"ที่นี่ผมได้อยู่ร่วมกับนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากมาย และผมก็ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นเดอะเบสต์เลย มีทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้, ปอล ป็อกบา, ราฟาเอล วาราน... นักเตะเหล่านี้เคยคว้าแชมป์ถ้วยเมเจอร์กันมา ดังนั้นแค่ได้อยู่ร่วมห้องแต่งตัวเดียวกันกับพวกเขามันก็รู้สึกดีมากๆแล้ว"

"ผมเรียนรู้จากพวกเขาทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการฟื้นฟูร่างกาย และพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นของพวกเขา ผมพยายามจดจำรายละเอียดพวกนี้แล้วพยายามนำมาปรับใช้ในการเล่นของผมด้วย"

เจดอน ซานโช่ เล่าถึงชีวิตในรั้วโอลด์แทรฟฟอร์ดของเขาผ่านทางเว็บไซต์ official ของสโมสร และพูดถึงแบบอย่างในห้องแต่งตัวที่เป็นนักเตะซีเนียร์ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยประเด็นสำคัญที่เจดอนพูดมาก็คือเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากๆสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่

จากความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับทีมชาติอังกฤษในยูโร 2020 จนกระทั่งไล่เรียงมาถึงเกมที่บุกไปเสมอแอตมาดริดที่สนามว่านต๋าเมโทรโปลิตาโน ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก

ก่อนที่จะเป็นสำรองในเกมที่เยือนทีมเก่าสมัยเป็นนักเตะเยาวชนของแตนอาละวาด วัตฟอร์ด และได้ลงมาช่วยต้นสังกัดในช่วงครึ่งหลัง แต่ยังไม่สามารถเบิกสกอร์ให้กับปีศาจแดงได้

และวันอาทิตย์นี้ จะเป็นอีกครั้งที่ซานโช่จะได้เจอกับอดีตทีมเก่าอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้อีกครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบรรยากาศของแฟนบอลที่เอติฮัด เวลาซานโช่ได้บอลจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ยังไงก็คงมีโดนโห่แน่ๆ พร้อมกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ฮา)

ในการให้สัมภาษณ์ ซานโช่ตอบคำถามเรื่องของการเป็นนักเตะพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมเล่นในพรีเมียร์ลีกนั้น ซานโช่ให้ข้อมูลดังนี้ว่า

"แน่นอนครับว่าการฟื้นฟูร่างกายเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะการที่ต้องลงแข่งเกมต่อเกมติดๆกัน ความสดของขาจำเป็นมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเล่นตำแหน่งปีก คุณต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงในสนาม"

"ผมต้องการให้ขาของผมฟื้นฟูความสดให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะลงสนามต่อเนื่องให้ได้ มันสำคัญอย่างยิ่งและผมก็พยายามที่จะพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ"

การย้ายกลับเข้ามาเล่นในฟุตบอลอังกฤษระดับลีกสูงสุดของประเทศอย่าง "พรีเมียร์ลีก" กับทีมที่มีรายการแข่งขันค่อนข้างเยอะอย่าง Manchester United สิ่งสำคัญมากๆก็คือเรื่องของสภาพความฟิตของร่างกาย ที่เราได้เห็นตัวอย่างมาแล้วว่า การที่ต้องใช้งานนักเตะตัวหลักๆอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยที่ทีมไม่มีโอกาสจะ "พัก" ให้บรูโน่ได้เลยนั้น มันส่งผลต่อฟอร์มของพี่หนวดเราขนาดไหน เวลาที่เล่นต่อเนื่องแล้วไม่ได้พัก ฟอร์มจะดรอปลงทันที

เช่นกันกับเจดอน ซานโช่ ปัจจัยเรื่องความล้า ความสดของขาและร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญมากๆ อย่างที่น้องบอกเอาไว้ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดนี้ว่า เขาต้องการให้ขาฟื้นฟู และกลับมาสดให้เร็วที่สุด

สิ่งที่แฟนผีต้องการจะเห็น "เจดอน ซานโช่" ลงสนามเป็นตัวจริงในทุกๆนัดนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายฟอร์มการเล่นของนักเตะมากเกินไป กับเกมที่เล่นกันหนักหน่วงอย่างพรีเมียร์ลีก

การ "Rotation" (โรเตชั่น) เป็นสิ่งสำคัญมากๆที่แฟนบอลจะต้องเข้าใจ และให้โอกาสซานโช่ในการเป็นตัวสำรอง ในฐานะตัวเปลี่ยนเกม หรือลดระดับการเล่นที่ไม่เข้มข้นจนเกินขีดจำกัดมากเกินไป

หากร่างกายบอบช้ำหรือล้ามากๆ การพัฒนาฝีเท้านักเตะก็จะทำได้ไม่เต็มที่มากนัก เพราะการทำให้นักฟุตบอลมีconditionที่ฟิตเต็ม 100% มันจะทำให้ศักยภาพในการเล่นออกมาแบบเต็มๆด้วย ซึ่งถ้า "ไม่ฟิต" ฟอร์มที่แท้จริงก็จะไม่ออกมาด้วยเช่นกัน

การ "โรเตชั่น" ซานโช่ สำคัญมากกว่าที่ใครหลายคนคิด

สถิติการเล่นในพรีเมียร์ลีกของเจดอน ซานโช่ มีดังนี้

22 นัด ทำไป 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์

สถิติการจ่ายบอลเฉลี่ย อยู่ที่ 82% (whoscored,fbREF)

UCL 6 นัด ยิง 1 ประตู

การยิงตรงกรอบเฉลี่ย 1 ใน 3 (33.33%) : ยิง 18 เข้ากรอบ 6

จ่ายบอลสั้น 87.8% , บอลระยะกลาง 82.4% / บอลยาว 58.3%

บอลส่วนใหญ่จ่ายเป็นบอลเรียด (577 ครั้ง), เป็นบอลด้วยเท้าขวา 593 ครั้ง

Average Passes 30.3 per game

Key Passes 1.3 per game

Crossing 0.3 per game

สถิติของ GCA (Goal Creating Actions)

สามฤดูกาลหลังที่ดอร์ทมุนด์ GCA/90นาทีมีดังนี้

1.21 (2018/19)

1.26 (2019/20)

0.96 (2020/21)

ในขณะที่ GCA ฤดูกาลนี้กับแมนยูไนเต็ด = 0.34

แน่นอนว่า สถิติการมีส่วนร่วมในการเล่นที่สร้างประตูได้ของซานโช่ตอนนี้ ทำได้เพียงแค่ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ของช่วงฤดูกาลพีคๆกับดอร์ทมุนด์ก่อนจะย้ายมาเองเท่านั้น

ประสิทธิภาพของนักเตะไม่ได้เปลี่ยนไป เพราะความสม่ำเสมอของสถิติต่อเนื่องสามปีที่ดอร์ทมุนด์ ค่อนข้างสะท้อนการเล่นของเขาที่มีมาตรฐานพอสมควร แต่พอย้ายมาแมนยูไนเต็ด กลับดรอปลงเหลือ 0.34 เท่านั้น

แปลว่า ณ ตอนนี้แฟนผีก็ยังไม่ได้เห็นซานโช่ใน "ร่างที่ดีที่สุด" เลยด้วยซ้ำ

เรื่องที่จำเป็นต้องยอมรับความจริงก็คือ ระบบทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยังไม่ได้ดึงความสามารถที่ดีที่สุดของซานโช่ออกมาได้เต็มที่มากนัก ซึ่งก็คงต้องใช้เวลากันต่อไป โดยที่ปัจจัยสำคัญมันไม่ใช่ฝีเท้าของซานโช่

ย้ำ ไม่ใช่ที่ฝีเท้าของซานโช่ เพราะคลาสการเล่นของนักเตะมันมีมาตรฐานอยู่แล้ว

แต่สิ่งสำคัญจริงๆคือ "ระบบ" และมาตรฐานของทีมต่างหาก

หากว่าปรับจูนให้ทีมมีคุณภาพการเล่นในภาครวมให้ดีขึ้นได้ สถิติดังกล่าวของซานโช่ก็จะอัพตามขึ้นด้วยทันที หากว่าเพื่อนคนอื่นๆในทีมมีการเล่นที่"สนับสนุนซานโช่" และ "รับการสนับสนุนจากซานโช่" ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่านี้

เช่น ถ้าคนรับบอลจากซานโช่มีความ "คม" มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบรูโน่ โรนัลโด้ แรชฟอร์ด หรือ เอแลงก้าก็ตามแต่ สถิติของ GCA เจดอน ซานโช่ จะอัพเกรดขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

เพราะถ้าดูการเล่นที่สร้าง "โอกาสยิง" ให้กับทีม (Shot Creating Actions per 90mins) สมัยอยู่กับดอร์ทมุนด์ สามปีล่าสุด มีสถิติดังนี้

4.53 ครั้งต่อ 90นาที (2018/19)

4.92 ครั้งต่อ 90นาที (2019/20)

5.46 ครั้งต่อ 90นาที (2020/21)

ในขณะที่ปีนี้กับแมนยูไนเต็ด ซานโช่มี SCA90 อยู่ที่ "4.17" ครั้งต่อเกม ซึ่งก็ถือว่า ยังไม่ได้ดรอปมากในด้านการสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีม

แปลว่าค่อนข้างชัดเจนว่า หากทีมโดยรวมที่เป็นตัวรับบอลจ่ายจากซานโช่ไปแล้วจบสกอร์ได้ดีกว่านี้ ตัวที่เป็น GCA จะต้องเยอะกว่านี้มาก อย่างน้อยๆก็ควรจะสัก 0.6 ขึ้นไป เพราะมันก็จะไม่ดรอปไปเยอะมากขนาดเหลือแค่ 1 ใน 4 อย่างที่บอกไป

ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นปัจจัยที่ซานโช่คนเดียว แต่เป็นการ "จบสกอร์" ของเพื่อนร่วมทีมด้วย

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เจดอน ซานโช่ กับฤดูกาลแรกกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แม้ว่าสถิติในการลงเล่นอาจจะยังไม่เท่ากับสมัยอยู่ดอร์ทมุนด์ อย่างที่เราได้เห็นกันในสถิติดังกล่าวเบื้องต้น

ซึ่งจากที่เราตื่นเต้นกับสถิติการยิงการจ่ายต่อฤดูกาลของเขาที่มีส่วนร่วมกับประตูเฉลี่ยๆซีซั่นละ 30-40 ลูก แต่ปีนี้ดูท่าว่าจะไม่เป็นแบบนั้น

แต่ไม่ได้แปลว่าซานโช่เป็นของปลอมทำเหมือน หรือโดนย้อมแมวขายมาจากดอร์ทมุนด์ เพราะแฟนผีส่วนใหญ่น่าจะเห็นฝีเท้าของซานโช่กันแล้วว่าเป็นของจริงแน่นอน ด้วยสกิลทักษะการเล่นในสนามที่ดูมีวุฒิภาวะมากกว่าอายุ มีช็อตที่อาจจะฝืนยิงเองบ้าง แต่ก็ถือว่าน้อยมากๆเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับนักเตะลูกหม้อของทีมบางคนที่เล่นหวงบอลมากกว่านี้

ถ้ามีระบบทีมที่เอื้อให้เกิดการคอมโบและทำทีมเวิร์คร่วมกับซานโช่ที่ลื่นไหล และมีประสิทธิภาพแบบนี้ เขาจะกลายเป็นตัวจักรสำคัญในแดนหน้า ที่สามารถทดแทนและแบ่งเบาภาระของ "บรูโน่ แฟร์นันด์ส" ได้อย่างดีในอนาคต ไม่ใช่ต้องให้บรูโน่รับภาระเป็นคนเปิดเกมอยู่คนเดียว

เมื่อระบบทุกอย่างเข้าที่ ปัจจัยสามอย่างนี้ลงล็อค ไม่ว่าจะเป็นการโรเตชั่นอย่างถูกต้อง, ระบบการเล่นที่มีประสิทธิภาพและมีทีมเวิร์ค

และการมี "ตัวจบสกอร์" ที่เข้าขาและสามารถเปลี่ยนโอกาสยิงให้เป็นประตูได้มากกว่าเดิม เมื่อนั้นแหละ เจดอน ซานโช่จะเปล่งประกายออกมาอย่างเต็มที่แน่นอน

ตัวนักเตะไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย ที่เหลือก็แค่พัฒนาในภาพรวมของทีม และ"รอเวลา"เท่านั้น

ซานโช่ในร่างที่พลังแฝงสูงสุดถูกดึงออกมาใช้ได้สำเร็จ จะรอแฟนผีอยู่ในอนาคต

เมื่อทุกอย่างลงตัว เราจะได้เจอเขาในร่างนั้นอย่างแน่นอน..

-ศาลาผี-

References