:::     :::

เจาะลึกT3รอบแชมเปี้ยนส์ลีก (สายบน)

วันศุกร์ที่ 04 มีนาคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
2,351
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในที่สุดไทยลีก 3 ก็ได้ 12 ทีมจาก 6 โซน ตบเท้าเข้ามาเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก กันแล้ว โดยจะเริ่มต้นการฟาดแข้งเกมแรกวันที่ 12-13 มีนาคม และจะไปชิงแชมป์ระดับประเทศ กับหาอันดับ 3 เพื่อเลื่อนชั้นไปลีกพระรอง นัดแรก วันที่ 16-17 เมษายน ส่วนเกมที่สอง วันที่ 23-24 เมษายน

วันนี้เราจะมาลองเช็กข้อมูลของทั้ง 12 ทีมกัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยจะเริ่มจากสายบน ที่มี โซนเหนือ, โซนตะวันออก และโซนตะวันออกเฉียงเหนือ มาดูว่า 6 ทีมที่เข้ามาถึงรอบนี้ที่หลายๆ คนมองว่าเป็น GROUP OF DEATH ว่าพวกเขามีดีอะไรและมีความพร้อมอย่างไรกันบ้าง 


อุทัยธานี เอฟซี (แชมป์โซนเหนือ) 

หลังจากตกชั้นมาเล่นไทยลีก 3 ต้องยอมรับในเรื่องใจของผู้บริหารทีม อย่าง "บอสเบนซ์" วราวุฒ ปั้นงาม ที่ยืนยันว่าจะทำทีมต่อไปไม่มีทิ้งสโมสรแห่งนี้แน่นอน พวกเขาเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงโลโก้จาก "พระชนกจักรี" มาเป็น "ช้างป่า" สัตว์ที่อยู่คู่กับห้วยขาแข้งในจังหวัด รวมทั้งเปลี่ยนสีประจำสโมสรมาใช้สี "แดง-ดำ"

นอกจากนั้นยังแต่งตั้ง "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น กลับมานั่งตำแหน่งกุนซือรอบสอง พร้อมกับเป้าหมายที่จะกลับขึ้นไปเล่นในลีกพระรองให้ได้ แถมยังเสริมทัพแข้งดีกรีมาเพียบ นำโดย ดัสกร ทองเหลา, มงคล ทศไกร, ณรงค์ จันทร์เสวก, จิตปัญญา ทิสุด, ริคาร์โด้ ซานโตส, จูเนียร์ โลเปซ, ชิโกซี เอ็มบ้า ฯลฯ

ทำให้พวกเขาครองอันดับ 1 ยาวตั้งแต่เกมแรก กระทั่งคว้าแชมป์โซนเหนือ ตั้งแต่ก่อนจบเลกสองถึง 4 เกม แถมผลงานในฟุตบอลถ้วยก็สุดยอดมากๆ เมื่อเข้ารอบ 8 ทีม ทั้ง ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ กลายเป็นตัวเต็งจ๋าของสายบน ที่เกจิส่วนใหญ่ฟันธงไว้ล่วงหน้าว่าจะคว้าแชมป์กลุ่มด้วยซ้ำ


พิษณุโลก เอฟซี (รองแชมป์โซนเหนือ) 

ลูกยิงฟรีคิกของ ศรันย์ ศรีเดช ที่โค้งอ้อมกำแพง ผ่านมือผู้รักษาประตูอุทัยธานี เอฟซี เสียบเสาเข้าไป พร้อมกับเป็นประตูชัย 3-2 และเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ พิษณุโลก เอฟซี ในการเข้าป้ายกลับมาแซง แม่โจ้ ยูไนเต็ด ขึ้นที่ 2 ของตาราง ในเกมรองสุดท้าย

และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จในนัดสุดท้ายของซีซั่น ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ นอร์ทเทิร์น ตาก ยูไนเต็ด 1-0 ได้ไปลุยรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่สองติดต่อกัน หลังจากปีก่อนตาม ลำพูน วอริเออร์ เข้ามา เรียกได้ว่าเป็นทีมที่คุ้นเคยพร้อมกับมีประสบการณ์กับสังเวียนนี้อย่างมากทีเดียว

"ขุนพลนเรศวร" อยู่ภายใต้การทำทีมของ "โค้ชทอม" กฤษณะ ต่ายวัลย์ ที่กลับมาทำทีมอีกครั้ง โดยอดีตกองกลางจอมเทคนิคที่เคยเล่นให้กับ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด, กระบี่ เอฟซี และ อ่างทอง เอฟซี ก้าวมาสานงานต่อจาก ดาเมียน เบลลอง ที่ขอแยกทางกับทีม หลังผลงานดร็อปในช่วงเลกสอง


พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออก) 

หลังจากการก้าวมาเป็นประธานสโมสร พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ของ "เสี่ยโชค" โชคชัย เทศปาน ด้วยการทุ่ม 5 ล้านบาท เทคโอเวอร์สิทธิ์ในการทำทีมจาก พัทยา ดิสคัฟเวอรี่ เพื่อฟืนคืนชีพสนามหนองปรือ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหมือนตอนที่ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นชื่อ สมุทรปราการซิตี้ อย่างทุกวันนี้

จากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือ ด้วยการดึง "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เข้ามากุมบังเหียน ซึ่งกุนซือดีกรี โปร ไลเซนส์ รุ่นที่สองของเมืองไทยและเคยกุมบังเหียนทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้ว ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง ด้วยการเป็นแชมป์โซนตะวันออก ตั้งแต่ยังไม่จบลีกด้วยซ้ำ โดยสามารถกวาดไปได้ 53 คะแนน จากการลงสนาม 22 เกม

ด้วยขุมกำลังของ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ที่มีความสดและความเก๋าทั้ง ชลฑิตย์ จันทคาม, นพพล ปิตะฝ่าย, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว, ยุทธนา เรืองสุขสุด, ศุภกิจ เนียมคง และ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี ที่เป็นแกนหลัก มีกองหน้าดาวยิงอย่าง เปโดร โดริเกวซ ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ 6 โซน ด้วยการยิงไปถึง 20 ประตู


ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี (รองแชมป์โซนตะวันออก) 

หากนึกถึงสโมสรท้องถิ่นที่ก่อตั้งมานานที่สุด ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี น่าจะเป็นคำตอบ เพราะถือกำเนิดมาเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในนาม ลูกหลวงพ่อโสธร โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเยาวชนที่สนใจกีฬาฟุตบอลในจังหวัด ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศมากขึ้น 

ก่อนที่ซีซั่น 2015 จะมาใช้ชื่อ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี จนสามารถสร้างสีสันให้กับโซนตะวันออกอย่างมาก และปีนี้ก็เข้ามาเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง เพียงแต่ทั้งสองเกมในรังเหย้าที่จะลงเล่นนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ห้ามให้มีแฟนบอลของทุกทีมเข้ามาเชียร์ กรณีที่มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สั่งปรับในฐานะเจ้าบ้าน 33,333 บาท รวม 66,666 บาท และยังห้ามจัดแมตช์เหย้า 5 เกมติด ตั้งแต่ 20 ก.พ. พร้อมทั้งส่งแผนรักษาความปลอดภัยเสนอคณะกรรมการฯ ด้วย ซึ่งโทษแบน 5 นัดของ ฉะเชิงเทรา จะไปมีผลเกมสุดท้ายรอบโซนกับ บ้านค่าย จากนั้นก็เป็นรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ข้ามไปถึงซีซั่นหน้า และแน่นอนว่าด้วยบทลงโทษนี้จะทำให้เกมในบ้านของ "ปลากัดนักสู้" ลดความได้เปรียบลงไปไปไม่มากก็น้อย


เมืองเลย ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

นับตั้งแต่ "บอสเอก" ณัฐกร พัฒนชัยกุล ก้าวมาเป็นผู้อำนวยสโมสรเมืองเลย ยูไนเต็ด จากนั้นทีมก็เดินหน้าพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านฟอร์มการและเรื่องของรังเหย้า ที่ย้ายมาสู่ มังกรฟ้าเมืองเลย สเตเดี้ยม ที่เป็นสนามฟุตบอลแท้ๆ แบบไม่มีลู่วิ่ง แม้ว่าจะอยู่ในช่วงของต่อเติมอัฒจันทร์ แต่ที่นั่นก็สร้างประวัติศาสตร์มาแล้วมากมาย

โดยเฉพาะการคว้าแชมป์โซนอีสานแบบม้วนเดียวจบ ถือเป็นเมเจอร์แรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร นอกจากนี้ยังเป็นซีซั่นที่น่าจดจำ หลังจากขุนพล "นักรบเซไล" เอาชนะจุดโทษ การท่าเรือ เอฟซี ยักษ์ใหญ่จากศึก ไทยลีก 1 ในการแข่งขันฟุตบอล ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง

จุดเด่นของทีมชุดนี้ อยู่ที่การใช้วัยรุ่นที่เคยผ่านประสบการณ์กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด, อยุธยา ยูไนเต็ด รวมทั้งมีอดีตกองหลังทีมชาติไทย ชุดอันดับ 4 เอเชียน เกมส์ ที่เกาหลีใต้ ปี 2014 อย่าง สราวุธ กัลยาณบัณฑิต ตลอดจนแข้งมากประสบการณ์ที่กลับมาช่วยทีมบ้านเกิดในรอบมากว่า 10 ปี นามว่า วิชาญ นันทะศรี คอยประคับประคองน้องๆ ภายในทีม


ศรีสะเกษ เอฟซี (รองแชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

เป็นการเข้าป้ายรองแชมป์ของโซนอีสานแบบที่ต้องลุ้นถึงเกมรองสุดท้าย ด้วยการบุกไปเอาชนะ สกลนคร ทรูวิชั่นส์ เอฟซี 4-1 ก่อนปิดจ็อบด้วยการเปิดบ้านชนะ มหาสารคาม สามใบเถา 2-0 ทำให้ ศรีสะเกษ เอฟซี ตบเท้าเข้าสู่การเลื่อนชั้นไปสู่ไทยลีก 2 อีกครั้ง

ด้วยสไตล์การทำทีมของ "โค้ชใหม่" สันติ ไชยเผือก ที่เน้น "สด บด เก๋า" วาง เสกสิทธิ์ ศรีใส บัญชาเกมในแดนกลาง นอกจากนี้ยังมี พิชิต เกสโร ที่เป็นกัปตันทีมในหัวใจของแผงมิดฟิลด์ รวมทั้ง คาซูมิ มูราคามิ ที่มีประสบการณ์ในเวทีระดับสูง เพราะผ่านการเล่นให้กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล มาแล้ว

"กูปรีอันตราย" เร่งเครื่องในช่วงท้ายซีซั่น ก่อนเข้าป้ายมาเป็นอันดับที่สองสำเร็จ เป้าหมายต่อไปของพวกเขาก็คือ ต้องเลื่อนชั้นไปเล่นในลีกรองให้ได้ แม้ว่าดูจากสายบนแล้วค่อนข้างเป็นงานยาก เพราะยังมี 2 ทีมใหญ่ที่เป็นพี่เบิ้มในกลุ่ม ทั้ง อุทัยธานี เอฟซี และ พัทยา ดอลฟินส์ ขวางอยู่ก็ตาม

โซนบนเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีแต่ เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งนั้น ยากจะคาดเดาว่า 2 ทีมไหนจะผ่านเข้ารอบต่อไป เพราะการเล่นเพียงแค่ 5 เกม ก็เหมือนเป็นแมตช์น็อคเอาท์สามารถ ชนะ เสมอ แพ้ ด้วยกันได้ทั้งหมด อยู่ที่จังหวะการเข้าทำของแต่ละทีม ว่าใครจะเฉียบคมและมีการเตรียมทีมมาสู้ได้ดีกว่ากัน 


โปรแกรมการแข่งขันของโซนบนตลอด 5 เกม มีดังนี้

แมตช์เดย์ที่ 1 วันที่ 12-13 มีนาคม 

อุทัยธานี เอฟซี - พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด (หมายเหตุ : การแข่งขันคู่นี้จะแข่งในวันที่ 8 มีนาคม 2565 เนื่องจากต้องทำการแข่งขันรีโว่ ลีก คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ)

ศรีสะเกษ เอฟซี - ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี

เมืองเลย ยูไนเต็ด - พิษณุโลก เอฟซี


แมตช์เดย์ที่ 2 วันที่ 19-20 มีนาคม

พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด - พิษณุโลก เอฟซี

เมืองเลย ยูไนเต็ด - ศรีสะเกษ เอฟซี

อุทัยธานี เอฟซี - ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี


แมตช์เดย์ที่ 3 วันที่ 26-27 มีนาคม

พิษณุโลก เอฟซี - อุทัยธานี เอฟซี

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี - เมืองเลย ยูไนเต็ด

พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด - ศรีสะเกษ เอฟซี


แมตช์เดย์ที่ 4 วันที่ 2-3 เมษายน

ศรีสะเกษ เอฟซี - พิษณุโลก เอฟซี

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี - พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด

เมืองเลย ยูไนเต็ด - อุทัยธานี เอฟซี


แมตช์เดย์ที่ 5 วันที่ 9-10 เมษายน 

พิษณุโลก เอฟซี - ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี

อุทัยธานี เอฟซี - ศรีสะเกษ เอฟซี

พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด - เมืองเลย ยูไนเต็ด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด