้ เพื่อลุ้นแชมป์ของภาคนี้ และได้มีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลถ้วย 2 รายการ เผชิญหน้ากับทีมจากลีกบน ไม่ว่าจะเป็น ลีก คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายที่พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา


บรรยากาศวันนั้น สนามติณสูลานนท์ ได้ขออนุญาตทางจังหวัดจัดการแข่งขันแบบมีผู้ชม 50% ของ 35,000 ที่นั่ง หรือราวๆ 17,500 คน ตามข้อมูลระบุว่าแฟนบอลมารอกันตั้งแต่บ่ายโมง ก่อนที่บัตรจะถูกขายจนแทบเกลี้ยง เราจึงได้เห็นภาพที่สวยงามของสาวก "เงือกสมิหลา" กลับมาดูสนามที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในเมืองไทยอีกครั้ง

แม้สุดท้ายจะแพ้ไป 1-4 แต่วันนั้นแฟนบอลต่างได้เห็นนักเตะระดับชั้นนำ และทีมชาติไทย มากมาย ทั้ง สารัช อยู่เย็น, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สุมัญญา ปุริสาย, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้, อิคซาน ฟานดี้ ฯลฯ


อย่างไรก็ตามในอีกสัปดาห์ต่อมา ขุนพล "เงือกสมิหลา" ต้องลงเล่นอีกถ้วยหนึ่งก็คือ เอฟเอ คัพ 2021/2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พวกเขาเจอกับทีมในไทยลีก อย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี เกมนี้ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือทีมชาติไทย ยู 23 ซึ่งเป็นชาว จ.สงขลา ได้ถือโอก่าเข้าไปส่องฟอร์มแข้งอายุไม่เกิน 23 ปีด้วย หลังจากกลับมาพักผ่อนที่บ้านเกิด

นัดนั้นเหมือนกับ "หนังชีวิต" หลังจากสู้กัน 90 นาที ตั้งแต่ 17.00 น. ยังเสมอกัน 0-0 จนต้องต่อเวลาพิเศษ ซึ่ง น.115 ทีมเยือนได้ประตูก่อนจาก ชัยวัฒน์ บุราญ แต่ก็เป็นเจ้าถิ่นที่ตีเสมอ 1-1 ในอีก 1 นาทีต่อมา จาก ธีรยุทธ งามละม้าย ทำให้ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนเป็น สงขลา เอฟซี ที่ชนะไป 11-10


ภาพหลังเกมวันนั้นยังชวนให้รู้สึกขนลุกและภูมิใจกับตัวแทนของโซนใต้ เพราะแฟนบอลต่างปรบมือให้กับผลงานของทีม ที่สามารถล้มทีมจากลีกสูงสุดได้ ในเกมที่ต้องต่อกรกันราว 3 ชั่วโมง และจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ แถมยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ในถ้วยน็อคเอ้าท์ ในการเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 2019 ที่ลุยศึกไทยแลนด์ อเมเจอร์ ลีก 

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตามอง เพราะ จังหวัดนี้ถือเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์และมีฐานแฟนบอลที่รักเกมลูกหนังชนิดเข้าไส้ สักวันหนึ่งหากพวกเขาได้ขึ้นมาเฉิดฉายในไทยลีกล่ะก็ 

ตำนานและประวัติศาสตร์ใหม่ๆ จะยิ่งถูกจารึกเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})